สวัสดีครับ,
ตอนที่ผู้เขียนกำลังพิมพ์อยู่นี้ กำลังอู้งานครับ (อ้าว!) ขอเข้าเรื่องว่า วันที่ (20 April) เป็นวันเกิดของน้อง Nene ครับ ตอนนี้ผู้เขียนไม่ทราบว่าน้อง Nene กับสามี(?)ตอนนี้ คงกำลังหยุดงานและฉลองกันอย่างสนุกสนาน (ละมั่ง?)
สุขสันต์วันเกิดครับ น้อง Anegasaki Nene
(Eko at pixiv.net)
คนแก่เล่าเรื่องเกม(แนว)จีบสาวของค่ายเกม Konamiหมายเหตุ : ผู้เขียนใช้ความทรงจำในวัยเยาว์ ดังนั้นอาจเกิดความผิดพลาดทางข้อมูลได้
อันที่จริงผู้เขียนเริ่มเป็นสาวกเกมจีบสาวจากค่าย Konami ตั้งแต่เริ่มเล่นเกม Tokimeki Memorial 2 บนเครื่อง Ps1 ที่บ้านเพื่อนครั้งแรก ซึ่งในขณะนั้นผู้เขียนคิดว่าคงเล่นเกมนี้ไม่ได้แน่นอนเพราะผู้เขียนอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เลย แต่พอผู้เขียนลองเล่นดู...กลับพบว่าสนุกจริงๆโดยเฉพาะส่วนของ MiniGame หลังจากนั้นผู้เขียนจึงลาเพื่อนกลับบ้านแล้วรีบเดินทางไปซื้อแผ่นเกม(ก็อป)นี้มาเล่นที่บ้านบ้างอย่างทันทีทันใด และในเวลาไม่นาน ผู้เขียนไปได้ข่าวว่า มีแผ่นแท้ของเกมนี้ขายราคาประมาณ 3,000-4,000 บาท(ถ้าจำไม่ผิด) ซึ่งถือว่าเป็นเงินจำนวนมากเมื่อเทียบกับประเทศไทยอยู่ในช่วงประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนัก เนื่องจากมีคนตกงานและหาเงินยากขึ้น ถึงกระนั้นผู้เขียนจำได้ว่าในหนังสือ Mega รายงานเกี่ยวกับร้านขายเกมแท้ที่ชื่อว่าร้าน Gamefreaks แถวๆสยามสามารถขายเกม Tokimeki Memorial 2 หมดสต็อคทั้งๆที่มีการนำเกมเข้ามาจำนวนมากพอสมควร แถมนำเข้ามาหลายล็อตด้วย ซึ่งช่วงนั้นผู้เขียนเริ่มมีความคิดเป็นครั้งแรกว่าน่าจะซื้อเกมแท้นี้ไว้บูชา (เกมโหลดเล่นแต่ซื้อมา ชาบู ชาบู) แต่ในต่อมาผู้เขียนกลับเป็นสาวกเรื่อง Sister Princess แทนเสียแล้ว (อนึ่งถ้าใครมีเกม Tokimeki Memorial 2 ในปัจจุบันแบบไม่แกะพลาสติกที่ห่อหุ้มออก... ผู้เขียนขอบอกว่า คุณโชคดีมากเพราะมันหายากสุดๆ)

ภาพ : เกม Sister Princess
ในเวลาต่อมาหลังจากที่ Ps2 ออกไม่นาน ทางบริษัท Konami ประกาศวางจำหน่ายเกม Tokimeki Memorial 3 ซึ่งพอผู้เขียนได้ดูภาพตัวอย่างเกมของมันแล้ว... ผู้เขียนมีอคติทันทีเนื่องจากภาคนี้ทำตัวละครไม่สวยและไม่น่ารัก และเมื่อถึงวันวางจำหน่าย ผู้เขียนไปซื้อเกมนี้มาและเดินทางไปเล่นที่บ้านเพื่อนที่มีเครื่อง Ps2 เพราะเครื่อง ps2 สมัยนั้นราคาเป็นหมื่นครับ ผู้เขียนไม่มีเงินซื้อ (ช่วงนั้นรู้สึกเครื่อง ps2 สามารถเล่นแผ่นก็อปได้ในยุคแรก แบบต้องใช้แผ่นล่อ...ถ้าจำไม่ผิดนะ) พอผู้เขียนเล่นไปได้ 20 ชั่วโมง (ใช้เวลาเล่น 7 วัน) ผู้เขียนจึงโยนลงถังขยะทันทีเพราะผู้เขียนคิดว่าไม่เล่นเกมนี้ในรอบที่ 2 อย่างแน่นอน แต่เพื่อนผมเห็นว่าเสียดายของครับ จึงนำมาเก็บไว้เล่นเอง หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไปซัก 2 สัปดาห์ ผู้เขียนไปถามถึงเกมนี้ เพื่อนผู้เขียนจึงบอกว่า "หักแผ่นทิ้งแล้ว เพื่อนเอ๋ย!"

