Review : Death Adder 3.5G

กระทู้สนทนา
Review : Death Adder 3.5G


    ปี 2007 หรือ 3 ปีที่แล้ว Razer ได้นำเสนอเกมมิ่งเมาส์ที่มีรูปร่างหน้าตาจัดว่าหลุดโลก (แต่เท่) ที่สุดในยุคนั้น ด้วยอัตราความแม่นยำ (DPI) ที่สูงกว่า1800 DPI และปุ่มพิเศษในการปรับแต่งค่าตามแต่ผู้ใช้ต้องการ ทำให้ Death Adde จัดว่าเป็นเกมมิ่งเมาส์ที่มียอดขายและสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับ Razer มากกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในเครือเดียวกัน รวมไปถึงยังเป็นเมาส์ที่ผู้เล่นระดับโปรฯ ยึดถือเป็นเมาส์ประจำตัวมากที่สุดด้วยตัวหนึ่งเช่นเดียวกัน


    และด้วยเหตุผลข้างต้นที่ยกมา การที่ Razer จับเจ้างูพิษ  Death Adder มาเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเซนเซอร์ 3.5G พ่วงด้วยฟีเจอร์การตั้งค่าพิเศษใหม่ๆ นั้นย่อมเรียกเสียงเฮ จากเหล่าเกมเมอร์รุ่นเก๋าที่ชินมือกับรูปแบบของDeath Adder และกำลังเมียงมองเกมมิ่งเมาส์คู่มือตัวใหม่ที่แทนตัวเก่า (ก็ Death Adder รุ่นแรกนั่นแหละ XD ) ใกล้ปลดระวางอยู่รอมร่อได้ไม่น้อยเลยทีเดียว และก็คงจะมีผู้คนที่คิดอย่างนี้อยู่ไม่น้อยและทาง Razer ก็คงคิดเหมือนผม (หรือผมคิดเหมือน Razer ก็ไม่รู้?) ดังนั้นพวกเขาจึงใช้สโลแกน New Sensor, Familar Form Factor ชูจุดขายของเจ้าอสรพิษตัวนี้



Design


    รูปร่างหน้าตาของ  Death Adder 3.5 G นั้นไม่มีอะไรผิดเพี้ยนไปจากต้นแบบเลยสักนิดเดียว แน่นอนการออกแบบที่ว่านั้นรองรับเฉพาะกับผู้ใช้ที่ถนัดมือขวาเพียงอย่างเดียวด้วยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามผมก็คิดว่านั่นคือเรื่องที่ดีแล้วที่ทาง Razer ไม่ได้เปลี่ยนแปลงรูปร่าง เนื่องจากแต่เดิมรูปร่างของ  Death Adder นั้นมีขนาดที่ใหญ่สมส่วนเหมาะมือกับการจับอยู่แล้ว นอกจากรูปทรงที่คล้ายกับรุ่นบรรพบุรุษแล้ว  Death Adder  ยังได้รับการปรับปรุงด้วยการเพิ่มเติมZero-acoustic Ultraslick™ Teflon feet ที่ส่วนสัมผัสด่านล่าง และเพิ่มความยาวของสายให้เป็น 7 ฟุตจากเดิมยาวเพียง 5 ฟุตเท่านั้น


    รูปร่างโดยรวมของ Death Adder 3.5 G นั้นจะมีขนาดปริมาตรอยู่ที่ 128 mm X 70mm X 42.5 mm ตามลำดับ (ยาวXกว้างXสูง) โดยด้านบนนั้นจะประกอบไปด้วยปุ่มเมาส์ ซ้าย-ขวา มาตรฐาน , คลิ๊กวีล, และโลโก้ Razer ที่อยู่บริเวณด้านท้ายของตัวเมาส์


    ด้านซ้ายจะประกอบไปด้วยปุ่มสั่งการพิเศษขนาดใหญ่จำนวน 2 ปุ่มที่ผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้เอง ผ่านโปรแกรมการตั้งค่า  Death Adder Driver  ตรงกันข้ามกับด้านขวาที่โล่งๆ ไม่มีอะไร


