วงจรชีวิตของชีวิตทุนนิยมที่โลกที่ 1 ปูให้กับโลกที่ 3

การเลี้ยงดู: ตั้งแต่เกิดมา พ่อแม่สมัยนี้ต่างก็ทำงานมีชีวิตทั้งกลางวันและกลางคืนมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน จะให้ดูแลลูกเองตลอดก็คงยากในสังคมยุคนี้ ทางเลือกที่นิยมกันคือให้คนอื่นดูแลลูกตัวเองแทนในเวลาที่ไม่สามารถดูแลเองได้ มีตั้งแต่ส่ง nursery school, จ้างพี่เลี้ยง ยันส่งให้ยายเลี้ยงแทน มีน้อยคนที่พ่อแม่จะเลี้ยงดูด้วยตัวเอง ขนาดตัวผมเองพ่อแม่ต่างทำงานทั้งวันแถมทำงานเสริมอีกก็ต้องมีพี่เลี้ยงมาช่วยดูอยู่พักนึง

การเรียนรู้: พ่อแม่แต่ละคนก็มีวิธีการสอนให้เด็กได้เรียนรู้แตกต่างกันไป แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กได้ซึมซับได้นั่นก็คือโทรทัศน์ เด็กจะได้รับการอบรมถึงระดับปลูกฝังจิตใต้สำนึกผ่านโทรทัศน์ให้กระตุ้นความอยากความต้องการและค่านิยมต่างๆโดยอาศัยพื้นฐานการเรียนรู้จากการเลียนแบบสภาพแวดล้อม สังเกตว่าจะเห็นบ่อยมากๆพวกเสื้อแดงพรมแดงใส่สูทนั่งรถหรูไป party ผู้ดีทั้งๆที่ผู้ใหญ่บ้านเราก็ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นกันเลยสักนิด

การศึกษา: จะได้รับการศึกษาภาคบังคับโดยปูเนื้อหาให้ซึมซับถึงความเก่งกาจของโลกตะวันตกว่าสมัยก่อนทำอะไรเด่นๆและค้นพบอะไรบ้าง ซึ่งก็มีแต่เรื่องของโลกตะวันตก ไม่ค่อยมีของประเทศใกล้ๆอย่างลาว จีน พม่า เวียดนามเลย และความยิ่งใหญ่ของคำว่า "เวทีโลก" นอกจากนี้ก็ยังมี course ที่รัฐจัดให้เพิ่มเติมแล้วแต่จะปลูกฝังเรื่องอะไรดี ตัวอย่างง่ายๆก็วิชาประวัติศาสตร์ที่มีแต่เรื่องสงครามอย่างในกระทู้ของคุณอุราฮาร่าที่โดนลบไปเมื่อไม่นานนี้ และเป้าหมายของการศึกษาก็จะเน้นที่ผลสัมฤทธิ์เป็นหลัก เน้นให้เด็กแข่งขันกันเอง แย่งกันเป็นที่ 1 เพื่อสะสมหลักประกันของชีวิตในอุดมคติที่เค้าปูมาให้

การเลี้ยงชีพ: แน่นอนว่าเรียนจบก็ต้องทำงาน เป็น core concept ของโลกทุนนิยมเลย หลังจากการเลิกทาสไปแล้ว เราจะทำอย่างไรเพื่อที่จะมีสิ่งชดเชยแทนการใช้ทาสได้ นั่นก็คือแนวคิดเรื่องงานนั่นเอง เราก็สร้าง model ที่ต้องให้คนมาให้เราเลือกใช้ทำงานแทนสิ ไปสร้างสถานศึกษาในประเทศแรงงานแล้วสร้างตลาดแรงงานขึ้นมา จากนั้นเราก็ไปเปิดบริษัทส่งงานไปให้คนที่นั่นทำแทน ถูกด้วย สุดท้ายเค้าก็สอนคุณเพื่อให้มาเป็นแรงงานให้ผู้นำในสาขาวิชาที่เรียนมาเลือกซื้อเวลาและอิสรภาพของคุณไปเพื่อแลกกับเงินดำรงชีพ โดนล้างสมองให้คิดว่าต้องทำงานอย่างสมบูรณ์ในขณะที่ประเทศเขาเปิด startup school สอนให้คนจบมาสร้างบริษัทวิมาณในฝันมาหาแรงงานเปิดโรงงานในต่างแดนให้เราสานฝันให้เค้่าแทน

เป้าหมายชีวิต: อันดับแรกเลย รวย ใครไม่เคยคิดอยากมีเงินเยอะๆคงไม่มีนะ คำว่ารวยของแต่ละคนก็ต่างกันไป บางคนก็รวยเพื่อให้ยังชีพได้โดยไม่เดือดร้อน บางคนก็เพื่อความภาคภูมิใจส่วนตัว บางคนก็เพื่อจะเนรมิตใหได้ทุกสิ่ง บางคนก็หมดทุกอย่างเลยตามแต่เวรแต่กรรมไป มีบ้านใหญ่ มีรถหรู ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานที่ทำแล้วเสพสุขจากผลความสำเร็จเหล่านั้นตามที่เห็นในโฆษณาแล้วดูน่าจะมีความสุขจังเลย แต่ไม่เคยมีใครมากระตุกต่อมคิดให้ทำงานเลยว่า passion ของคุณคืออะไร เรื่องที่คุณจะทำแล้วมีความสุขได้นั้นมีใครมาช่วยคุณค้นหาบ้างไหม สุดท้ายก็โยน maslow มาให้คุณปีนกระไดไต่ไปตามหากันเอาเอง แต่รวย เพื่อนเยอะ หน้าใหญ่ก่อนนะค่อยมาคิดเรื่องพวกนี้ ฮ่ะๆๆ ตลกฝืดจริงๆ

นี่ก็คือวงจรชีวิตแบบคร่าวๆของมนุษย์สูตรสำเร็จในโลกทุนนิยม เป็นการพยายามสร้างสภาพแวดล้อมให้คนที่ได้รับการปลูกฝังต้องคิดต้องทำแบบนี้ ทำให้เค้าเชื่อว่าช่องทางในการดำเนินชีวิตนั้นต้องเริ่มมาจากตรงนี้ ผมขอบอกได้เลยว่าไม่จริงเลย ทั้งหมดนั้นคุณคิดไปเอง แม้แต่ความจำเป็นต่างๆในชีวิตส่วนใหญ่นั้นคุณก็คิดไปเอง คราวหน้าถ้าว่างจะแวะมาเขียนในมุมของชีวิตพอเพียงบ้างนะครับ ชีวิตที่ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองแล้วไม่เคยทำงาน ไม่ต้องแข่งกับใคร ไม่เคยเป็นลูกน้องหรือนายใคร ไม่ต้องหาหลักประกันใดๆ ชีวิตแบบนั้นมีอยู่จริงและมีคนที่ใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่ไม้น้อยเลยในประเทศไทยนี้ครับทั้งคนที่มีเงินมากและคนที่ไม่มีเงินเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่