ภาพ : ผู้เขียนไม่มีเงินซื้อเกม Tokimeki Memorial 2 แท้ก็ซื้อการ์ดแทนก็ได้ (ผู้เขียนไม่แกะ)
ถึงแม้ว่าเกม Tokimeki Memorial 3 จะประสบความล้มเหลว แต่มีเกมหนึ่งของ Konami เป็นเกมแนว sound novel (นิยายมีเสียง) ที่ผู้เขียนทดลองเล่นแล้วใช้ได้คือเกม She, the Ultimate Weapon หรือในชื่อว่า อาวุธสุดท้ายคือเธอ Saikano ซึ่งผู้เขียนจำได้ว่าเกมนี้เสมือนผู้เล่นกำลังดู Anime ภาคที่เอา Manga กับภาค Anime มายำรวมกันและมีเนื้อเรื่องใหม่และฉาก Anime ใหม่ด้วย เช่น ฉาก Movie ที่พระเอกมาหานางเอกที่บ้านซึ่งไม่มีใน Anime อย่างแน่นอน เป็นต้น ที่สำคัญบางเหตุการณ์สำคัญมี Minigame ให้เล่น ยกตัวอย่างเช่น ผู้เล่นต้องบังคับพระเอกของเรื่องนำตัว Chise (นางเอก) หนีทหารที่มีเป้าหมายจับกุมเธอ เป็นต้น สำหรับเรื่องนี้ในประเทศไทยถือว่าดังมากทั้ง Manga และ โดยเฉพาะ Anime เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการนำ Anime มาทำเป็นแผ่น DVD ลิขสิทธิ์ในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฏหมายเป็นยุคแรก แต่ทว่า DVD เรื่องนี้ ผู้เขียนซื้อมาก็พบปัญหาเยอะมากในการนำมาดูที่คอมพิวเตอร์ เช่น ภาพแตก (ผู้เขียนนำแผ่นไปเปลี่ยนหลายรอบก็ยังมีปัญหาอยู่) ถ้าผู้อ่านสนใจเกมนี้ สามารถชมรายละเอียดได้ที่ Official Website ของเกมที่ http://www.konami.jp/gs/game/saikano/ (ผู้เขียนลืมบอกไปว่า Manga เล่มสุดท้ายฉบับลิขสิทธิ์ในไทยของเนชั่นฯ ไม่มีการวางจำหน่ายเนื่องจากช่วงนั้นมีข่าวเรื่อง การ์ตูนโป๊ ซึ่งทำให้การ์ตูนเรื่องนี้โดนแบนจากกระทรวงไดโนเสาร์แห่งชาติไม่ให้จำหน่าย ทางสำนักพิมพ์จึงนำไปทำลายทิ้งทั้งหมด...เวรกรรมจริงๆ) และมีอีกเกมหนึ่งที่ผู้เขียนชอบเล่นมากจนแผ่นพังไป 3 ชุดคือ Tokimeki Memorial 2 ผู้เขียนจำชื่อภาคไม่ได้ แต่จำได้ว่ามีหน้าปกเป็นรูปแตงโมที่มีบรรยากาศหน้าร้อน มีจำนวนแผ่นเกม 2 แผ่น สำหรับลักษณะแนวเกมเป็นเกมเต้น และมีเพลงที่ปรากฏในเกมคือเพลงในอัลบั้มเกมของ Tokimeki Memorial 2 ที่วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้น

