(ที่มา:คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 มติชนรายวัน 22 ธ.ค.2555)
ผมชอบประโยคหนึ่งในบทความ "เปลี่ยนประเทศไทยด้วยการจำนำข้าว"
ของอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์
"นิธิ" บอกว่า โครงการรับจำนำข้าวด้วยราคาสูง คือ "การปฏิรูปสังคม"
ไม่ใช่โครงการจำนำข้าวอย่างที่ผ่านมา ซึ่งมีเป้าหมายเพียงพยุงราคาข้าว
ของชาวนาให้ใกล้เคียงกับราคาตลาดโลกมากขึ้น และต้องไม่ขาดทุน
บทความของ "นิธิ" ชิ้นนี้สร้างผลสะเทือนในแวดวงวิชาการมาก
จนอาจารย์เศรษฐศาสตร์หลายคนที่คัดค้านโครงการรับจำนำข้าว
ของรัฐบาลออกมาตอบโต้ "นิธิ" อย่างหนักหน่วง
ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการขาดทุน หรือทุจริต ฯลฯ
ตรงประเด็นบ้าง พูดกันคนละเรื่องบ้าง
แต่ประเด็นที่ถกเถียงกันน้อยคือเรื่อง "การปฏิรูปสังคม" จากนโยบายจำนำข้าว
ต่างจังหวัดกำลังจะเปลี่ยนไป
เมื่อวันก่อน ทีมงานมติชนกลับมาจากงานวันยางพาราบึงกาฬ 2012 ที่จังหวัดบึงกาฬ
ทุกคนตะลึงกับความคึกคักทางเศรษฐกิจ และความเปลี่ยนแปลง
ที่เกิดขึ้นในพื้นที่บึงกาฬ
นี่คือ ผลพวงจากการเปลี่ยนจากการทำนาไปทำสวนยางพารา
รายได้ในกระเป๋าที่เพิ่มมากขึ้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ใครอยู่ต่างจังหวัดจะเห็นชัดว่าเศรษฐกิจในพื้นที่คึกคักขนาดไหน
ทั้งจากเรื่องจำนำข้าว การค้าชายแดน และการอัดฉีดงบประมาณของภาครัฐ
"ความมั่งคั่ง" ที่อัดฉีดเข้าสู่ต่างจังหวัดก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่เห็น
ได้ชัดปีหน้าแบงก์พาณิชย์ขนาดใหญ่ทุกแห่งตั้งหางเสือเหมือนกัน คือ
มุ่งสู่ต่างจังหวัด
การขยับตัวของแบงก์เป็นสัญญาณชัดเจนของความรุ่งเรืองของต่างจังหวัด
การขึ้นค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ นอกจากเพิ่ม "กำลังซื้อ"
ให้กับภาคแรงงานในต่างจังหวัดแล้ว
ยังจะทำให้คนต่างจังหวัดที่ทำงานเมืองกรุงกลับบ้านมากขึ้น
เหมือนกับแรงงานภาคอีสานที่ไปกรีดยางในภาคใต้
วันนี้หลายคนเริ่มกลับบ้านและเอาความรู้เรื่องการกรีดยางไปใช้
ในสวนยางของเขาเอง
เพราะไม่มีที่ไหนอบอุ่นเท่ากับบ้านเรา
ดังนั้น เมื่อเศรษฐกิจในต่างจังหวัดรุ่งเรือง ทำนาก็มีรายได้ดี
ในพื้นที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น
ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เราจะเห็นภาพที่เราอยากเห็น
แรงงานต่างจังหวัดจะคืนถิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ
ในอดีตทุกครั้งที่มีการถกกันเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ เรามักจะพูดกันเสมอเรื่องปัญหาแรงงานต่างจังหวัดที่ต้อง
ย้ายถิ่นมาทำงานในเมืองกรุง
เป็นปัญหาทางสังคมที่นักวิชาการทุกคนพูดถึง
เพราะแสดงถึงความไม่เท่าเทียมกันระหว่างกรุงเทพฯกับต่างจังหวัด
อย่างชัดเจนที่สุดครับ ถ้าทั้งหมดนี้เป็นความจริง
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนับจากนี้จะเป็นการปฏิรูปสังคมของประเทศไทย
ที่อาจารย์นิธิทำนายไว้
และว่ากันว่า สัญญาณที่เร็วที่สุดคือ เพลงลูกทุ่ง
ถ้าปีหน้าเนื้อเพลงลูกทุ่งเริ่มพูดถึงการคืนถิ่นของชาวต่างจังหวัดเมื่อไร
นั่นแหละ "ของจริง"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1356172732&grpid=&catid=02&subcatid=0207
ต้องมีเสียงกึกก้องร้องมาว่า "มติชิน มติโจร หรือ มติชั่ว"
จะดีจะชั่ว ก็ยังมียอดขาย สูงกว่า สื่อดีๆ แบบ แนวหน้า ไทยโพสต์
บทความเรื่องยางพารา ดูจะค้านกับ ม็อบสวนยาง ที่กำลังปิดถนน
เรียกร้อง ราคายาง ก็เลยเอามาฝากให้ เพื่อน ไปต่อยอดกันว่า
จริงเท็จเป็นอย่างไร ?
