สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าจะนับผลงานสร้างชื่อของเธอก็คงเป็นเรื่องของการทำอาหารและตกแต่งภายในครับ แต่กรณีฉาวโฉ่อีกเรื่องหนึ่งก็คือเหตุการณ์ "Insider Trading" ซึ่งคนในวงการหุ้นและผู้ที่ติดตามข่าวต่างประเทศมาตลอดหลายปีน่าจะจำได้ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้คนดังและมีชื่อเสียงอย่างเธอต้องไปอยู่ในคุกทั้งที่อายุอานามเลยวัยแซยิดแล้ว (เด็กรุ่นใหม่ๆเดี๋ยวนี้อาจจะไม่ทราบหรือจำไมไ่ด้เพราะมันตั้ง10กว่าปีมาแล้ว)
***เนื้อหาข่าวจากหนังสือพิมพืฉบับหนึ่งเมื่อ10ปีที่แล้ว***
"เศรษฐีมีบทเรียนให้เศรษฐี"
โดย วรากรณ์ สามโกเศศ มติชนรายวัน 26 กันยายน 2545
ถ้าใครไม่เชื่อว่าคนขาดสติ ขาดวิจารณญาณที่ดี และมีความโลภเป็นที่ตั้ง สามารถทำลายตนเอง ได้ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน หลังจากก่อร่างสร้างตัวจนเป็นอภิมหาเศรษฐีมานับสิบปี ก็จงอ่านเรื่องของ MARTHA STEWART ดังต่อไปนี้
MARTHA STEWART หญิงวัย 61 ปี มีชื่อเสียงดังก้องสหรัฐอเมริกา ในฐานะเทพธิดาของคหกรรม เธอโด่งดัง ในเรื่องการครัว การดูแลบ้าน ขนาดที่เป็นเจ้าของบริษัท ที่มีมูลค่าถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (90,000 ล้านบาท
เธอมีรายการทำครัวประจำใน CNN เขียนคอลัมน์เกี่ยวกับอาหาร ที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ 230 ฉบับ มีรายการวิทยุ ที่ออกอากาศ 330 สถานี และแถมมีนิตยสารบ้าน และครัวที่มีคนอ่านถึง 2.4 ล้านคน
เธอดังในระดับของ BETTY CROCKER และ JULIA CHILD ในอดีตทีเดียว มีหนังสือขายดีหลายเล่ม ทำเงินให้เธอนับร้อยล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
MARTHA STEWART มีภาพพจน์ของหญิงเก่ง ในเรื่องการทำอาหาร ตลอดจนการให้คำแนะนำ เกี่ยวกับเรื่องบ้าน และครัว ชื่อเธอคือตัวค้ำประกันสินค้าทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวี ที่มีอยู่ทุกช่องแทบทุกวัน รายการวิทยุ คอลัมน์หนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร ดังนั้น เมื่อเธอล้ม จึงทำให้ธุรกิจเธอมีปัญหาไปด้วย
เธอมาจากครอบครัวอพยพชาวโปแลนด์ มีบ้านเกิดที่รัฐนิวเจอร์ซี่ย์ ชีวิตเธอลำบากยากเข็ญแต่ยามเด็ก ต้องเย็บเสื้อผ้าเอง และช่วยพ่อแม่ทำครัว จนทำให้เธอมีความเก่งกาจ ในเรื่องการบ้านการเรือน และสามารถใช้เป็นฐาน ในการทำมาหากินของเธอในเวลาต่อมา
ชีวิตเธอเปลี่ยนผัน หลังจากเป็นนางแบบ ในช่วงเวลาสั้นๆ และเป็นคนค้าขายหุ้น เมื่อเธอลงทุนบูรณะบ้านเก่า เผื่อขายต่อ กับสามีเก่าของเธอ ด้วยเงินที่เธอได้ ก็เอามาเปิดร้านอาหารพิเศษให้บริการจัดเลี้ยง และในปี 1982 หนังสือเล่มแรก ที่ขายดิบขายดีอย่างยิ่งก็ปรากฏตัว
MARTHA เป็นคนทำงานหนัก มีความทะเยอทะยาน มีโรคนอนไม่หลับประจำตัว ใช้กลยุทธ์สร้างให้ชื่อเธอ เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย เพื่อขายสินค้า และบริการของเธอต่อไป และเธอทำได้สำเร็จ เธอตั้งบริษัท OMNIMEDIA โดยตัวเธอเป็นประธานกรรมการ CEO และผู้ถือหุ้นใหญ่
สิ่งที่อาจนำไปสู่จุดจบของเธอก็คือ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เธอถูกสอบสวนโดย ก.ล.ต.อเมริกัน ในข้อหา INSIDER TRADING เมื่อเธอขายหุ้นในบริษัท IMCLONE SYSTEMS หนึ่งวัน ก่อนหน้าบริษัทประกาศว่า ยาสำคัญของบริษัทยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะนำออกขายได้ กล่าวคือ ขายหุ้นทิ้ง ก่อนที่หุ้นจะมีราคาตก ใช้ประโยชน์จากข้อมูลภายในบริษัท ซึ่งเท่ากับเป็นการเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ
นอกจากนี้เธอก็กำลังโดนข้อหา ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานในเรื่องนี้อีกด้วย ซึ่งทั้งสองข้อกล่าวหา อาจทำให้เธอติดคุกได้ ที่น่าขบขันก็คือ การทำอย่างนี้ ทำให้เธอไม่สูญเสียเงินไปเพียง 270,000 เหรียญสหรัฐเท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้เลย กับรายได้หลายร้อยล้านเหรียญต่อปีของเธอ!
