พรรคประชาธิปัตย์ อยู่มานานนับตั้งแต่เริ่มรัชกาลปัจจุบัน วิถีทางเดินแห่งพรรคฯ หากสังเกตุดูตามการกระทำของพรรค ไม่ทราบแน่ชัดว่าพรรคมีจุดยืนอย่างไรกันแน่ เพราะขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง กับปณิธานพรรคฯที่ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน
การดำเนินการทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์เป็นการกระทำในรูปแบบ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการบริหาร เช่น พรรคประชาธิปัตย์ ได้ว่าจ้างคนไปตะโกนในโรงหนัง เพื่อกล่าวหารัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์ ซึ่งเป็นการกระทำที่เลวร้ายเกินกว่าพุทธบริษัทจะกระทำ ตลอดจนการไปเคาะประตูบ้านทำเสียงโวยวายให้เลือกพรรคของนายปรีดี
ระยะเวลาอันยาวนานของพรรคฯหากดูกันตามเนื้อผ้าจริงๆจะไม่เห็นโครงการที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนแก่ประชาชนโดยส่วนใหญ่ของประเทศชาติ จะเห็นก็แต่ประโยชน์ของชนชั้นนายทุนและศักดินา และสามารถตั้งข้อสังเกตุได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็คือสถาบันทางการเมืองที่สร้างขึ้นมาเพื่อทัดทานและเหนี่ยวรั้งความเจริญของประเทศชาติก็ว่าได้ เพราะนายปรีดี ได้สร้างความเจริญให้ชาติมากมายมหาศาล เกี่ยวเนื่องมาทุกยุคทุกสมัย การมองไม่เห็นคุณค่าของชาวนาและชนชั้นแรงงานของประชาธิปัตย์ถือว่าแตกต่างกับพรรคการเมืองอย่างพรรค ไทยรักไทย
พรรคไทยรักไทย สนับสนุนให้ประาชนลืมตาอ้าปากได้ด้วยตัวของประชาชนเองโดยรัฐบาลเป็นผู้คอยชี้แนะแนวทางตลอดจนให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน ความสำเร็จด้านต่างๆ เกิดขึ้นมากมายมหาศาล แต่ศักดินากลับสูญเสียผลประโยชน์ และหาทางทำร้ายพรรคไทยรักไทยทุกวิถีทาง เหมือนกับสมัยปรีดี แม้กระทั่ง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ คือ กล่าวหาหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ว่าจะให้บัตรทองกับประมุขของประเทศ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พรรคประชาธิปัตย์รับไม่ได้ การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่พูดเอง และ เออเอง โดยกล่าวหาศัตรูทางการเมืองอย่างแล้วเสร็จ ซึ่งผลที่ได้คือความขัดแย้งที่ตามมาจนต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
ผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ค่อยถูกจารึกไว้เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ไม่แล้วเสร็จหรือไม่คุ้มทุนแม้กระทั่งปัญหาการทุจริต จุดเด่นของพรรคประชาธิปัตย์เพียงข้อเดียวคือ สามารถจุดประเด็นทางการเมืองด้วยเรื่องอะไรก็ได้ เพื่อมุ่งทำลายฝ่ายตรงข้ามอย่างน่าเกลียดโดยถ้อยคำสวยหรู โกหกใส่ฝ่ายตรงข้ามโดยอ้างว่าไม่จงรักภักดี เพื่อปลุกระดมมวลชน
การมองไม่เห็นคุณค่าในตัวคนของพรรคประชาธิปัตย์ เช่น ว่าคนนั้นคนนี้เป็นสัตว์ เช่น HERE / ตะกวด /ฯลฯ ซึ่งจะสังเกตุได้จากช่องทีวีของพรรค
การกลืนน้ำลายตนเองของหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรค การไม่เคารพกติกา และการลืมหน้าที่ สามารถเห็นได้ตลอดจากพรรคการเมืองแห่งนี้
ข้ออ้างที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลอีกข้อหนึ่งคือ พรรคประชาธิปัตย์และสมาชิกผู้บ้าคลั่งไร้เหตุผล พูดตลอดว่า พรรคไม่เผาเมือง ซึ่งข้อนี้ผมคิดว่า เป็นไปไม่ได้นับแต่ไล่ท่านปรีดีด้วยความเท็จเมื่อหลายสิบปีก่อนแล้ว
อยากฝากให้พลเมืองผู้รักประชาธิปไตย ได้ตรึกตรองดู ได้คิด ได้ทบทวนว่า ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะจดจำอดีต เพื่อไม่ให้สิ่งเลวๆในอดีตได้หวนกลับมาทำร้ายเราและลูกหลานเราในอนาคต ถึงเวลาหรือยังที่เราจะทำเพื่อชาติบ้านเมือง ถึงเวลาที่เราจะได้เห็นชาติของเราเจริญได้หรือยัง
ท้ายนี้ อยากให้พลเมืองของชาติ ได้ดูหนังเรื่อง Schindler's list และศึกษาประวัติศาสตร์ของโลก ในการฆ่าล้างเผ่าพันธ์เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยอาศัยความเห็นที่แตกต่างทางการเมืองและเชื้อชาติ ซึ่ง การกระทำดังกล่าวก็เกิดขึ้นเสมอโดยรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร แต่ผู้กระทำกลับไม่ได้รับโทษใดๆเลย ยังคงเดินชูคอสบายในสังคม ผมคิดว่า ทุกชีวิตมีคุณค่าและมีข้อดี ซึ่งรัฐบาลที่ดีนั้น ต้องรู้จักดึงจุดแข็งและสกัดจุดด้อยของพลเมือง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ.
พรรคประชาธิปัตย์ กับวิถีทางการเมืองในประเทศไทย
การดำเนินการทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์เป็นการกระทำในรูปแบบ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการบริหาร เช่น พรรคประชาธิปัตย์ ได้ว่าจ้างคนไปตะโกนในโรงหนัง เพื่อกล่าวหารัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์ ซึ่งเป็นการกระทำที่เลวร้ายเกินกว่าพุทธบริษัทจะกระทำ ตลอดจนการไปเคาะประตูบ้านทำเสียงโวยวายให้เลือกพรรคของนายปรีดี
ระยะเวลาอันยาวนานของพรรคฯหากดูกันตามเนื้อผ้าจริงๆจะไม่เห็นโครงการที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนแก่ประชาชนโดยส่วนใหญ่ของประเทศชาติ จะเห็นก็แต่ประโยชน์ของชนชั้นนายทุนและศักดินา และสามารถตั้งข้อสังเกตุได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็คือสถาบันทางการเมืองที่สร้างขึ้นมาเพื่อทัดทานและเหนี่ยวรั้งความเจริญของประเทศชาติก็ว่าได้ เพราะนายปรีดี ได้สร้างความเจริญให้ชาติมากมายมหาศาล เกี่ยวเนื่องมาทุกยุคทุกสมัย การมองไม่เห็นคุณค่าของชาวนาและชนชั้นแรงงานของประชาธิปัตย์ถือว่าแตกต่างกับพรรคการเมืองอย่างพรรค ไทยรักไทย
พรรคไทยรักไทย สนับสนุนให้ประาชนลืมตาอ้าปากได้ด้วยตัวของประชาชนเองโดยรัฐบาลเป็นผู้คอยชี้แนะแนวทางตลอดจนให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน ความสำเร็จด้านต่างๆ เกิดขึ้นมากมายมหาศาล แต่ศักดินากลับสูญเสียผลประโยชน์ และหาทางทำร้ายพรรคไทยรักไทยทุกวิถีทาง เหมือนกับสมัยปรีดี แม้กระทั่ง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ คือ กล่าวหาหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ว่าจะให้บัตรทองกับประมุขของประเทศ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พรรคประชาธิปัตย์รับไม่ได้ การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่พูดเอง และ เออเอง โดยกล่าวหาศัตรูทางการเมืองอย่างแล้วเสร็จ ซึ่งผลที่ได้คือความขัดแย้งที่ตามมาจนต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
ผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ค่อยถูกจารึกไว้เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ไม่แล้วเสร็จหรือไม่คุ้มทุนแม้กระทั่งปัญหาการทุจริต จุดเด่นของพรรคประชาธิปัตย์เพียงข้อเดียวคือ สามารถจุดประเด็นทางการเมืองด้วยเรื่องอะไรก็ได้ เพื่อมุ่งทำลายฝ่ายตรงข้ามอย่างน่าเกลียดโดยถ้อยคำสวยหรู โกหกใส่ฝ่ายตรงข้ามโดยอ้างว่าไม่จงรักภักดี เพื่อปลุกระดมมวลชน
การมองไม่เห็นคุณค่าในตัวคนของพรรคประชาธิปัตย์ เช่น ว่าคนนั้นคนนี้เป็นสัตว์ เช่น HERE / ตะกวด /ฯลฯ ซึ่งจะสังเกตุได้จากช่องทีวีของพรรค
การกลืนน้ำลายตนเองของหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรค การไม่เคารพกติกา และการลืมหน้าที่ สามารถเห็นได้ตลอดจากพรรคการเมืองแห่งนี้
ข้ออ้างที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลอีกข้อหนึ่งคือ พรรคประชาธิปัตย์และสมาชิกผู้บ้าคลั่งไร้เหตุผล พูดตลอดว่า พรรคไม่เผาเมือง ซึ่งข้อนี้ผมคิดว่า เป็นไปไม่ได้นับแต่ไล่ท่านปรีดีด้วยความเท็จเมื่อหลายสิบปีก่อนแล้ว
อยากฝากให้พลเมืองผู้รักประชาธิปไตย ได้ตรึกตรองดู ได้คิด ได้ทบทวนว่า ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะจดจำอดีต เพื่อไม่ให้สิ่งเลวๆในอดีตได้หวนกลับมาทำร้ายเราและลูกหลานเราในอนาคต ถึงเวลาหรือยังที่เราจะทำเพื่อชาติบ้านเมือง ถึงเวลาที่เราจะได้เห็นชาติของเราเจริญได้หรือยัง
ท้ายนี้ อยากให้พลเมืองของชาติ ได้ดูหนังเรื่อง Schindler's list และศึกษาประวัติศาสตร์ของโลก ในการฆ่าล้างเผ่าพันธ์เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยอาศัยความเห็นที่แตกต่างทางการเมืองและเชื้อชาติ ซึ่ง การกระทำดังกล่าวก็เกิดขึ้นเสมอโดยรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร แต่ผู้กระทำกลับไม่ได้รับโทษใดๆเลย ยังคงเดินชูคอสบายในสังคม ผมคิดว่า ทุกชีวิตมีคุณค่าและมีข้อดี ซึ่งรัฐบาลที่ดีนั้น ต้องรู้จักดึงจุดแข็งและสกัดจุดด้อยของพลเมือง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ.