สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิปโฉมใหม่ ครบปีอีกแล้วสินะ วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก แต่มันคือเรื่องจริง ตลอดทั้งปี ทุ่มกาย ใจและสมอง ทำงาน กันอย่างสุดความสามารถ วันนี้ละที่จะได้ไปเที่ยว พักผ่อน กับ ครอบครัว พี่ชาย พี่สาว น้องสาว หลานสาว และเหลนชายสุดน่ารักของพวกเราทุกคน กลุ่ม เราไปกันผู้ใหญ่ 8 ท่าน เด็ก 1 ท่าน พากันไปเที่ยว จ. เชียงใหม่ ไปกัน ตั้ง 6 ดอยแนะ จะมาเล่าถึง ความสุข และสนุก รวมทั้งประสบการณ์ ของ คนขับที่ไม่พร้อม ในการพาลูกค้าเที่ยวในทางขึ้นดอย ก่อนอื่น ขอแนะนำตัวก่อนนะค่ะ
ค่ำ 29 ธ.ค 55 19.00 น. พวกเราขึ้นรถตู้vip มารับที่บ้าน ออกเดินทาง คืนนี้นอนกันบนรถค่ะ เช้า 30 ธ.ค 55 ถึงตีนดอยอินทนนท์ประมาณ 6 เช้า รับประทานอาหารเช้า ที่ ลิตเติ้ลโฮม ทานกันเรียบร้อยก็ ขึ้นดอยกันต่อ ตอนแรกก็ขับขึ้นไม่มีปัญหา ไปได้ดี แต่พอใกล้จะถึงจุดที่จอดรถของนักท่องเที่ยวรถติดมาก ทางก็ชัน คนขับชักไปไม่ไหว อาจเป็นเพราะขับไม่ชำนาญ เร่งไม่ขึ้นทำให้รถ เดี๋ยวดับๆกลิ่นคลัซไหม้ คนขับแจ้งว่าไม่ขับขึ้นแล้วให้ตัดดอยอินนนท์นี้ออกไป ให้ไปที่อื่นเลย แต่คุณสามีเราไม่ยอม บอกว่าโปรแกรมแรกก็จะโดนตัดแล้ว แล้ววันต่อไปจะเหลืออะไร เพราะทริปนี้ก็มีแต่ดอยทั้งนั้น แล้วอย่างนี้จะมาทำไม นอนอยู่บ้านไม่ดีกว่าหรือ เสียเงินกันมากตั้งหลายหมื่น ให้เที่ยวแต่ตีนดอย ส่วนไกด์หน่อยดีมากแก้ปัญหาให้โดยจ้างรถ2แถวขี้นให้ทำให้ต้องลงจากรถตู้กัน เหลือแต่พี่ชาย ที่อายุมากแล้วนั่งไปกับคนขับ 2คน ส่วนพวกเรายังยืนรอเรียกรถอยู่เสียเวลาเรียกรถ2แถวก็หมด ไปได้รถกะบะไม่มีหลังคา ทำให้เวลาล่าช้าออกไปมาก ยุ่งวุ่นวายกันไปหมด สถานที่เที่ยวแรกก็ทำให้พวกเราแฮ้งแล้วค่ะ
ออกจากอินทนนท์ ก็ไปต่อกันที พระธาตุเมทนีดล ขึ้นไปถ่ายรูปกันบนพระธาตุ ทิวทัศน์สวยมาก อากาศหนาวเย็นดีค่ะ ทำให้คลายตึงเคลียดจากเหตุการณ์เมื่อกี้ได้เลย ออกจากที่นี้ ได้เวลากินข้าวกลางวันแล้ว ไกด์จัดให้ไปกินที่สหกรณ์ อุทยานดอยอินทนนท์ กว่าจะได้ กินก็ปาไปบ่ายโมงกว่า หิวมากเลยค่ะ กินอิ่มแล้ว เดินทางต่อค่ะ ไปต่อที่พระธาตุศรีจอมทอง เป็นพระธาตุของคนเกิดปีชวดนะค่ะ พวกเราไหว้เร็วค่ะ เพราะ นี้ก็บ่าย2โมงกว่าแล้ว ต้องไปอีกไกลกว่าจะถึงที่พักภูคำโกล์เด้น ต้องเข้าที่พักก่อนไปเก็บสัมภาระ ทำธุระส่วนตัว พอค่ำประมาณ 1ทุ่มก็ออก ไปทานขันโตก ที่ร้านเบญจรงค์ขันโตก ซึ่งมีการแสดงของนักศึกษา ให้กับนักท่องเที่ยวดูด้วย มีทั้งหม่ด6 ชุดด้วยกัน แต่พวกเราชอบขุด รำนกยุง และชุด ตีกลองสะบัดชัย มากที่สุดค่ะ ดูจนประมาณ4ทุ่มกว่า ก็กลับเข้าที่พัก นอนเอาแรงพรุ่งนี้เที่ยวต่อ
31 ธ.ค 55
อรุณสวัสดิ์ยามเข้าตี5 แล้วตั้งนาฬิกาปลุกไว้ เตรียมตัวให้พร้อม ลงไปทานอาหารเช้าของโรงแรม-เชียงใหม่ภูคำ แล้วเดินทางไปดอยสุเทพ เป็นพระธาตุปีมะแม สามี ลูกไอซ์ และ พี่สาว ก็เกิดปีนี้ค่ะ พูดกันว่า ถ้าได้ไหว้พระธาตุปีเกิด ให้ครบ 7 ครั้ง แล้วจะได้ ขึ้นสวรรค์ และชีวิต จะโชคดี ไม่มีตกอับ พวกเรามาครั้งนี้เป็นครั้งที่4 แล้ว เหลืออีกแค่ 3 ครั้งเอง ไปต่อนะค่ะไปขึ้นดอยปุยค่ะ ขึ้นไปแล้ว รถก็ติด ซื้อของก็นาน เสียเวลามาก เลยไม่ได้ไปชมพิพิธภัณฑ์ฝิ่นเลยนี้ก็เที่ยงอีกแล้ว ต้องไปกินข้าวต่อที่ ร้านใบออร์คิด อาหารบุฟเฟ่ ที่นี้อร่อยมากทุกอย่างเลยค่ะ เสียดายเป็นคนกินไม่เก่ง เลยกินได้นิดเดียวเอง ไปค่ะเราไปกันต่อ คราวนี้เป็น ไฮไล้เด็ดของทริปนี้ค่ะ สวนสัตว์เชียงใหม่ พอไปถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ ไกด์หน่อยรีบพาไปดูเจ้าหลินปิงให้เลย สุดยอดค่ะ สมกับทุกคนรอคอยดูตัวจริง ตัวใหญ่น่ารักมาก ขนปุกปุย เดินส่ายตูดให้ดู กินใบไผ่โชว์ พวกเราอยู่ที่สวนสัตว์นานพอควรก็ต้องจำใจลา ออกเดินทาง ไปต่อ ดอยอ่างข่าง ดอยนี้แหละค่ะ ที่คนขับทีแรกก็ไม่ยอมขึ้นอีก แต่ไกด์หน่อยเก่งค่ะ ทำอย่างไรไม่รู้ยอมขึ้น แต่ในที่สุด ก็เกิดเหตุการณ์เหมือนเดิม ใกล้จะถึงบนดอยอยู่แล้ว เครื่องดับอีก เซ็ง พวกเราต้องลงมาเข็นรถกันอีกแล้วค่ะ แต่คราวนี้ไม่ต้องเช่ารถต่อค่ะ เพราะถนนไม่ชันมาก เร่งเครื่อง ให้แรง ก็ขับไปจอดรอพวกเราตรงที่ราบได้ เฮ้อ...โล่งอก แต่ก็เสียเวลามากจนเกือย 6โมงเย็น อดเข้าไปดู สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อยากให้ลูกฃายเข้าไปดู โครงการของพระองค์ท่าน ท่านทำเพื่อชาวเขา ให้อยู่ดีกินดี จริงๆค่ะ แต่ไม่ซีเรียสค่ะ สรุป ลงเขา ไปทานข้าวค่ำที่ โรงแรมแทนเจอรีน วิลล์ ฝาง ทานเสร็จไกด์ก็จัดโคมให้ลอยขอพรกันหน้าโรงแรม คืนนี้พวกเราก็นอนกันที่โรงแรมนี้ค่ะ
1 ม.ค 56 สวัสดีปีใหม่ค่ะ เพื่อนๆ พวกเราตื่นแต่เช้าเหมือนเดิม รับประทานอาหารที่โรงแรมนี้ ตอนออกจากห้องอาหาร พวกเรายังได้ส้มหอมหวานอร่อยมาก คนละ 1คู่ค่ะ เจ้าของมีไร่ส้มทรายทองด้วย ทางโรงแรมเลยให้ เพื่อเป็นความหมาย ว่าให้โชคดีปีใหม่ตลอดทั้งปี ตามความเชื่อของคนจีน ซึ่งเจ้าของโรงแรมมีเชื้อจีนด้วยค่ะ เอาละไปกันต่อค่ะ ไปโปงน้ำร้อน อุทยานออยผ้าห่มปกไป แช่ขา คลายเส้นกัน แช่พอได้ที่ ก็ออกเดินทางไปสวนส้มธนาธร ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องธรณีที่นี้ใครครอง แต่เจ้ากรรม คนขับพาไปไม่ถูกอีกแล้ว ขับวนอยู่อย่างนี้น เสียเวลาไปเป็นชั่วโมง พอดีเที่ยงถึงเวลากินข้าวอีกแล้ว เลยต้องมานั่งกินข้าวก่อนที่ ร้านท่าตอนรีสอร์ท เฮ้อ...กินไม่ค่อยลงเลยเรียบร้อยแล้วเข้าวัดท่าตอนซึ่งอยู่ข้างร้านอาหารแหละ ไปแล้วก็เซ็งอีก คนขับไม่ยอมพาขึ้นไปไหว้เจดีย์แก้ว อ้างว่ารถขึ้นไม่ไหว ทั่งๆที่รถคันไหนมาก็ขับขึ้นไปเฉยเลย ตัวใหญ่แต่ใจปลาซิว ต้องรอรถวัดอีกแล้วเรา เสียเวลา ถ้ารวมตั้งแต่วันแรก คงเป็น 10 ชั่วโมง ขึ้นไปไหว้พระเจดีย์แก้ว สวยมากเหมือนขึ้นสวรรค์เลยค่ะ อ้อ..ไปเจอถั่วแระที่นี้ด้วยนะค่ะ อยู่ถึงบ่าย2โมงกว่า
ตามเราไปต่อนะค่ะ ออกจากวัดท่าตอนก็มุ่งหน้าไปไร่สวนส้มธนาธร ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง ธรณีที่นี้ใครครองด้วยนะค่ะ ที่ไร่ส้มนี้มีรถเรือให้นั่งชมไร่ส้ม ด้วย ระหว่างที่รถเรือวิ่ง ตามทางมองดูทิวทัศน์ สวยงามมากค่ะ ไม่น่า ละครเรื่องนี้ถึงเลือกมาถ่ายทำที่นี้ สุดทางเค๊าก็จอดให้เราถ่ายรูปเป็นที่ระลึกันค่ะ บางช่วงที่ถ่ายรูปทำให้เราเคลิ้มคิดว่าเป็นญาญ่า ซะแล้ว ฮิๆๆ อยู่ถึงประมาณ บ่าย 3โมง ก็ต้องเดินทางกลับละคราวนี้ รถแล่นมาเรื่อยๆ มาถึงตลาดทุ่งเกวียน จ.ลำปาง ก็แวะทานข้าวค่ำ มื้อนี้เป็นมื้ออิสระ ทานกันเองค่ะ ทานเสร์จก็เข้าตลาดซื้อของฝาก ซื้อกันกระจายเลยค่ะ ประมาณ 2 ทุ่มก็ขึ้นรถตู้กลับบ้าน คืนนี้นอนกันที่รถอึกแล้วค่ะ รถวิ่งเร็วมาก ส่งถึงบ้านตอนตี 3กว่า ได้ ทริปนี้ถ้าไม่ได้ไกด์หน่อยที่คอยแก้ไขปัญหาเรื่องรถ ที่ไม่พร้อมจะพาเที่ยว พวกเราก็คงเข็ดกับ บริษัทตะลอนทัวร์ ที่ไม่หารถตู้ที่พร้อมให้กับลูกค้า พวกเราก็ไม่กล้าเสียเงินซื้อทัวร์ แบบนี้อีก โชคดีที่พวกเราแฮปปึ้กับไกด์กันทุกคน ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะค่ะ ไว้มีโอกาสจะพาเที่ยวใหม่ค่ะ โชคดีปีใหม่กันทุกคนนะค่ะ