    นอกจากเซนเซอร์  3.5G และสิ่งต่างๆ ภายนอกที่เพิ่มเติมขึ้นมาจาก Death Adder 1.0 เดิมนั้น ภายในของรูปร่างบึกบนกึ่งปราดเปรียวของ  Death Adder 3.5 G ก็ได้ถูกเพิ่มประสิทธิภาพอัดแน่นเข้าไปอย่างที่เรียกว่าเป็นการก้าวกระโดดเลยทีเดียว แต่ก่อนที่คุณจะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์และการตั้งค่าระดับสุดยอดนั้นได้ ก่อนอื่นคุณต้องเข้าเวบไซต์ Razerzone เพื่อโหลดซอฟท์แวร์ไดร์ฟเวอร์ของอุปกรณ์รุ่นที่คุณใช้เฉกเช่นเดียวกับอุปกรณ์ในเครือ Razer ทุกชิ้น ซึ่ง Driver Software ของ   Death Adder 3.5 G นั้นก็มีขนาดประมาณ 7 MB เท่านั้น


    หลังจากที่ติดตั้งเสร็จสิ้นและเรียกใช้งานโปรแกรมขึ้นมา คุณก็จะได้พบเจอกับการตั้งค่าการใช้งานที่เต็มไปด้วยรายละเอียดยิบย่อยเล็กน้อยค่อนข้างมาก (จนถึงมากที่สุด) โดยหน้าจอหลักที่คุณจะได้เจอหลังจาที่ได้เข้าสู่โปรแกรมนั้นก็คือการตั้งค่าการใช้งานของปุ่มทั้ง 5 ได้แก่ปุ่ม คลิ๊กซ้าย/ขวา, เมาส์วีล, และปุ่มพิเศษทางด้านซ้ายอีก 2 ปุ่ม (ที่ละเอียดมากขนาดสามารถตั้งค่าได้ว่าเมื่อหมุนคลิ๊กวีลขึ้นจะเปลี่ยนเป็นอะไร และหมุนลงจะเปลี่ยนเป็นอะไร ... สุดยอดจริงๆ เมพขริงๆ ) และสามารถปรับการตั้งค่าเบสิคเกมมิ่งเมาส์เช่นค่า Polling Rate, ค่า DPI และการปรับค่าแสงสีของโลโล้ด้านบนได้ด้วยเมนู Advance Functions ด้านล่าง


    และไม่หมดเพียงเท่านั้นหากการปรับแต่งค่าการใช้งานแค่นั้นไม่จุใจคุณล่ะก็  Death Adder 3.5 G ยังพ่วงการตั้งค่าปลีกย่อยมาอีกเป็นกระบุง โดยการเลือกไปที่เมนูตั้งค่าเมนูย่อย Sensitivity และ Advance เล็กๆ ที่อยู่ทางด้านซ้าย เราก็จะได้พบกับการตั้งค่าหลายอย่างเช่นค่า Sensitivity โดยรวมของเมาศ์ที่มีการปรับค่าไปได้ระดับ 1 ถึง 10 การปรับค่า Scrolll Speed การตั้งค่าระบบ On The Fly ตั้งค่าความเร็วในการ Double Clicks ที่มาพร้อมกับเป้าทดสอบให้ลองกันเลยว่าการตั้งค่าระดับไหนนั้นเหมาะสมกับคุณที่สุด


    และในการตั้งค่าสั่งการปุ่มพิเศษทั้ง 2 ปุ่มนั้นก็หลากหลายมากเลยจนทำให้ผมต้องทึ่ง โดยตัวโปรแกรมจะ Pop Up เมนูต่างหากขึ้นมาในแต่ละการตั้งค่า ซึ่งมีตัวเลือกเยอะมากจนละลานตาและสามารถปรับแต่งได้อย่างหลากหลายพร้อมๆ กับมีการตอบสนองการเปลี่ยนแปลงค่าที่ยอดเยี่ยมเอามากๆ