ลูกน้องคนสำคัญของเธอ ซึ่งก็คืออดีตแฟนของลูกสาว ได้ถูกจับไปแล้วในข้อหา INSIDER TRADING ดังนั้น ชีวิตของเธอตอนนี้ จึงล่อแหลมมากต่อการติดคุก และจนลงอย่างน่าใจหาย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เรียกได้ว่าผีซ้ำด้ำพลอย เพราะก่อนหน้านี้ รายการทีวีของเธอ เริ่มมีความนิยมน้อยลง สินค้าที่ขายผ่านร้าน K-MART ก็มีปัญหา เพราะร้านนี้ล้มละลายไปเมื่อตอนเดือนมกราคม กิจการอินเตอร์เน็ต ก็ขาดทุนมาก หุ้นก็ตกจาก 20 เหรียญสหรัฐ (ในปี 1999 มีราคาถึง 35 เหรียญสหรัฐ) มาเรื่อยๆ และเมื่อเกิดปัญหาอื้อฉาวขึ้น ก็ตกลงมาถึง 8-9 เหรียญสหรัฐ
OMNIMEDIA ของเธอ ที่เคยมีมูลค่าถึง 2 พันล้านเหรียญ เมื่อตอนหุ้นมีราคาสูงสุดเมื่อ 3 ปีก่อน ก็มีมูลค่าหายไป กว่าร้อยละ 60 นับแต่เกิดเรื่องขึ้น เพราะชื่อเสียงเธอ โยงใยกับภาพพจน์ ของสินค้าอย่างแนบแน่น ไม่มีใครรู้ว่า บริษัทจะมีอนาคตอย่างไร หากเธอถูกจับ และถูกจำคุก เพราะแค่นี้บริษัทเธอ ก็แทบจะกลับบ้านเก่าอยู่แล้ว
นักวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์ปรากฏการณ์ล่มจมอย่างรวดเร็วครั้งนี้ว่า ไม่ต่างไปจากกรณีของ ENRON และ WORLDCOM ที่สามารถสูญหายไปจากโลก ในเวลาไม่กี่เดือน เพราะบริษัทขาด GOOD GOVERNANCE หรือธรรมาภิบาล
ชีวิตหนหลังของเธอ โดยเฉพาะในวัยเด็กที่แร้นแค้นถูกขุดขึ้นมาวิเคราะห์ว่า อาจเป็นสาเหตุแห่ง "ความงก" ของเธอ ที่ไม่ยอมสูญเงินที่เรียกได้ว่า เป็นจำนวนน้อยสำหรับเธอ เมื่อเทียบกับรายได้ในแต่ละปี เธอถูกกล่าวหาว่า เป็นคนหาประโยชน์จากเพื่อน ข่มอดีตสามี เป็นคนโลภโมโทสัน
เธอกำลังจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความโลภของ CEO อเมริกัน ที่มีปัญหาในด้าน GOOD GOVERNANCE อยู่ดาษดื่นในขณะนี้ ใครที่เป็นแฟนของเธอ ก็ให้รู้สึกหนักใจแทน เพราะนอกจากธุรกิจจะแย่ลงมากแล้ว การสูญเสียชื่อเสียง เพราะ INSIDER TRADING ก็ยากที่จะกู้คืนขึ้นมาได้ในสังคมที่ถือว่า INSIDER TRADING เป็นคดีอาญา และเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องทางจริยธรรม
เรื่องของ MARTHA STEWART เป็นอุทาหรณ์ที่ดี สำหรับผู้ประกอบธุรกิจใหญ่เล็กว่า การยึดมั่นในสิ่งถูกต้อง มีวิจารณญาณที่ดี และมีสติ เป็นคาถากันเสื่อมที่ชะงัดที่สุด
สิ่งใดที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความดีงาม ความจริงและจริยธรรมแล้วสิ่งนั้นไม่จีรังอย่างแน่นอน
(May the Spoil be with you)
ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน
***เนื้อหาข่าวจากหนังสือพิมพืฉบับหนึ่งเมื่อ10ปีที่แล้ว***
"เศรษฐีมีบทเรียนให้เศรษฐี"
โดย วรากรณ์ สามโกเศศ มติชนรายวัน 26 กันยายน 2545
ถ้าใครไม่เชื่อว่าคนขาดสติ ขาดวิจารณญาณที่ดี และมีความโลภเป็นที่ตั้ง สามารถทำลายตนเอง ได้ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน หลังจากก่อร่างสร้างตัวจนเป็นอภิมหาเศรษฐีมานับสิบปี ก็จงอ่านเรื่องของ MARTHA STEWART ดังต่อไปนี้
