The Hobbit: An unexpected journey
โลกใบใหญ่กับนายตัวเล็ก
ฮารุกิเป็นหนึ่งในแฟนคลับของหนังสือและหนังชุด Lord of the Rings ครับ ในฐานะนิยายแฟนตาซีเล่มแรกๆ ที่ฮารุกิได้อ่าน (ความจริงก็คือเล่มที่สอง ต่อจากแฮร์รี่ พอตเตอร์) ซึ่งก็แน่นอนว่า เมื่อ The Hobbit ซึ่งเป็นภาคเริ่มที่เสมือนเป็นบทนำของ Lord of the rings และก็เป็นหนังสือที่ฮารุกิชอบอ่านอีกเล่มหนึ่ง ได้ถูกสร้างเป็นหนังขึ้นมาและเข้าฉาย สาวก(?) อย่างฮารุกิจะพลาดได้อย่างไร จริงไหมครับ?
ฮารุกิคงพูดถึงหนังเรื่องนี้ ในฐานะของคนดูที่เคยอ่านหนังสือมาก่อนก็แล้วกันนะครับ เพราะฮารุกเองคงไม่สามารถจะลบความจำแล้วก็ไปดูหนังซ้ำอีกรอบในฐานะคนที่ไม่เคยดูมาก่อนได้
แน่นอนครับ ฮารุกิเข้าใจว่า การสร้างหนังที่มาจากหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือที่ ดัง นั้น ผู้สร้างภาพยนตร์ก็คงต้องเผชิญกับความกดดันอยู่ไม่น้อย เพราะในส่วนของคนที่อ่าน ก็มีโจทย์ทั้งการรักษาเนอเรื่องเดิมไว้ให้มากพอจนไม่เสียความเป็นต้นฉบับ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีความแปลกใหม่มากพอที่จะทำให้คนเคยอ่าน (ซึ่งรู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว) ไม่เบื่อไปเสียก่อน
ซึ่งสำหรับตัวฮารุกิแล้ว The Hobbit : An unexpected journey สามารถตอบโจทย์ในข้อนี้ได้อย่างดีทีเดียวครับ เนื้อเรื่องมีการปรับเปลี่ยนไปมากพอสำหรับให้ฮารุกิติดตามได้อย่างสนใจ แต่ใจขณะเดียวกัน หนังก็ยังเอาใจแฟนหนังสือด้วยการรักษาฉากคลาสสิกอย่างฉากโทรลล์ภูเขา หรือฉากลืมผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ รวมทั้งการยกประโยคคลาสสิกของเรื่องหลายๆ ประโยคมา อย่างเช่น In a hole in the ground there lived a hobbit... มาให้ได้ยินกันด้วย
และโดยส่วนตัวแล้ว ฮารุกิเอง ก็คิดว่า ความจริงแล้ว เราทุกคนอาจจะมีส่วนที่เป็นอย่างบิลโบกันไม่มากก็น้อยกระมังครับ บางทีเราก็อยู่ในชีวิตที่สงบสุข และอยากจะมีชีวิตที่เสถียรอย่างนั้นอยู่ตลอดไป (และแลกกับการทิ้งความฝันในวัยเด็ก) แต่ในความเป็นจริงแล้ว ชีวิตของคนเราคงไม่อาจที่จะนิ่งอยู่อย่างนั้นตลอดไปได้ ไม่ช้าก็เร็ว คงจะมีเหตุให้เราต้องพบกับความเปลี่ยนแปลง พบกับเหตุการณ์อะไรบางอย่าง ที่ทำให้ชีวิตของเราที่เคยเสถียร เคยสมดุลอยู่นั้น ต้องเสียสมดุลไป
แต่ฮารุกิก็เชื่อนะครับ ว่า เมื่อเราต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เราเลือกเอง หรือเราจำเป็นต้องเผชิญก็ตาม บางทีมันอาจจะช่วยให้เราได้โตขึ้นในอีกระดับหนึ่ง และสามารถเปลี่ยนแปลงตัวของเราเองไปในทางที่ดีขึ้นนะครับ
The Hobbit (1) - โลกใบใหญ่กับนายตัวเล็ก
โลกใบใหญ่กับนายตัวเล็ก
ฮารุกิเป็นหนึ่งในแฟนคลับของหนังสือและหนังชุด Lord of the Rings ครับ ในฐานะนิยายแฟนตาซีเล่มแรกๆ ที่ฮารุกิได้อ่าน (ความจริงก็คือเล่มที่สอง ต่อจากแฮร์รี่ พอตเตอร์) ซึ่งก็แน่นอนว่า เมื่อ The Hobbit ซึ่งเป็นภาคเริ่มที่เสมือนเป็นบทนำของ Lord of the rings และก็เป็นหนังสือที่ฮารุกิชอบอ่านอีกเล่มหนึ่ง ได้ถูกสร้างเป็นหนังขึ้นมาและเข้าฉาย สาวก(?) อย่างฮารุกิจะพลาดได้อย่างไร จริงไหมครับ?