[CR] [CR] ให้โบนัสตัวเราเองในวันปีใหม่ 56 เพื่อชีวิตสดใส ซาบซ่าส์
ค่ำ 29 ธ.ค 55 19.00 น. พวกเราขึ้นรถตู้vip มารับที่บ้าน ออกเดินทาง คืนนี้นอนกันบนรถค่ะ เช้า 30 ธ.ค 55 ถึงตีนดอยอินทนนท์ประมาณ 6 เช้า รับประทานอาหารเช้า ที่ ลิตเติ้ลโฮม ทานกันเรียบร้อยก็ ขึ้นดอยกันต่อ ตอนแรกก็ขับขึ้นไม่มีปัญหา ไปได้ดี แต่พอใกล้จะถึงจุดที่จอดรถของนักท่องเที่ยวรถติดมาก ทางก็ชัน คนขับชักไปไม่ไหว อาจเป็นเพราะขับไม่ชำนาญ เร่งไม่ขึ้นทำให้รถ เดี๋ยวดับๆกลิ่นคลัซไหม้ คนขับแจ้งว่าไม่ขับขึ้นแล้วให้ตัดดอยอินนนท์นี้ออกไป ให้ไปที่อื่นเลย แต่คุณสามีเราไม่ยอม บอกว่าโปรแกรมแรกก็จะโดนตัดแล้ว แล้ววันต่อไปจะเหลืออะไร เพราะทริปนี้ก็มีแต่ดอยทั้งนั้น แล้วอย่างนี้จะมาทำไม นอนอยู่บ้านไม่ดีกว่าหรือ เสียเงินกันมากตั้งหลายหมื่น ให้เที่ยวแต่ตีนดอย ส่วนไกด์หน่อยดีมากแก้ปัญหาให้โดยจ้างรถ2แถวขี้นให้ทำให้ต้องลงจากรถตู้กัน เหลือแต่พี่ชาย ที่อายุมากแล้วนั่งไปกับคนขับ 2คน ส่วนพวกเรายังยืนรอเรียกรถอยู่เสียเวลาเรียกรถ2แถวก็หมด ไปได้รถกะบะไม่มีหลังคา ทำให้เวลาล่าช้าออกไปมาก ยุ่งวุ่นวายกันไปหมด สถานที่เที่ยวแรกก็ทำให้พวกเราแฮ้งแล้วค่ะ
ออกจากอินทนนท์ ก็ไปต่อกันที พระธาตุเมทนีดล ขึ้นไปถ่ายรูปกันบนพระธาตุ ทิวทัศน์สวยมาก อากาศหนาวเย็นดีค่ะ ทำให้คลายตึงเคลียดจากเหตุการณ์เมื่อกี้ได้เลย ออกจากที่นี้ ได้เวลากินข้าวกลางวันแล้ว ไกด์จัดให้ไปกินที่สหกรณ์ อุทยานดอยอินทนนท์ กว่าจะได้ กินก็ปาไปบ่ายโมงกว่า หิวมากเลยค่ะ กินอิ่มแล้ว เดินทางต่อค่ะ ไปต่อที่พระธาตุศรีจอมทอง เป็นพระธาตุของคนเกิดปีชวดนะค่ะ พวกเราไหว้เร็วค่ะ เพราะ นี้ก็บ่าย2โมงกว่าแล้ว ต้องไปอีกไกลกว่าจะถึงที่พักภูคำโกล์เด้น ต้องเข้าที่พักก่อนไปเก็บสัมภาระ ทำธุระส่วนตัว พอค่ำประมาณ 1ทุ่มก็ออก ไปทานขันโตก ที่ร้านเบญจรงค์ขันโตก ซึ่งมีการแสดงของนักศึกษา ให้กับนักท่องเที่ยวดูด้วย มีทั้งหม่ด6 ชุดด้วยกัน แต่พวกเราชอบขุด รำนกยุง และชุด ตีกลองสะบัดชัย มากที่สุดค่ะ ดูจนประมาณ4ทุ่มกว่า ก็กลับเข้าที่พัก นอนเอาแรงพรุ่งนี้เที่ยวต่อ