ภาพ : ปกเกม She, the Ultimate Weapon ชุด Limited Edition ของเครื่อง ps2 ครับ (ตอนที่เกมออกจำหน่ายใหม่ๆ ทางร้านสะพานเหล็กร้านหนึ่งขายราคา 4,000 บาทถ้วน จากราคาปกติ 9,900 เยน เนื่องจากค่าขนส่งสูงเพราะชุดนี้แถมโมเดล)
ต่อมาช่วงต้นปี พ.ศ. 2552 มีการแนะนำเกมใหม่ในนิตยสารเกมต่างๆ โดยเกมนี้มีชื่อว่า Loveplus ของบริษัท Konami ซึ่งอันที่จริงกระแสเกมนี้มีเฉพาะกลุ่มสาวก Konami และสาวก Tokimeki Memorial เนื่องจากเกมนี้นำระบบของเกม Tokimeki Memorial มาใช้เช่น ระบบเลือกกิจกรรมในแต่ละวัน และ ระบบสร้างความสัมพันธ์ทุกตัวละคร (หมายถึง ในช่วงแรกของเกม ผู้เล่นจะต้องจีบสาวทุกคน อย่าจีบคนเดียวไม่งั้น จบเกม ยกเว้นจะถึงช่วงหลังของเกม ) เป็นต้น เมื่อเกม Loveplus วางจำหน่าย กระแสเกมนี้กลับเป็นแบบเรียบๆไม่โด่งดังอย่างที่ควรจะเป็น แต่พอมีข่าวเรื่องมีคนญี่ปุ่นแต่งงานกับ Nene กลับเป็นเกมที่โด่งดังทั่วโลกอย่างทันทีทันใด
ส่วนตัวผู้เขียนเองสำหรับเกมนี้ ส่วนใหญ่เล่นเกม Idolm@ster : DS มากกว่า เพราะชอบสาวดุ้น แต่ถ้าในเกม Loveplus ภาคใหม่มีสาวดุ้น อย่างนี้ค่อยมาจับเข่าคุยกันอีกที แต่ที่แน่ๆ ในเกม Loveplus ผู้เขียนชอบ Kobayakawa Rinko มากที่สุดแล้ว...
สำหรับบทความนี้ ผู้เขียนขอไม่แนะนำเกม Loveplus และตัวละครครับ เพราะมีหลายท่านหลายเว็บชุมชนสาธารณะที่เขียนข้อมูลจนหมดแล้ว ผู้เขียนไม่จำเป็นต้องเขียนซ้ำ แต่จะขอเขียน ของที่เกี่ยวกับ love plus เนื่องจากไม่ค่อยมีเว็บไหนรวบรวมไว้
หมายเหตุ : เนื่องจากผู้เขียนงานเยอะ แถมสินค้าเกี่ยวกับ Loveplus มีมากมายเช่นกัน ดังนั้นผู้เขียนขอแนะนำเท่าที่จะแนะนำได้ครับ...
Book
Love Plus Official Guide

Name (English) : Love Plus Official Guide
Specification : A5
Number of pages : 256
ISBN : 9784861552571
Publisher : Konami
Release Date : 30 Septemper 2009
Price :
play-asia : US$ 25.90 (841.21 THB) http://www.play-asia.com/SOap-23-83-deyb-71-lz-49-en-84-j-70-3n3d.html
Japanese price : 1500 yen
หนังสือบทสรุปจากบริษัท Konami โดยตรง รับรองว่าละเอียดยิบ!!
Love Plus Visual & Setting Materials



Name (English) : Love Plus Visual & Setting Materials : Manaka no Moto
ISBN : 9784861552717
Name (English) : Love Plus Visual & Setting Materials : Nene no Moto
ISBN : 9784861552731
Name (English) : Love Plus Visual & Setting Materials : Rinko no Moto
ISBN : 9784861552724
Specification : Softcover, 5 x 7 1/2
Number of pages : 48 (Full Color )
Publisher : Konami
Release Date : 24 December 2009
Japanese price : 800 yen
เป็น Artbook ที่มีจำนวนหน้าน้อยมาก แต่ถ้าเป็นสาวกเกมนี้ ต้องซื้อให้ครบชุด!!
Love Plus : Lovesong Trio

Name (English) : Love Plus : Lovesong Trio
ISBN : 9784047261693
Publisher : Enter Brain
Release Date : 28 December 2009
Japanese price : 850 yen
Manga จากเรื่อง Loveplus เล่มเดียวจบ
Magazine
ส่วนนี้ผมขอแนะนำของแถมที่มีอยู่ในหนังสือครับ
Dengeki G's magazine 2010 January

Publisher : ASCII Media Works
Specification : AB
Release Date : 30 November 2009
Official Website : http://gs.dengeki.com/
Regular Price : 990 yen

ของแถม : โปสเตอร์จากเกม Loveplus ตัวละครชื่อ Anegasaki Nene
Dengeki G`s Magazine 2010 February

Publisher : ASCII Media Works
Specification : AB
Release Date : 30 December 2009
Official Website : http://gs.dengeki.com/
Regular Price : 990 yen

ของแถม : โปสเตอร์จากเกม Loveplus ตัวละครชื่อ Takane Manaka
Dengeki G`s Magazine 2010 April

Publisher : Ascii/Media Works
Specification : AB
Release Date : 27 February 2010
Official Website : http://gs.dengeki.com/
Regular Price : 990 yen

ของแถม : โปสเตอร์จากเกม Loveplus ตัวละครชื่อ Kobayakawa Rinko (ผู้เขียนคิดว่าตอนแรกทางนิตยสารจะไม่ทำของ Rinko แต่คงจะทนกระแสไม่ไหวก็ต้องทำแจกอยู่ดี...ลูกเมียน้อยชัดๆ)
Comptiq 2010 January

Publisher : Kadokawa Shoten
Specification : B5 Wide
Release Date : 10 December 2009
Official Website : http://www.comptiq.com/release/comptiq/index.html
Regular Price : 880 yen
ของแถม : Loveplus Christmas Card (แปลตรงตัวเลย)
Comptiq 2010 March
Publisher : Kadokawa Shoten
Specification : B5 Wide
Release Date : 10 February 2010
Official Website : http://www.comptiq.com/release/comptiq/index.html
Regular Price : 880 yen

ของแถม : แผ่นรองเขียน ตัวละครชื่อ Takane Manaka จากเรื่อง Love Plus ในช่วงวันเทศกาล Valentine
Album
Eien Diary Love Plus Main Theme

Catalogue Number : GFCA178
Manufacturer : Konami
Release Date : 02 Septemper 2009
Number of Discs : 1
list :
1 Eien Diary
2 Takamine Aika Kataomoi No Theme Bgm (Original Soundtrack)
3 Kobayakawa Rinko Kataomoi No Theme Bgm (Original Soundtrack)
4 Anegasaki Nene Kataomoi No Theme Bgm (Original Soundtrack)
5 Eien No Diary (Original Karaoke)
Japanese price : 1,200 yen
อัลบั้มเพลงจากเรื่อง LovePlus ซึ่งภาพหน้าปกอัลบั้มนี้ทาง Fanart นิยมนำมาล้อเลียน
Game Accessory (Nintendo Ds)
Love Plus Protection Case DSi


Name (English) : Love Plus Protection Case DSi (Manaka Edition)
Item Code : HDL333


Name (English) : Love Plus Protection Case DSi (Nene Edition)
Item Code : HDL335


Name (English) : Love Plus Protection Case DSi (Rinko Edition)
Item Code : HDL334
Manufacturer : Hori
Release Date : 20 April 2010
Japanese price : 2,480 yen
สำหรับรูปแบบลายจากเกม Loveplus มี 3 แบบ แบบละ 1 ตัวละคร เหมาะสำหรับเครื่อง DS-i เท่านั้นครับ
อันที่จริงทาง play-asia มีขายทั้ง 3 แบบ แต่สามรถจำหน่ายหมดได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่วันที่ออกจำหน่าย ยกเว้นลายของ Rinko ที่จำหน่ายหมดในวันที่ 7 April 2010
แต่วันนี้ (20 April 2010) ทางเว็บ HMV.co.jp มีจำหน่ายครบทั้ง 3 แบบ ดังนั้นสาวกควรซื้อครบชุดอย่างยิ่ง
สินค้าที่จะออกจำหน่ายเร็วๆนี้

Name (English) : LovePlus+
Manufacturer : Konami
Release Date : 24 June 2010
Japanese price : 4,800 yen
ภาคใหม่ที่มีชื่อว่า "LovePlus+"

