สิ่งที่ต้องคิดเกี่ยวกับการทำงานทางการเมืองของ
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา
ต้องยอมรับว่า ประธานาธิบดี บารัค โอบามา มีตารางเวลาทำงานที่ท้าทายมาก
วันทำงานปกติของประธานาธิบดี อาจรวมถึงพิธีร่วมเฉลิมฉลองนักกีฬาทีมโอลิมปิกของสหรัฐอเมริกา
ประชุมกับคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษาทางทหาร กล่าวสุนทรพจน์หลายสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์ต่าง ๆ
และการพูดคุยโทรศัพท์กับผู้นำต่างประเทศ (ทางสายด่วน Hotlines เฉพาะผู้นำมหาอำนาจ)
ในบทความนี้สำหรับเดือนตุลาคมของ Vanity Fair ผู้เขียน Micheal Lewis
ได้สำรวจรายละเอียดบางส่วนเหล่านี้ เกี่ยวกับเบื้องหลัง/หลังฉาก
การใช้ชีวิตประจำวันของประธานาธิบดี โอบามา
เพื่อเตรียมข้อมูลไว้สำหรับบทความนี้
Lewis ต้องใช้เวลาหกเดือน เพื่อติดตามอย่างใกล้ชิดกับประธานาธิบดี
ต้องทุ่มเทพลังงานและพลังใจอย่างมากในการทำงานครั้งนี้
ลุกนั่งในแถวหน้าเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดี
และพูดคุยกับประธานาธิบดียามเมื่อท่านมีเวลาว่าง
มีคำถามหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ Lewis ชอบถามซ้ำ ๆ
กับประธานาธิบดีโอบามา ด้วยคำถามในสถานการณ์ต่อไปนี้.-
"สมมติว่าภายในสามสิบนาทีนี้ ท่านต้องสิ้นสุดอำนาจการเป็นประธานาธิบดี
และผมจะเข้ารับตำแหน่งแทนท่าน ท่านจะแนะนำว่าควรทำอย่างไรบ้างในตำแหน่งนี้ "
ประธานาธิบดีได้กล่าวย้ำถึงสิ่งแรกคือ
ความจำเป็นของ
การออกกำลังกายทุกวัน
ทำให้เป็นนิสัยที่เพื่อเสริมสร้างพลังกายและพลังจิตใจ
แต่สิ่งที่กล่าวต่อไปนี้ยิ่งน่าสนใจมากกว่าคือ.-.
" คุณจะเห็นผมสวมชุดสูทสีเทาดำหรือสีน้ำเงินเท่านั้น
ผมพยายามที่จะตัดลดเรื่องที่ต้องตัดสินใจออกไป
ผมไม่ต้องการจะตัดสินใจเกี่ยวกับสิ่งที่ผมจะกินหรือสวมใส่
เพราะผมมีเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องตัดสินใจ
ผมรับประทานอาหารหลักสำหรับอาหารเช้า
ในแบบเดียวกันทุกวัน คือ ซีเรียลเย็นและกล้วยหอม
สำหรับมื้อกลางวันผม กินแซนวิชสลัดไก่พร้อมกับน้ำดื่มผสมโซดา "
ทุกเช้าผมจะแต่งตัวหนึ่งในจำนวนชุดที่มีอยู่เพียงจำนวนน้อย
เพื่อไปร่วมงานในแต่ละแห่งพร้อมกับชุดเสื้อผ้ากับเนคไท
ผุ้เขียนจึงขอแบ่งปันข้อมูล
การปฏิบัติในชิวิตประจำวันของประธานาธิบดี โอบามา
คือ ท่านทำเป็นประจำกับเรื่องประจำวัน
ทั้งประธานาธิบดีโอบามากับผม
ได้สำรวจตนเองว่า กิจวัตรดังกล่าวน่าเบื่อหรือไม่
เพราะเราทั้งคู่ ( โดยเฉพาะอย่างยิ่งประธานาธิบดีโอบามา)
ต้องมีการตัดสินใจจำนวนมากในแต่ละวัน
การตัดสินใจที่มีความสำคัญอย่างยวดยิ่งมากกว่า
การต้องใช้เวลากับการเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่
หรือการที่จะหาอะไรกินเป็นอาหารเช้า
การตัดสินใจที่มากเกินไปเกี่ยวในรายละเอียด
การใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์
เป็นการสูญเสียทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
คือ ด้านปฏิภาณ/ไหวพริบของคนเรา
ในปลายปี 1990 Roy Baumeister
(ศาตราจารย์ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐฟลอริดา) และเพื่อนร่วมงาน
ได้ทำการทดลองหลายครั้งที่แสดงผลให้ทราบว่า
ผลการกระทำต่าง ๆ ที่มีผลกับจิตใจ(สติสมาธิ)
มาจากแหล่งพลังงานเดียวกัน
จะมีผลค่อย ๆ ลดทอนความสามารถ
ในการตัดสินใจที่เฉียบแหลม(ไหวพริบ)ได้ตลอดทั้งวัน
หนึ่งในขั้นตอนหนึ่งของการทดลองของ Roy Baumeister
อาสาสมัครจะถูกบังคับให้กินหัวผักกาดแดง/ขาว
แทนขนมปังอบสดใหม่ คุกกี้รสช็อกโกแลตที่หอมกรุ่น ทั้งหมดวางอยู่บนโต๊ะเดียวกัน
ในขณะที่อาสาสมัครอีกกลุ่มหนึ่ง ได้รับคำสั่ง
ให้ระงับการตอบสนอง/แสดงออกทางอารมณ์
ขณะนั่งชมภาพยนตร์ตลกหรือภาพยนตร์ที่น่าเศร้า
ในทั้งสองกรณีผลการทดลองทั้งสองอย่างนี้
แสดงผลถึงความแตกต่างด้านความรวดเร็วกว่า
(เมื่อมีการเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม)
ในการตัดสินใจกับการแก้ไขปัญหาที่ตามมา
มีผลกระทบตามมาที่แสดงให้เห็นว่า
การกระทำหน้าที่ที่ควบคุมตนเอง
และวางกฎเกณฑ์ควบคุมตนเอง
เช่น กินหัวผักกาดขาวหรือแดง
การควบคุมอารมณ์ที่จะแสดงออกอย่างอดทน
มีผลต่อพลังจิตของพวกเขา
ผ่านมาสิบห้าปี นักวิจัยหลายคน
ได้จำลองแบบการทดลองเหล่านี้
ด้วยการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
ด้วยความพยายามที่จะค้นพบ
ประเภทของการกระทำที่มีผลต่อทางจิตได้อย่างรวดเร็วที่สุด
ทำให้ปฎิภาณไหวพริบของคนเราหมดไป
และผลกระทบของเรื่องทั้งหมดนี้ที่อาจจะมีขึ้น
มีอยู่ในบทที่สี่ของหนังสือเล่มใหม่ของ Dan Ariely
(ความซื่อสัตย์)ความจริงเกี่ยวกับความไม่ซื่อสัตย์
สรุปผลการทดลองที่น่าสนใจบางอย่าง
ที่แสดงให้เห็นว่าสมองคนเราถ้าเหนื่อยล้าเกินไป
ทำให้เรามีแนวโน้มที่จะกินอาหารขยะ เอนกายลงนอน
หรือมิฉะนั้นแสดงออกถึงนิสัยที่แย่ในการควบคุมตนเอง
เรื่องนี้น่าสนใจโดยเฉพาะกับผู้เขียน
(และเห็นได้ชัดว่าประธานาธิบดี โอบามา) คือ
หนึ่งในรูปแบบของการทดลองดำเนินการโดย Kathleen Vohs
(ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทางธุรกิจที่มหาวิทยาลัยมินนิโซตา)
และเพื่อนร่วมงานรวมทั้ง ศาสตราจารย์ Roy Baumeister
