จากข่าวที่เห็นว่าจะสร้างรถไฟความเร็วสูงบ้านเรา เนื่องด้วยเป็นคนบ้ารถไฟพอสมควร และคุ้นเคยกับระบบรางจีนค่อนข้างมาก
แต่จากเนื้อข่าวและข้่อมูลบนอินเทอร์เน็ท ที่แทบไม่มี
เลยอยากจะเปิดประเด็นพูดคุยเกี่ยวกับต้นทุนที่แท้จริง และรูปแบบของระบบที่จีนมาเสนอ รวมถึง สภาพการ์ณปัจจุบันของระบบรางไทยครับ
ผมเข้าใจว่า ในห้องนี้มีคนที่มีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับระบบรางไทยค่อนข้างมาก เลยอยากเปิดประเด็นมาถกกันครับ
ผมขอเริ่มก่อนละกันครับ
--- ส่วนตัวคือ ยังไม่อยากให้สร้างครับ ---
เหตุผลหลัก - จากที่พอได้ศึกษามา เข้าใจว่ารถไปความเร็วสูงของจีนที่ถูกสร้างทั้งระบบเป็นเส้นทางที่ใช้ขนคนอย่างเดียว(passenger delicated line)มานี้ ถูกสร้างด้่วยเหตุผลที่ว่า ทางรถไฟปรกติ มีความจุที่ไม่สามารถรองรับเพิ่มเติมได้อีก ล้นถึงขนาด เส้น ปักกิ่งเซี่ยงไฮ้ ที่มีสี่ราง ในหลายๆช่วง (สองรางคู่) ถูกรถสินค้าเบียดจนเต็มตลอด เพราะฉะนั้น การลงทุนมูลค่ามหาศาลเพื่อสร้างระบบรางขนคนและลดความแออัดของรางเก่าเพื่อนำไปใช้ขนส่งสินค้าได้มากขึ้น ทำให้มีรายได้มากขึ้น แล้วเอารายได้นั้นมาโป๊ะ ค่ารถความเร็วสูงให้อยู่ในจุดที่รับได้
ทีนี้ บ้านเราไม่ได้มีสภาพดังกล่าวเลย เรามีแต่รางเดี่ยว แล้วถ้าสร้างขึ้นมาจริงๆ เราจะนำรายได้ที่ไหนมาโป๊ะ ครับ? ลองดูไต้หวันก็ได้ เขาสร้างขึ้นมาจากศูนย์ เหมือนที่เราจะทำ สุดท้ายก็ไม่ไหวกับต้นทุนที่ต้องแบกรับ จน รัฐต้องเข้าไปอุ้มครับ
เหตุผลรอง -- ความแออัดของชุมชนสองข้างทางระบบราง ของ จีนหรือญี่ปุ่น มีสูงมาก ทำให้มีความต้องการการใช้งานมาก ยกตัวอย่างเช่น ในจีนเอง เขตเจียงหนาน เส้นหลักคือ ฮู่หนิง เก่าเถี่ย คือ เส้น300โลจาก นานจิง ไป เซี่ยงไฮ้ ผ่านเมืองใหญ่หลายเมืองที่เศรษฐกิจแข็งแกร่ง เส้นนี้ ตอนเช้าของทุกวัน รถ16โบกี้ 1000 กว่าคนออกทุก 5 นาที เต็มทุกรอบครับ เพราะเส้นนี้อย่างเดียวมีประชากรเป็นร้อยล้านสองข้างทาง เราไม่ได้มีเยอะขนาดนั้นนะครับ
ข้อโต้แย้งเหตุผลหลัก -- จากที่บอกว่าต้นทุนประมาณ 60ล้านหยวน ต่อ กม. และ ความสามารถรองรับความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กม./ชม. ผมชักไม่มั่นใจว่าเสปคนี้เป็นความเร็วสูงPDLอย่างที่เราเข้าใจกันรึเปล่า? เพราะถ้า PDL ยกสูงของจีนที่ให้อยู่ในเส้นหลักปัจจุบัน มูลค่าก่อนสร้างเป็น100-200ล้านหยวนต่อ กม. ถ้าคนที่คุ้นเคยกับรถไฟจีนจะรู้ว่า 250 กม./ชม. จะมีสองประเภทคือ นำรางเก่ามาอัพเกรด หรือ สร้างรางใหม่ที่ใช้ขนของด้วย แล้วที่บอกความเร็วสูงคือนำ ชินกันเซ็น E2 หรือ CRH6 ที่จะออกมาปีหน้า มาวิ่ง และความเร็วเฉลี่ยจริงๆอยู่ 120-160 เท่านั้น ไม่ได้ความเร็วสูงแต่อย่างใด ยกตัวอย่างเช่น รถ D หรือ ต้งเชอจู่ จาก เซี่ยงไฮ้ไปเซี่ยเหมิน ก็นำชินกันเซ็นมาวิ่ง แต่พันกิโล ก็เป็นสิบชั่วโมงเหมือนกันครับ
