อภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคปชป.ตั้งแต่ปี2548 ก็มีนโยาบายผลักมวลชของตนเองให้กับพรรคเพื่อไทยอย่างสม่ำเสมอ ดูจาก
1.นโยบายที่ใช้หาเสียงไม่มีนโยบายใดที่โดนใจประชาชน สมัยเป๊นรัฐบาลก็ใช้นโยบายเดิมของพ.ต.ท.เป็นส่วนใหญ่่ ที่คิดใหม่ๆ เช่นไข่ชั่งกิโล เคารพธงชาติ ก็ไม่เวอร์ค
2.หาเสียงโดยให้มวลชนเกลียดพ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่โกง ไม่จงรักภักดี
(ใช้ได้ผลในภาคใต้ ) จนถึงเรื่องเผาบ้านเผาเมือง ขายชุดดดำยิงกันเอง คำพูดขุดหลังนี้ผลักมวลชวลกลุ่มใหญ่ให้ไปอยู่กับยิ่งลักษณ์ ดูจากผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาที่ให้รับเงินม๋ากาเบอร์ 1
3.ชอบนำสถาบันมากล่าวหาฝ่ายตรงข้าม ตั้งแต่เรื่อล้มเจ้า ยันเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นประธานาธิบดี ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงาการนำประชาชนมาถวายความจงรักภักดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็เกิดในสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ในปี 49 และยิ่งลักษณ์ ในปี 55 โดยเฉพาะสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงขึ้น เสด็จเยี่ยมพสกนิกรได้มากขึ้น ทรงแย้มพระสรวลให้กับพสกนิกรก็เกิดในรัฐบาลนี้ แล้วสมัยอภิสิทธิ์ละมีงานใดบ้างที่แสดงออกถึงความจงรักภักดี งานวันเฉลิมฯยังโยนให้เนวินเป็นคนจัด ทำให้มวลชนของตนหันมาให้การสนับสนุนรัฐบาลมากขึ้น
3.เล่นการเมืองในระบอบแต่ไม่ชอบระบอบ เคยบอยคอตการเลือกตั้ง เคยขอนายกม.7 เคยได้เป็นนายกด้วยช่องทางพิเศษ เคยจ้างมวลชนของตนเองไปตามม็อบต่าง ๆ ที่ต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เคยแสดงความยินดีกับบุคคลที่นิยมรัฐบาลนอกระบอบ ล่าสุดถึงกับชักชวนให้คนล้มประชามติ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ตรงนี้ได้ผลักมวลชนที่มีความรู้ นักศึกษา นักวิชาการประชาธิปไตยรวมถึงประชาชนที่ต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้า หันไปสนับสนุนรัฐบาลเป็นจำนวนมาก
4.เป็นฝ่ายค้านในระบอบแทนที่จะตรวจสอบเรื่องการทุจริตของรัฐบาลชุดนี้กับไปเล่นเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม พูดผิดพูดถูก สร้างวาทะกรรมกล่าวหารัฐบาลรายวัน นอกจากไม่ได้มวลชนเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเสียมวลชนของตนเอง ไปเรื่อยๆ เพราะรัฐบาลเดินหน้าทำงาน คนเห็นผลงาน ล่าสุดเรื่องลดภาษีบุคคลธรรมดาในปี56
แม้มวลชนของปชชปยังให้การสนับสนุน เพราะได้ส่วนลดเยอะ
5.คดีความต่างๆ ที่เคยสร้างวาทะกรรมโยนความผิดหรือใส่ร้ายผู้อื่น เริ่่มถึงตัวเองแล้ว เช่น คดีหนีทหาร สลายการชุมนุม ในอนาคตคงไม่สามารถทำงานให้ประชาชนได้แล้ว เพราะต้องขึ้นศาลแก้ขอกล่าวหาให้ตัวเองจนตายคดียังไม่จบเลย
6.การที่เป็นคนชอบพูด ทำให้จำคำพูดของตนเองไม่ได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง บางครั้งห่างกันไม่ถึง 1 เดือน คำพูดยังไม่เหมือนเดิมเลย มีคนแปะลิ้งค์ 2 คำพูดเยอะ ทำให้มวลชนของตนเองลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ
จาาก 6 สาเหตุทำให้พรรคเพื่อไทยกล้าประกาศเลยว่า อภิสิทธิ์คือทรัพย์สินช้ันดีของเพื่อไทย ทำให้คนของฝั่งปชป.หันมาหาเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก
อภิสิทธิ์ โอนมวลชนของตนเองไปให้ยิ่งลักษณ์เพิ่มมากขึ้นทุกวัน
1.นโยบายที่ใช้หาเสียงไม่มีนโยบายใดที่โดนใจประชาชน สมัยเป๊นรัฐบาลก็ใช้นโยบายเดิมของพ.ต.ท.เป็นส่วนใหญ่่ ที่คิดใหม่ๆ เช่นไข่ชั่งกิโล เคารพธงชาติ ก็ไม่เวอร์ค
2.หาเสียงโดยให้มวลชนเกลียดพ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่โกง ไม่จงรักภักดี
(ใช้ได้ผลในภาคใต้ ) จนถึงเรื่องเผาบ้านเผาเมือง ขายชุดดดำยิงกันเอง คำพูดขุดหลังนี้ผลักมวลชวลกลุ่มใหญ่ให้ไปอยู่กับยิ่งลักษณ์ ดูจากผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาที่ให้รับเงินม๋ากาเบอร์ 1
3.ชอบนำสถาบันมากล่าวหาฝ่ายตรงข้าม ตั้งแต่เรื่อล้มเจ้า ยันเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นประธานาธิบดี ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงาการนำประชาชนมาถวายความจงรักภักดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็เกิดในสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ในปี 49 และยิ่งลักษณ์ ในปี 55 โดยเฉพาะสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงขึ้น เสด็จเยี่ยมพสกนิกรได้มากขึ้น ทรงแย้มพระสรวลให้กับพสกนิกรก็เกิดในรัฐบาลนี้ แล้วสมัยอภิสิทธิ์ละมีงานใดบ้างที่แสดงออกถึงความจงรักภักดี งานวันเฉลิมฯยังโยนให้เนวินเป็นคนจัด ทำให้มวลชนของตนหันมาให้การสนับสนุนรัฐบาลมากขึ้น
3.เล่นการเมืองในระบอบแต่ไม่ชอบระบอบ เคยบอยคอตการเลือกตั้ง เคยขอนายกม.7 เคยได้เป็นนายกด้วยช่องทางพิเศษ เคยจ้างมวลชนของตนเองไปตามม็อบต่าง ๆ ที่ต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เคยแสดงความยินดีกับบุคคลที่นิยมรัฐบาลนอกระบอบ ล่าสุดถึงกับชักชวนให้คนล้มประชามติ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ตรงนี้ได้ผลักมวลชนที่มีความรู้ นักศึกษา นักวิชาการประชาธิปไตยรวมถึงประชาชนที่ต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้า หันไปสนับสนุนรัฐบาลเป็นจำนวนมาก
4.เป็นฝ่ายค้านในระบอบแทนที่จะตรวจสอบเรื่องการทุจริตของรัฐบาลชุดนี้กับไปเล่นเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม พูดผิดพูดถูก สร้างวาทะกรรมกล่าวหารัฐบาลรายวัน นอกจากไม่ได้มวลชนเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเสียมวลชนของตนเอง ไปเรื่อยๆ เพราะรัฐบาลเดินหน้าทำงาน คนเห็นผลงาน ล่าสุดเรื่องลดภาษีบุคคลธรรมดาในปี56
แม้มวลชนของปชชปยังให้การสนับสนุน เพราะได้ส่วนลดเยอะ
5.คดีความต่างๆ ที่เคยสร้างวาทะกรรมโยนความผิดหรือใส่ร้ายผู้อื่น เริ่่มถึงตัวเองแล้ว เช่น คดีหนีทหาร สลายการชุมนุม ในอนาคตคงไม่สามารถทำงานให้ประชาชนได้แล้ว เพราะต้องขึ้นศาลแก้ขอกล่าวหาให้ตัวเองจนตายคดียังไม่จบเลย
6.การที่เป็นคนชอบพูด ทำให้จำคำพูดของตนเองไม่ได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง บางครั้งห่างกันไม่ถึง 1 เดือน คำพูดยังไม่เหมือนเดิมเลย มีคนแปะลิ้งค์ 2 คำพูดเยอะ ทำให้มวลชนของตนเองลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ
จาาก 6 สาเหตุทำให้พรรคเพื่อไทยกล้าประกาศเลยว่า อภิสิทธิ์คือทรัพย์สินช้ันดีของเพื่อไทย ทำให้คนของฝั่งปชป.หันมาหาเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก