เมื่อวานหลังจากเลิกโอที ก็กลับบ้านกับแฟน พอเข้าบ้านเปิดไฟในห้องโถงใหญ่ เห็นสภาพห้องแล้วน้ำตาแทบร่วง ตกใจมากตะโกนเรียกแฟน
แฟนก็รีบมาดู พอแฟนเห็น เค้าแทบเขาอ่อนเหมือนกัน เพราะสิ่งที่เห็นบนพื้นคือ......
พระบูชาปางห้ามญาติ ตกลงมาจากหลังตู้ ดินที่ใต้ฐานแตกและหลุดออกจากฐาน ที่ร้ายกว่านั้นคือ ขาขององค์พระแตกจนหลุดออกจากกัน
และอีกองค์คือพระบูชาปางสมาธิ ก็ตกลงมาเหมือนกัน อันนี้แค่ตราสัญลักษณ์ของพระเทพฯหลุดเท่านั้น
ที่บอกว่า น้ำตาแทบร่วงเพราะพระบูชาปางห้ามญาตินั้น เป็นพระประจำวันเกิดเราและเป็นพระที่ผู้ใหญ่ที่เรากับแฟนเคารพให้มา ซึ่งมีอายุหลายร้อยปี เก่ามาก แฟนเราเค้าอึ้งไปช่วงขณะทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ในหัวมันก็มีความคิดนึงเกิดขึ้น คือ
พระแตก เค้าห้ามเก็บไว้ในบ้าน แต่พระองค์นี้มีอายุหลายปี เป็นพระเก่า และผุ้ใหญ่ให้มา(คนให้บอกว่า สร้างเมื่อตอนปลายสมัยอยุธยา) ถ้าเอาไปทิ้งคงไม่ดี ทั้งเรากับแฟนก็คิดอะไรไม่ออกได้แต่เก็บเศษดินที่แตกออกจากองค์พระใส่ถุง แล้วก็เก็บองค์พระที่อยู่บนหลังตู้ทั้งหมดใส่เข้าตู้
เรากับแฟนก็ยืนมองในใจก็รู้สึกเสียดายและรู้สึกแย่มาก เราก็ถามแฟนว่า "จะทิ้งพระมั้ย" แฟนก็บอกว่า ไม่ เราก็โอเค เลยตกลงกันว่า เดี๋ยวจะซ่อมพระกัน โดยใช้ปูนปลาซเตอร์ ส่วนเรื่องความเชื่อที่ว่า พระแตกไม่เก็บไว้ในบ้าน อันนี้ตอนแรกเราก็คิดนะ แต่พอมาหาข้อมูลในเน็ต
เรื่องนี้ก็อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคน ทุกอย่างอยู่ที่ศรัธาและจิตใจ เราก็สบายใจไปเรื่องนี้
คราวนี้มาที่ผู้ก่อเหตุ ในช่วงเวลานั้นที่เราเห็นพระ รู้สึกว่าแต่ละตัวจะหลบกันหมดไปรวมอยู่กันที่ชามข้าว ไม่ร้องไม่อะไรทั้งนั้น นั่งมองตาแป๋ว
กลัวโดนตี เราบอกแฟนว่า อย่าตีลูกนะ ลูกไม่รู้เรื่องหรอก ตีไปก็เท่านั้น แฟนเราก็บอกว่า เค้าไม่ตีหรอก เค้าก็รู้ว่าตีไปก็เท่านั้น เค้าบอกว่า
ถ้าพูดไปในทางพุทธศาสนา ลูกเราก็ถือเป็นสัตว์เดรัจฉาน เค้าไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร ต่อไปก็เก็บพระไว้ในตู้ไปต้องเอามาวางที่หลังตู้อีก
ถามเค้าว่า โกรธลูกมั้ย เค้าบอกว่า ไม่โกรธแต่เสียดายพระมากกว่า เฮ้อ....โล่งอก ลูกไม่โดนตี ไม่ใช่ว่า เราไม่เสียดายพระนะ เราก็เสียดาย
แต่ตีลูกไปก็เท่านั้น
มีใครเคยเจอแบบเราบ้าง ช่วยตอบทีว่า ทำไมแมวกับหิ้งพระถึงเข้ากันได้ดีอย่างนี้เนี่ย
***** เมื่อวานกลับถึงบ้าน น้ำตาแทบร่วง *****
แฟนก็รีบมาดู พอแฟนเห็น เค้าแทบเขาอ่อนเหมือนกัน เพราะสิ่งที่เห็นบนพื้นคือ......
