ฤดูหนาวปีนี้ หนาวหนักกว่าทุกปี ดูเหมือนว่า ทั่วทั้งหมู่บ้านจะจมอยู่ในทะเลหมอกอันเทาทะมึน ความหนาวคืบคลานมาอย่างช้าๆ ค่อยๆแทรกซึมเข้าสู่อณูเนื้อ จนขุมขนเริ่มรุกชัน
ชาวบ้านเริ่มออกมานั่งห่มผ้าผิงไฟ กันทุกหน้าบ้าน เพื่อคลายหนาว บทสนทนาคงหนีไม่พ้น ความหนาวเหน็บที่กำลังรุกรานเข้ามา
ณ หมู่บ้านกลางหมู่หมอก ที่โอบล้อมด้วยลมหายใจแห่งขุนเขา สูงลดหลั่นกันเหมือนขั้นบันไดให้เหยียบย่างไปสู่ก้อนเมฆ... คือ จิตวิญญาณแห่งดอยสูง มานานเนิ่น...
แต่ จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ ในวันนี้ กำลังจะถูกทำลาย ด้วยความเจริญของวัตถุ แห่งสังคมชาวเมือง เข้ามาแทนที่
ในท่ามกลางการะท่อมพื้นยกสูง ที่เรียงกระจายอยู่รายรอบ มีบ้านหลังใหม่ ผุดขึ้นแทนที่ กระท่อมผุเก่าหลังเดิม คล้ายจะเย้ยเยาะภูมิปัญญาแห่งอดีตที่โอบรอบ เหอนดวงวิญญาณที่กำลังแปลงร่าง
มันเป็นบ้านของฟางเอง...
เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ในชีวิตของหญิงสาวจากดอยสูง ที่ฝันอยากมีบ้านให้พ่อแม่ และน้อง ๆ ได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้า
แต่ใครจะรู้ว่ามันต้องแลกกับอะไรบ้าง ?
ฟาง ยืนมองบ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จ ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ความสุขเอ่อล้น จนลืมความเจ็บปวด ที่กำลังเกาะกินอยู่ภายใน...
จะมีใครสังเกตบ้างไหมหนอ?
ไป่ยะก่านอิหยังมาน้อ ตึ่งเซาะสต่างค์ได้จ้าดกนัก มีเฮือนใหญ่เฮือนโต่ ฮื้อป้อ ฮื้อแม่จะอี้
เสียงอุ้ยคำปั๋น แม่เฒ่าแห่งหมู่บ้าน ร้องทักมาแต่ไกล
ฟาง เพียงแต่ยิ้ม ไม่ได้เอ่ยตอบในสิ่งที่แม่เฒ่าถาม เพราะรู้ดีว่ามันไม่ใช่คำถามที่ผู้ถามอยากจะฟังคำตอบนัก
อันที่จริงแล้ว ทุกคนในหมู่บ้านก็คงเดาได้ไม่ยากว่า ฟาง ไปทำงานอะไร ในเมื่อมีเด็กสาวในหมู่บ้านอีกหลายต่อหลายคน เคยทำแบบฟางมาก่อน มันเป็นเหมือนประเพณีของเด็กสาวในหมู่บ้าน ที่สืบสานต่อกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า...
ฟาง ไม่ใช่คนแรก และ จะไม่ใช่คนสุดท้าย อย่างแน่นอน...
บางคนกลับมากลับมาพร้อมทรัพย์สมบัติเงินทองมากมาย บางคนกลับมาในสภาพที่เหลือเพียงเถ้ากระดูก และ บางคนไม่ได้กลับมา....
แต่มีบางคน ที่กลับมาพร้อมกับเชื้อร้ายที่รุกเร้า เช่นที่ฟาง เป็น....
(ขอบคุณภาพสวยๆจาก taKLONG.com ด้วยค่ะ)
..."ตกฟาก..กลางเขาเขียว"...
ชาวบ้านเริ่มออกมานั่งห่มผ้าผิงไฟ กันทุกหน้าบ้าน เพื่อคลายหนาว บทสนทนาคงหนีไม่พ้น ความหนาวเหน็บที่กำลังรุกรานเข้ามา
ณ หมู่บ้านกลางหมู่หมอก ที่โอบล้อมด้วยลมหายใจแห่งขุนเขา สูงลดหลั่นกันเหมือนขั้นบันไดให้เหยียบย่างไปสู่ก้อนเมฆ... คือ จิตวิญญาณแห่งดอยสูง มานานเนิ่น...
แต่ จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ ในวันนี้ กำลังจะถูกทำลาย ด้วยความเจริญของวัตถุ แห่งสังคมชาวเมือง เข้ามาแทนที่
ในท่ามกลางการะท่อมพื้นยกสูง ที่เรียงกระจายอยู่รายรอบ มีบ้านหลังใหม่ ผุดขึ้นแทนที่ กระท่อมผุเก่าหลังเดิม คล้ายจะเย้ยเยาะภูมิปัญญาแห่งอดีตที่โอบรอบ เหอนดวงวิญญาณที่กำลังแปลงร่าง
มันเป็นบ้านของฟางเอง...
เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ในชีวิตของหญิงสาวจากดอยสูง ที่ฝันอยากมีบ้านให้พ่อแม่ และน้อง ๆ ได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้า
แต่ใครจะรู้ว่ามันต้องแลกกับอะไรบ้าง ?
ฟาง ยืนมองบ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จ ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ความสุขเอ่อล้น จนลืมความเจ็บปวด ที่กำลังเกาะกินอยู่ภายใน...
จะมีใครสังเกตบ้างไหมหนอ?
ไป่ยะก่านอิหยังมาน้อ ตึ่งเซาะสต่างค์ได้จ้าดกนัก มีเฮือนใหญ่เฮือนโต่ ฮื้อป้อ ฮื้อแม่จะอี้
เสียงอุ้ยคำปั๋น แม่เฒ่าแห่งหมู่บ้าน ร้องทักมาแต่ไกล
ฟาง เพียงแต่ยิ้ม ไม่ได้เอ่ยตอบในสิ่งที่แม่เฒ่าถาม เพราะรู้ดีว่ามันไม่ใช่คำถามที่ผู้ถามอยากจะฟังคำตอบนัก
อันที่จริงแล้ว ทุกคนในหมู่บ้านก็คงเดาได้ไม่ยากว่า ฟาง ไปทำงานอะไร ในเมื่อมีเด็กสาวในหมู่บ้านอีกหลายต่อหลายคน เคยทำแบบฟางมาก่อน มันเป็นเหมือนประเพณีของเด็กสาวในหมู่บ้าน ที่สืบสานต่อกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า...
ฟาง ไม่ใช่คนแรก และ จะไม่ใช่คนสุดท้าย อย่างแน่นอน...
บางคนกลับมากลับมาพร้อมทรัพย์สมบัติเงินทองมากมาย บางคนกลับมาในสภาพที่เหลือเพียงเถ้ากระดูก และ บางคนไม่ได้กลับมา....
แต่มีบางคน ที่กลับมาพร้อมกับเชื้อร้ายที่รุกเร้า เช่นที่ฟาง เป็น....
(ขอบคุณภาพสวยๆจาก taKLONG.com ด้วยค่ะ)