วันนี้หลังเลิกงานเรารีบมุ่งหน้าไปหาที่เติมพลังชีวิตต่อ
เราไปที่ร้านของเพื่อน ไปฉีดวิตามิน มาร์คหน้า (ตามประสาคนไร้สาระ)
แต่คนๆเดียวที่เราจะยอมให้ฉีดเราคือ คุณหมอ ซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนคนเดียว...เพราะกลัวเข็มอ่ะ (คนนี้มือเบา)
ตอนเช้าส่งlineไปบอกล่ะ เขาก็โอเค ปรากฎว่าพอไปถึง พนักงานบอกว่า "คุณหมอไปตัดผมค่ะ เดี๋ยวคงมา" เราก็ไม่ว่าอะไร แค่แอบเคืองนิดนึงเพราะอุตส่าห์รีบมา ไม่ถึง 5 นาที เขาโทรมาทางไลน์ว่า "รอก่อนนะคร้าบบบบบ แป๊ปเดียว" เราก็นึกว่า พนักงานคงโทรบอกเขา แล้วพยาบาลก็มาเชิญให้เราไปนั่งที่โซนส่วนตัว จะได้เอนหลังได้ระหว่างรอ นั่งแป๊ปเดียวเขาก็มา...
"โทษทีน๊า เราเพิ่งเห็นข้อความตอนแม่โทรตามมาประชุม ยังตัดผมไม่เสร็จเลยอ่ะ วิ่งออกมาก่อน แล้วเราเปลี่ยนเครื่องเลยไม่มีเบอร์โทรตรง"
"เอ้ย! ขนาดนั้นเลยเหรอ....(พอมองดีๆ จริงแฮะ ผมยังฟูๆ แหว่งๆ) กล้ามาก"
"ก็รีบอ่ะ....แต่ตอนนี้แม่ยังวุ่นๆอยู่ มาๆ เดี๋ยวเราเปิดเส้นให้เลย"
ระหว่างนั้น เราก็หน้าซีดตามสเต็ป เขาก็มองแบบลุ้นมาก พอสอดเข็มได้เรียบร้อย เขาถามว่า
"วันนี้เจ็บมั้ย? เอาจริงๆ แบบไม่เกรงใจ"
เราก็เงียบ...พยาบาลก็ยืนฟัง...แซวคุณหมอว่า "พูดเป็นมั้ยคะ ว่า เจ็บบ่"
หมอพูดบ้าง "เจ็บบ่อ" ฮาตรึม... สำเนียงท้องถิ่นวันละคำ
พอของตก หมอหนุ่มมาดนิ่งร้อง "ไอ้หยา!"
เราก็ขำ แล้วคิดว่าเขาน่ารักดีนะ เลยแซว "หมอเปลี่ยนไปเยอะนะไม่เจอกันนาน"
"เปลี่ยนยังไงคะ?"
"ก็ฮาขึ้นมากอ่ะ ทั้งๆที่แต่งตัวมาดเนี้ยบขึ้น สีสันสดใสขึ้น"
"แล้วแบบไหนดีกว่ากัน เมื่อก่อนหรือตอนนี้? ชอบแบบไหน?"
"เรา...ชอบแบบเมื่อก่อนอ่ะ อันนี้เป็นทางการเกิน เกรงใจ...ไม่เอาเนคไทนะ"
"ได้ๆ ใส่วันเดียวแหละ แม่ซื้อให้ แปลว่า วันนี้มาแล้วโชคดี เห็นพอดี แถมเดี๋ยวไปตัดผมต่อด้วย เห็นผมใหม่ด้วยเลย" แล้วเขาก็ยิ้มมมมม
พยาบาลเลยว่า "อาจารย์หมอของเรา ปกติต้องมาดนิ่ง ขรึม พี่ก็เพิ่งเคยเห็นนะเนี่ย"
แล้วเขาก็ปล่อยเราไว้กัยขวดน้ำเกลือสีชมพูสวย...แล้ววิ่งไปประชุมต่อ หายไปชั่วโมงกว่า กลับมาแบบผมเนี้ยบแล้ว!
"นี่ประชุมเสร็จแล้ววิ่งไปตัดผมต่อ?"
"ช่าย...ช่างก็งงๆ"
"เออ...สมควร"
ระหว่างนั้นพี่พยาบาลใหญ่เดินมาบอกเราว่า ให้ดื่มน้ำเยอะๆ เพราะโดสมันเข้มข้นมาก เดี๋ยวนอนไม่หลับ หมอตอบแทน
"คนนี้หลับแน่ครับ เหนื่อยทุกวัน ตื่นตี 4 กว่า..." (จำได้ด้วยอ่ะ ดีใจ >_<
แล้วเขาก็หอบโน็ตบุ๊คกับเอกสารมานั่งทำงานเป็นเพื่อนเรา รอน้ำเกลือหมดขวด นั่งไปคุยไป (ฟินไป) เขามองที่ความเร็วหยดน้ำเกลือ แล้วถามว่า ปวดแขนมั้ย เราจำได้ว่ามันไม่เร็วขนาดนี้นะ คราวที่แล้ว (สองเดือนก่อน) เขาจำได้ว่า เราบ้าทำงานมาก เกลียดความว่าง จะคอยถามเป็นพักๆว่าเป็นไงบ้าง เราไม่ได้เป็นอะไรนอกจากมือเย็นมาก...เพราะน้ำเกลือมันเย็นกว่าอุณหภูมิร่างกาย + กลัวเข็มที่จิ้มอยู่เนี่ย!
เขาก็จับมือเราแล้วบอกว่า "เออเย็นจริงแฮะ" แล้วก็จะคอยจับๆ ให้อุ่นๆตลอด >_< เขาเป็นของเขาแบบนี้ตั้งแต่แรกที่เราเจอแล้วล่ะ...เราน่ะฟินเอง ฮ่าๆ (นานๆทีจะมีหนุ่มมาดูแล แม้จะตามหน้าที่ หุหุ)
พอน้ำเกลือหมด ก็มืดล่ะ ได้ยินพนักงานบอกลูกค้าว่า ซอยนี้ปลอดภัย เพราะเป็นซอยตัน มี รปภ + วิลล่าขายของ ร้านอาหารด้วย...
พอเราจะกลับ ปรากฎว่า ประตูหน้าคลินิคปิดแล้ว รองเท้าเราอยู่ประตูหน้า...หมอเดินไปหยิบของเท้าของเรามาเฉย! พนักงานที่เหลือมองแบบตกใจ! เพราะเขาเอารองเท้ามาวางให้เราที่อีกประตูหนึ่ง พอเราจะเดินออก เขาบอกมันมืดล่ะ เดี๋ยวให้คนขับรถไปส่ง เราบอกไม่ๆ เดี๋ยวเรากลับรถไฟฟ้า เขาบอกงั้นให้ส่งรถไฟฟ้า ขอไปบอกแม่ก่อนว่าให้รอเดี๋ยว ปรากฎว่า..."แม่เขาเลยกลับออกมาพร้อมกันเลย!" พนักงานที่เหลือ ทำหน้าช็อคมาก แล้วมองเราแบบงงๆ....เราก็งง..เพราะแม่เขาเพื่อนเราเคยบอกมาว่า...หวงลูกชายมากสุดๆ เลยพยายามจะกลับเอง เดี๋ยวแม่เขาเข้าใจผิด แต่คุณหมอนี่สิ..."เดี๋ยวก่อน ไปด้วยกันสิ นะ นะ มันมืดแล้ว อย่าออกไปเองเลย" เจอขนาดนี้ ปฏิเสธไงไหว...
"แต่ เดี๋ยวไปยืนรอตรงรถสีขาวนะครับ"
"ตรงพุ่มไม้นี่ป่ะ?"
"ไม่เข้าพุ่มไม้สิ ยืนข้างนอก" พูดแล้วยิ้ม...แบบว่า ถ้าเป็นคนอื่นโดนเราเตะแน่ เจอคนนี้ละลายอีกแว้ววว
พอลงรถ ส่งข้อความไปหาเพื่อนซี้เขา (ซึ่งก็ซี้เราด้วย) ว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนตอบมาว่า
"เอ้ย! สุดยอดว่ะ กลัวมั้ยนั่น"
"ตูเกร็ง!"
กลับมาบ้านมานั่งยิ้มเล็กๆอยู่คนเดียว แบบนี้สินะที่เขาเรียกว่า "ฟิน"
นานๆมีมีอะไรให้หัวใจพองๆโตๆบ้างก็ดีเนอะ
กระทู้ฟิน ฟิน ตามประสาคนไม่มีใคร >_<
เราไปที่ร้านของเพื่อน ไปฉีดวิตามิน มาร์คหน้า (ตามประสาคนไร้สาระ)
แต่คนๆเดียวที่เราจะยอมให้ฉีดเราคือ คุณหมอ ซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนคนเดียว...เพราะกลัวเข็มอ่ะ (คนนี้มือเบา)
ตอนเช้าส่งlineไปบอกล่ะ เขาก็โอเค ปรากฎว่าพอไปถึง พนักงานบอกว่า "คุณหมอไปตัดผมค่ะ เดี๋ยวคงมา" เราก็ไม่ว่าอะไร แค่แอบเคืองนิดนึงเพราะอุตส่าห์รีบมา ไม่ถึง 5 นาที เขาโทรมาทางไลน์ว่า "รอก่อนนะคร้าบบบบบ แป๊ปเดียว" เราก็นึกว่า พนักงานคงโทรบอกเขา แล้วพยาบาลก็มาเชิญให้เราไปนั่งที่โซนส่วนตัว จะได้เอนหลังได้ระหว่างรอ นั่งแป๊ปเดียวเขาก็มา...
"โทษทีน๊า เราเพิ่งเห็นข้อความตอนแม่โทรตามมาประชุม ยังตัดผมไม่เสร็จเลยอ่ะ วิ่งออกมาก่อน แล้วเราเปลี่ยนเครื่องเลยไม่มีเบอร์โทรตรง"
"เอ้ย! ขนาดนั้นเลยเหรอ....(พอมองดีๆ จริงแฮะ ผมยังฟูๆ แหว่งๆ) กล้ามาก"
"ก็รีบอ่ะ....แต่ตอนนี้แม่ยังวุ่นๆอยู่ มาๆ เดี๋ยวเราเปิดเส้นให้เลย"
ระหว่างนั้น เราก็หน้าซีดตามสเต็ป เขาก็มองแบบลุ้นมาก พอสอดเข็มได้เรียบร้อย เขาถามว่า
"วันนี้เจ็บมั้ย? เอาจริงๆ แบบไม่เกรงใจ"
เราก็เงียบ...พยาบาลก็ยืนฟัง...แซวคุณหมอว่า "พูดเป็นมั้ยคะ ว่า เจ็บบ่"
หมอพูดบ้าง "เจ็บบ่อ" ฮาตรึม... สำเนียงท้องถิ่นวันละคำ
พอของตก หมอหนุ่มมาดนิ่งร้อง "ไอ้หยา!"
เราก็ขำ แล้วคิดว่าเขาน่ารักดีนะ เลยแซว "หมอเปลี่ยนไปเยอะนะไม่เจอกันนาน"
"เปลี่ยนยังไงคะ?"
"ก็ฮาขึ้นมากอ่ะ ทั้งๆที่แต่งตัวมาดเนี้ยบขึ้น สีสันสดใสขึ้น"
"แล้วแบบไหนดีกว่ากัน เมื่อก่อนหรือตอนนี้? ชอบแบบไหน?"
"เรา...ชอบแบบเมื่อก่อนอ่ะ อันนี้เป็นทางการเกิน เกรงใจ...ไม่เอาเนคไทนะ"
"ได้ๆ ใส่วันเดียวแหละ แม่ซื้อให้ แปลว่า วันนี้มาแล้วโชคดี เห็นพอดี แถมเดี๋ยวไปตัดผมต่อด้วย เห็นผมใหม่ด้วยเลย" แล้วเขาก็ยิ้มมมมม
พยาบาลเลยว่า "อาจารย์หมอของเรา ปกติต้องมาดนิ่ง ขรึม พี่ก็เพิ่งเคยเห็นนะเนี่ย"
แล้วเขาก็ปล่อยเราไว้กัยขวดน้ำเกลือสีชมพูสวย...แล้ววิ่งไปประชุมต่อ หายไปชั่วโมงกว่า กลับมาแบบผมเนี้ยบแล้ว!
"นี่ประชุมเสร็จแล้ววิ่งไปตัดผมต่อ?"
