*** กระทู้นี้ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย แต่ถ้าโดนใจใครกระแทกโหวต กระแทกกิฟได้ตามอัธยาศัยจ้า ***
อันเรื่องราวเหล่านี้ มิใช่เรื่องของตัวคนสวยเช่นเรา แต่เป็นเรื่องของคนแถวนี้
แอบคิดหละสิว่าแถวไหน ก็แถวนี้นั่นหละ ^_^ ใครอยากจะอ่านเนื้อ ๆ
เชิญประตูถัดไปเจ้าค่ะ เพราะอิฉันชอบน้ำคลุกคลิก และเพื่ออรรถรสในการอ่าน
อิฉันอาจจะต้องใช้ภาษาที่ค่อนข้างโอเว่อร์นะคะ แต่รับรองว่าแซบเว่อร์
แน่นอนจ้า และคอนเฟิร์มว่าทุกเรื่องที่คนสวยเช่นเราเขียนมาแชร์นั้นมิได้
ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อเป็นพร็อตเรื่องนิยาย เพราะชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายซะอีก
แต่ถ้าใครไม่เชื่อก็ขอได้โปรดข้ามกระทู้นี้ไปแบบเงียบ ๆ อย่าส่งเสียงเป็น
การรบกวนผู้อื่นนะคะ (ด้วยความเคารพยิ่ง)
เด็กน้อยซึ่งเกิดและเติบโตมาท่ามกลางบรรยากาศที่ล้อมรอบด้วยภูเขา
เป็นระยะเวลากว่า 12 ปี แต่แล้ววันหนึ่งก็เหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิต เด็กหนุ่มโดนคำสั่ง
สายฟ้าฟาดบุพการี ให้ต้องระหกระเหินจากบ้านที่อยู่พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว
ท่านพ่อ : เปิดเทอมหน้าต้องไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯนะ ไปช่วยอาเค้าดูแลน้อง
เพราะว่าอาเค้าทำงานไม่มีใครคอยรับส่งน้องไปโรงเรียน
A : น้ำตานองหน้า ไม่อยากจากบ้าน จากพี่จากน้อง จากครอบครัว แต่ก็ต้องไป
เพราะขัดคำสั่งท่านพ่อไม่ได้
1 ปีผ่านไป จากเด็กน้อย เริ่มเติบโตเป็นวัยรุ่น ที่สำคัญ (หล่อซะด้วย)
จากที่เคยเป็นเด็กเรียบร้อยก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเด็กใจแตก อ่านไม่ผิดหรอก
เด็กใจแตก ติดหญิง ติดเที่ยว แต่ยังไม่แว้นนะคะ เพราะตอนนั้นยังไม่มีรถ
มอเตอร์ไซด์ห้าง มีแต่ BM.....X 5555 จริง ๆ นะนี่ไม่ได้โม้ จนสุดท้ายผู้ปกครอง
เริ่มไม่ไหวจะเคลียร์กับพฤติกรรมเด็กคนนี้ จึงได้ส่งตัวกลับให้มาอยู่กับครอบครัว
เหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ นิสัยที่กล่าวมาข้างต้น และเมื่อวันเวลาผันผ่าน
ด้วยความที่ท่านพ่อเป็นคนเข้มงวด ประกอบกับที่บ้านฐานะระดับรากหญ้า
จึงทำให้ต้องอยู่แบบกระเบียดกระเสียดพอสมควร เรียกได้ว่าลูกคนไหนไม่รักที่จะเรียน
พ่อให้ออกจากโรงเรียนทันที พร้อมกับคำพูดที่ว่า " เงินทุกบาทของพ่อมีค่า
และหามาด้วยความยากลำบากถ้าลูกคนไหนไม่ทำตัวให้รู้คุณค่าของเงินด้วย
การตั้งใจเรียน คนนั้นก็ต้องออกมารู้จักคุณค่าของเงินด้วยตัวเอง " แปลสั้น ๆ
กระชับแบบได้ใจความคือ (เอ็งต้องโดนตัดหางปล่อยวัดชัวร์) โหดไปไหนหละนี่ท่านพ่อ
ลองเดากันเล่น ๆ ดูนะคะว่าลูกคนไหนที่โดนชะตาฟ้าลิขิต ใช่แล้วเด็กหนุ่ม
A โดนไปเต็ม ๆ จำได้ว่าตอนนั้น A กำลังเรียนชั้น ม.2 จะขึ้น ม.3 แต่ใช่ว่า
A จะสำนึกว่าพ่อต้องการจะสั่งสอนให้ลูกคิดได้ เปล่า A คิดไม่ได้ ด้วยความ
เป็นเด็ก A คิดแค่ว่า พ่อไม่รัก พอโตมาพ่อก็ผลักใสไล่ส่งไปอยู่กรุงเทพฯ
พอโดนส่งกลับมาบ้าน ก็ให้ออกจากโรงเรียน จนในที่สุด A ก็หนีเตลิดเปิดเปิง
ไประหกระเหินเห็นเด็กหนีออกจากบ้าน แต่อะอะอะ อย่าคิดนะคะว่าท่านพ่อจะตามไปง้อ
ไม่เลยสักนิด และก็ไม่กล่าวถึง ไม่ถามถึงลูกคนนี้กับใครเลยสักคน ทั้ง ๆ ที่
คนเป็นแม่แอบติดต่อลูกชายด้วยความเป็นห่วง โดยที่ท่านพ่อก็รู้แต่ก็ไม่คิด
แม้แต่จะถามถึง
อะเช็คเรตติ้ง อะเช็คเรตติ้ง อะเช็คเรตติ้งสักนิดนึง (ถึงไม่ได้เสียงดีแบบบลูเบอรี่