พระบูชาปางห้ามญาติ ตกลงมาจากหลังตู้ ดินที่ใต้ฐานแตกและหลุดออกจากฐาน ที่ร้ายกว่านั้นคือ ขาขององค์พระแตกจนหลุดออกจากกัน
และอีกองค์คือพระบูชาปางสมาธิ ก็ตกลงมาเหมือนกัน อันนี้แค่ตราสัญลักษณ์ของพระเทพฯหลุดเท่านั้น
ที่บอกว่า น้ำตาแทบร่วงเพราะพระบูชาปางห้ามญาตินั้น เป็นพระประจำวันเกิดเราและเป็นพระที่ผู้ใหญ่ที่เรากับแฟนเคารพให้มา ซึ่งมีอายุหลายร้อยปี เก่ามาก แฟนเราเค้าอึ้งไปช่วงขณะทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ในหัวมันก็มีความคิดนึงเกิดขึ้น คือ
พระแตก เค้าห้ามเก็บไว้ในบ้าน แต่พระองค์นี้มีอายุหลายปี เป็นพระเก่า และผุ้ใหญ่ให้มา(คนให้บอกว่า สร้างเมื่อตอนปลายสมัยอยุธยา) ถ้าเอาไปทิ้งคงไม่ดี ทั้งเรากับแฟนก็คิดอะไรไม่ออกได้แต่เก็บเศษดินที่แตกออกจากองค์พระใส่ถุง แล้วก็เก็บองค์พระที่อยู่บนหลังตู้ทั้งหมดใส่เข้าตู้
เรากับแฟนก็ยืนมองในใจก็รู้สึกเสียดายและรู้สึกแย่มาก เราก็ถามแฟนว่า "จะทิ้งพระมั้ย" แฟนก็บอกว่า ไม่ เราก็โอเค เลยตกลงกันว่า เดี๋ยวจะซ่อมพระกัน โดยใช้ปูนปลาซเตอร์ ส่วนเรื่องความเชื่อที่ว่า พระแตกไม่เก็บไว้ในบ้าน อันนี้ตอนแรกเราก็คิดนะ แต่พอมาหาข้อมูลในเน็ต
เรื่องนี้ก็อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคน ทุกอย่างอยู่ที่ศรัธาและจิตใจ เราก็สบายใจไปเรื่องนี้
คราวนี้มาที่ผู้ก่อเหตุ ในช่วงเวลานั้นที่เราเห็นพระ รู้สึกว่าแต่ละตัวจะหลบกันหมดไปรวมอยู่กันที่ชามข้าว ไม่ร้องไม่อะไรทั้งนั้น นั่งมองตาแป๋ว
กลัวโดนตี เราบอกแฟนว่า อย่าตีลูกนะ ลูกไม่รู้เรื่องหรอก ตีไปก็เท่านั้น แฟนเราก็บอกว่า เค้าไม่ตีหรอก เค้าก็รู้ว่าตีไปก็เท่านั้น เค้าบอกว่า
ถ้าพูดไปในทางพุทธศาสนา ลูกเราก็ถือเป็นสัตว์เดรัจฉาน เค้าไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร ต่อไปก็เก็บพระไว้ในตู้ไปต้องเอามาวางที่หลังตู้อีก
ถามเค้าว่า โกรธลูกมั้ย เค้าบอกว่า ไม่โกรธแต่เสียดายพระมากกว่า เฮ้อ....โล่งอก ลูกไม่โดนตี ไม่ใช่ว่า เราไม่เสียดายพระนะ เราก็เสียดาย
แต่ตีลูกไปก็เท่านั้น
มีใครเคยเจอแบบเราบ้าง ช่วยตอบทีว่า ทำไมแมวกับหิ้งพระถึงเข้ากันได้ดีอย่างนี้เนี่ย