"ช่าย...ช่างก็งงๆ"
"เออ...สมควร"
ระหว่างนั้นพี่พยาบาลใหญ่เดินมาบอกเราว่า ให้ดื่มน้ำเยอะๆ เพราะโดสมันเข้มข้นมาก เดี๋ยวนอนไม่หลับ หมอตอบแทน
"คนนี้หลับแน่ครับ เหนื่อยทุกวัน ตื่นตี 4 กว่า..." (จำได้ด้วยอ่ะ ดีใจ >_<
แล้วเขาก็หอบโน็ตบุ๊คกับเอกสารมานั่งทำงานเป็นเพื่อนเรา รอน้ำเกลือหมดขวด นั่งไปคุยไป (ฟินไป) เขามองที่ความเร็วหยดน้ำเกลือ แล้วถามว่า ปวดแขนมั้ย เราจำได้ว่ามันไม่เร็วขนาดนี้นะ คราวที่แล้ว (สองเดือนก่อน) เขาจำได้ว่า เราบ้าทำงานมาก เกลียดความว่าง จะคอยถามเป็นพักๆว่าเป็นไงบ้าง เราไม่ได้เป็นอะไรนอกจากมือเย็นมาก...เพราะน้ำเกลือมันเย็นกว่าอุณหภูมิร่างกาย + กลัวเข็มที่จิ้มอยู่เนี่ย!
เขาก็จับมือเราแล้วบอกว่า "เออเย็นจริงแฮะ" แล้วก็จะคอยจับๆ ให้อุ่นๆตลอด >_< เขาเป็นของเขาแบบนี้ตั้งแต่แรกที่เราเจอแล้วล่ะ...เราน่ะฟินเอง ฮ่าๆ (นานๆทีจะมีหนุ่มมาดูแล แม้จะตามหน้าที่ หุหุ)
พอน้ำเกลือหมด ก็มืดล่ะ ได้ยินพนักงานบอกลูกค้าว่า ซอยนี้ปลอดภัย เพราะเป็นซอยตัน มี รปภ + วิลล่าขายของ ร้านอาหารด้วย...
พอเราจะกลับ ปรากฎว่า ประตูหน้าคลินิคปิดแล้ว รองเท้าเราอยู่ประตูหน้า...หมอเดินไปหยิบของเท้าของเรามาเฉย! พนักงานที่เหลือมองแบบตกใจ! เพราะเขาเอารองเท้ามาวางให้เราที่อีกประตูหนึ่ง พอเราจะเดินออก เขาบอกมันมืดล่ะ เดี๋ยวให้คนขับรถไปส่ง เราบอกไม่ๆ เดี๋ยวเรากลับรถไฟฟ้า เขาบอกงั้นให้ส่งรถไฟฟ้า ขอไปบอกแม่ก่อนว่าให้รอเดี๋ยว ปรากฎว่า..."แม่เขาเลยกลับออกมาพร้อมกันเลย!" พนักงานที่เหลือ ทำหน้าช็อคมาก แล้วมองเราแบบงงๆ....เราก็งง..เพราะแม่เขาเพื่อนเราเคยบอกมาว่า...หวงลูกชายมากสุดๆ เลยพยายามจะกลับเอง เดี๋ยวแม่เขาเข้าใจผิด แต่คุณหมอนี่สิ..."เดี๋ยวก่อน ไปด้วยกันสิ นะ นะ มันมืดแล้ว อย่าออกไปเองเลย" เจอขนาดนี้ ปฏิเสธไงไหว...
"แต่ เดี๋ยวไปยืนรอตรงรถสีขาวนะครับ"
"ตรงพุ่มไม้นี่ป่ะ?"
"ไม่เข้าพุ่มไม้สิ ยืนข้างนอก" พูดแล้วยิ้ม...แบบว่า ถ้าเป็นคนอื่นโดนเราเตะแน่ เจอคนนี้ละลายอีกแว้ววว
พอลงรถ ส่งข้อความไปหาเพื่อนซี้เขา (ซึ่งก็ซี้เราด้วย) ว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนตอบมาว่า
"เอ้ย! สุดยอดว่ะ กลัวมั้ยนั่น"
"ตูเกร็ง!"
กลับมาบ้านมานั่งยิ้มเล็กๆอยู่คนเดียว แบบนี้สินะที่เขาเรียกว่า "ฟิน"
นานๆมีมีอะไรให้หัวใจพองๆโตๆบ้างก็ดีเนอะ