MARTHA STEWART หญิงวัย 61 ปี มีชื่อเสียงดังก้องสหรัฐอเมริกา ในฐานะเทพธิดาของคหกรรม เธอโด่งดัง ในเรื่องการครัว การดูแลบ้าน ขนาดที่เป็นเจ้าของบริษัท ที่มีมูลค่าถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (90,000 ล้านบาท
เธอมีรายการทำครัวประจำใน CNN เขียนคอลัมน์เกี่ยวกับอาหาร ที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ 230 ฉบับ มีรายการวิทยุ ที่ออกอากาศ 330 สถานี และแถมมีนิตยสารบ้าน และครัวที่มีคนอ่านถึง 2.4 ล้านคน
เธอดังในระดับของ BETTY CROCKER และ JULIA CHILD ในอดีตทีเดียว มีหนังสือขายดีหลายเล่ม ทำเงินให้เธอนับร้อยล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
MARTHA STEWART มีภาพพจน์ของหญิงเก่ง ในเรื่องการทำอาหาร ตลอดจนการให้คำแนะนำ เกี่ยวกับเรื่องบ้าน และครัว ชื่อเธอคือตัวค้ำประกันสินค้าทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวี ที่มีอยู่ทุกช่องแทบทุกวัน รายการวิทยุ คอลัมน์หนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร ดังนั้น เมื่อเธอล้ม จึงทำให้ธุรกิจเธอมีปัญหาไปด้วย
เธอมาจากครอบครัวอพยพชาวโปแลนด์ มีบ้านเกิดที่รัฐนิวเจอร์ซี่ย์ ชีวิตเธอลำบากยากเข็ญแต่ยามเด็ก ต้องเย็บเสื้อผ้าเอง และช่วยพ่อแม่ทำครัว จนทำให้เธอมีความเก่งกาจ ในเรื่องการบ้านการเรือน และสามารถใช้เป็นฐาน ในการทำมาหากินของเธอในเวลาต่อมา
ชีวิตเธอเปลี่ยนผัน หลังจากเป็นนางแบบ ในช่วงเวลาสั้นๆ และเป็นคนค้าขายหุ้น เมื่อเธอลงทุนบูรณะบ้านเก่า เผื่อขายต่อ กับสามีเก่าของเธอ ด้วยเงินที่เธอได้ ก็เอามาเปิดร้านอาหารพิเศษให้บริการจัดเลี้ยง และในปี 1982 หนังสือเล่มแรก ที่ขายดิบขายดีอย่างยิ่งก็ปรากฏตัว
MARTHA เป็นคนทำงานหนัก มีความทะเยอทะยาน มีโรคนอนไม่หลับประจำตัว ใช้กลยุทธ์สร้างให้ชื่อเธอ เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย เพื่อขายสินค้า และบริการของเธอต่อไป และเธอทำได้สำเร็จ เธอตั้งบริษัท OMNIMEDIA โดยตัวเธอเป็นประธานกรรมการ CEO และผู้ถือหุ้นใหญ่
สิ่งที่อาจนำไปสู่จุดจบของเธอก็คือ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เธอถูกสอบสวนโดย ก.ล.ต.อเมริกัน ในข้อหา INSIDER TRADING เมื่อเธอขายหุ้นในบริษัท IMCLONE SYSTEMS หนึ่งวัน ก่อนหน้าบริษัทประกาศว่า ยาสำคัญของบริษัทยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะนำออกขายได้ กล่าวคือ ขายหุ้นทิ้ง ก่อนที่หุ้นจะมีราคาตก ใช้ประโยชน์จากข้อมูลภายในบริษัท ซึ่งเท่ากับเป็นการเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ
นอกจากนี้เธอก็กำลังโดนข้อหา ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานในเรื่องนี้อีกด้วย ซึ่งทั้งสองข้อกล่าวหา อาจทำให้เธอติดคุกได้ ที่น่าขบขันก็คือ การทำอย่างนี้ ทำให้เธอไม่สูญเสียเงินไปเพียง 270,000 เหรียญสหรัฐเท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้เลย กับรายได้หลายร้อยล้านเหรียญต่อปีของเธอ!