หรือว่ามันเป็นเพียงรถไฟรางคู่?ที่โฆษนาว่าเป็นความเร็วสูงเพื่อจูงใจเท่านั้น
ข้อโต้แย้ง เหตุผลรอง --- จริงๆการทำระบบคมนาคมชั้นดีเป็นเรื่องที่ดีมากครับ เราจะได้กระจายความแออัดออกจากกรุงเทพ เพิ่มการขยายตัวของเศรษฐกิจ และ พอมีเมืองมากกว่าเมืองเดียว การใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเองครับ ซึ่งรายได้ภาษีที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการลดใช้น้ำมัน และการลดความแออัดของกรุงเทพ อาจจะคุ้มค่าแก่รัฐก็เป็นไปได้ครับ
ข้อมูลที่ไม่ทราบ - 1. ปัจจุบัน ระบบรางเราเต็มขนาดไหน 2. เราต้องมีคนใช้เท่าไรถึงจะคุ้มค่าก่อสร้างในระยะยาว (ในที่นี้คือ รัฐวิสาหกิจอันใหม่ต้องอยู่ด้วยตัวเอง เซอร์วิสหนี้ได้ โดยที่รัฐไม่ต้องไปอุ้มทุกปี)? 3. คนไทยจะรับได้กับค่าตั๋ว1500บาทหรือไม่ ถ้าเทียบกับรถทัวร์ที่ถือเป็นหัวใจหลักของเราแล้วครับ?
ช่วยกันออกความเห็นหน่อยครับ เราจะได้มีข้อมูลศึกษากันมากกว่ามาเดาๆกันเองครับ
ขอบคุณครับ
เรื่องต้นทุนของระบบรางในประเทศไทย และรถไฟความเร็วสูง{แตกประเด็นจาก X13086449}
แต่จากเนื้อข่าวและข้่อมูลบนอินเทอร์เน็ท ที่แทบไม่มี
เลยอยากจะเปิดประเด็นพูดคุยเกี่ยวกับต้นทุนที่แท้จริง และรูปแบบของระบบที่จีนมาเสนอ รวมถึง สภาพการ์ณปัจจุบันของระบบรางไทยครับ
ผมเข้าใจว่า ในห้องนี้มีคนที่มีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับระบบรางไทยค่อนข้างมาก เลยอยากเปิดประเด็นมาถกกันครับ
ผมขอเริ่มก่อนละกันครับ
--- ส่วนตัวคือ ยังไม่อยากให้สร้างครับ ---
เหตุผลหลัก - จากที่พอได้ศึกษามา เข้าใจว่ารถไปความเร็วสูงของจีนที่ถูกสร้างทั้งระบบเป็นเส้นทางที่ใช้ขนคนอย่างเดียว(passenger delicated line)มานี้ ถูกสร้างด้่วยเหตุผลที่ว่า ทางรถไฟปรกติ มีความจุที่ไม่สามารถรองรับเพิ่มเติมได้อีก ล้นถึงขนาด เส้น ปักกิ่งเซี่ยงไฮ้ ที่มีสี่ราง ในหลายๆช่วง (สองรางคู่) ถูกรถสินค้าเบียดจนเต็มตลอด เพราะฉะนั้น การลงทุนมูลค่ามหาศาลเพื่อสร้างระบบรางขนคนและลดความแออัดของรางเก่าเพื่อนำไปใช้ขนส่งสินค้าได้มากขึ้น ทำให้มีรายได้มากขึ้น แล้วเอารายได้นั้นมาโป๊ะ ค่ารถความเร็วสูงให้อยู่ในจุดที่รับได้
