DTAC กับ "ความไม่ให้เกียรติ สับปลับ และความไม่เคารพสิทธิ์ของผู้บริโภค" ที่ผมได้ประสบกับตัวเองและจะไม่ทนอีก!

ขอออกตัวก่อนว่าผมไม่รู้ว่าผมเป็นคนโมโหง่ายไหมในสายตาคนอื่น แต่ผมเชื่อว่าหากให้ผมวัดมาตรฐานตัวเองแล้วผมไม่ใช่คนที่จะมาโมโหหรือใส่ใจกับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ อะไร

แต่สิ่งที่ DTAC ทำกับผมในครั้งนี้นั้นมันทำให้ผมผิดหวัง และรูู้สึกว่าตัวเองกำลัง "ถูกเอารัดเอาเปรียบ" จากค่ายมือถือค่ายนี้ด้วย "เหตุผล" ต่างๆ นาๆ ที่ DTAC และพนักงานของ DTAC ยกมาใช้อ้าง คุณขอให้ผมเข้าใจอย่างโน้นอย่างนี้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเหตุผลบลา บลา บลา และตอนนี้ผมขอให้เพื่อนๆ ในที่นี้ได้ฟังเรื่องจากผมบ้าง ผมจะไม่ขอให้ผู้ที่อ่านเข้าใจเลยสักนิด แต่ผมจะให้พวกเขาใช้วิจารณญาณกันเองว่ากรณีนี้นั้นผมควรจะเข้าใจผู้ให้บริการเช่นคุณหรือไม่!

เรื่องราวอาจยาวหน่อย พิมพ์เสร็จแล้วผมเพิ่งถึงเพิ่งจะย้อนมาพิมพ์บรรทัดนี้ แต่ผมอยากเล่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ละเอียดที่สุดเพื่อที่คนอ่านจะได้พิจารณาจากรายละเอียดกันเองได้ครับ

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (3 มกราคม 2556) ตอนช่วงเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม ผมเดินทางศูนย์บริการ DTAC สาขาฟิวเจอร์ปาร์กรังสิต บริเวณชั้นเดียวกับธนาคารกสิกรไทย ด้วยความตั้งใจว่าจะไปซื้อ HTC 8S พร้อมแพกเกจจากทาง DTAC และทันทีที่ผมเดินเข้าไปในร้าน พนักงานที่ทำหน้าที่แนะนำเครื่องให้กับลูกค้าก็เดินเข้ามาพูดคุยกับผม ผมบอกคุณคนนั้นไปว่าผมสนใจจะซื้อ HTC 8S (กำลังเล่นเครื่องทดสอบที่ทาง DTAC วางไว้อยู่) พร้อมแพกเกจ 539 บาทของ DTAC เจ้าหน้าที่ท่านนั้นแจ้งผมกลับมาว่าสามารถซื้อได้เลย มีของพร้อมอยู่ ผมจึงแจงรายละเอียดของผมต่อว่าเบอร์ที่ผมจะเปลี่ยนเบอร์นั้นเป็นเบอร์ของบริษัท ผมจะสามารถทำรายการวันนี้ได้เลยหรือไม่ เจ้าหน้าที่ท่านนั้นแจ้งผมกลับมาว่าผมจำเป็นต้องมีเอกสารจากบริษัทมาแสดง พร้อมทั้งเขียนรายการเอกสารที่ต้องเตรียมมาให้ผมบนโบรชัวร์โปรโมชั่นนั้นพร้อมบอกว่าพรุ่งนี้ให้ค่อยเอาเอกสารมาแล้วทำเรื่อง และนี่คือภาพถ่ายของโบรชัวร์ใบนั้นที่พนักงานเขียนเอกสารที่จำเป็นมาให้ผมครับ



ในรายการ มีรายละเอียดของเอกสารที่ต้องเตรียมไปดังนี้
- หนังสือรับรองบริษัทอายุไม่เกิน 6 เดือนพร้อมตราประทับ
- สำเนาบัตรกรรมการพร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง

