
เหล่าอัศวินและผู้กล้าแห่ง Fereldren คงได้เฉลิมฉลองสันติภาพหลังชัยชนะเหนือ Archdemon ใน Dragon Age: Origins ได้ไม่นาน เพราะภัยร้ายครั้งใหม่ก็เริ่มคืบคลานเข้ามาและเหล่า Darkspawn ก็ดูจะยังไม่หายไปไหน เริ่องราวการพจญภัยของมหากาพย์แห่งมังกร ก็ยังไม่จบลง กับตัวเสริมที่ชื่อว่า Awakening เรื่องราวใน Awakening จะเกิดขึ้นภายหลังเรื่องราวใน Origins ได้จบลง ตัวเอกจากเกมภาคหลักของเราจะได้รับตำแหน่ง Warden Commander และแน่นอนตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง เพราะในครั้งนี้เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องออกตามหา Grey Warden ใหม่ๆเพื่อมาเพิ่มขุมกำลัง รวมทั้งความรับผิดชอบในตำแหน่ง Arl ในการดูแลจัดการบ้านเมืองที่ได้รับสิทธิ์ในการปกครองดินแดนเหนือ Amaranthine นอกจากต้องคอยดูแลเอาใจใส่ทั้งเหล่าชาวนาและเหล่าขุนนางแล้ว ภัยร้ายจาก Darkspawn ก็ดูจะยังไม่หายไปไหน จนในที่สุดคุณจะเริ่มคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำไปในเกมาภาคแรก ดูจะไม่ได้ทำให้ดินแดนแห่งนี้น่าอยู่ขึ้นเลยแม้แต่น้อย


ในภาคเสริม Awakening นี้คุณจะมีโอกาสในการ Import เอาตัวละครจากภาค Origins มาใช้ หรือไม่คุณสามารถสร้างตัวละคร Warden คนใหม่ผู้ซึ่งพึ่งเดินทางมาจาก Orlesian หากเลือกอย่างหลังตัวละครที่คุณได้พบจะไม่แสดงความเคารพคุณสักเท่าไหร่ และ Item ต่างๆคุณก็ต้องไปหาเอาเองจากภายภาคหน้า และคุณจะเริ่มต้นที่เลเวล 18 แต่หากเลือก Import นอกจากความได้เปรียบจากการที่เป็น Hero จากภาคแรกแล้วเลเวลของตัวละครของคุณก็จะเริ่มต้นเท่าที่คุณเล่นจบลงในภาคแรก Item ต่างๆบางส่วนของคุณก็จะถูก Import มาพร้อมกับตัวละครของคุณทันที โดย Item ที่จะได้รับการ Import มาก็คือของทิ่อยู่ใน Inventory และของที่ตัวละครหลักของคุณสวมใส่อยู่ ดังนั้นจึงเป็นความคิดที่ดีที่จะขายของที่คุณไม่ได้ใช้ทิ้งให้หมดรวมถึงจัดการช่องเก็บของของคุณให้เรียบร้อยก่อนจะ Import ตัวละครของคุณมาในภาคเสริม เป็นที่น่าผิดหวังเล็กน้อยตรงที่ว่า Item ที่ได้จาก DLC ต่างๆนอกจาก Item จาก Return to ostraga แล้วจะไม่ได้รับการ Import มา แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่เท่าไหร่เพราะ Item ต่างๆที่คุณจะได้พบเจอในภาคเสริมนั้นเรียกได้ว่า เจ๋ง กว่า item เก่าๆของคุณอย่างมาก และในเวลาไม่นาน คุณก็จะทอดทิ้ง Item เก่าๆของคุณทั้งหมดไปอย่างรวดเร็ว (แต่สำหรับใครที่ต้องการ Item เก่าๆบางชิ้นจริงๆ ใน PC ก็มี MOD ที่จะทำให้ความหวังของคุณเป็นจริงออกมาแล้ว)

การเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆที่เพิ่มเข้ามาในภาคเสริมนี้ก็คือการเพิ่มเลเวลสูงสุดของตัวละครไปยังเลเวลที่ 35 ความสามารถใหม่ๆ และเพิ่ม specialization ใหม่อีก 6 อย่าง ด้วยเลเวลที่เพิ่มเข้ามารวมถึงความสามารถใหม่ๆ เปิดโอกาสให้คุณได้ปั้นตัวละครสุดเทพของคุณให้เทพมากยิ่งขึ้นไปอีก สำหรับคนที่อยากจะปรับปรุงตัวละครเก่าในภาคเสริมนี้ก็ได้เพิ่มน้ำยาเพื่อใช้ในการ Reskill และ Stat ของตัวละคร เปิดโอกาสในการลองผิดลองถูกสร้างตัวละครที่ถูกใจที่สุดได้ สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในภาคเสริมนี้ที่ถูกใจผมเป็นอย่างมากก็คือการสร้าง Rune ด้วย Skills ที่มากพอและเงินถุงเงินถังอีกจำนวนหนึ่งเกมเปิดโอกาสให้คุณสามารถสร้าง Rune ที่ทรงพลังที่สามารถติดใส่อาวุธและชุดเกราะของตัวละครของคุณ ในส่วนของความสามารถและ skill ใหม่ๆนั้นล้วนแล้วแต่มีประสิทธิภาพและทรงพลัง การเพิ่มเลเวลสูงสุดรวมถึงความสามารถใหม่ๆเข้ามา ได้สร้างปัญหาใหม่ที่ผมพบเจอในตลอดการเล่นภาคเสริมนี้ ซึ่งก็คือ ความง่าย...ผมพบว่าหลายต่อหลายครั้งตัวละครของผมแทบจะไม่มีปัญหาในการจัดการศัตรูในแต่ละฝูงเลยแม้แต่นิดเดียว มีเพียงการต่อสู้กับ Boss บางตัวเท่านั้นที่ผมต้องหยุดวางแผน ยิ่งหากเรา Import ตัวละครเลเวลสูงๆมา และระหว่างเล่นตัวละครของเราพัฒนาไปจนถึงเลเวล 35 ตัวเกมแทบจะง่ายจนไร้ความท้าทายเลยทีเดียว

สำหรับในส่วนของเรื่องราวใน Awakening นั้น เรื่องราวบางส่วนจะมีผลกระทบต่อเนื่องมาจากสิ่งที่เรากระทำและเลือกในภาค Origins แต่โดยส่วนใหญ่เรียกได้ว่าเรื่องราวหลักๆเริ่มตั้งต้นกันใหม่ในภาคเสริมนี้ เราจะได้พบเพื่อนร่วมทีมใหม่ๆ อาจจะทำให้คนที่มีตัวละครโปรดจากภาคเก่าต้องผิดหวัง เพราะมีเพียงคนแคระขี้เมา Oghren เท่านั้นที่กลับมาในภาคนี้ (ส่วนตัวผมผิดหวังเล็กน้อยที่แม้แต่ Dog ก็ไม่โผล่มา) แต่ก็มีตัวละครเก่าๆบางตัวที่จะโผล่มาเล็กน้อยพอให้หายคิดถึง แต่ก็ถือเป็นโชคดีที่เหล่าตัวละครใหม่ๆในภาคนี้ก็ยังคงน่าจดจำและมีจุดเด่นของตัวเองเช่นเดิม ระบบการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมทีมก็ยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นจากการสนทนาการตัดสินใจรวมไปถึงของขวัญ และนำไปสู่เควสส่วนตัวของตัวละครต่างๆ สำหรับเรื่องราวในภารกิจหลักมือเขียนบทของ Bioware ยังคงรักษาความน่าสนใจของบทได้เป็นอย่างดี และเปิดโอกาสให้เราได้สำรวจพื้นที่ใหม่ๆที่น่าสนใจ และสิ่งที่ผมประทับใจอย่างมากสำหรับภาคเสริมตัวนี้ก็คือ ผลของการตัดสินใจของตัวคุณ เพราะสิ่งต่างๆที่ผู้เล่นเลือกและตัดสินใจในช่วงต้นของเกมนั้นมีผลกระทบที่น่าสนใจในภายหลัง ยิ่งเมื่อเรื่องราวในเกมจบลง และเมื่อผมได้นั่งดูบทสรุปของเรื่องราวการพจญภัยของผมเอง เป็นประสบการณ์การเล่นเกมอันยอดเยี่ยมอีกครั้งหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว

สำหรับแฟนๆของ Dragon Age แล้วผมคงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะคุณสมควรรีบไปหาภาคเสริมตัวนี้มาเล่นโดยเร็ว แต่สำหรับ Gamer ทั่วไปหากคุณได้ลองเล่น Dragon Age มาแล้ว และไม่ค่อยจะ Happy กับตัวเกมเท่าไหร่ก็คงต้องมองข้ามตัวเสริมนี้ไปเช่นกัน เพราะ Awakening นั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลง หากแต่ปรับปรุงและเพิ่มเติมสิ่งที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วของ Dragon Age ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
SCORE 8/10
ข้อดี : สิ่งต่างๆที่เพิ่มเข้ามาจะทำให้แฟนๆชื่นชอบ,บทสนทนาและการพากย์เสียงยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเคย,ตัวละครใหม่ๆที่น่าสนใจ
ข้อเสีย อุดมไปด้วย Bug ร้ายแรง, ด้วยราคาขนาดนี้อาจทำให้หลายคนหันไปมองเกมตัวเต็มเกมอื่นแทน,
ต้องขอขอบคุณ Saluzi สำหรับแผ่นเกมที่ใช้ในการรีวิวด้วยนะครับ
สุดท้ายคาดว่านี่จะเป็นบทความสุดท้ายของผมบนเว็ปไซท์แห่งนี้ ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่ติดตามอ่านบทความ รวมทั้งข้อคิดเห็นติชมทุกๆอันครับผม เจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการครับ
Dragon Age : Awakening Review
เหล่าอัศวินและผู้กล้าแห่ง Fereldren คงได้เฉลิมฉลองสันติภาพหลังชัยชนะเหนือ Archdemon ใน Dragon Age: Origins ได้ไม่นาน เพราะภัยร้ายครั้งใหม่ก็เริ่มคืบคลานเข้ามาและเหล่า Darkspawn ก็ดูจะยังไม่หายไปไหน เริ่องราวการพจญภัยของมหากาพย์แห่งมังกร ก็ยังไม่จบลง กับตัวเสริมที่ชื่อว่า Awakening เรื่องราวใน Awakening จะเกิดขึ้นภายหลังเรื่องราวใน Origins ได้จบลง ตัวเอกจากเกมภาคหลักของเราจะได้รับตำแหน่ง Warden Commander และแน่นอนตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง เพราะในครั้งนี้เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องออกตามหา Grey Warden ใหม่ๆเพื่อมาเพิ่มขุมกำลัง รวมทั้งความรับผิดชอบในตำแหน่ง Arl ในการดูแลจัดการบ้านเมืองที่ได้รับสิทธิ์ในการปกครองดินแดนเหนือ Amaranthine นอกจากต้องคอยดูแลเอาใจใส่ทั้งเหล่าชาวนาและเหล่าขุนนางแล้ว ภัยร้ายจาก Darkspawn ก็ดูจะยังไม่หายไปไหน จนในที่สุดคุณจะเริ่มคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำไปในเกมาภาคแรก ดูจะไม่ได้ทำให้ดินแดนแห่งนี้น่าอยู่ขึ้นเลยแม้แต่น้อย
ในภาคเสริม Awakening นี้คุณจะมีโอกาสในการ Import เอาตัวละครจากภาค Origins มาใช้ หรือไม่คุณสามารถสร้างตัวละคร Warden คนใหม่ผู้ซึ่งพึ่งเดินทางมาจาก Orlesian หากเลือกอย่างหลังตัวละครที่คุณได้พบจะไม่แสดงความเคารพคุณสักเท่าไหร่ และ Item ต่างๆคุณก็ต้องไปหาเอาเองจากภายภาคหน้า และคุณจะเริ่มต้นที่เลเวล 18 แต่หากเลือก Import นอกจากความได้เปรียบจากการที่เป็น Hero จากภาคแรกแล้วเลเวลของตัวละครของคุณก็จะเริ่มต้นเท่าที่คุณเล่นจบลงในภาคแรก Item ต่างๆบางส่วนของคุณก็จะถูก Import มาพร้อมกับตัวละครของคุณทันที โดย Item ที่จะได้รับการ Import มาก็คือของทิ่อยู่ใน Inventory และของที่ตัวละครหลักของคุณสวมใส่อยู่ ดังนั้นจึงเป็นความคิดที่ดีที่จะขายของที่คุณไม่ได้ใช้ทิ้งให้หมดรวมถึงจัดการช่องเก็บของของคุณให้เรียบร้อยก่อนจะ Import ตัวละครของคุณมาในภาคเสริม เป็นที่น่าผิดหวังเล็กน้อยตรงที่ว่า Item ที่ได้จาก DLC ต่างๆนอกจาก Item จาก Return to ostraga แล้วจะไม่ได้รับการ Import มา แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่เท่าไหร่เพราะ Item ต่างๆที่คุณจะได้พบเจอในภาคเสริมนั้นเรียกได้ว่า เจ๋ง กว่า item เก่าๆของคุณอย่างมาก และในเวลาไม่นาน คุณก็จะทอดทิ้ง Item เก่าๆของคุณทั้งหมดไปอย่างรวดเร็ว (แต่สำหรับใครที่ต้องการ Item เก่าๆบางชิ้นจริงๆ ใน PC ก็มี MOD ที่จะทำให้ความหวังของคุณเป็นจริงออกมาแล้ว)
การเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆที่เพิ่มเข้ามาในภาคเสริมนี้ก็คือการเพิ่มเลเวลสูงสุดของตัวละครไปยังเลเวลที่ 35 ความสามารถใหม่ๆ และเพิ่ม specialization ใหม่อีก 6 อย่าง ด้วยเลเวลที่เพิ่มเข้ามารวมถึงความสามารถใหม่ๆ เปิดโอกาสให้คุณได้ปั้นตัวละครสุดเทพของคุณให้เทพมากยิ่งขึ้นไปอีก สำหรับคนที่อยากจะปรับปรุงตัวละครเก่าในภาคเสริมนี้ก็ได้เพิ่มน้ำยาเพื่อใช้ในการ Reskill และ Stat ของตัวละคร เปิดโอกาสในการลองผิดลองถูกสร้างตัวละครที่ถูกใจที่สุดได้ สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในภาคเสริมนี้ที่ถูกใจผมเป็นอย่างมากก็คือการสร้าง Rune ด้วย Skills ที่มากพอและเงินถุงเงินถังอีกจำนวนหนึ่งเกมเปิดโอกาสให้คุณสามารถสร้าง Rune ที่ทรงพลังที่สามารถติดใส่อาวุธและชุดเกราะของตัวละครของคุณ ในส่วนของความสามารถและ skill ใหม่ๆนั้นล้วนแล้วแต่มีประสิทธิภาพและทรงพลัง การเพิ่มเลเวลสูงสุดรวมถึงความสามารถใหม่ๆเข้ามา ได้สร้างปัญหาใหม่ที่ผมพบเจอในตลอดการเล่นภาคเสริมนี้ ซึ่งก็คือ ความง่าย...ผมพบว่าหลายต่อหลายครั้งตัวละครของผมแทบจะไม่มีปัญหาในการจัดการศัตรูในแต่ละฝูงเลยแม้แต่นิดเดียว มีเพียงการต่อสู้กับ Boss บางตัวเท่านั้นที่ผมต้องหยุดวางแผน ยิ่งหากเรา Import ตัวละครเลเวลสูงๆมา และระหว่างเล่นตัวละครของเราพัฒนาไปจนถึงเลเวล 35 ตัวเกมแทบจะง่ายจนไร้ความท้าทายเลยทีเดียว