ทีนี้ บ้านเราไม่ได้มีสภาพดังกล่าวเลย เรามีแต่รางเดี่ยว แล้วถ้าสร้างขึ้นมาจริงๆ เราจะนำรายได้ที่ไหนมาโป๊ะ ครับ? ลองดูไต้หวันก็ได้ เขาสร้างขึ้นมาจากศูนย์ เหมือนที่เราจะทำ สุดท้ายก็ไม่ไหวกับต้นทุนที่ต้องแบกรับ จน รัฐต้องเข้าไปอุ้มครับ
เหตุผลรอง -- ความแออัดของชุมชนสองข้างทางระบบราง ของ จีนหรือญี่ปุ่น มีสูงมาก ทำให้มีความต้องการการใช้งานมาก ยกตัวอย่างเช่น ในจีนเอง เขตเจียงหนาน เส้นหลักคือ ฮู่หนิง เก่าเถี่ย คือ เส้น300โลจาก นานจิง ไป เซี่ยงไฮ้ ผ่านเมืองใหญ่หลายเมืองที่เศรษฐกิจแข็งแกร่ง เส้นนี้ ตอนเช้าของทุกวัน รถ16โบกี้ 1000 กว่าคนออกทุก 5 นาที เต็มทุกรอบครับ เพราะเส้นนี้อย่างเดียวมีประชากรเป็นร้อยล้านสองข้างทาง เราไม่ได้มีเยอะขนาดนั้นนะครับ
ข้อโต้แย้งเหตุผลหลัก -- จากที่บอกว่าต้นทุนประมาณ 60ล้านหยวน ต่อ กม. และ ความสามารถรองรับความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กม./ชม. ผมชักไม่มั่นใจว่าเสปคนี้เป็นความเร็วสูงPDLอย่างที่เราเข้าใจกันรึเปล่า? เพราะถ้า PDL ยกสูงของจีนที่ให้อยู่ในเส้นหลักปัจจุบัน มูลค่าก่อนสร้างเป็น100-200ล้านหยวนต่อ กม. ถ้าคนที่คุ้นเคยกับรถไฟจีนจะรู้ว่า 250 กม./ชม. จะมีสองประเภทคือ นำรางเก่ามาอัพเกรด หรือ สร้างรางใหม่ที่ใช้ขนของด้วย แล้วที่บอกความเร็วสูงคือนำ ชินกันเซ็น E2 หรือ CRH6 ที่จะออกมาปีหน้า มาวิ่ง และความเร็วเฉลี่ยจริงๆอยู่ 120-160 เท่านั้น ไม่ได้ความเร็วสูงแต่อย่างใด ยกตัวอย่างเช่น รถ D หรือ ต้งเชอจู่ จาก เซี่ยงไฮ้ไปเซี่ยเหมิน ก็นำชินกันเซ็นมาวิ่ง แต่พันกิโล ก็เป็นสิบชั่วโมงเหมือนกันครับ
หรือว่ามันเป็นเพียงรถไฟรางคู่?ที่โฆษนาว่าเป็นความเร็วสูงเพื่อจูงใจเท่านั้น
ข้อโต้แย้ง เหตุผลรอง --- จริงๆการทำระบบคมนาคมชั้นดีเป็นเรื่องที่ดีมากครับ เราจะได้กระจายความแออัดออกจากกรุงเทพ เพิ่มการขยายตัวของเศรษฐกิจ และ พอมีเมืองมากกว่าเมืองเดียว การใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเองครับ ซึ่งรายได้ภาษีที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการลดใช้น้ำมัน และการลดความแออัดของกรุงเทพ อาจจะคุ้มค่าแก่รัฐก็เป็นไปได้ครับ
ข้อมูลที่ไม่ทราบ - 1. ปัจจุบัน ระบบรางเราเต็มขนาดไหน 2. เราต้องมีคนใช้เท่าไรถึงจะคุ้มค่าก่อสร้างในระยะยาว (ในที่นี้คือ รัฐวิสาหกิจอันใหม่ต้องอยู่ด้วยตัวเอง เซอร์วิสหนี้ได้ โดยที่รัฐไม่ต้องไปอุ้มทุกปี)? 3. คนไทยจะรับได้กับค่าตั๋ว1500บาทหรือไม่ ถ้าเทียบกับรถทัวร์ที่ถือเป็นหัวใจหลักของเราแล้วครับ?
ช่วยกันออกความเห็นหน่อยครับ เราจะได้มีข้อมูลศึกษากันมากกว่ามาเดาๆกันเองครับ
ขอบคุณครับ