Name (English) : Nendoroid Takane Manaka
Manufacturer : Good Smile Company
Japanese price : 3,334 yen (ราคาไทยคือ 1,450 บาท อ้างอิงจากร้าน Hobby Moe.com)
ขอจบเพียงแค่นี้ครับ เพราะต้องขอตัวไปปั่นงานก่อน
ขอบคุณที่รับชมครับ,
สวัสดีครับ
ปล. Ipad มี loveplus ด้วยนะเออ...อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ http://www.manager.co.th/Game/ViewNews.aspx?NewsID=9530000047488
[Loveplus] Happy Birthday : Anegasaki Nene + คนแก่เล่าเรื่อง
ตอนที่ผู้เขียนกำลังพิมพ์อยู่นี้ กำลังอู้งานครับ (อ้าว!) ขอเข้าเรื่องว่า วันที่ (20 April) เป็นวันเกิดของน้อง Nene ครับ ตอนนี้ผู้เขียนไม่ทราบว่าน้อง Nene กับสามี(?)ตอนนี้ คงกำลังหยุดงานและฉลองกันอย่างสนุกสนาน (ละมั่ง?)
สุขสันต์วันเกิดครับ น้อง Anegasaki Nene
(Eko at pixiv.net)
คนแก่เล่าเรื่องเกม(แนว)จีบสาวของค่ายเกม Konami
หมายเหตุ : ผู้เขียนใช้ความทรงจำในวัยเยาว์ ดังนั้นอาจเกิดความผิดพลาดทางข้อมูลได้
อันที่จริงผู้เขียนเริ่มเป็นสาวกเกมจีบสาวจากค่าย Konami ตั้งแต่เริ่มเล่นเกม Tokimeki Memorial 2 บนเครื่อง Ps1 ที่บ้านเพื่อนครั้งแรก ซึ่งในขณะนั้นผู้เขียนคิดว่าคงเล่นเกมนี้ไม่ได้แน่นอนเพราะผู้เขียนอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เลย แต่พอผู้เขียนลองเล่นดู...กลับพบว่าสนุกจริงๆโดยเฉพาะส่วนของ MiniGame หลังจากนั้นผู้เขียนจึงลาเพื่อนกลับบ้านแล้วรีบเดินทางไปซื้อแผ่นเกม(ก็อป)นี้มาเล่นที่บ้านบ้างอย่างทันทีทันใด และในเวลาไม่นาน ผู้เขียนไปได้ข่าวว่า มีแผ่นแท้ของเกมนี้ขายราคาประมาณ 3,000-4,000 บาท(ถ้าจำไม่ผิด) ซึ่งถือว่าเป็นเงินจำนวนมากเมื่อเทียบกับประเทศไทยอยู่ในช่วงประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนัก เนื่องจากมีคนตกงานและหาเงินยากขึ้น ถึงกระนั้นผู้เขียนจำได้ว่าในหนังสือ Mega รายงานเกี่ยวกับร้านขายเกมแท้ที่ชื่อว่าร้าน Gamefreaks แถวๆสยามสามารถขายเกม Tokimeki Memorial 2 หมดสต็อคทั้งๆที่มีการนำเกมเข้ามาจำนวนมากพอสมควร แถมนำเข้ามาหลายล็อตด้วย ซึ่งช่วงนั้นผู้เขียนเริ่มมีความคิดเป็นครั้งแรกว่าน่าจะซื้อเกมแท้นี้ไว้บูชา (เกมโหลดเล่นแต่ซื้อมา ชาบู ชาบู) แต่ในต่อมาผู้เขียนกลับเป็นสาวกเรื่อง Sister Princess แทนเสียแล้ว (อนึ่งถ้าใครมีเกม Tokimeki Memorial 2 ในปัจจุบันแบบไม่แกะพลาสติกที่ห่อหุ้มออก... ผู้เขียนขอบอกว่า คุณโชคดีมากเพราะมันหายากสุดๆ)
ภาพ : เกม Sister Princess
ในเวลาต่อมาหลังจากที่ Ps2 ออกไม่นาน ทางบริษัท Konami ประกาศวางจำหน่ายเกม Tokimeki Memorial 3 ซึ่งพอผู้เขียนได้ดูภาพตัวอย่างเกมของมันแล้ว... ผู้เขียนมีอคติทันทีเนื่องจากภาคนี้ทำตัวละครไม่สวยและไม่น่ารัก และเมื่อถึงวันวางจำหน่าย ผู้เขียนไปซื้อเกมนี้มาและเดินทางไปเล่นที่บ้านเพื่อนที่มีเครื่อง Ps2 เพราะเครื่อง ps2 สมัยนั้นราคาเป็นหมื่นครับ ผู้เขียนไม่มีเงินซื้อ (ช่วงนั้นรู้สึกเครื่อง ps2 สามารถเล่นแผ่นก็อปได้ในยุคแรก แบบต้องใช้แผ่นล่อ...ถ้าจำไม่ผิดนะ) พอผู้เขียนเล่นไปได้ 20 ชั่วโมง (ใช้เวลาเล่น 7 วัน) ผู้เขียนจึงโยนลงถังขยะทันทีเพราะผู้เขียนคิดว่าไม่เล่นเกมนี้ในรอบที่ 2 อย่างแน่นอน แต่เพื่อนผมเห็นว่าเสียดายของครับ จึงนำมาเก็บไว้เล่นเอง หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไปซัก 2 สัปดาห์ ผู้เขียนไปถามถึงเกมนี้ เพื่อนผู้เขียนจึงบอกว่า "หักแผ่นทิ้งแล้ว เพื่อนเอ๋ย!"