ผมรับโบรชัวร์ใบนี้มาพร้อมรับทราบแต่โดยดีว่าเอกสารผมไม่ครบจริงๆ ทำให้ไม่สามารถซื้อเครื่อง HTC 8S และเปิดโปรกับทาง DTAC ได้ เห็นแบบนั้นผมจึงบอกเจ้าหน้าที่ว่าพรุ่งนี้ผมจะกลับมาพร้อมเอกสารนะครับ


วันรุ่งขึ้น (ศุกร์ที่ 4 มกราคม 2556) ผมเสียเวลาไปแทบทั้งวันกับการขอเอกสารต่างๆ และขอให้ทางกรรมการช่วยเซ็นกำกับทุกชุดทุกอย่าง นอกจากนี้ในสำเนาบัตรประชาชนของกรรมการบริษัทนั้น ผมยังให้กรรมการเซ็นกำกับไว้อีกด้วยว่า "ใช้เพื่อมอบอำนาจให้ (ชื่อผม) กระทำการเปลี่ยนโปรโมชั่น (เบอร์มือถือของผม) แทนเท่านั้น" หลังจากได้เอกสารทั้งหมดตามต้องการแล้ว เย็นวันนั้นหลังเลิกงานผมก็เดินทางไปที่สาขาอีกครั้งพร้อมเอกสารทั้งหมดในมือ

ผมเดินเข้าไปแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามาติดต่อซื้อ HTC 8S พร้อมแพกเกจ เจ้าหน้าที่แจ้งผมทันทีว่า "ไม่มีของค่ะ" ตอนนั้นผมงงหน่อยๆ แต่ก็เข้าใจว่าสงสัยผมอาจจะมาไม่ทัน มีคนชิงซื้อไปแล้วหรือเปล่า แต่เจ้าหน้าที่ท่านนั้นยังเสริมต่ออีกว่า "ของหมดไปหลายวันแล้ว!" ได้ยินแบบนั้นผมเลยเล่าเรื่องเจ้าหน้าที่เมื่อวานที่บอกว่ามีของและนัดแนะให้ผมมาเอาวันนี้พร้อมเอกสารที่ให้ผมไปล่าหาเตรียมมาทั้งกองนี้ พูดจบเจ้าหน้าที่ของ DTAC ก็ตอบกลับมาว่าสงสัยเจ้าหน้าที่ท่านเมื่อวานนี้จะเข้าใจผิด เช็คสต๊อกไม่ดี ทำอะไรไม่ได้แล้ว ตอนนั้นผมอึ้งไปนิดๆ ว่าแล้วที่ "ตรู" อุตส่าห์ไปเตรียมเอกสารและล่าลายเซ็นกรรมการมาให้วุ่นวายทั้งวันนั้นทำเพื่ออะไร ทำเพราะ "เจ้าหน้าที่ DTAC คนเมื่อวานเข้าใจผิดว่ามีเครื่อง และบอกอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่ามีน่ะเหรอ?"

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่ได้คิดอะไรมากเพราะคิดว่าคงผิดพลาดกันได้จริงๆ ผมจึงตัดสินใจโทรไปหา Call Center ของทาง DTAC และแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งขอให้ช่วยสอบถามศูนย์อื่นๆ ให้หน่อยเพื่อที่ผมจะได้เข้าไปรับได้หากมีเครื่อง ทางเจ้าหน้าที่รับเรื่องและโทรกลับมาอีกครั้งหลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง แจ้งว่าในระแวกนั้นไม่มีเครื่องเลย และเวลาในขณะนั้นก็กำลังจะสองทุ่มแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่าหากตรวจสอบไปยังสาขาอื่นไกลๆ อาจเดินทางไปรับไม่ทันได้ ผมเองก็เข้าใจทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่าไม่เป็นไรครับ และขอบคุณเจ้าหน้าที่มากๆ ที่ช่วยเหลือ วางสายเสร็จผมก็เดินทางกลับบ้านมือเปล่าเป็นครั้งที่สองพร้อมกับความงุนงงว่าตกลงวันนี้ตนไปมัวแต่ล่ารายเซ็นและเอกสารอยู่ทำไม

เสาร์-อาทิตย์ ผ่านไปผมก็ยังคงหาเครื่องอยู่แบบห่างๆ อย่างทำใจ ไม่ค่อยอะไรมากสักเท่าไหร่นักแล้ว คิดในใจว่าหากไม่ได้จริงๆ ก็คงไปซื้อตามร้าน HTC ไม่เอาแพกเกจแล้วล่ะ แต่ยังอยากลองหาให้เต็มที่อยู่


และวันนี้ (วันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2556) ผมได้ลองโทรไปหา Call Center ของ DTAC อีกครั้งพร้อมแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นและรบกวนให้ลองช่วยหาเครื่องให้อีกครั้ง (ที่ผมคิดคือได้เอกสารมาแล้วก็อยากใช้เอกสารนั้นให้เป็นประโยชน์เพราะกว่าจะล่าแต่ละอย่างมาได้) คำแรกเลยที่เจ้าหน้าที่ Call Center ตอบกลับมาคือ "เราไม่สามารถเช็คของให้ได้" ผมเลยแจ้งไปว่าเจ้าหน้าที่คนที่รับเรื่องเมื่อวันศุกร์ยังสามารถช่วยเหลือได้เลย ได้ยินแบบนั้นเจ้าหน้าที่ Call Center ท่านนั้นก็บอกให้รอสาย (เสียงเริ่มเหวี่ยงๆ) แล้วสักพักก็กลับมารับสายและบอกว่าจะ "อีเมล" ไปถามสาขารังสิตให้แล้วจะติดต่อกลับ หลังวางสายประมาณสิบนาที เจ้าหน้าที่ DTAC ก็โทรกลับมาพร้อมเสียงที่ไม่รู้ไปหงุดหงิดมาจากไหนครับ และสำเนียงการพูดแบบกวนมากๆ โดยเธอแจ้งผมว่า "ที่สาขาฟิวเจอร์ปาร์กรังสิตมี 1 เครื่อง แต่คุณต้องไปเอาเองให้ทันหกโมงครึ่ง ห้ามเลตกว่านั้น จองเครื่องให้ไม่ได้" ผมบอกเธอว่าไม่ต้องจองเครื่องให้หรอกครับ ผมเข้าไปรับเลย แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องภายในหกโมงครึ่ง (แถมยังใช้น้ำเสียงเชิงท้าทายแบบนั้น?) ผมแจ้งเธอไปว่าศูนย์ปิดทำการสองทุ่มไม่ใช่เหรอ เธออ้ำอึ้งไปสักพักแล้วตอบว่า "เพราะเขาต้องตัดสต๊อก" (หาก DTAC ต้องการทราบว่าเจ้าหน้าที่ท่านนั้นคือใครสอบถามรายละเอียดมาได้ครับ ผมมีเวลาที่เธอโทรกลับ และเบอร์โทรของผมที่เธอโทรกลับมา เชื่อว่าข้อมูลแค่นี้คุณก็รู้แล้วว่าเป็นใคร)

บอกตามตรงว่าตอนนั้นผมงงมากว่ามันจะทันได้ยังไง เพราะตอนนี้ก็ปาไปห้าโมงเย็นแบบเกินครึ่งไปแล้ว ขับจากลำลูกกาคลอง 8 ไปที่ฟิวเจอร์ปาร์กรังสิต ให้เวลาครึ่งชั่วโมงในช่วงเวลารถติดตู้มแตกอย่างตอนหลังเลิกงานแบบนี้ แต่เหตุเพราะน้ำเสียงท้าทายของเจ้าหน้าที่ Call Center ท่านนั้น ผมจึงตัดขับรถแบบไม่คิดชีวิต (ทราบครับว่าไม่ดีเลย) เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายให้ทันเวลา (ซึ่งแทบไม่มีทางเป็นไปได้)