การทดลองของ Kathleen Vohs ทดสอบว่า การเลือกในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างเช่น ลูกอมประเภทไหนที่จะกิน หรือเสื้อผ้าที่จะซื้อสวมใส่
มีผลทำให้พลังทางจิตของคนเราอ่อนล้าลง เป็นผลตามนี้หรือไม่
Vohs และเพื่อนร่วมงานได้ทดสอบอย่างต่อเนื่อง
พบว่า การเลือกซ้ำ ๆ ทำให้พลังทางจิตของอาสาสมัครอ่อนล้าน้อยลง
แม้ว่าตัวเลือกเหล่านั้นจะเป็นเรื่องปกติและเกี่ยวข้องกับความพึงพอใจ
ดังนั้นถ้าคุณต้องการที่จะมีปฏิภาณ/ไหวพริบตลอดทั้งวัน
ควรระบุด้านใดด้านหนึ่งของชีวิตประจำวัน
ที่คาดหวังไว้แล้วจากสิ่งที่พิจารณาว่าเป็นเรื่องธรรมดา
แล้วทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ด้วยการทำแบบนั้นให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
โดยใช้เวลาสั้น ๆ ทำให้ต้องมีการตัดสินใจน้อยลง
สำหรับผู้เขียนแล้ว หมายความว่าการสวมเสื้อผ้าที่น่าเบื่อ/ซ้ำ ๆ กัน
และการรับประทานอาหารเช้าและอาหารกลางวันแบบเดียวกันทุกมื้อเกือบทุกวัน
วิธีการเฉพาะแบบนี้อาจไม่เหมาะกับการทำงานสำหรับพวกคุณ - และเป็นเรื่องที่ดี
บางทีงานของพวกคุณ จะต้องแต่งกายเพื่อสู่ความสำเร็จ
(พูดว่าถ้าคุณต้องทำงานกับสื่อมวลชน เช่น นักการเมือง นักธุรกิจ ดารา นักร้อง นักแสดง)
หรืออาจจะแตกต่างกันไปสำหรับการต้องมีโภชนาการประจำวัน
(พูดว่า ถ้าคุณเป็นนักกีฬามืออาชีพ นักยกน้ำหนัก นักกล้าม นักกรีฑา กำลังลดความอ้วน)
จุดที่สำคัญ คือ ควรตัดสินใจว่าจะไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น
กับการที่ควรเรียนรู้ถึงวิธีถึงการทำแบบนั้นจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ให้ขับเคลื่อนชีวิตประจำวันเแบบอัตโนมัติ
แทนที่จะสูญเสียความกระตือรือร้นทางจิตใจ
กับสิ่งที่พิจารณาแล้วว่าไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ
เพื่อได้ใช้เวลามากขึ้นกับการตัดสินใจเรื่องอื่น ๆ แทน
กิจกรรมและกับบุคคลที่มีความสำคัญต่อคุณมากที่สุด
หมายเหตุ ผู้เรียบเรียงยังจำคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่ง (จำชื่อท่านไม่ได้แล้ว)
ท่านเป็นคณบดีมหาวิทยาลัยรัฐที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
อาหารเที่ยงของท่าน ถ้าเลือกจะรับประทานอะไรจะรับประทานซ้ำ ๆ ไม่น้อยกว่าสามถึงหกเดือน
เช่น ข้าวมันไก่ ก้วยเตี่ยว เรียกว่า ไม่ต้องสั่งแม่ค้าจะตัดให้ท่านได้เลย
ช่วงการบริหารงานของท่าน มีงานวิจัยและงานบริหารอยู่ในระดับดีด้วยเช่นกัน
ถ้าเป็นปัจจุบันน่าจะเป็นอาหารสิ้นคิดแบบที่นักแสดงตลกชอบล้อเีลียนกัน
เช่น ข้าวไข่เจียว หรือข้าวผัดใบกระเพรา เป็นต้น
เรียบเรียงจาก
