(มีกฏไปทำไมนาทีละ99สต.)กสทช.รู้แล้ว!! AIS DTAC ยังไม่ทำตาม!!!(แต่ตัวเอง)ผ่อนปรนนาทีแรก3บาทนาทีต่อไป25สต.ให้ผ่าน

(มีกฏไปทำไมนาทีละ99สต.)กสทช.รู้แล้ว!! AIS DTAC ยังไม่ทำตาม!!!(แต่ตัวเอง)ผ่อนปรนนาทีแรก3บาทนาทีต่อไป25สต.ให้ผ่าน

ประเด็นแรก


   นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. กล่าวว่า ในวันที่ 1 ม.ค.56 ที่ผ่านมาได้ครบกำหนดประกาศ กสทช. เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ. 2555 ที่กำหนดให้ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่เก็บค่าบริการได้ไม่เกิน 0.99 บาท/นาที หลังจากที่ได้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.55 และได้ผ่อนผันให้ผู้ประกอบการมือถือดำเนินการจนกว่าระยะเวลาสัญญาจะสิ้นสุด แต่ต้องไม่เกินกว่าวันที่ 31 ธ.ค.55 แต่ในปัจจุบันยังพบว่า มีผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือ 2 ราย ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ยังมีรายการส่งเสริมการขายที่ขัดต่อกฎหมาย


สำหรับกรณีที่ กสทช.ได้กำหนดห้ามเก็บค่าบริการเกินนาทีละ 99 สต.นั้น กสทช.ได้ผ่อนปรนว่าสามารถคิดค่าบริการในรูปแบบเฉลี่ยได้ เช่น นาทีแรก 3 บาท แต่นาทีต่อไป 25 สต. และนาทีต่อไปมีราคาถูกลงอีก โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นทุกนาที 99 สตางค์ ซึ่งต้องรอให้ผู้ใช้บริการปรับแพ็กเกจให้สอดคล้องระยะหนึ่งก่อน หากไม่ปฏิบัติตาม กสทช.จึงจะมีคำสั่งปรับ




ผ่อนปรนว่านาทีแรก 3 บาท แต่นาทีต่อไป 25 สต.















____________________________




กสทช.ประเดิมงานแรก คุมราคามือถือ99สต.

ประเดิมงานแรกของ กสทช.ในการคุมครองผู้บริโภค ก่อนเปิดบริการ 3 จีอย่างเป็นทางการในกลางปีนี้ด้วยการประกาศ กสทช.คุมราคามือถือไม่เกิน 99 สตางค์


นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน เปิดเผยถึงประกาศคุมอัตราค่าบริการมือถือใหม่ดังกล่าวว่า เป็นไปตาม ประกาศ กสทช. เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ. 2555 ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2555 แล้ว

โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่เก็บค่าบริการได้ไม่เกิน 0.99 บาทต่อนาที แต่ กสทช. ได้ผ่อนผันการบังคับใช้ประกาศดังกล่าวในส่วนของค่าบริการตามสัญญาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นให้ดำเนินการต่อไปได้จนกว่าระยะเวลาสัญญาจะสิ้นสุด แต่ทั้งสิ้นทั้งปวงจะต้องไม่เกินกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2555

"หมายความว่า พอเข้าสู่วันที่ 1 มกราคม หรือขึ้นปีใหม่ บรรดารายการส่งเสริมการขายของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงทั้งหมดก็จะต้องอยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 99 สตางค์ต่อนาที รวมถึงที่เป็นระบบเหมาจ่ายด้วย คือจะเหมาก็ได้ เราไม่ห้าม แต่เฉลี่ยตามช่วงเวลาเหมาจ่ายแล้วก็ห้ามเกินนาทีละ 99 สตางค์"

ที่ผ่านมา กสทช.ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชนยอมรับว่า จากการติดตามและกำกับดูแลอัตราค่าบริการในช่วงเวลาที่ผ่านมา ภายหลังจากที่มีการออกประกาศดังกล่าวแล้ว พบว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงรายใหญ่ทั้งสองราย คือ เอไอเอส และดีแทค ต่างยังคงมีรายการส่งเสริมการขาย หรือโปรโมชันที่ขัดต่อกฎหมาย ทั้งที่เป็นโปรโมชันเก่าและใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานภายในสำนักงาน กสทช.กำลังประสานงานกันเพื่อให้มีการบังคับให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นไปตามประกาศอย่างเคร่งครัดต่อไป

