พบกับ Vadofone 150 มือถือที่ถูกที่สุดในโลก !!
หลักของโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ในยุคนี้คงไม่มีอะไรมากไปกว่า 1. โทรเข้า/ออกได้ (แหงละ งั้นคงไม่เรียกโทรศัพท์หรอก) 2.ถ่ายรูปได้ (มันเป็นฟีเจอร์บังคับตั้งแต่เมื่อไร? ) 3.รองรับฟอร์แมตแบบ MP3 (ไม่ฟังได้ก็ต้องตั้งเสียงเรียกเข้าได้) ส่วนฟีเจอร์ที่เหลือนกจากนั้นก็จะแยกย่อยแตกต่างกันออกไปโดยมีแบรนด์และราคาเป็นที่ตั้ง และมันก็อาจเป็นเช่นนี้ไปชั่วกาลนาน ทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแบบพอเพียงแค่รับเข้า/โทรออก หรือต้องการที่จะหาดูเครื่องสำรองไว้สักเครื่องต้องรับภาระไร้สาระมากมายอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนทาง Vodafone บริษัทขาใหญ่ในวงการการสื่อสารไร้สายก็ได้เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ที่พะยี่ห้อของตน พร้อมๆ กับชูป้ายแขวนคอมือถือรุ่นดังกล่าวว่าเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ไร้สายที่มีราคาถูกที่สุดในโลกพร้อมกันจำนวน 2 รุ่นใช้ชื่อว่ารุ่น Vadofone 150 และ 250 ตามลำดับ
ภาพ : Voda Phone เน่อ
ที่ว่าราคาถูกที่สุดในโลกมันคือเท่าไรน่ะหรือครับ? ตามรายงานได้ที่ได้มานั้น Vadofone 150 มือหนึ่งใหม่แกะกล่องมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 15 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ใช่เเล้วครับไม่ผิดหรอก 15 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 500 บาทไทยเท่านั้น ส่วน Vadofone 250 นั้นมีค่าตัวไม่ต่างกันมากนั่นก็คือ 20 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 600 บาทไทยเท่านั้นเอง และทั้งสองรุ่นนั้นก็ผลิตโดย TCL ผู้ผลิตสัญชาติจีนที่คุ้นเคยกันดีทั้งคู่
ภาพ : Vodafone 150
แน่นอนการที่ถูกแขวนป้ายว่าเป็นมือถือที่ราคาถูกที่สุดในโลกนั้นทำให้ฟังค์ชั่นและฟีเจอร์ของทั้ง Vadofone 150 และ 250 คงจะไม่หวือหวาอเร่ออะลังอะไรมากนัก Vadofone 150 เเพคมาด้วยแบตเตอรี่ขนาดเล็กมาตรฐานที่เปิดเครื่องสแตนบายด์อยู่ได้กว่า 400 ชั่วโมงและ 5 ชั่วโมงสำหรับใช้สื่อสาร หน้าจอขาวดำขนาด 96x64 pixels รองรับระบบสื่อสารแบบ GSM 900/1800 พร้อม SMS, เสียงเรียกเข้าแบบ Polyphonic ที่หาได้ยากยิ่งในยุคนี้, ระบบสั่น, ตั้งปลุก, เครื่องคิดเลขและเกมอีก 2 เกมที่ควบคุมผ่านปุ่มทิศทางจำนวน 5 ปุ่ม (อู้หู ! ยังอุตสาห์เเถมเกมให้เล่นอีก) และสามารถเชื่อมต่อ (แน่นอนชาร์ตไฟด้วย) กับคอมพิวเตอร์ด้วยพอร์ตแบบ Mini USB ได้
ภาพ : Vodafone 250
ส่วนรุ่นพี่ Vadofone 250 นั้นก็มาพร้อมด้วยฟีเจอร์และฮาร์ดแวร์ที่อัพเกรดขึ้นมาอีกระดับ ประกอบไปด้วยหน้าจอสี 128x128 pixels ขนาด 1.45 นิ้ว และที่เพิ่มมาจาก Vadofone 150 ก็คือความสามารถในการรองรับสัญญาติวิทยุ FM พร้อมหูฟัง เปลี่ยน Wllpaper ของหน้าจอหลักได้ นอกจากนั้นก็เหมือนๆ กันกับ Vadofone 150 ตามข้างต้น (ต่างกันไม่เกิน 200 บาทจะเอาอะไรมากกว่านี้...)
ทั้ง 2 ศรีพี่น้อง Vadofone 150 และ 250 จะพร้อมวางจำหน่ายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี่ เริ่มจากประเทศอินเดียและประเทซแถบทวีปแอฟริกาใต้ (และหากท่านอยู่สารขัณฑ์แลนด์และต้องการมีใช้สักตัวละก็ ก็คงจะหาคนหิ้วมาได้ง่ายๆ :P)
พบกับ Vadofone 150 มือถือที่ถูกที่สุดในโลก !!
หลักของโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ในยุคนี้คงไม่มีอะไรมากไปกว่า 1. โทรเข้า/ออกได้ (แหงละ งั้นคงไม่เรียกโทรศัพท์หรอก) 2.ถ่ายรูปได้ (มันเป็นฟีเจอร์บังคับตั้งแต่เมื่อไร? ) 3.รองรับฟอร์แมตแบบ MP3 (ไม่ฟังได้ก็ต้องตั้งเสียงเรียกเข้าได้) ส่วนฟีเจอร์ที่เหลือนกจากนั้นก็จะแยกย่อยแตกต่างกันออกไปโดยมีแบรนด์และราคาเป็นที่ตั้ง และมันก็อาจเป็นเช่นนี้ไปชั่วกาลนาน ทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแบบพอเพียงแค่รับเข้า/โทรออก หรือต้องการที่จะหาดูเครื่องสำรองไว้สักเครื่องต้องรับภาระไร้สาระมากมายอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนทาง Vodafone บริษัทขาใหญ่ในวงการการสื่อสารไร้สายก็ได้เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ที่พะยี่ห้อของตน พร้อมๆ กับชูป้ายแขวนคอมือถือรุ่นดังกล่าวว่าเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ไร้สายที่มีราคาถูกที่สุดในโลกพร้อมกันจำนวน 2 รุ่นใช้ชื่อว่ารุ่น Vadofone 150 และ 250 ตามลำดับ
ภาพ : Voda Phone เน่อ
ที่ว่าราคาถูกที่สุดในโลกมันคือเท่าไรน่ะหรือครับ? ตามรายงานได้ที่ได้มานั้น Vadofone 150 มือหนึ่งใหม่แกะกล่องมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 15 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ใช่เเล้วครับไม่ผิดหรอก 15 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 500 บาทไทยเท่านั้น ส่วน Vadofone 250 นั้นมีค่าตัวไม่ต่างกันมากนั่นก็คือ 20 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 600 บาทไทยเท่านั้นเอง และทั้งสองรุ่นนั้นก็ผลิตโดย TCL ผู้ผลิตสัญชาติจีนที่คุ้นเคยกันดีทั้งคู่
ภาพ : Vodafone 150
แน่นอนการที่ถูกแขวนป้ายว่าเป็นมือถือที่ราคาถูกที่สุดในโลกนั้นทำให้ฟังค์ชั่นและฟีเจอร์ของทั้ง Vadofone 150 และ 250 คงจะไม่หวือหวาอเร่ออะลังอะไรมากนัก Vadofone 150 เเพคมาด้วยแบตเตอรี่ขนาดเล็กมาตรฐานที่เปิดเครื่องสแตนบายด์อยู่ได้กว่า 400 ชั่วโมงและ 5 ชั่วโมงสำหรับใช้สื่อสาร หน้าจอขาวดำขนาด 96x64 pixels รองรับระบบสื่อสารแบบ GSM 900/1800 พร้อม SMS, เสียงเรียกเข้าแบบ Polyphonic ที่หาได้ยากยิ่งในยุคนี้, ระบบสั่น, ตั้งปลุก, เครื่องคิดเลขและเกมอีก 2 เกมที่ควบคุมผ่านปุ่มทิศทางจำนวน 5 ปุ่ม (อู้หู ! ยังอุตสาห์เเถมเกมให้เล่นอีก) และสามารถเชื่อมต่อ (แน่นอนชาร์ตไฟด้วย) กับคอมพิวเตอร์ด้วยพอร์ตแบบ Mini USB ได้
ภาพ : Vodafone 250
ส่วนรุ่นพี่ Vadofone 250 นั้นก็มาพร้อมด้วยฟีเจอร์และฮาร์ดแวร์ที่อัพเกรดขึ้นมาอีกระดับ ประกอบไปด้วยหน้าจอสี 128x128 pixels ขนาด 1.45 นิ้ว และที่เพิ่มมาจาก Vadofone 150 ก็คือความสามารถในการรองรับสัญญาติวิทยุ FM พร้อมหูฟัง เปลี่ยน Wllpaper ของหน้าจอหลักได้ นอกจากนั้นก็เหมือนๆ กันกับ Vadofone 150 ตามข้างต้น (ต่างกันไม่เกิน 200 บาทจะเอาอะไรมากกว่านี้...)
ทั้ง 2 ศรีพี่น้อง Vadofone 150 และ 250 จะพร้อมวางจำหน่ายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี่ เริ่มจากประเทศอินเดียและประเทซแถบทวีปแอฟริกาใต้ (และหากท่านอยู่สารขัณฑ์แลนด์และต้องการมีใช้สักตัวละก็ ก็คงจะหาคนหิ้วมาได้ง่ายๆ :P)