แต่ปรากฏว่าผมทำได้ครับ ผมเดินเข้าไปคุณกับเจ้าหน้าที่ DTAC คนเดิมที่แจ้งข่าวร้ายผมเมื่อวันศุกร์ตอนเวลาหกโมงยี่สิบสาม (ดูนาฬิกาข้อมือเลยตอนไปถึง) ทันทีที่ยื่นเอกสารให้เธอ ปัญหาก็เริ่มตามมาอีกแล้วครับ

เธอตรวจเอกสารแล้วแจ้งว่าผมรับไม่ได้เพราะผมไม่มี "หนังสือมอบอำนาจ" ผมเลยยื่นเอกสารที่เจ้าหน้าที่ DTAC แจ้งให้ผมเตรียมมาให้เธอดูเพื่อให้เธอได้เห็นว่าไม่มีคำว่า "หนังสือมอบอำนาจ" อยู่ในนั้นเลย และแถมผมยังกันตายไว้ด้วยการขอเซ็นกำกับจากกรรมการบริษัทในสำเนาบัตรประชาชนว่า "ใช้เพื่อมอบอำนาจให้ (ชื่อผม) กระทำการเปลี่ยนโปรโมชั่น (เบอร์มือถือของผม) แทนเท่านั้น" ไว้อีก เห็นแบบนั้นเธอก็มีข้ออื่นมาติอีกว่า "ลายเซ็นใช้ปากกาดำเซ็นมา ไม่สามารถใช้ได้" ตอนนี้ผมงงมากครับ เพราะว่างานผมอยู่กับงานเอกสาร มั่นใจว่าไม่มีแน่นอนที่ว่าใช้ปากกาดำเซ็นไม่ได้ จะมีก็แต่ควรใช้ปากกาดำเซ็นทับตัวอักษรเพื่อป้องกันการเอาไปปลอมแปลงต่อ ผมจึงแจ้งเธอไป (เริ่มอารมณ์เสียหน่อยๆ แต่ยังไม่แสดง)

สักพักพนักงานอีกท่านก็เดินเข้ามาและบอกให้ผมไปคุยกับหัวหน้าของพวกเธอโดยตรงดีกว่า ผมจึงได้คุยกับหัวหน้าของพวกเธอ คุยไปสักพักหัวหน้าของพวกเธอก็ยอมให้ผมรับเครื่องไปได้ แต่ว่าให้ผมส่งเอกสารหนังสือมอบอำนาจตามมาในวันรุ่งขึ้นแทน ผมจึงตบปากรับคำพร้อมนึกในใจว่าในที่สุดก็เสร็จเสียที หัวหน้าท่านนั้นมาแจ้งพนักงานหญิงคนที่ดันผมเรื่องเอกสารในตอนแรกว่าให้จัดการต่อได้ และให้ผมนั่งรอ

ประมาณเกือบๆ 20 นาที พนักงานหญิงท่านนั้นก็เดินมาบอกผมว่า "พี่มารับเครื่องพรุ่งนี้ได้ไหม? ของไม่มี มีแต่ที่อยุธยา" ตอนนี้นี่ผมหงุดหงิดจริงๆ ขึ้นมาเลยครับ แต่ยังคุมอารมณ์และบอกเธอไปว่าทาง Call Center แจ้งมาว่าให้เข้ามารับได้ มีเครื่องแน่นอน และ "ต้องมาให้ทันหกโมงครึ่ง" ซึ่งผมก็ขับรถบินมาแบบไม่คิดอะไรเลย แล้วทำไมคุณถึงบอกว่าไม่มีเครื่อง