"เราอยากจะแจ้งให้ผู้บริโภคทั่วไปได้ทราบว่า ตามกฎหมายนั้นราคาค่าโทร.จะต้องต่ำกว่านาทีละ 99 สตางค์นับตั้งแต่ปีใหม่นี้ ไม่มีข้อยกเว้นแล้ว ดังนั้นหากพบว่ามีการฝ่าฝืนก็แจ้งข้อมูลหรือร้องเรียนเข้ามาได้ทางหมายเลข 1200 หรือ 0-2634-6000 ซึ่งจะช่วยให้สำนักงาน กสทช.มีประจักษ์หลักฐานสำหรับดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังอีกทางหนึ่ง"


http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130104/484470/%A1%CA%B7%AA.%BB%C3%D0%E
0%B4%D4%C1%A7%D2%B9%E1%C3%A1-
%A4%D8%C1%C3%D2%A4%D2%C1%D7%CD%B6%D7%CD99%CA%B5..html


________________________


กสทช.ปรับทีโอที-ค่ายมือถือกว่า 53 ล.


นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า กสทช. มีคำสั่งบังคับใช้ทันที 3 เรื่อง ดังนี้ เรื่องแรกตามที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เดิมได้มีคำสั่งให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ทำสัญญาเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมกับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.51 และหลังจากเกิดข้อพิพาทกัน ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้ทีโอทีเข้าทำสัญญากับดีแทค แต่จนถึงปัจจุบัน ทีโอที ยังไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว ดังนั้น กสทช. จึงมีคำสั่งให้ทีโอทีเข้าทำสัญญาเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมกับดีแทคทันที นับจากวันที่ 3 ม.ค.56 เป็นต้นไป



ทั้งนี้ บริษัททีโอที จะต้องชำระค่าปรับย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.53 จนถึงวันที่มีการเข้าทำสัญญากัน คิดอัตราค่าปรับ 20,000 บาทต่อวัน จนถึงตอนนี้เป็นระยะเวลา 819 วัน รวมเป็นเงิน 16.38 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 บริษัทยังคงอยู่ในขั้นตอนการเจรจา และหากตกลงในเรื่องราคาการเชื่อมต่อกันไม่ได้ กสทช.ก็จะออกคำสั่งในการกำหนดราคากลางอีกครั้ง

เรื่องที่ 2 คือ มีคำสั่งให้ผู้ประกอบการทั้ง 5 บริษัท คือ ทีโอที กสท ดีแทค ทรู และเอไอเอส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้า หรือพีเพด ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการย้อนหลังทั้งหมดนับจากวันที่มีคำสั่งเดิมของ กทช. ทั้งนี้ จะต้องชำระค่าปรับย้อนหลังวันละ 80,000 บาท ซึ่งเป็นระยะเวลา 182 วัน นับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.55 รวมเป็นเงิน 14.56 ล้านบาท โดย กสทช.สามารถเพิ่มอัตราค่าปรับให้มากกว่า 80,000 บาทได้ หากทั้ง 5 บริษัทไม่ดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าว สำหรับกรณีที่ กสทช.ได้กำหนดห้ามเก็บค่าบริการเกินนาทีละ 99 สต.นั้น กสทช.ได้ผ่อนปรนว่าสามารถคิดค่าบริการในรูปแบบเฉลี่ยได้ เช่น นาทีแรก 3 บาท แต่นาทีต่อไป 25 สต. และนาทีต่อไปมีราคาถูกลงอีก โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นทุกนาที 99 สตางค์ ซึ่งต้องรอให้ผู้ใช้บริการปรับแพ็กเกจให้สอดคล้องระยะหนึ่งก่อน หากไม่ปฏิบัติตาม กสทช.จึงจะมีคำสั่งปรับ