ฮารุกิคงพูดถึงหนังเรื่องนี้ ในฐานะของคนดูที่เคยอ่านหนังสือมาก่อนก็แล้วกันนะครับ เพราะฮารุกเองคงไม่สามารถจะลบความจำแล้วก็ไปดูหนังซ้ำอีกรอบในฐานะคนที่ไม่เคยดูมาก่อนได้
แน่นอนครับ ฮารุกิเข้าใจว่า การสร้างหนังที่มาจากหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือที่ ดัง นั้น ผู้สร้างภาพยนตร์ก็คงต้องเผชิญกับความกดดันอยู่ไม่น้อย เพราะในส่วนของคนที่อ่าน ก็มีโจทย์ทั้งการรักษาเนอเรื่องเดิมไว้ให้มากพอจนไม่เสียความเป็นต้นฉบับ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีความแปลกใหม่มากพอที่จะทำให้คนเคยอ่าน (ซึ่งรู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว) ไม่เบื่อไปเสียก่อน
ซึ่งสำหรับตัวฮารุกิแล้ว The Hobbit : An unexpected journey สามารถตอบโจทย์ในข้อนี้ได้อย่างดีทีเดียวครับ เนื้อเรื่องมีการปรับเปลี่ยนไปมากพอสำหรับให้ฮารุกิติดตามได้อย่างสนใจ แต่ใจขณะเดียวกัน หนังก็ยังเอาใจแฟนหนังสือด้วยการรักษาฉากคลาสสิกอย่างฉากโทรลล์ภูเขา หรือฉากลืมผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ รวมทั้งการยกประโยคคลาสสิกของเรื่องหลายๆ ประโยคมา อย่างเช่น In a hole in the ground there lived a hobbit... มาให้ได้ยินกันด้วย
และโดยส่วนตัวแล้ว ฮารุกิเอง ก็คิดว่า ความจริงแล้ว เราทุกคนอาจจะมีส่วนที่เป็นอย่างบิลโบกันไม่มากก็น้อยกระมังครับ บางทีเราก็อยู่ในชีวิตที่สงบสุข และอยากจะมีชีวิตที่เสถียรอย่างนั้นอยู่ตลอดไป (และแลกกับการทิ้งความฝันในวัยเด็ก) แต่ในความเป็นจริงแล้ว ชีวิตของคนเราคงไม่อาจที่จะนิ่งอยู่อย่างนั้นตลอดไปได้ ไม่ช้าก็เร็ว คงจะมีเหตุให้เราต้องพบกับความเปลี่ยนแปลง พบกับเหตุการณ์อะไรบางอย่าง ที่ทำให้ชีวิตของเราที่เคยเสถียร เคยสมดุลอยู่นั้น ต้องเสียสมดุลไป
แต่ฮารุกิก็เชื่อนะครับ ว่า เมื่อเราต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เราเลือกเอง หรือเราจำเป็นต้องเผชิญก็ตาม บางทีมันอาจจะช่วยให้เราได้โตขึ้นในอีกระดับหนึ่ง และสามารถเปลี่ยนแปลงตัวของเราเองไปในทางที่ดีขึ้นนะครับ