http://goo.gl/wxJSa
และขอบคุุณภาพจาก Internet
สิ้นคิดจึงสร้างไหวพริบ
ต้องยอมรับว่า ประธานาธิบดี บารัค โอบามา มีตารางเวลาทำงานที่ท้าทายมาก
วันทำงานปกติของประธานาธิบดี อาจรวมถึงพิธีร่วมเฉลิมฉลองนักกีฬาทีมโอลิมปิกของสหรัฐอเมริกา
ประชุมกับคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษาทางทหาร กล่าวสุนทรพจน์หลายสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์ต่าง ๆ
และการพูดคุยโทรศัพท์กับผู้นำต่างประเทศ (ทางสายด่วน Hotlines เฉพาะผู้นำมหาอำนาจ)
ในบทความนี้สำหรับเดือนตุลาคมของ Vanity Fair ผู้เขียน Micheal Lewis
ได้สำรวจรายละเอียดบางส่วนเหล่านี้ เกี่ยวกับเบื้องหลัง/หลังฉาก
การใช้ชีวิตประจำวันของประธานาธิบดี โอบามา
เพื่อเตรียมข้อมูลไว้สำหรับบทความนี้
Lewis ต้องใช้เวลาหกเดือน เพื่อติดตามอย่างใกล้ชิดกับประธานาธิบดี
ต้องทุ่มเทพลังงานและพลังใจอย่างมากในการทำงานครั้งนี้
ลุกนั่งในแถวหน้าเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดี
และพูดคุยกับประธานาธิบดียามเมื่อท่านมีเวลาว่าง
มีคำถามหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ Lewis ชอบถามซ้ำ ๆ
กับประธานาธิบดีโอบามา ด้วยคำถามในสถานการณ์ต่อไปนี้.-
"สมมติว่าภายในสามสิบนาทีนี้ ท่านต้องสิ้นสุดอำนาจการเป็นประธานาธิบดี
และผมจะเข้ารับตำแหน่งแทนท่าน ท่านจะแนะนำว่าควรทำอย่างไรบ้างในตำแหน่งนี้ "
ประธานาธิบดีได้กล่าวย้ำถึงสิ่งแรกคือ
ความจำเป็นของการออกกำลังกายทุกวัน
ทำให้เป็นนิสัยที่เพื่อเสริมสร้างพลังกายและพลังจิตใจ
แต่สิ่งที่กล่าวต่อไปนี้ยิ่งน่าสนใจมากกว่าคือ.-.
" คุณจะเห็นผมสวมชุดสูทสีเทาดำหรือสีน้ำเงินเท่านั้น
ผมพยายามที่จะตัดลดเรื่องที่ต้องตัดสินใจออกไป
ผมไม่ต้องการจะตัดสินใจเกี่ยวกับสิ่งที่ผมจะกินหรือสวมใส่
เพราะผมมีเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องตัดสินใจ
ผมรับประทานอาหารหลักสำหรับอาหารเช้า
ในแบบเดียวกันทุกวัน คือ ซีเรียลเย็นและกล้วยหอม
สำหรับมื้อกลางวันผม กินแซนวิชสลัดไก่พร้อมกับน้ำดื่มผสมโซดา "
ทุกเช้าผมจะแต่งตัวหนึ่งในจำนวนชุดที่มีอยู่เพียงจำนวนน้อย
เพื่อไปร่วมงานในแต่ละแห่งพร้อมกับชุดเสื้อผ้ากับเนคไท
ผุ้เขียนจึงขอแบ่งปันข้อมูล
การปฏิบัติในชิวิตประจำวันของประธานาธิบดี โอบามา
คือ ท่านทำเป็นประจำกับเรื่องประจำวัน
ทั้งประธานาธิบดีโอบามากับผม
ได้สำรวจตนเองว่า กิจวัตรดังกล่าวน่าเบื่อหรือไม่
เพราะเราทั้งคู่ ( โดยเฉพาะอย่างยิ่งประธานาธิบดีโอบามา)
ต้องมีการตัดสินใจจำนวนมากในแต่ละวัน
การตัดสินใจที่มีความสำคัญอย่างยวดยิ่งมากกว่า