ลูกน้องคนสำคัญของเธอ ซึ่งก็คืออดีตแฟนของลูกสาว ได้ถูกจับไปแล้วในข้อหา INSIDER TRADING ดังนั้น ชีวิตของเธอตอนนี้ จึงล่อแหลมมากต่อการติดคุก และจนลงอย่างน่าใจหาย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เรียกได้ว่าผีซ้ำด้ำพลอย เพราะก่อนหน้านี้ รายการทีวีของเธอ เริ่มมีความนิยมน้อยลง สินค้าที่ขายผ่านร้าน K-MART ก็มีปัญหา เพราะร้านนี้ล้มละลายไปเมื่อตอนเดือนมกราคม กิจการอินเตอร์เน็ต ก็ขาดทุนมาก หุ้นก็ตกจาก 20 เหรียญสหรัฐ (ในปี 1999 มีราคาถึง 35 เหรียญสหรัฐ) มาเรื่อยๆ และเมื่อเกิดปัญหาอื้อฉาวขึ้น ก็ตกลงมาถึง 8-9 เหรียญสหรัฐ
OMNIMEDIA ของเธอ ที่เคยมีมูลค่าถึง 2 พันล้านเหรียญ เมื่อตอนหุ้นมีราคาสูงสุดเมื่อ 3 ปีก่อน ก็มีมูลค่าหายไป กว่าร้อยละ 60 นับแต่เกิดเรื่องขึ้น เพราะชื่อเสียงเธอ โยงใยกับภาพพจน์ ของสินค้าอย่างแนบแน่น ไม่มีใครรู้ว่า บริษัทจะมีอนาคตอย่างไร หากเธอถูกจับ และถูกจำคุก เพราะแค่นี้บริษัทเธอ ก็แทบจะกลับบ้านเก่าอยู่แล้ว
นักวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์ปรากฏการณ์ล่มจมอย่างรวดเร็วครั้งนี้ว่า ไม่ต่างไปจากกรณีของ ENRON และ WORLDCOM ที่สามารถสูญหายไปจากโลก ในเวลาไม่กี่เดือน เพราะบริษัทขาด GOOD GOVERNANCE หรือธรรมาภิบาล
ชีวิตหนหลังของเธอ โดยเฉพาะในวัยเด็กที่แร้นแค้นถูกขุดขึ้นมาวิเคราะห์ว่า อาจเป็นสาเหตุแห่ง "ความงก" ของเธอ ที่ไม่ยอมสูญเงินที่เรียกได้ว่า เป็นจำนวนน้อยสำหรับเธอ เมื่อเทียบกับรายได้ในแต่ละปี เธอถูกกล่าวหาว่า เป็นคนหาประโยชน์จากเพื่อน ข่มอดีตสามี เป็นคนโลภโมโทสัน
เธอกำลังจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความโลภของ CEO อเมริกัน ที่มีปัญหาในด้าน GOOD GOVERNANCE อยู่ดาษดื่นในขณะนี้ ใครที่เป็นแฟนของเธอ ก็ให้รู้สึกหนักใจแทน เพราะนอกจากธุรกิจจะแย่ลงมากแล้ว การสูญเสียชื่อเสียง เพราะ INSIDER TRADING ก็ยากที่จะกู้คืนขึ้นมาได้ในสังคมที่ถือว่า INSIDER TRADING เป็นคดีอาญา และเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องทางจริยธรรม
เรื่องของ MARTHA STEWART เป็นอุทาหรณ์ที่ดี สำหรับผู้ประกอบธุรกิจใหญ่เล็กว่า การยึดมั่นในสิ่งถูกต้อง มีวิจารณญาณที่ดี และมีสติ เป็นคาถากันเสื่อมที่ชะงัดที่สุด
สิ่งใดที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความดีงาม ความจริงและจริยธรรมแล้วสิ่งนั้นไม่จีรังอย่างแน่นอน
(May the Spoil be with you)
ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน

แสดงความคิดเห็น
ผลงานที่สร้างชื่อแก่มาร์ธา สจ๊วต
เพราะต้องเอาไปพิมเป็นรายงาน เลยอยากทราบ แต่หาไม่ค่อยเจอเลยค่ะ
ส่วนมากเจอแต่เป็นภาษาอังกฤษ อยากได้เป็นภาษไทยอะค่ะ
รบกวนใครมีข้อมูลมาบอกกันหน่อยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