[อยากบ่นและยินดีรับคำติเตียน] ...ความงี่เง่าของผมที่ทำใส่แม่...

พิมพ์ตั้งยาว ดันส่งไม่ติด มาพิมพ์ใหม่อีกรอบจนได้ ฮ่าๆ...

เป็นเรื่องความไม่พอใจที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับแม่เมื่อชั่วโมงที่ผ่านมานี้เอง แล้วมันไม่ไหวมากๆ แล้ว เลยอยากระบายออกมาครับ

เร็วๆ นี้ตู้เสื้อผ้าแบบรูดซิปที่ผมกับพ่อใช้เก็บเสื้อผ้าแทนตู้เก่าที่พังหลังน้ำท่วม ก็เริ่มเสื่อมไปตามสภาพจนซ่อมแซมไม่ได้
แม่กับผมเลยคุยกันว่า "จะไปดูตู้เสื้อผ้าใหม่ด้วยกัน"

เรื่องมันก็เกิดด้วยเหตุง่ายๆ ว่า เมื่อวันพุธแม่กลับมาบอกว่า "แม่สั่งตู้เสื้อผ้าไว้แล้ว จะมาส่งวันศุกร์(วันนี้)"
วันนั้นผมก็ปรี๊ดและเถียงกับแม่ไปพักหนึ่ง ว่าทำไมไม่ไปด้วยกันอย่างที่บอกไว้ ฯลฯ จนรู้สึกได้ว่าแม่เงียบไป
ผมก็ทั้งรู้สึกผิด...และหงุดหงิดขึ้นมาว่า "ตกลงใครผิดกันแน่ เราผิดที่เถียงแม่ แล้วแม่ล่ะ...?"
เลยเข้าไปคุยว่า เอาก็ได้ จะรอดู ยังไงก็สั่งมาแล้ว ก็ต้องยอมแม่ไป แต่คำพูดผมก็ยังแสดงความไม่พอใจอยู่ดีน่ะแหละ

เนื่องจากบ้านผมเป็นบ้านขนาดเล็ก ตู้เสื้อผ้าของผมกับพ่อยังต้องเอามาตั้งบริเวณห้องครัว แล้วห้องนอนบ้านผมตู้อะไรเยอะแยะไปหมด...ก็เพราะแม่ด้วย เลยทำให้ผมเคยคุยว่าจะไปดูด้วยเพราะจะซื้ออะไรฟุ่มเฟือยและเกินจำเป็นมาอีก ตู้รูดซิปที่พังไปก็มีขนาดไม่ใหญ่มากด้วย สูงแค่ราวๆ สองเซน กว้างประมาณห้าสิบเซน และยาวแค่ไม่เกินหนึ่งเมตร ผมเลยคิดว่า ถ้าขนาดใหญ่กว่านั้นสักเล็กน้อยผมก็ยังพอรับได้...

จนกระทั่งวันนี้ เขาเอาตู้มาส่ง...ขนาดใหญ่มาก เป็นตู้ขนาดที่เอาไปตั้งไว้ในห้องนอนเป็นตู้ใหญ่ไปเลยยังเข้าท่าซะกว่า
ผมก็เลยเถียงกับแม่ครับ ว่าซื้ออะไรมาเนี่ย ใหญ่ไปแล้ว คิดถึงพื้นที่บ้างสิ แม่ดูสิว่ามันเข้ากับพื้นที่รึเปล่า ฯลฯ ...ก็มีทั้งเสียดสีและอะไรด้วย

หลายๆ ครั้งที่ผมพูดและเถียงอะไร...แม่ผมมักจะไม่ตอบ หรือตอบสั้นๆ อย่าง "โอ้ย อะไรนักหนา"
ซึ่งไม่ใช่อะไรที่ผมอยากได้ยินเลย ไม่ได้ตรงกับสิ่งที่ผมอยากได้คำตอบ คือเหตุผลที่ซื้อมา หรือเหตุผลที่ไปซื้อโดยไม่พาไปด้วยอย่างที่บอก

และยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่เรื่อยๆ

จนตอนนี้ก็ยังไม่ลงรอยเท่าไหร่ ผมก็ใส่หูฟังปิดหูไปเกือบชั่วโมงด้วยความอยากประชดว่า "ถ้าแม่ยังไม่ฟังความเห็นของผม ผมก็จะไม่ฟังความเห็นของแม่สักพักบ้างก็แล้วกัน"

ล่าสุดผมก็พยายามไปคุยด้วยแล้วว่า ถ้ามีครั้งหน้าอย่าให้เป็นแบบนี้อีก จะไปดูด้วยกันก็ต้องไปด้วยกันจริงๆ
...แต่ก็เหมือนๆ เดิม กับการกระทำของแม่ ที่ "ไม่เห็นหัวผม"

...


โอเค แค่นี้ล่ะครับ

บอกท้ายๆ เลยว่า ผมรู้ตัวดีว่าคราวนี้ ตัวเองดู "งี่เง่าและไร้ความอดทนมาก"
...แต่ตลอดเวลาที่ผมรู้สึกตัวว่า ผมเป็นฝ่ายผิดที่พูดจาไม่ดี ต่อล้อต่อเถียง ไม่อดทน ไม่ยอมรับความหวังดีของแม่


...ผมก็มีคำถามที่ตัวเองก็คิดย้อนเสมอว่า "...แล้วแม่ล่ะ?"


ไม่มีอะไรแล้วล่ะครับ อยากติเตียนอะไรก็ได้เลย เพราะผมรู้ว่า "ผม" น่ะแย่จริงๆ
ส่วน "แม่ผม" นั้นเป็นยังไง...ก็แล้วแต่พวกคุณจะคิดล่ะนะ เพราะขนาดเจ้าตัวก็ไม่เคยพูดความคิดของตัวเองมาให้ผมรับรู้เท่าไหร่เลย นอกจากอารมณ์โมโหฉุนเฉียว ผ่านทางสีหน้าและอารมณ์ของท่าน...ที่กดดันและทำให้ผมรู้สึกแย่มาตลอด

ช่วงเวลาดีๆ กับท่านผมก็มีจริงๆ ผมก็ได้คุยอะไรกับท่านหลายๆ อย่าง เช่น เรื่องการทำอาหาร ชีวิตในอนาคต การเรียน การใช้ชีวิต ฯลฯ


แต่ผมกับท่าน แทบไม่เคยคุยกันเรื่อง "ความรู้สึกของแต่ละฝ่าย" เลยจริงๆ


แล้วถ้าปัญหาครั้งนี้ท่านไม่ยอมเปิดปากความคิดของท่านมาอีก นอกจากอารมณ์ที่ท่านแสดงใส่ผม
...ผมก็คงต้องรู้สึกแย่ไปอีกบ่อยๆ แน่ๆ


ใจร้าว


.....ก็เอาเป็นว่า ฝากไว้เป็นเรื่องๆ นึงที่อาจทำให้ทุกท่านรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ (ผมเองก็พิมพ์ไปหงุดหงิดตัวเองไปน่ะแหละ ฮ่าๆ)
คิดซะว่า เป็นมุมมองของเด็กคนนึงต่อผู้เป็นแม่ก็แล้วกันครับ

ยังไงก็จะลองคุยกับท่านอีก อย่างน้อยก็ต้องในช่วงนี้แหละ...
ขอบคุณทุกท่านที่รับฟังครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่