คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
ไม่ยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ .......... 
ความไม่ยึดมั่นถือมั่น หรือเรียกอีกอย่างว่า "วิราคะ"
"วิราคะ" นั้นเองจะมีคุณสมบัติว่า ไม่ยึดถือ ไม่ยึดครอง ว่าเป็นตน ว่าเป็นของตน
ไม่เป็นการกล่าวถึง บุคคลอื่นหรือสิ่งอื่นใด คือกล่าวโดยอาศัย "ปัจจักตังเว" ว่าธรรมะๆนี้ เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล
นั่นหมายความว่า หากบุคคลผู้ใดมีวิราคะธรรม บุคคลผู้นั้นจะพึงไม่ยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ 5 ว่าเป็นตน ว่าเป็นของตน
คือ ไม่มีกำหนัด ในอุปาทานใน รูปใดๆ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (ขันธ์ 5) ว่าเป็นตน ว่าเป็นของตน
เมื่อบุคคลไม่กำหนัดในอุปาทานต่อขันธ์ใดๆ..แม้ในความเป็นตน แม้ในความเป็นของๆตนแล้ว
สรรพสิ่ง(รูป-นาม) จะถูกเรียก โดยความเสมอภาพทั่วกัน จากจิตใจของบุคคลนั้นอย่างไม่มีอุปาทาน เช่น
เรียกตามบัญญัติว่า ธาตุบ้าง ธาตุขันธ์บ้าง ขันธ์บ้าง สัตว์บ้าง เหล่าสัตว์บ้าง เช่น พระ ชาวบ้าน..
เรียกโดยชื่อว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณบ้าง หรือเหล่า(ประเภท)ของขันธ์นั้นๆบ้าง เช่น เรียกความเจ็บปวดใดๆว่า เวทนา
หรือเรียกโดยสมมุติบัญญัติบ้าง เช่น ชื่อคน
เพื่อประโยชน์ในการอ้างถึงขันธ์นั้นๆ ไม่เรียกอย่าง มีความกำหนัด(มีตัณหา) มีความยังมัวเมา(มีทิฏฐิ) ในอุปาทานขันธ์ 5 ครับ
ความไม่ยึดมั่นถือมั่น หรือเรียกอีกอย่างว่า "วิราคะ"
"วิราคะ" นั้นเองจะมีคุณสมบัติว่า ไม่ยึดถือ ไม่ยึดครอง ว่าเป็นตน ว่าเป็นของตน
ไม่เป็นการกล่าวถึง บุคคลอื่นหรือสิ่งอื่นใด คือกล่าวโดยอาศัย "ปัจจักตังเว" ว่าธรรมะๆนี้ เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล
นั่นหมายความว่า หากบุคคลผู้ใดมีวิราคะธรรม บุคคลผู้นั้นจะพึงไม่ยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ 5 ว่าเป็นตน ว่าเป็นของตน
คือ ไม่มีกำหนัด ในอุปาทานใน รูปใดๆ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (ขันธ์ 5) ว่าเป็นตน ว่าเป็นของตน
เมื่อบุคคลไม่กำหนัดในอุปาทานต่อขันธ์ใดๆ..แม้ในความเป็นตน แม้ในความเป็นของๆตนแล้ว
สรรพสิ่ง(รูป-นาม) จะถูกเรียก โดยความเสมอภาพทั่วกัน จากจิตใจของบุคคลนั้นอย่างไม่มีอุปาทาน เช่น
เรียกตามบัญญัติว่า ธาตุบ้าง ธาตุขันธ์บ้าง ขันธ์บ้าง สัตว์บ้าง เหล่าสัตว์บ้าง เช่น พระ ชาวบ้าน..
เรียกโดยชื่อว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณบ้าง หรือเหล่า(ประเภท)ของขันธ์นั้นๆบ้าง เช่น เรียกความเจ็บปวดใดๆว่า เวทนา
หรือเรียกโดยสมมุติบัญญัติบ้าง เช่น ชื่อคน
เพื่อประโยชน์ในการอ้างถึงขันธ์นั้นๆ ไม่เรียกอย่าง มีความกำหนัด(มีตัณหา) มีความยังมัวเมา(มีทิฏฐิ) ในอุปาทานขันธ์ 5 ครับ
แสดงความคิดเห็น
อยากทราบ เรื่องปฏิจจสมุปบาท ครับ..รบกวนผู้สันทัด ช่วยอธิบายในแง่ปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
เมื่อขันธ์ทั้งหลายดับ ปฏิจจสมุปบาทก็ดับ ความทุกข์ที่อาศัยกันเกิดก็ดับ ใช่ไหมครับ?
แล้วหากไม่ยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ ทั้ง 5 แล้ว...นาม หรือรูปนี้ จะเรียกว่าอะไรครับ?
ผมขอความกรุณาผู้รู้ช่วยด้วยครับ เพราะผมพยายามฝึก และอบรมตนเองครับ....ขอบพระคุณครับ