ภาพ : ผู้เขียนไม่มีเงินซื้อเกม Tokimeki Memorial 2 แท้ก็ซื้อการ์ดแทนก็ได้ (ผู้เขียนไม่แกะ)
ถึงแม้ว่าเกม Tokimeki Memorial 3 จะประสบความล้มเหลว แต่มีเกมหนึ่งของ Konami เป็นเกมแนว sound novel (นิยายมีเสียง) ที่ผู้เขียนทดลองเล่นแล้วใช้ได้คือเกม She, the Ultimate Weapon หรือในชื่อว่า อาวุธสุดท้ายคือเธอ Saikano ซึ่งผู้เขียนจำได้ว่าเกมนี้เสมือนผู้เล่นกำลังดู Anime ภาคที่เอา Manga กับภาค Anime มายำรวมกันและมีเนื้อเรื่องใหม่และฉาก Anime ใหม่ด้วย เช่น ฉาก Movie ที่พระเอกมาหานางเอกที่บ้านซึ่งไม่มีใน Anime อย่างแน่นอน เป็นต้น ที่สำคัญบางเหตุการณ์สำคัญมี Minigame ให้เล่น ยกตัวอย่างเช่น ผู้เล่นต้องบังคับพระเอกของเรื่องนำตัว Chise (นางเอก) หนีทหารที่มีเป้าหมายจับกุมเธอ เป็นต้น สำหรับเรื่องนี้ในประเทศไทยถือว่าดังมากทั้ง Manga และ โดยเฉพาะ Anime เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการนำ Anime มาทำเป็นแผ่น DVD ลิขสิทธิ์ในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฏหมายเป็นยุคแรก แต่ทว่า DVD เรื่องนี้ ผู้เขียนซื้อมาก็พบปัญหาเยอะมากในการนำมาดูที่คอมพิวเตอร์ เช่น ภาพแตก (ผู้เขียนนำแผ่นไปเปลี่ยนหลายรอบก็ยังมีปัญหาอยู่) ถ้าผู้อ่านสนใจเกมนี้ สามารถชมรายละเอียดได้ที่ Official Website ของเกมที่ http://www.konami.jp/gs/game/saikano/ (ผู้เขียนลืมบอกไปว่า Manga เล่มสุดท้ายฉบับลิขสิทธิ์ในไทยของเนชั่นฯ ไม่มีการวางจำหน่ายเนื่องจากช่วงนั้นมีข่าวเรื่อง การ์ตูนโป๊ ซึ่งทำให้การ์ตูนเรื่องนี้โดนแบนจากกระทรวงไดโนเสาร์แห่งชาติไม่ให้จำหน่าย ทางสำนักพิมพ์จึงนำไปทำลายทิ้งทั้งหมด...เวรกรรมจริงๆ) และมีอีกเกมหนึ่งที่ผู้เขียนชอบเล่นมากจนแผ่นพังไป 3 ชุดคือ Tokimeki Memorial 2 ผู้เขียนจำชื่อภาคไม่ได้ แต่จำได้ว่ามีหน้าปกเป็นรูปแตงโมที่มีบรรยากาศหน้าร้อน มีจำนวนแผ่นเกม 2 แผ่น สำหรับลักษณะแนวเกมเป็นเกมเต้น และมีเพลงที่ปรากฏในเกมคือเพลงในอัลบั้มเกมของ Tokimeki Memorial 2 ที่วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้น
ภาพ : ปกเกม She, the Ultimate Weapon ชุด Limited Edition ของเครื่อง ps2 ครับ (ตอนที่เกมออกจำหน่ายใหม่ๆ ทางร้านสะพานเหล็กร้านหนึ่งขายราคา 4,000 บาทถ้วน จากราคาปกติ 9,900 เยน เนื่องจากค่าขนส่งสูงเพราะชุดนี้แถมโมเดล)
ต่อมาช่วงต้นปี พ.ศ. 2552 มีการแนะนำเกมใหม่ในนิตยสารเกมต่างๆ โดยเกมนี้มีชื่อว่า Loveplus ของบริษัท Konami ซึ่งอันที่จริงกระแสเกมนี้มีเฉพาะกลุ่มสาวก Konami และสาวก Tokimeki Memorial เนื่องจากเกมนี้นำระบบของเกม Tokimeki Memorial มาใช้เช่น ระบบเลือกกิจกรรมในแต่ละวัน และ ระบบสร้างความสัมพันธ์ทุกตัวละคร (หมายถึง ในช่วงแรกของเกม ผู้เล่นจะต้องจีบสาวทุกคน อย่าจีบคนเดียวไม่งั้น จบเกม ยกเว้นจะถึงช่วงหลังของเกม ) เป็นต้น เมื่อเกม Loveplus วางจำหน่าย กระแสเกมนี้กลับเป็นแบบเรียบๆไม่โด่งดังอย่างที่ควรจะเป็น แต่พอมีข่าวเรื่องมีคนญี่ปุ่นแต่งงานกับ Nene กลับเป็นเกมที่โด่งดังทั่วโลกอย่างทันทีทันใด
ส่วนตัวผู้เขียนเองสำหรับเกมนี้ ส่วนใหญ่เล่นเกม Idolm@ster : DS มากกว่า เพราะชอบสาวดุ้น แต่ถ้าในเกม Loveplus ภาคใหม่มีสาวดุ้น อย่างนี้ค่อยมาจับเข่าคุยกันอีกที แต่ที่แน่ๆ ในเกม Loveplus ผู้เขียนชอบ Kobayakawa Rinko มากที่สุดแล้ว...
สำหรับบทความนี้ ผู้เขียนขอไม่แนะนำเกม Loveplus และตัวละครครับ เพราะมีหลายท่านหลายเว็บชุมชนสาธารณะที่เขียนข้อมูลจนหมดแล้ว ผู้เขียนไม่จำเป็นต้องเขียนซ้ำ แต่จะขอเขียน ของที่เกี่ยวกับ love plus เนื่องจากไม่ค่อยมีเว็บไหนรวบรวมไว้
หมายเหตุ : เนื่องจากผู้เขียนงานเยอะ แถมสินค้าเกี่ยวกับ Loveplus มีมากมายเช่นกัน ดังนั้นผู้เขียนขอแนะนำเท่าที่จะแนะนำได้ครับ...
Book
Love Plus Official Guide
Name (English) : Love Plus Official Guide
Specification : A5
Number of pages : 256
ISBN : 9784861552571
Publisher : Konami
Release Date : 30 Septemper 2009
Price :
play-asia : US$ 25.90 (841.21 THB) http://www.play-asia.com/SOap-23-83-deyb-71-lz-49-en-84-j-70-3n3d.html
Japanese price : 1500 yen
หนังสือบทสรุปจากบริษัท Konami โดยตรง รับรองว่าละเอียดยิบ!!
Love Plus Visual & Setting Materials
Name (English) : Love Plus Visual & Setting Materials : Manaka no Moto
ISBN : 9784861552717
Name (English) : Love Plus Visual & Setting Materials : Nene no Moto
ISBN : 9784861552731
Name (English) : Love Plus Visual & Setting Materials : Rinko no Moto
ISBN : 9784861552724
Specification : Softcover, 5 x 7 1/2
Number of pages : 48 (Full Color )
Publisher : Konami
Release Date : 24 December 2009
Japanese price : 800 yen
เป็น Artbook ที่มีจำนวนหน้าน้อยมาก แต่ถ้าเป็นสาวกเกมนี้ ต้องซื้อให้ครบชุด!!
Love Plus : Lovesong Trio
Name (English) : Love Plus : Lovesong Trio
ISBN : 9784047261693
Publisher : Enter Brain
Release Date : 28 December 2009
Japanese price : 850 yen
Manga จากเรื่อง Loveplus เล่มเดียวจบ
Magazine
ส่วนนี้ผมขอแนะนำของแถมที่มีอยู่ในหนังสือครับ
Dengeki G's magazine 2010 January
Publisher : ASCII Media Works
Specification : AB
Release Date : 30 November 2009
Official Website : http://gs.dengeki.com/
Regular Price : 990 yen
ของแถม : โปสเตอร์จากเกม Loveplus ตัวละครชื่อ Anegasaki Nene
Dengeki G`s Magazine 2010 February
Publisher : ASCII Media Works
Specification : AB
Release Date : 30 December 2009
Official Website : http://gs.dengeki.com/
Regular Price : 990 yen
ของแถม : โปสเตอร์จากเกม Loveplus ตัวละครชื่อ Takane Manaka
Dengeki G`s Magazine 2010 April
Publisher : Ascii/Media Works
Specification : AB
Release Date : 27 February 2010