การต้องใช้เวลากับการเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่
หรือการที่จะหาอะไรกินเป็นอาหารเช้า
การตัดสินใจที่มากเกินไปเกี่ยวในรายละเอียด
การใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์
เป็นการสูญเสียทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
คือ ด้านปฏิภาณ/ไหวพริบของคนเรา
ในปลายปี 1990 Roy Baumeister
(ศาตราจารย์ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐฟลอริดา) และเพื่อนร่วมงาน
ได้ทำการทดลองหลายครั้งที่แสดงผลให้ทราบว่า
ผลการกระทำต่าง ๆ ที่มีผลกับจิตใจ(สติสมาธิ)
มาจากแหล่งพลังงานเดียวกัน
จะมีผลค่อย ๆ ลดทอนความสามารถ
ในการตัดสินใจที่เฉียบแหลม(ไหวพริบ)ได้ตลอดทั้งวัน
หนึ่งในขั้นตอนหนึ่งของการทดลองของ Roy Baumeister
อาสาสมัครจะถูกบังคับให้กินหัวผักกาดแดง/ขาว
แทนขนมปังอบสดใหม่ คุกกี้รสช็อกโกแลตที่หอมกรุ่น ทั้งหมดวางอยู่บนโต๊ะเดียวกัน
ในขณะที่อาสาสมัครอีกกลุ่มหนึ่ง ได้รับคำสั่ง
ให้ระงับการตอบสนอง/แสดงออกทางอารมณ์
ขณะนั่งชมภาพยนตร์ตลกหรือภาพยนตร์ที่น่าเศร้า
ในทั้งสองกรณีผลการทดลองทั้งสองอย่างนี้
แสดงผลถึงความแตกต่างด้านความรวดเร็วกว่า
(เมื่อมีการเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม)
ในการตัดสินใจกับการแก้ไขปัญหาที่ตามมา
มีผลกระทบตามมาที่แสดงให้เห็นว่า
การกระทำหน้าที่ที่ควบคุมตนเอง
และวางกฎเกณฑ์ควบคุมตนเอง
เช่น กินหัวผักกาดขาวหรือแดง
การควบคุมอารมณ์ที่จะแสดงออกอย่างอดทน
มีผลต่อพลังจิตของพวกเขา
ผ่านมาสิบห้าปี นักวิจัยหลายคน
ได้จำลองแบบการทดลองเหล่านี้
ด้วยการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
ด้วยความพยายามที่จะค้นพบ
ประเภทของการกระทำที่มีผลต่อทางจิตได้อย่างรวดเร็วที่สุด
ทำให้ปฎิภาณไหวพริบของคนเราหมดไป
และผลกระทบของเรื่องทั้งหมดนี้ที่อาจจะมีขึ้น
มีอยู่ในบทที่สี่ของหนังสือเล่มใหม่ของ Dan Ariely
(ความซื่อสัตย์)ความจริงเกี่ยวกับความไม่ซื่อสัตย์
สรุปผลการทดลองที่น่าสนใจบางอย่าง
ที่แสดงให้เห็นว่าสมองคนเราถ้าเหนื่อยล้าเกินไป
ทำให้เรามีแนวโน้มที่จะกินอาหารขยะ เอนกายลงนอน
หรือมิฉะนั้นแสดงออกถึงนิสัยที่แย่ในการควบคุมตนเอง
เรื่องนี้น่าสนใจโดยเฉพาะกับผู้เขียน
(และเห็นได้ชัดว่าประธานาธิบดี โอบามา) คือ
หนึ่งในรูปแบบของการทดลองดำเนินการโดย Kathleen Vohs
(ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทางธุรกิจที่มหาวิทยาลัยมินนิโซตา)
และเพื่อนร่วมงานรวมทั้ง ศาสตราจารย์ Roy Baumeister