ส่วนเรื่องที่ 3 คือ กรณีผู้ให้บริการบัตรเติมเงินที่ยังคงกำหนดวันหมดอายุของบัตร ซึ่งมี 3 รายที่ยังไม่ทำตามคำสั่ง คือ ดีแทค ทรู เอไอเอสนั้น กสทช.จึงมีคำสั่งให้บริษัทดังกล่าว แก้ไขปรับปรุงเงื่อนไขการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในลักษณะที่เป็นการเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้าไม่ให้มีข้อกำหนดที่เป็นการบังคับให้ผู้ใช้ต้องใช้บริการภายในระยะเวลาที่กำนด เว้นแต่จะเป็นการได้รับความเห็นชอบจาก กสทช.ล่วงหน้า และให้ชำระค่าปรับย้อนหลังแก่ กสทช.ย้อนหลัง 1 แสนบาทต่อวัน นับจากวันที่ 30 พ.ค.55 เป็นเวลา 219 วัน เป็นเงิน 21.9 ล้านบาท ซึ่ง กสทช.จะเชิญผู้ให้บริการดังกล่าวเข้ามาประชุมเพื่อหารือเพิ่มเติมในรายละเอียดของข้อตกลงอีกครั้ง


http://www.ryt9.com/s/bmnd/1561539

_______________________



กสทช.รับมือชี้แจงประมูล3จียกสอง



  กสทช.พร้อมรับมือผู้ตรวจการแผ่นดินอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด พร้อมจี้ดีแทค เอไอเอส เรื่องค่าโทร 0.99 บาท/นาที เล็งเรียกค่ายมือถือเข้าชี้แจง 14 ม.ค.นี้
    นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางไปที่ศาลปกครองสูงสุด เรื่องการเปิดประมูลคลื่น 2.1 GHz ที่เห็นว่าการกระทำของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อาจมีปัญหาความไม่ชอบในส่วนของรัฐธรรมนูญ ม.47 ประกอบ ม.45, ม.41 วรรค 1 และวรรค 7 ของ พ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่ว่า หากศาลปกครองสูงสุดรับฟ้องในกรณีไต่สวนฉุกเฉิน ทางศาลจะส่งหนังสือมาที่ กสทช. ทางสำนักงาน กสทช.ก็จะดำเนินการตามคำสั่งศาล โดยไปยื่นคำชี้แจงต่อศาล ส่วนกรณีผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต 3G หากศาลรับฟ้องนั้น เห็นว่าคงไม่มีผลกระทบ แต่ถ้าศาลรับฟ้อง คุ้มครองฉุกเฉิน ก็อาจจะมีผลกระทบ
           ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ คณะกรรมการ กสทช.ด้านกฎหมาย กล่าวว่า อยากให้ศาลเมตตารับคำชี้แจงประกอบการพิจารณา เกรงว่าหากศาลไม่รับฟ้อง จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ว่า กสทช.แตะต้องไม่ได้ ซึ่งจริงๆ แล้ว กสทช.ก็เป็นหน่วยงาน ไม่ว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร ทาง กสทช.ยินดีดำเนินการตามคำสั่งศาล
    นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. กล่าวว่า ในวันที่ 1 ม.ค.56 ที่ผ่านมาได้ครบกำหนดประกาศ กสทช. เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ. 2555 ที่กำหนดให้ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่เก็บค่าบริการได้ไม่เกิน 0.99 บาท/นาที หลังจากที่ได้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.55 และได้ผ่อนผันให้ผู้ประกอบการมือถือดำเนินการจนกว่าระยะเวลาสัญญาจะสิ้นสุด แต่ต้องไม่เกินกว่าวันที่ 31 ธ.ค.55 แต่ในปัจจุบันยังพบว่า มีผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือ 2 ราย ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ยังมีรายการส่งเสริมการขายที่ขัดต่อกฎหมาย
          นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้ฝ่ายตรวจสอบของสำนักงานตรวจสอบข้อมูล รายละเอียดเกี่ยวกับโปรโมชั่น แพ็กเกจอัตราค่าโทร.เฉลี่ยของผู้ประกอบการทั้ง 3 รายประกอบด้วย  นอกจากนี้ยังได้เตรียมเรียกผู้ประกอบการมาหารือในวันที่ 14 ม.ค.56 เรื่องการกำหนดอัตราค่าโทร.ไม่เกิน 0.99 บาท/นาที การกำหนดวันหมดอายุบนบัตรเติมเงิน และการกำหนดให้ค่ายมือถือลงทะเบียนลูกค้าในระบบเติมเงินหรือพรีเพดอีกด้วย.


http://www.thaipost.net/news/050113/67540

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่