Official Website : http://gs.dengeki.com/
Regular Price : 990 yen
ของแถม : โปสเตอร์จากเกม Loveplus ตัวละครชื่อ Kobayakawa Rinko (ผู้เขียนคิดว่าตอนแรกทางนิตยสารจะไม่ทำของ Rinko แต่คงจะทนกระแสไม่ไหวก็ต้องทำแจกอยู่ดี...ลูกเมียน้อยชัดๆ)
Comptiq 2010 January
Publisher : Kadokawa Shoten
Specification : B5 Wide
Release Date : 10 December 2009
Official Website : http://www.comptiq.com/release/comptiq/index.html
Regular Price : 880 yen
ของแถม : Loveplus Christmas Card (แปลตรงตัวเลย)
Comptiq 2010 March
Publisher : Kadokawa Shoten
Specification : B5 Wide
Release Date : 10 February 2010
Official Website : http://www.comptiq.com/release/comptiq/index.html
Regular Price : 880 yen
ของแถม : แผ่นรองเขียน ตัวละครชื่อ Takane Manaka จากเรื่อง Love Plus ในช่วงวันเทศกาล Valentine
Album
Eien Diary Love Plus Main Theme
Catalogue Number : GFCA178
Manufacturer : Konami
Release Date : 02 Septemper 2009
Number of Discs : 1
list :
1 Eien Diary
2 Takamine Aika Kataomoi No Theme Bgm (Original Soundtrack)
3 Kobayakawa Rinko Kataomoi No Theme Bgm (Original Soundtrack)
4 Anegasaki Nene Kataomoi No Theme Bgm (Original Soundtrack)
5 Eien No Diary (Original Karaoke)
Japanese price : 1,200 yen
อัลบั้มเพลงจากเรื่อง LovePlus ซึ่งภาพหน้าปกอัลบั้มนี้ทาง Fanart นิยมนำมาล้อเลียน
Game Accessory (Nintendo Ds)
Love Plus Protection Case DSi
Name (English) : Love Plus Protection Case DSi (Manaka Edition)
Item Code : HDL333
Name (English) : Love Plus Protection Case DSi (Nene Edition)
Item Code : HDL335
Name (English) : Love Plus Protection Case DSi (Rinko Edition)
Item Code : HDL334
Manufacturer : Hori
Release Date : 20 April 2010
Japanese price : 2,480 yen
สำหรับรูปแบบลายจากเกม Loveplus มี 3 แบบ แบบละ 1 ตัวละคร เหมาะสำหรับเครื่อง DS-i เท่านั้นครับ
อันที่จริงทาง play-asia มีขายทั้ง 3 แบบ แต่สามรถจำหน่ายหมดได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่วันที่ออกจำหน่าย ยกเว้นลายของ Rinko ที่จำหน่ายหมดในวันที่ 7 April 2010
แต่วันนี้ (20 April 2010) ทางเว็บ HMV.co.jp มีจำหน่ายครบทั้ง 3 แบบ ดังนั้นสาวกควรซื้อครบชุดอย่างยิ่ง
สินค้าที่จะออกจำหน่ายเร็วๆนี้
Name (English) : LovePlus+
Manufacturer : Konami
Release Date : 24 June 2010
Japanese price : 4,800 yen
ภาคใหม่ที่มีชื่อว่า "LovePlus+"
Name (English) : Nendoroid Takane Manaka
Manufacturer : Good Smile Company
Japanese price : 3,334 yen (ราคาไทยคือ 1,450 บาท อ้างอิงจากร้าน Hobby Moe.com)
ขอจบเพียงแค่นี้ครับ เพราะต้องขอตัวไปปั่นงานก่อน
ขอบคุณที่รับชมครับ,
สวัสดีครับ
ปล. Ipad มี loveplus ด้วยนะเออ...อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ http://www.manager.co.th/Game/ViewNews.aspx?NewsID=9530000047488