31 ธ.ค 55
อรุณสวัสดิ์ยามเข้าตี5 แล้วตั้งนาฬิกาปลุกไว้ เตรียมตัวให้พร้อม ลงไปทานอาหารเช้าของโรงแรม-เชียงใหม่ภูคำ แล้วเดินทางไปดอยสุเทพ เป็นพระธาตุปีมะแม สามี ลูกไอซ์ และ พี่สาว ก็เกิดปีนี้ค่ะ พูดกันว่า ถ้าได้ไหว้พระธาตุปีเกิด ให้ครบ 7 ครั้ง แล้วจะได้ ขึ้นสวรรค์ และชีวิต จะโชคดี ไม่มีตกอับ พวกเรามาครั้งนี้เป็นครั้งที่4 แล้ว เหลืออีกแค่ 3 ครั้งเอง ไปต่อนะค่ะไปขึ้นดอยปุยค่ะ ขึ้นไปแล้ว รถก็ติด ซื้อของก็นาน เสียเวลามาก เลยไม่ได้ไปชมพิพิธภัณฑ์ฝิ่นเลยนี้ก็เที่ยงอีกแล้ว ต้องไปกินข้าวต่อที่ ร้านใบออร์คิด อาหารบุฟเฟ่ ที่นี้อร่อยมากทุกอย่างเลยค่ะ เสียดายเป็นคนกินไม่เก่ง เลยกินได้นิดเดียวเอง ไปค่ะเราไปกันต่อ คราวนี้เป็น ไฮไล้เด็ดของทริปนี้ค่ะ สวนสัตว์เชียงใหม่ พอไปถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ ไกด์หน่อยรีบพาไปดูเจ้าหลินปิงให้เลย สุดยอดค่ะ สมกับทุกคนรอคอยดูตัวจริง ตัวใหญ่น่ารักมาก ขนปุกปุย เดินส่ายตูดให้ดู กินใบไผ่โชว์ พวกเราอยู่ที่สวนสัตว์นานพอควรก็ต้องจำใจลา ออกเดินทาง ไปต่อ ดอยอ่างข่าง ดอยนี้แหละค่ะ ที่คนขับทีแรกก็ไม่ยอมขึ้นอีก แต่ไกด์หน่อยเก่งค่ะ ทำอย่างไรไม่รู้ยอมขึ้น แต่ในที่สุด ก็เกิดเหตุการณ์เหมือนเดิม ใกล้จะถึงบนดอยอยู่แล้ว เครื่องดับอีก เซ็ง พวกเราต้องลงมาเข็นรถกันอีกแล้วค่ะ แต่คราวนี้ไม่ต้องเช่ารถต่อค่ะ เพราะถนนไม่ชันมาก เร่งเครื่อง ให้แรง ก็ขับไปจอดรอพวกเราตรงที่ราบได้ เฮ้อ...โล่งอก แต่ก็เสียเวลามากจนเกือย 6โมงเย็น อดเข้าไปดู สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อยากให้ลูกฃายเข้าไปดู โครงการของพระองค์ท่าน ท่านทำเพื่อชาวเขา ให้อยู่ดีกินดี จริงๆค่ะ แต่ไม่ซีเรียสค่ะ สรุป ลงเขา ไปทานข้าวค่ำที่ โรงแรมแทนเจอรีน วิลล์ ฝาง ทานเสร็จไกด์ก็จัดโคมให้ลอยขอพรกันหน้าโรงแรม คืนนี้พวกเราก็นอนกันที่โรงแรมนี้ค่ะ