เจ้าหน้าที่ท่านนั้นแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ Call Center น่าจะเช็คสต๊อกผิด? (แล้วตกลง Call Center เช็คสต๊อกได้ไหมกันแน่เนี่ย?) ผมจึงบอกเธอไปว่าไม่น่าจะใช่ เจ้าหน้าที่ Call Center แจ้งว่าโทรมาเช็คที่สาขา ดังนั้นแสดงว่า Call Center ต้องโทรมาสอบถามแล้ว

พอผมบี้แบบนั้น เจ้าหน้าที่ผู้หญิงท่านนี้ก็แจ้งว่าเธอเองนี่แหละที่เป็นคนคุยสายกับเจ้าหน้าที่ Call Center ท่านนั้น ในตอนนั้นผมคิดในใจ อ้าว แล้วทำไมตอนแรกไม่พูดแบบนั้น ไปโบ้ยให้ Call Center ผิดซะงั้น และเธอก็อ้างเหตุผลอะไรต่ออีกร้อยแปดพันเก้าที่วกไปวนมาว่าทำไมผมถึงไม่ได้เครื่อง ก่อนจะเริ่มทำเสียงแข็งบอกผมว่ารอพรุ่งนี้ได้ไหม เดี๋ยวเธอไปเอามาให้เองจากอยุธยาเพื่อจบการสนทนา

ตอนนั้นผมเสียความรู้สึกแกมโมโหมาก ในใจคิดว่าความผิดพลาดของ DTAC ครั้งนี้ทำให้เราต้องวุ่นวายและเสี่ยงตายกับมันขนาดนี้เลยเหรอ นอกจากนี้ยังต้องมาทนฟังคำพูดที่ไม่แสดงอาการขอโทษอีก ไหนจะคำพูดที่ออกแนวยียวนของทาง Call Center ก่อนหน้าอีก ผมเลยปฏิเสธเธอไปว่าไม่เป็นไรครับและตัดสินใจเดินออกมาจากร้านก่อนที่ระเบิดปรมณูลูกยักษ์จะลง (เพราะรู้ว่านานกว่านั้นอีกหน่อยลงหนักแน่)

ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก ผมแค่อยากถาม DTAC ว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับคุณและเจ้าหน้าที่ของคุณ "ซ้ำแล้วซ้ำเล่า" และอาการที่ "ไม่ให้เกียรติลูกค้า" ของคุณแบบนี้นั้น คุณจะจัดการอย่างไร และคุณจะชดเชยความรู้สึกที่เสียไปของลูกค้าคุณได้ยังไง นี่ยังไม่นับรวมเวลาที่ลูกค้าคุยต้องเดินทางไป "ศูนย์ฟิวเจอร์ปาร์กรังสิต" ซ้ำไปซ้ำมาถึงสามรอบเพราะความผิดพลาดของคุณ และท้ายที่สุดแล้วก็ยังไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาเลย แถมยังมีหน้ามาบอกให้ลูกค้ากลับมาใหม่ "เป็นรอบที่ 4" คุณใช้ตรรกในส่วนไหนในการพิจารณา?

ผม "เท" DTAC ค่ายที่แสนจะ "ดีแตก" กับความงุ่นง่าม สับปลับ และความไม่ให้เกียรติลูกค้าและไม่เคารพสิทธิของผู้บริโภคอย่างผมจากคุณแล้วจริงๆ....

หากคุณต้องการข้อมูลของบุคคลทุกคนที่ผมกล่าวถึงในนี้ ผมมีให้คุณหมด แต่หากเอาไปแล้วหาย ไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ผมก็ไม่รู้จะให้คุณไปทำไม คงไม่ต่างอะไรกับการยื่นแผนที่ขุมทรัพย์ไปให้คุณใช้เป็นกระดาษเช็ดก้นแมว พนักงานของคุณที่ผมกล่าวถึงมีบางคนที่ดีและผมชื่นชม แต่กับบางคน ผมว่าคุณเองควรพิจารณา

เสียความรู้สึกจริงๆ เสียดายที่เคยหลงใช้บริการคุณมานาน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่