สำหรับในส่วนของเรื่องราวใน Awakening นั้น เรื่องราวบางส่วนจะมีผลกระทบต่อเนื่องมาจากสิ่งที่เรากระทำและเลือกในภาค Origins แต่โดยส่วนใหญ่เรียกได้ว่าเรื่องราวหลักๆเริ่มตั้งต้นกันใหม่ในภาคเสริมนี้ เราจะได้พบเพื่อนร่วมทีมใหม่ๆ อาจจะทำให้คนที่มีตัวละครโปรดจากภาคเก่าต้องผิดหวัง เพราะมีเพียงคนแคระขี้เมา Oghren เท่านั้นที่กลับมาในภาคนี้ (ส่วนตัวผมผิดหวังเล็กน้อยที่แม้แต่ Dog ก็ไม่โผล่มา) แต่ก็มีตัวละครเก่าๆบางตัวที่จะโผล่มาเล็กน้อยพอให้หายคิดถึง แต่ก็ถือเป็นโชคดีที่เหล่าตัวละครใหม่ๆในภาคนี้ก็ยังคงน่าจดจำและมีจุดเด่นของตัวเองเช่นเดิม ระบบการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมทีมก็ยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นจากการสนทนาการตัดสินใจรวมไปถึงของขวัญ และนำไปสู่เควสส่วนตัวของตัวละครต่างๆ สำหรับเรื่องราวในภารกิจหลักมือเขียนบทของ Bioware ยังคงรักษาความน่าสนใจของบทได้เป็นอย่างดี และเปิดโอกาสให้เราได้สำรวจพื้นที่ใหม่ๆที่น่าสนใจ และสิ่งที่ผมประทับใจอย่างมากสำหรับภาคเสริมตัวนี้ก็คือ ผลของการตัดสินใจของตัวคุณ เพราะสิ่งต่างๆที่ผู้เล่นเลือกและตัดสินใจในช่วงต้นของเกมนั้นมีผลกระทบที่น่าสนใจในภายหลัง ยิ่งเมื่อเรื่องราวในเกมจบลง และเมื่อผมได้นั่งดูบทสรุปของเรื่องราวการพจญภัยของผมเอง เป็นประสบการณ์การเล่นเกมอันยอดเยี่ยมอีกครั้งหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว
สำหรับแฟนๆของ Dragon Age แล้วผมคงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะคุณสมควรรีบไปหาภาคเสริมตัวนี้มาเล่นโดยเร็ว แต่สำหรับ Gamer ทั่วไปหากคุณได้ลองเล่น Dragon Age มาแล้ว และไม่ค่อยจะ Happy กับตัวเกมเท่าไหร่ก็คงต้องมองข้ามตัวเสริมนี้ไปเช่นกัน เพราะ Awakening นั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลง หากแต่ปรับปรุงและเพิ่มเติมสิ่งที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วของ Dragon Age ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
SCORE 8/10
ข้อดี : สิ่งต่างๆที่เพิ่มเข้ามาจะทำให้แฟนๆชื่นชอบ,บทสนทนาและการพากย์เสียงยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเคย,ตัวละครใหม่ๆที่น่าสนใจ
ข้อเสีย อุดมไปด้วย Bug ร้ายแรง, ด้วยราคาขนาดนี้อาจทำให้หลายคนหันไปมองเกมตัวเต็มเกมอื่นแทน,
สุดท้ายคาดว่านี่จะเป็นบทความสุดท้ายของผมบนเว็ปไซท์แห่งนี้ ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่ติดตามอ่านบทความ รวมทั้งข้อคิดเห็นติชมทุกๆอันครับผม เจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการครับ
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