1 ม.ค 56 สวัสดีปีใหม่ค่ะ เพื่อนๆ พวกเราตื่นแต่เช้าเหมือนเดิม รับประทานอาหารที่โรงแรมนี้ ตอนออกจากห้องอาหาร พวกเรายังได้ส้มหอมหวานอร่อยมาก คนละ 1คู่ค่ะ เจ้าของมีไร่ส้มทรายทองด้วย ทางโรงแรมเลยให้ เพื่อเป็นความหมาย ว่าให้โชคดีปีใหม่ตลอดทั้งปี ตามความเชื่อของคนจีน ซึ่งเจ้าของโรงแรมมีเชื้อจีนด้วยค่ะ เอาละไปกันต่อค่ะ ไปโปงน้ำร้อน อุทยานออยผ้าห่มปกไป แช่ขา คลายเส้นกัน แช่พอได้ที่ ก็ออกเดินทางไปสวนส้มธนาธร ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องธรณีที่นี้ใครครอง แต่เจ้ากรรม คนขับพาไปไม่ถูกอีกแล้ว ขับวนอยู่อย่างนี้น เสียเวลาไปเป็นชั่วโมง พอดีเที่ยงถึงเวลากินข้าวอีกแล้ว เลยต้องมานั่งกินข้าวก่อนที่ ร้านท่าตอนรีสอร์ท เฮ้อ...กินไม่ค่อยลงเลยเรียบร้อยแล้วเข้าวัดท่าตอนซึ่งอยู่ข้างร้านอาหารแหละ ไปแล้วก็เซ็งอีก คนขับไม่ยอมพาขึ้นไปไหว้เจดีย์แก้ว อ้างว่ารถขึ้นไม่ไหว ทั่งๆที่รถคันไหนมาก็ขับขึ้นไปเฉยเลย ตัวใหญ่แต่ใจปลาซิว ต้องรอรถวัดอีกแล้วเรา เสียเวลา ถ้ารวมตั้งแต่วันแรก คงเป็น 10 ชั่วโมง ขึ้นไปไหว้พระเจดีย์แก้ว สวยมากเหมือนขึ้นสวรรค์เลยค่ะ อ้อ..ไปเจอถั่วแระที่นี้ด้วยนะค่ะ อยู่ถึงบ่าย2โมงกว่า
ตามเราไปต่อนะค่ะ ออกจากวัดท่าตอนก็มุ่งหน้าไปไร่สวนส้มธนาธร ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง ธรณีที่นี้ใครครองด้วยนะค่ะ ที่ไร่ส้มนี้มีรถเรือให้นั่งชมไร่ส้ม ด้วย ระหว่างที่รถเรือวิ่ง ตามทางมองดูทิวทัศน์ สวยงามมากค่ะ ไม่น่า ละครเรื่องนี้ถึงเลือกมาถ่ายทำที่นี้ สุดทางเค๊าก็จอดให้เราถ่ายรูปเป็นที่ระลึกันค่ะ บางช่วงที่ถ่ายรูปทำให้เราเคลิ้มคิดว่าเป็นญาญ่า ซะแล้ว ฮิๆๆ อยู่ถึงประมาณ บ่าย 3โมง ก็ต้องเดินทางกลับละคราวนี้ รถแล่นมาเรื่อยๆ มาถึงตลาดทุ่งเกวียน จ.ลำปาง ก็แวะทานข้าวค่ำ มื้อนี้เป็นมื้ออิสระ ทานกันเองค่ะ ทานเสร์จก็เข้าตลาดซื้อของฝาก ซื้อกันกระจายเลยค่ะ ประมาณ 2 ทุ่มก็ขึ้นรถตู้กลับบ้าน คืนนี้นอนกันที่รถอึกแล้วค่ะ รถวิ่งเร็วมาก ส่งถึงบ้านตอนตี 3กว่า ได้ ทริปนี้ถ้าไม่ได้ไกด์หน่อยที่คอยแก้ไขปัญหาเรื่องรถ ที่ไม่พร้อมจะพาเที่ยว พวกเราก็คงเข็ดกับ บริษัทตะลอนทัวร์ ที่ไม่หารถตู้ที่พร้อมให้กับลูกค้า พวกเราก็ไม่กล้าเสียเงินซื้อทัวร์ แบบนี้อีก โชคดีที่พวกเราแฮปปึ้กับไกด์กันทุกคน ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะค่ะ ไว้มีโอกาสจะพาเที่ยวใหม่ค่ะ โชคดีปีใหม่กันทุกคนนะค่ะ