การทดลองของ Kathleen Vohs ทดสอบว่า การเลือกในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างเช่น ลูกอมประเภทไหนที่จะกิน หรือเสื้อผ้าที่จะซื้อสวมใส่
มีผลทำให้พลังทางจิตของคนเราอ่อนล้าลง เป็นผลตามนี้หรือไม่
Vohs และเพื่อนร่วมงานได้ทดสอบอย่างต่อเนื่อง
พบว่า การเลือกซ้ำ ๆ ทำให้พลังทางจิตของอาสาสมัครอ่อนล้าน้อยลง
แม้ว่าตัวเลือกเหล่านั้นจะเป็นเรื่องปกติและเกี่ยวข้องกับความพึงพอใจ
ดังนั้นถ้าคุณต้องการที่จะมีปฏิภาณ/ไหวพริบตลอดทั้งวัน
ควรระบุด้านใดด้านหนึ่งของชีวิตประจำวัน
ที่คาดหวังไว้แล้วจากสิ่งที่พิจารณาว่าเป็นเรื่องธรรมดา
แล้วทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ด้วยการทำแบบนั้นให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
โดยใช้เวลาสั้น ๆ ทำให้ต้องมีการตัดสินใจน้อยลง
สำหรับผู้เขียนแล้ว หมายความว่าการสวมเสื้อผ้าที่น่าเบื่อ/ซ้ำ ๆ กัน
และการรับประทานอาหารเช้าและอาหารกลางวันแบบเดียวกันทุกมื้อเกือบทุกวัน
วิธีการเฉพาะแบบนี้อาจไม่เหมาะกับการทำงานสำหรับพวกคุณ - และเป็นเรื่องที่ดี
บางทีงานของพวกคุณ จะต้องแต่งกายเพื่อสู่ความสำเร็จ
(พูดว่าถ้าคุณต้องทำงานกับสื่อมวลชน เช่น นักการเมือง นักธุรกิจ ดารา นักร้อง นักแสดง)
หรืออาจจะแตกต่างกันไปสำหรับการต้องมีโภชนาการประจำวัน
(พูดว่า ถ้าคุณเป็นนักกีฬามืออาชีพ นักยกน้ำหนัก นักกล้าม นักกรีฑา กำลังลดความอ้วน)
จุดที่สำคัญ คือ ควรตัดสินใจว่าจะไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น
กับการที่ควรเรียนรู้ถึงวิธีถึงการทำแบบนั้นจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ให้ขับเคลื่อนชีวิตประจำวันเแบบอัตโนมัติ
แทนที่จะสูญเสียความกระตือรือร้นทางจิตใจ
กับสิ่งที่พิจารณาแล้วว่าไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ
เพื่อได้ใช้เวลามากขึ้นกับการตัดสินใจเรื่องอื่น ๆ แทน
กิจกรรมและกับบุคคลที่มีความสำคัญต่อคุณมากที่สุด
หมายเหตุ ผู้เรียบเรียงยังจำคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่ง (จำชื่อท่านไม่ได้แล้ว)
ท่านเป็นคณบดีมหาวิทยาลัยรัฐที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
อาหารเที่ยงของท่าน ถ้าเลือกจะรับประทานอะไรจะรับประทานซ้ำ ๆ ไม่น้อยกว่าสามถึงหกเดือน
เช่น ข้าวมันไก่ ก้วยเตี่ยว เรียกว่า ไม่ต้องสั่งแม่ค้าจะตัดให้ท่านได้เลย
ช่วงการบริหารงานของท่าน มีงานวิจัยและงานบริหารอยู่ในระดับดีด้วยเช่นกัน
ถ้าเป็นปัจจุบันน่าจะเป็นอาหารสิ้นคิดแบบที่นักแสดงตลกชอบล้อเีลียนกัน
เช่น ข้าวไข่เจียว หรือข้าวผัดใบกระเพรา เป็นต้น
เรียบเรียงจาก http://goo.gl/wxJSa
และขอบคุุณภาพจาก Internet