จขกท. อายุยี่สิบกลางๆนะคะ
7 ปีที่แล้วรู้จักกับรุ่นพี่คนนึง ผ่านทางอินเตอร์เนต
ช่วงนั้นเรามีปัญหากับเพื่อน ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังก็ได้พี่เค้าเป็นที่ปรึกษา
พี่เค้าเรียนอยู่ต่างประเทศ คุยกันหลายปี ก็มีไปกินข้าวด้วยกันเวลาเค้ามาไทย
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ตอนนั้นเรามีแฟนแล้ว
คิดว่าเป็นเพียงมิตรภาพดีดี บนโลกออนไลน์
ต่อมาเหตุการณ์พลิกผัน ได้มาเป็นแฟนกันจนได้
คือเราอกหัก พี่เค้ามาปลอบ เวลาปลอบใจก็ดูจะเข้าใจกันดี
ช่วงหลังเศรษฐกิจบ้านเราแย่ ก็ได้พี่เค้ามาช่วยเหลือ
แบบไม่มีอะไรแอบแฝง เรากับพี่เค้าไปเที่ยวกันมาหลายที่
อยู่กันลำพังสองต่อสอง แต่ พี่เค้าไม่เคยลวนลามเราเลย
เค้าเป็นผู้ชายที่ดีและมั่นคงมากคนนึง
หน้าตาปานกลาง จิตใจดี ไม่เคยนอกใจ
รองรับทุกอารมณ์ของเรา
อายุยี่สิบปลายๆ เงินเดือนเหลือเก็บเดือนนึง9หมื่นกว่าบาท (เค้าทำงานตปท.)
เค้าเปนคนเดียวที่อยู่เคียงข้างเรา รับทุกสถานการณ์
ร้องไห้ หัวเราะไปกับเรา ถ้าไม่มีเค้าเราคงไม่มีเราที่ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้
-เราสอบเข้าเรียนในมหาลัยที่มีชื่อเสียงได้
-เรียนจบพร้อมเกียรตินิยม (ท่ามกลางการแข่งขันและการดูถูก)
แต่มีกำลังใจจากเค้าที่เราเล่าทุกอย่างให้ฟังอยู่เคียงข้างเสมอ
แม้ตัวเราห่างกัน เราอยู่คนละทวีป แต่เค้าโทรศัพท์มาทุกวัน
เค้าเสมอต้นเสมอปลาย
-เราผ่านด่านสัมภาษณ์และหลายขั้นตอนยุ่งยากเข้ามาทำงาน
ในบริษัทที่มี่ชื่อเสียง ขึ้นชื่อว่าเข้ายาก ผลตอบแทนพนักงานอยู่ 1 ใน 10 บริษัท
ที่จ่ายผลตอบแทนสูงที่สุดของประเทศ
วันที่เราอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายรายล้อม
จริงใจบ้างไม่จริงใจบ้าง
เรามองกลับไปที่เค้า
เค้า เปนเพียงผู้ชายซื่อๆ เชยๆ
เปนคนประหยัดเก็บหอมรอมริบ
ไม่เท่ห์ ไม่ได้เปนคนในเครื่องแบบ แบบที่จิตใจลึกๆเราต้องการ
(เราเคยมีคนในเครื่องแบบมาจีบ แต่ตอนนั้นเราเลือกแฟนคนนี้ หนุ่มๆพวกนั้นก็แห้วไป)
เราคิดว่าเรารักเค้า เค้ารักเราก็พอ
พอเราคุยเรื่องอนาคตกันวันนี้ จุดแตกหักก็มาถึง
"เค้าไม่อยากมีลูก"
เราควรจะปล่อยผู้ชายคนนี้ไปดีไหม เมื่อเป้าหมายในชีวิตเราต่างกัน
7 ปีที่แล้วรู้จักกับรุ่นพี่คนนึง ผ่านทางอินเตอร์เนต
ช่วงนั้นเรามีปัญหากับเพื่อน ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังก็ได้พี่เค้าเป็นที่ปรึกษา
พี่เค้าเรียนอยู่ต่างประเทศ คุยกันหลายปี ก็มีไปกินข้าวด้วยกันเวลาเค้ามาไทย
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ตอนนั้นเรามีแฟนแล้ว
คิดว่าเป็นเพียงมิตรภาพดีดี บนโลกออนไลน์
ต่อมาเหตุการณ์พลิกผัน ได้มาเป็นแฟนกันจนได้
คือเราอกหัก พี่เค้ามาปลอบ เวลาปลอบใจก็ดูจะเข้าใจกันดี
ช่วงหลังเศรษฐกิจบ้านเราแย่ ก็ได้พี่เค้ามาช่วยเหลือ
แบบไม่มีอะไรแอบแฝง เรากับพี่เค้าไปเที่ยวกันมาหลายที่
อยู่กันลำพังสองต่อสอง แต่ พี่เค้าไม่เคยลวนลามเราเลย
เค้าเป็นผู้ชายที่ดีและมั่นคงมากคนนึง
หน้าตาปานกลาง จิตใจดี ไม่เคยนอกใจ
รองรับทุกอารมณ์ของเรา
อายุยี่สิบปลายๆ เงินเดือนเหลือเก็บเดือนนึง9หมื่นกว่าบาท (เค้าทำงานตปท.)
เค้าเปนคนเดียวที่อยู่เคียงข้างเรา รับทุกสถานการณ์
ร้องไห้ หัวเราะไปกับเรา ถ้าไม่มีเค้าเราคงไม่มีเราที่ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้
-เราสอบเข้าเรียนในมหาลัยที่มีชื่อเสียงได้
-เรียนจบพร้อมเกียรตินิยม (ท่ามกลางการแข่งขันและการดูถูก)
แต่มีกำลังใจจากเค้าที่เราเล่าทุกอย่างให้ฟังอยู่เคียงข้างเสมอ
แม้ตัวเราห่างกัน เราอยู่คนละทวีป แต่เค้าโทรศัพท์มาทุกวัน
เค้าเสมอต้นเสมอปลาย
-เราผ่านด่านสัมภาษณ์และหลายขั้นตอนยุ่งยากเข้ามาทำงาน
ในบริษัทที่มี่ชื่อเสียง ขึ้นชื่อว่าเข้ายาก ผลตอบแทนพนักงานอยู่ 1 ใน 10 บริษัท
ที่จ่ายผลตอบแทนสูงที่สุดของประเทศ
วันที่เราอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายรายล้อม
จริงใจบ้างไม่จริงใจบ้าง
เรามองกลับไปที่เค้า
เค้า เปนเพียงผู้ชายซื่อๆ เชยๆ
เปนคนประหยัดเก็บหอมรอมริบ
ไม่เท่ห์ ไม่ได้เปนคนในเครื่องแบบ แบบที่จิตใจลึกๆเราต้องการ
(เราเคยมีคนในเครื่องแบบมาจีบ แต่ตอนนั้นเราเลือกแฟนคนนี้ หนุ่มๆพวกนั้นก็แห้วไป)
เราคิดว่าเรารักเค้า เค้ารักเราก็พอ
พอเราคุยเรื่องอนาคตกันวันนี้ จุดแตกหักก็มาถึง
"เค้าไม่อยากมีลูก"