อยากหาที่ระบายครับ คือ เรื่องมีอยู่ว่าคุณปู่ผมเนี่ยเป็นคนประหยัด และขยันมาก ทำงานทุกอย่าง เนื่องจากเมื่อก่อนฐานะไม่ค่อยดีครับ แต่ด้วยความที่เรียนเก่งก็สอบเข้ารับราชการได้ และความขยัน ประหยัด ก็สามารถสร้างฐานะขึ้นมาได้ระดับหนึ่ง
ผมเป็นหลานชายคนโตซึ่งก็เหมือนคุณปู่ กับคุณพ่อผม คือ เรียนเก่ง ขยัน ประหยัด ตั้งแต่เรียนป.ตรีก็ไม่เคยขอเงินทางบ้านเลยครับ (ช่วงนั้นธุรกิจที่บ้านอยู่ขาลงพอดีครับ) ก็หาเงินเรียนด้วยการสอนพิเศษ เป็นเด็กเสิร์ฟ เด็กปั๊ม ก็จนเรียนจบก็เก็บเงินได้ก้อนหนึ่งเปิดธุรกิจเล็กๆซึ่งก็ไปได้ดีมาตลอดครับ แล้วก็เข้ารับราชการ ก็ทำงานด้วยเรียนต่อด้วยจนจบป.เอก ก็เลยทำงานหลายอย่าง ทั้งรับราชการ ธุรกิจส่วนตัว งานบรรยายบ้าง งานวิจัยบ้าง
ก็เก็บตังค์ซื้อคอนโดในกทม. เพราะเนื่องจากบ้านผ่อนจะหมดแล้ว แล้วก็ถ้าอยู่บ้านต้องตื่นแต่เช้ามากๆเพื่อมาทำงานครับ ผมก็คิดว่าผมสามารถจัดการชีวิตผมได้ดีพอประมาณครับ แต่ปัญหาเริ่มมีเมื่อไม่นานนี้ คุณปู่มานอนที่คอนโดผมเพราะว่าช่วงนี้สุขภาพไม่แข็งแรงหมอนัดบ่อยนอนคอนโดจะสะดวกกว่าครับ ก็เลยโดนบ่นยาวกับหลายๆเรื่องที่เหมือนท่านจะไม่ค่อยเข้าใจ
ตอนแรกที่มาท่านก็ถามว่า "ซื้อทำไมห้องใหญ่ๆ ราคาเท่าไหร่เนี่ย" (คอนโดผม 3 ห้องนอนครับ)
ผมก็ตอบราคาไป (ผมคิดว่า 3 ห้องนอน กำลังดีสำหรับผมเพราะเผื่อมีลูก และเผื่อมีญาติมานอนด้วยครับ)
คุณปู่ก็บอกว่า "มันเกินความจำเป็นไปไหม ทำไมฟุ่มเฟือยอย่างนี้"
ผม "ก็เนี่ยซื้อตอนนี้ทีเดียวจบ แล้วก็ไม่ต้องซื้ออะไรอีกแล้ว มีครบหมด ทำงานเก็บเงินอย่างเดียวแล้ว" แล้วท่านก็บ่นอะไรต่อไม่รู้จำไม่ได้แล้วครับ
แล้วก็เรื่องกลับดึก หาว่าไปเถลไถลที่ไหน ซึ่งผมก็พยายามจะอธิบายให้ฟังว่านี่มันช่วงเทศกาลงานเลี้ยงมันเยอะครับ แล้วก็ถึงแม้ไม่ใช่เทศกาลกว่าจะเลิกงาน ไหนต้องทำงานพิเศษต่อกว่าจะกลับก็ดึกประจำอยู่แล้ว
แล้วก็เรื่องที่ผมจ้างแม่บ้านทำความสะอาดห้อง ก็โดนบ่นว่า "โตป่านนี้แค่กวาดบ้าน ถูบ้านยังทำไม่เป็นเหรอ" ก็อธิบายไปว่าทำเป็นแต่แค่ทำงานก็เหนื่อยแล้วส่วนในห้องนอนก็ทำเองที่นา คุณปู่ก็ยังบ่นอีกว่าเปลืองตังค์เดี๋ยวคุณปู่ทำให้ เรื่องบางอย่างไม่ควรต้องเสียเงินก็ไม่ต้องเสียประหยัดไว้บ้าง @#$%$ ผมก็เลยตัดความรำคาญ "ก็คุณปู่ไม่สบายแล้วจะมาทำทำไม จ้างเค้าน่ะดีแล้ว"