    และหากคุณยังไม่พอใจแค่นั้นล่ะก็ Razer ก็ได้ใส่การปรับแต่งค่าแกน X และแกน Y ในระดับความละเอียดสูง (Master) เข้ามาใน Death Adder 3.5 G อีกด้วย แต่ถึงจะมีการตั้งค่าที่มากมาย การใช้ Driver Software ของ Death Adder 3.5 G ก็ไม่ได้มีความยุ่งยากอะไร และถือว่าง่ายด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับเกมมิ่งเมาศ์ตัวก่อนที่ผ่านมือผมไปอย่าง Razer Naga



Testing


    หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่า  Death Adder 3.5 G นั้นได้มีหน่วยความจำภายในขนาด 32 KB ติดตั้งมาให้ด้วยเพือ่รองรับการใช้การด้านการสับเปลี่ยนโปรไฟล์การตั้งค่าแบบ On The Fly หรือทันทีในขณะที่ใช้งานอยู่ ซึ่งสามารถเก็บสะสมการตั้งค่า (อันมากมายจากหัวข้อที่แล้ว) ได้สูงสุดถึงกว่า 5 โปรไฟล์ ซึ่งกลายๆ คนอาจจะ งง ว่าอ่าวไอ้เมื่อที่เราอุตสาห์ตั้งค่าให้เหมาะสมกับการใช้งานแทบตายมันไม่ได้ดีที่สุดหรอกหรือ จะเอามาทำไมตั้ง 5 โปรไฟล์ เอาออกแล้วลดราคาดีกว่ามั้ย?


    ด้วยความสัตย์จริงแล้วผมก็เคยคิดอย่างนั้นครับ แต่เมื่อผ่านการใช้งานเจ้า  Death Adder 3.5 G  ไปสักพักด้วยการใช้งานในโปรแกรมสามัญธรรมดาและบรรดาเกมทั้งหลายแหล่นั้นผมก็พบการเปลี่ยนการตั้งค่าโปรไฟล์นั้นค่อนข้างจำเป็นเลยทีเดียวครับ ถ้าหากคุณเป็นคนที่เล่นเกมหลายๆ เกม ในหลายๆ แนว คุณจะรู้ได้เลยว่าการปรับค่าที่สมบูรณ์ของเกมแต่ละแนวนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง (และเฉพาะอย่างยิ่งกับเกมมิ่งเมาส์ที่เพิ่มปุ่มสั่งการพิเศษขึ้นมาให้ด้วยถึง 2 ปุ่ม) ซึ่งการปรับเปลี่ยนค่าการทำงานโปรไฟล์ที่ให้มาก็สามารถเติมเต็มสิ่งที่ผมว่าไปได้ครับ (ลองนึกภาพการกระโดดเปลี่ยนเกมเล่นจาก The Sims 3 ไปเป็น Modern Warfare 2 แบบที่ไม่เปลี่ยน Custom Setting ของเมาส์ให้เหมาะสมสิครับ - -*)


    เอาล่ะ ฝอยมามากละ เข้าเรื่องการทดสอบกันดีกว่าครับ เท่าที่ผ่านมานั้นเจ้า  Death Adder 3.5 G ได้อยู่เป็นมือขวาของผมมาเป็นเวลาค่อนข้างนาน ดังนั้นมันจึงผ่านการใช้งานหลากหลายด้านทั้งในเรื่องของการเล่นเกม การใช้ Applications สามัญประจำวันทั่วไป จนกระทั่งถึงการตัดตัดต่อวีดีโอ ซึ่งจากการใช้งานมาเป็นระยะเวลาติดต่อกันเป็นเวลานาน (และไม่นาน) ผมไม่มีข้อข้องใจอะไรในความแม่นยำและความลื่นไหลของ  Death Adder 3.5 G แต่อย่างใด (แหงละ ไม่งั้นเค้าจะทำออกมาใหม่ทำไม? )