หน้าม้า ...ขออวยรัฐบาล แต่เช้าค่ะ ... สรกล อดุลยานนท์ : กทม.ไม่ใช่ประเทศไทย ..มติชนออนไลน์
(ที่มา:คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 มติชนรายวัน 22 ธ.ค.2555)
ผมชอบประโยคหนึ่งในบทความ "เปลี่ยนประเทศไทยด้วยการจำนำข้าว"
ของอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์
"นิธิ" บอกว่า โครงการรับจำนำข้าวด้วยราคาสูง คือ "การปฏิรูปสังคม"
ไม่ใช่โครงการจำนำข้าวอย่างที่ผ่านมา ซึ่งมีเป้าหมายเพียงพยุงราคาข้าว
ของชาวนาให้ใกล้เคียงกับราคาตลาดโลกมากขึ้น และต้องไม่ขาดทุน
บทความของ "นิธิ" ชิ้นนี้สร้างผลสะเทือนในแวดวงวิชาการมาก
จนอาจารย์เศรษฐศาสตร์หลายคนที่คัดค้านโครงการรับจำนำข้าว
ของรัฐบาลออกมาตอบโต้ "นิธิ" อย่างหนักหน่วง
ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการขาดทุน หรือทุจริต ฯลฯ
ตรงประเด็นบ้าง พูดกันคนละเรื่องบ้าง
แต่ประเด็นที่ถกเถียงกันน้อยคือเรื่อง "การปฏิรูปสังคม" จากนโยบายจำนำข้าว
ต่างจังหวัดกำลังจะเปลี่ยนไป
เมื่อวันก่อน ทีมงานมติชนกลับมาจากงานวันยางพาราบึงกาฬ 2012 ที่จังหวัดบึงกาฬ
ทุกคนตะลึงกับความคึกคักทางเศรษฐกิจ และความเปลี่ยนแปลง
ที่เกิดขึ้นในพื้นที่บึงกาฬ
นี่คือ ผลพวงจากการเปลี่ยนจากการทำนาไปทำสวนยางพารา
รายได้ในกระเป๋าที่เพิ่มมากขึ้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ใครอยู่ต่างจังหวัดจะเห็นชัดว่าเศรษฐกิจในพื้นที่คึกคักขนาดไหน
ทั้งจากเรื่องจำนำข้าว การค้าชายแดน และการอัดฉีดงบประมาณของภาครัฐ
"ความมั่งคั่ง" ที่อัดฉีดเข้าสู่ต่างจังหวัดก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่เห็น
ได้ชัดปีหน้าแบงก์พาณิชย์ขนาดใหญ่ทุกแห่งตั้งหางเสือเหมือนกัน คือ
มุ่งสู่ต่างจังหวัด
การขยับตัวของแบงก์เป็นสัญญาณชัดเจนของความรุ่งเรืองของต่างจังหวัด
การขึ้นค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ นอกจากเพิ่ม "กำลังซื้อ"
ให้กับภาคแรงงานในต่างจังหวัดแล้ว
ยังจะทำให้คนต่างจังหวัดที่ทำงานเมืองกรุงกลับบ้านมากขึ้น
เหมือนกับแรงงานภาคอีสานที่ไปกรีดยางในภาคใต้
วันนี้หลายคนเริ่มกลับบ้านและเอาความรู้เรื่องการกรีดยางไปใช้
ในสวนยางของเขาเอง
เพราะไม่มีที่ไหนอบอุ่นเท่ากับบ้านเรา
ดังนั้น เมื่อเศรษฐกิจในต่างจังหวัดรุ่งเรือง ทำนาก็มีรายได้ดี
ในพื้นที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น
ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เราจะเห็นภาพที่เราอยากเห็น
แรงงานต่างจังหวัดจะคืนถิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ
ในอดีตทุกครั้งที่มีการถกกันเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ เรามักจะพูดกันเสมอเรื่องปัญหาแรงงานต่างจังหวัดที่ต้อง
ย้ายถิ่นมาทำงานในเมืองกรุง
เป็นปัญหาทางสังคมที่นักวิชาการทุกคนพูดถึง
เพราะแสดงถึงความไม่เท่าเทียมกันระหว่างกรุงเทพฯกับต่างจังหวัด
อย่างชัดเจนที่สุดครับ ถ้าทั้งหมดนี้เป็นความจริง
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนับจากนี้จะเป็นการปฏิรูปสังคมของประเทศไทย
ที่อาจารย์นิธิทำนายไว้
และว่ากันว่า สัญญาณที่เร็วที่สุดคือ เพลงลูกทุ่ง
ถ้าปีหน้าเนื้อเพลงลูกทุ่งเริ่มพูดถึงการคืนถิ่นของชาวต่างจังหวัดเมื่อไร
นั่นแหละ "ของจริง"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1356172732&grpid=&catid=02&subcatid=0207
ต้องมีเสียงกึกก้องร้องมาว่า "มติชิน มติโจร หรือ มติชั่ว"
จะดีจะชั่ว ก็ยังมียอดขาย สูงกว่า สื่อดีๆ แบบ แนวหน้า ไทยโพสต์
บทความเรื่องยางพารา ดูจะค้านกับ ม็อบสวนยาง ที่กำลังปิดถนน
เรียกร้อง ราคายาง ก็เลยเอามาฝากให้ เพื่อน ไปต่อยอดกันว่า
จริงเท็จเป็นอย่างไร ?