เรื่องที่ซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ก็โดนบ่น (มือถือผมเครื่องเก่าใช้มา 5 ปีแล้ว เพิ่งจะเปลี่ยนก็คราวนี้ครับ) ก็โดนบ่นทำนองว่าอะไรเนี่ยของเก่ามันยังดีอยู่ซื้อใหม่ทำไม รู้มั๊ยว่าสมัยปู่ต้องประหยัดขนาดไหนไม่ใช่เห็นของออกใหม่อยากได้ก็ซื้อ บลาๆๆๆ อยากรู้จังว่ามือถือ 5 ปีเปลี่ยนทีเนี่ยมันถือว่าฟุ่มเฟือยเหรอครับ (เครื่องก่อนหน้านี้ใช้ 6 ปี เปลี่ยนเพราะพังแล้วซ่อมไม่ได้ครับ)
เรื่องกินข้าวข้างนอกบ้านอีก เนื่องจากคุณพ่อผมทำงานตจว.ผมเลยรับหน้าที่ดูแลคุณปู่แทน ก็พาไปกินตามร้านอาหารตลอด ก็โดนบ่นอีก เดี๋ยวนี้ทำงานมีเงินแล้วเลยต้องกินหรูๆตลอดใช่ไหม ร้านข้าวราดแกงธรรมดากินไม่ได้เหรอ แล้วก็เข้าเรื่องเดิมว่าเนี่ยสมัยก่อนปู่ต้องประหยัดขนาดไหนไม่งั้นคงสร้างฐานะขึ้นมาไม่ได้ บลาๆๆๆๆ ผมก็พยายามอธิบายว่าที่กินร้านอาหารเนี่ยก็ตอนพาคุณปู่ไปนี่แหล่ะ ถ้ากินคนเดียวมื้อนึงผมกินไม่เกิน 60 บาท แต่ที่พาคุณปู่ไปร้านอาหารเพราะสะดวกจอดรถปุ๊บเดินนิดนึงถึงเก้าอี้ ถ้ากินร้านริมทางเดินถือไม้เท้าจะเดินไปถึงไหม ถ้านั่งรถเข็นเนี่ยทางเท้าบางทีรถเข็นก็ไม่สะดวก ก็ไม่ยอมจะเข้าใจ
แล้วก็อย่างวันนี้ผมนอนตื่น 11 โมง ตัวอย่างบทสนทนาเท่าที่จำได้ครับ
คุณปู่ "จะนอนถึงเย็นเลยเหรอ สมัยปู่เนี่ยต้องตื่นแต่เช้ามาทำงานทุกวัน"
ผม "ก็วันนี้มันวันหยุดนิ"
คุณปู่ "นั่นแหล่ะ แต่ก็ต้องตื่นมาล้างตาล้างตา ทำงานบ้าง ไม่คิดจะกินอะไรเลยเหรอ"
ผม "ครับๆ ตื่นก็ได้ เดี๋ยวลงไปหาของกินก่อน" (ในใจก็นึก ก็ยังไม่หิวนิ เมื่อคืนเพิ่งไปงานเลี้ยงมากว่าจะกลับก็ดึก) แต่ขี้เกียจเถียงอาบน้ำลงไปหาของกิน
ไม่รู้จะกินอะไร เลยซื้อกาแฟสตาร์บัคส์ขึ้นมากิน พร้อมเค้ก 1 ชิ้น
คุณปู่ "กินมันเข้าไปกาแฟของฝรั่งเนี่ย แพงก็แพง ชงเองประหยัดตังค์กว่า ไม่เห็นจำเป็นต้องกินอะไรแพงๆเลย"
ผม "แต่...ปีนี้เพิ่งกินแก้วนี้แก้วที่สองเองนะครับ" (ปกติกินเนสกาแฟกระป๋องเขียว 13 บาท เคยกินกาแฟที่ชงเองแต่เหมือนจะไม่ค่อยตื่นครับ)
คุณปู่ "ก็นั่นแหล่ะ มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย"
ผม "เฮ้อ"
คือผมว่าผมไม่ได้เป็นคนฟุ่มเฟือยนะครับหลายๆอย่างค่อนข้างประหยัดด้วยซ้ำ แต่เหมือนว่าคุณปู่ชอบไปเทียบกับช่วงชีวิตที่ลำบากสุดของท่านก็เลยเหมือนว่าผมใช้เงินเปลือง
เรื่องของผมก็ประมาณนี้ครับ เลยอยากขอคำปรึกษาหน่อยว่ามีทางทำให้คุณปู่เข้าใจผมบ้างไหมเนี่ย ขอบคุณครับ