    ดังนั้นการทดสอบในครั้งนี้ผมจึงเน้นไปอัตราการตอบสนองของการปรับฟังค์ชั่นทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนโปรไฟล์แบบ หรือเปลี่ยน DPI (On The Fly) และการตั้งค่าต่างๆ แบบฉับพลันด้วยการตั้งค่าพิเศษที่กำหนด ซึ่งหลังจากการโหมเล่นเกม (ผสมกับทำงาน) เป็นระยะเวลานาน และได้ตั้งค่าโปรไฟล์แบบแตกต่างกันสุดกู่เต็มระบบทั้ง 5 โปรไฟล์ที่ปุ่ม Custom 1 และลองเปลี่ยนการสลับค่า DPI ไว้ที่ปุ่ม Custom 2  ระหว่างการเล่นทดสอบเปลี่ยนค่าไปมานั้น ผมไม่พบการสะดุดหรือข้อผิดพลาดของเมาส์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
    
Conclusion


    หลายๆ ท่านอาจจะนึกสงสัยว่าทำไมรีวิวครั้งนี้อวยจริงๆ ไม่มีข้อเสียเลยรึไง ? ซึ่งผมก็คงต้องบอกกันตามตรงว่า  Death Adder 3.5 G นั้นแหล่มจริงๆ ขอรับ ! ซึ่งในเรื่องนี้นั้นก็คงได้รับการพิสูจน์แล้วจากการที่ Razer นำเจ้า  Death Adder 3.5 G มาเพิ่มประสิทธิภาพใหม่แทนที่จะเลือกเกมมิ่งเมาส์ตัวอื่นในแบรนด์ตัวเอง อีกตลอดระยะการใช้งาน (ทดสอบ) ของผม  Death Adder 3.5 G เป็นเกมมิ่งเมาส์ที่มีทั้งรูปร่างและการใช้งานที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพมากกว่าเกมมิ่งเมาส์ตัวอื่นที่ผมเคยสัมผัสมาก่อนหน้า อีกทั้งเรื่องราคาที่เหมาะสม (ไม่ Overprice จนเกินงาม เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ที่ได้) อีกทั้งปัญหาเล็กๆ น้อยที่เกิดขึ้นเมื่อใช้เมาส์หรูๆ อย่างเป็นรอยง่าย ตกแล้วพังทันทีไม่ต้องดูใจ สาย USB กาก (วาระแห่งชาติเลยนะครับซื้อเมาส์แพงมาแล้วสายกากเนี่ย โดนมาแล้ว) นั้นไม่มีพบเจอในเจ้า  Death Adder 3.5 G แต่อย่างใดในช่วงเวลาทดลอง ดด้วยเหตุผลตามทั้งหมที่ว่ามานั้นถ้าหากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ โปรเกมเมอร์ที่กำลังจดๆ จ้องหาเมาส์คู่มือตัวใหม่อยู่ละก็  Death Adder 3.5 G รอคอยท่านอยู่ครับ =D



ภาคผนวก


    งู Death Adder (ไม่มี 3.5G) เป็นงูพิษหนึ่งในสายพันธ์งูเห่า (Cobra-Elapidae) ที่มีพิษอันตรายร้ายแรงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีนิสัยเชื่องช้า นิ่งไม่ค่อยเคลื่อนไหว แต่หากเมื่อตกใจ ตื่นเต้นหรือกลัวจะมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมาก มีลักษณะตัวที่ป้อมกลม และใช้การพรางตัวเป็นจุดขายในการหากิน Death Adder แบ่งออกเป็น 2 ชนิดได้แก่ Northen death Adder (Acanthophis praelongus  ) และ Desert Death Adder (Acanthophis pyrrhus ) ทั้งสองชนิดนั้นมีลักษณะและสีที่แตกต่างกัน ซึ่งแปรเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย สามารถพบเห็นได้ในประเทศออสเตรเลีย (และตลาดนัดจตุจักร) เท่านั้น

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่