จากคุณ เฮ้อ ( Ticket ID : 370964)
มีใครอยู่กับผู้สูงอายุที่เค้าไม่ค่อยเข้าใจสังคมเมืองสมัยนี้บ้างครับ
ผมเป็นหลานชายคนโตซึ่งก็เหมือนคุณปู่ กับคุณพ่อผม คือ เรียนเก่ง ขยัน ประหยัด ตั้งแต่เรียนป.ตรีก็ไม่เคยขอเงินทางบ้านเลยครับ (ช่วงนั้นธุรกิจที่บ้านอยู่ขาลงพอดีครับ) ก็หาเงินเรียนด้วยการสอนพิเศษ เป็นเด็กเสิร์ฟ เด็กปั๊ม ก็จนเรียนจบก็เก็บเงินได้ก้อนหนึ่งเปิดธุรกิจเล็กๆซึ่งก็ไปได้ดีมาตลอดครับ แล้วก็เข้ารับราชการ ก็ทำงานด้วยเรียนต่อด้วยจนจบป.เอก ก็เลยทำงานหลายอย่าง ทั้งรับราชการ ธุรกิจส่วนตัว งานบรรยายบ้าง งานวิจัยบ้าง
ก็เก็บตังค์ซื้อคอนโดในกทม. เพราะเนื่องจากบ้านผ่อนจะหมดแล้ว แล้วก็ถ้าอยู่บ้านต้องตื่นแต่เช้ามากๆเพื่อมาทำงานครับ ผมก็คิดว่าผมสามารถจัดการชีวิตผมได้ดีพอประมาณครับ แต่ปัญหาเริ่มมีเมื่อไม่นานนี้ คุณปู่มานอนที่คอนโดผมเพราะว่าช่วงนี้สุขภาพไม่แข็งแรงหมอนัดบ่อยนอนคอนโดจะสะดวกกว่าครับ ก็เลยโดนบ่นยาวกับหลายๆเรื่องที่เหมือนท่านจะไม่ค่อยเข้าใจ
ตอนแรกที่มาท่านก็ถามว่า "ซื้อทำไมห้องใหญ่ๆ ราคาเท่าไหร่เนี่ย" (คอนโดผม 3 ห้องนอนครับ)
ผมก็ตอบราคาไป (ผมคิดว่า 3 ห้องนอน กำลังดีสำหรับผมเพราะเผื่อมีลูก และเผื่อมีญาติมานอนด้วยครับ)
คุณปู่ก็บอกว่า "มันเกินความจำเป็นไปไหม ทำไมฟุ่มเฟือยอย่างนี้"
ผม "ก็เนี่ยซื้อตอนนี้ทีเดียวจบ แล้วก็ไม่ต้องซื้ออะไรอีกแล้ว มีครบหมด ทำงานเก็บเงินอย่างเดียวแล้ว" แล้วท่านก็บ่นอะไรต่อไม่รู้จำไม่ได้แล้วครับ
แล้วก็เรื่องกลับดึก หาว่าไปเถลไถลที่ไหน ซึ่งผมก็พยายามจะอธิบายให้ฟังว่านี่มันช่วงเทศกาลงานเลี้ยงมันเยอะครับ แล้วก็ถึงแม้ไม่ใช่เทศกาลกว่าจะเลิกงาน ไหนต้องทำงานพิเศษต่อกว่าจะกลับก็ดึกประจำอยู่แล้ว
แล้วก็เรื่องที่ผมจ้างแม่บ้านทำความสะอาดห้อง ก็โดนบ่นว่า "โตป่านนี้แค่กวาดบ้าน ถูบ้านยังทำไม่เป็นเหรอ" ก็อธิบายไปว่าทำเป็นแต่แค่ทำงานก็เหนื่อยแล้วส่วนในห้องนอนก็ทำเองที่นา คุณปู่ก็ยังบ่นอีกว่าเปลืองตังค์เดี๋ยวคุณปู่ทำให้ เรื่องบางอย่างไม่ควรต้องเสียเงินก็ไม่ต้องเสียประหยัดไว้บ้าง @#$%$ ผมก็เลยตัดความรำคาญ "ก็คุณปู่ไม่สบายแล้วจะมาทำทำไม จ้างเค้าน่ะดีแล้ว"
เรื่องที่ซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ก็โดนบ่น (มือถือผมเครื่องเก่าใช้มา 5 ปีแล้ว เพิ่งจะเปลี่ยนก็คราวนี้ครับ) ก็โดนบ่นทำนองว่าอะไรเนี่ยของเก่ามันยังดีอยู่ซื้อใหม่ทำไม รู้มั๊ยว่าสมัยปู่ต้องประหยัดขนาดไหนไม่ใช่เห็นของออกใหม่อยากได้ก็ซื้อ บลาๆๆๆ อยากรู้จังว่ามือถือ 5 ปีเปลี่ยนทีเนี่ยมันถือว่าฟุ่มเฟือยเหรอครับ (เครื่องก่อนหน้านี้ใช้ 6 ปี เปลี่ยนเพราะพังแล้วซ่อมไม่ได้ครับ)
เรื่องกินข้าวข้างนอกบ้านอีก เนื่องจากคุณพ่อผมทำงานตจว.ผมเลยรับหน้าที่ดูแลคุณปู่แทน ก็พาไปกินตามร้านอาหารตลอด ก็โดนบ่นอีก เดี๋ยวนี้ทำงานมีเงินแล้วเลยต้องกินหรูๆตลอดใช่ไหม ร้านข้าวราดแกงธรรมดากินไม่ได้เหรอ แล้วก็เข้าเรื่องเดิมว่าเนี่ยสมัยก่อนปู่ต้องประหยัดขนาดไหนไม่งั้นคงสร้างฐานะขึ้นมาไม่ได้ บลาๆๆๆๆ ผมก็พยายามอธิบายว่าที่กินร้านอาหารเนี่ยก็ตอนพาคุณปู่ไปนี่แหล่ะ ถ้ากินคนเดียวมื้อนึงผมกินไม่เกิน 60 บาท แต่ที่พาคุณปู่ไปร้านอาหารเพราะสะดวกจอดรถปุ๊บเดินนิดนึงถึงเก้าอี้ ถ้ากินร้านริมทางเดินถือไม้เท้าจะเดินไปถึงไหม ถ้านั่งรถเข็นเนี่ยทางเท้าบางทีรถเข็นก็ไม่สะดวก ก็ไม่ยอมจะเข้าใจ
แล้วก็อย่างวันนี้ผมนอนตื่น 11 โมง ตัวอย่างบทสนทนาเท่าที่จำได้ครับ
คุณปู่ "จะนอนถึงเย็นเลยเหรอ สมัยปู่เนี่ยต้องตื่นแต่เช้ามาทำงานทุกวัน"
ผม "ก็วันนี้มันวันหยุดนิ"
คุณปู่ "นั่นแหล่ะ แต่ก็ต้องตื่นมาล้างตาล้างตา ทำงานบ้าง ไม่คิดจะกินอะไรเลยเหรอ"
ผม "ครับๆ ตื่นก็ได้ เดี๋ยวลงไปหาของกินก่อน" (ในใจก็นึก ก็ยังไม่หิวนิ เมื่อคืนเพิ่งไปงานเลี้ยงมากว่าจะกลับก็ดึก) แต่ขี้เกียจเถียงอาบน้ำลงไปหาของกิน
ไม่รู้จะกินอะไร เลยซื้อกาแฟสตาร์บัคส์ขึ้นมากิน พร้อมเค้ก 1 ชิ้น
คุณปู่ "กินมันเข้าไปกาแฟของฝรั่งเนี่ย แพงก็แพง ชงเองประหยัดตังค์กว่า ไม่เห็นจำเป็นต้องกินอะไรแพงๆเลย"
ผม "แต่...ปีนี้เพิ่งกินแก้วนี้แก้วที่สองเองนะครับ" (ปกติกินเนสกาแฟกระป๋องเขียว 13 บาท เคยกินกาแฟที่ชงเองแต่เหมือนจะไม่ค่อยตื่นครับ)
คุณปู่ "ก็นั่นแหล่ะ มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย"
ผม "เฮ้อ"
คือผมว่าผมไม่ได้เป็นคนฟุ่มเฟือยนะครับหลายๆอย่างค่อนข้างประหยัดด้วยซ้ำ แต่เหมือนว่าคุณปู่ชอบไปเทียบกับช่วงชีวิตที่ลำบากสุดของท่านก็เลยเหมือนว่าผมใช้เงินเปลือง
เรื่องของผมก็ประมาณนี้ครับ เลยอยากขอคำปรึกษาหน่อยว่ามีทางทำให้คุณปู่เข้าใจผมบ้างไหมเนี่ย ขอบคุณครับ
จากคุณ เฮ้อ ( Ticket ID : 370964)