แต่ลีลาดีชนะเลิศจ้า) ถ้าใครอยากทราบเรื่องราวถัดไปรบกวนช่วยกันโหวตนิดนึงนะคะ เดี๋ยวมาต่อจ้า
*** จากเด็กหลงผิด กลายเป็นเจ้าของธุรกิจรายได้ 8 หลัก ***
อันเรื่องราวเหล่านี้ มิใช่เรื่องของตัวคนสวยเช่นเรา แต่เป็นเรื่องของคนแถวนี้
แอบคิดหละสิว่าแถวไหน ก็แถวนี้นั่นหละ ^_^ ใครอยากจะอ่านเนื้อ ๆ
เชิญประตูถัดไปเจ้าค่ะ เพราะอิฉันชอบน้ำคลุกคลิก และเพื่ออรรถรสในการอ่าน
อิฉันอาจจะต้องใช้ภาษาที่ค่อนข้างโอเว่อร์นะคะ แต่รับรองว่าแซบเว่อร์
แน่นอนจ้า และคอนเฟิร์มว่าทุกเรื่องที่คนสวยเช่นเราเขียนมาแชร์นั้นมิได้
ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อเป็นพร็อตเรื่องนิยาย เพราะชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายซะอีก
แต่ถ้าใครไม่เชื่อก็ขอได้โปรดข้ามกระทู้นี้ไปแบบเงียบ ๆ อย่าส่งเสียงเป็น
การรบกวนผู้อื่นนะคะ (ด้วยความเคารพยิ่ง)
เด็กน้อยซึ่งเกิดและเติบโตมาท่ามกลางบรรยากาศที่ล้อมรอบด้วยภูเขา
เป็นระยะเวลากว่า 12 ปี แต่แล้ววันหนึ่งก็เหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิต เด็กหนุ่มโดนคำสั่ง
สายฟ้าฟาดบุพการี ให้ต้องระหกระเหินจากบ้านที่อยู่พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว
ท่านพ่อ : เปิดเทอมหน้าต้องไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯนะ ไปช่วยอาเค้าดูแลน้อง
เพราะว่าอาเค้าทำงานไม่มีใครคอยรับส่งน้องไปโรงเรียน
A : น้ำตานองหน้า ไม่อยากจากบ้าน จากพี่จากน้อง จากครอบครัว แต่ก็ต้องไป
เพราะขัดคำสั่งท่านพ่อไม่ได้
1 ปีผ่านไป จากเด็กน้อย เริ่มเติบโตเป็นวัยรุ่น ที่สำคัญ (หล่อซะด้วย)
จากที่เคยเป็นเด็กเรียบร้อยก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเด็กใจแตก อ่านไม่ผิดหรอก
เด็กใจแตก ติดหญิง ติดเที่ยว แต่ยังไม่แว้นนะคะ เพราะตอนนั้นยังไม่มีรถ
มอเตอร์ไซด์ห้าง มีแต่ BM.....X 5555 จริง ๆ นะนี่ไม่ได้โม้ จนสุดท้ายผู้ปกครอง
เริ่มไม่ไหวจะเคลียร์กับพฤติกรรมเด็กคนนี้ จึงได้ส่งตัวกลับให้มาอยู่กับครอบครัว
เหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ นิสัยที่กล่าวมาข้างต้น และเมื่อวันเวลาผันผ่าน
ด้วยความที่ท่านพ่อเป็นคนเข้มงวด ประกอบกับที่บ้านฐานะระดับรากหญ้า
จึงทำให้ต้องอยู่แบบกระเบียดกระเสียดพอสมควร เรียกได้ว่าลูกคนไหนไม่รักที่จะเรียน
พ่อให้ออกจากโรงเรียนทันที พร้อมกับคำพูดที่ว่า " เงินทุกบาทของพ่อมีค่า
และหามาด้วยความยากลำบากถ้าลูกคนไหนไม่ทำตัวให้รู้คุณค่าของเงินด้วย
การตั้งใจเรียน คนนั้นก็ต้องออกมารู้จักคุณค่าของเงินด้วยตัวเอง " แปลสั้น ๆ
กระชับแบบได้ใจความคือ (เอ็งต้องโดนตัดหางปล่อยวัดชัวร์) โหดไปไหนหละนี่ท่านพ่อ
ลองเดากันเล่น ๆ ดูนะคะว่าลูกคนไหนที่โดนชะตาฟ้าลิขิต ใช่แล้วเด็กหนุ่ม
A โดนไปเต็ม ๆ จำได้ว่าตอนนั้น A กำลังเรียนชั้น ม.2 จะขึ้น ม.3 แต่ใช่ว่า
A จะสำนึกว่าพ่อต้องการจะสั่งสอนให้ลูกคิดได้ เปล่า A คิดไม่ได้ ด้วยความ
เป็นเด็ก A คิดแค่ว่า พ่อไม่รัก พอโตมาพ่อก็ผลักใสไล่ส่งไปอยู่กรุงเทพฯ
พอโดนส่งกลับมาบ้าน ก็ให้ออกจากโรงเรียน จนในที่สุด A ก็หนีเตลิดเปิดเปิง
ไประหกระเหินเห็นเด็กหนีออกจากบ้าน แต่อะอะอะ อย่าคิดนะคะว่าท่านพ่อจะตามไปง้อ
ไม่เลยสักนิด และก็ไม่กล่าวถึง ไม่ถามถึงลูกคนนี้กับใครเลยสักคน ทั้ง ๆ ที่
คนเป็นแม่แอบติดต่อลูกชายด้วยความเป็นห่วง โดยที่ท่านพ่อก็รู้แต่ก็ไม่คิด
แม้แต่จะถามถึง
อะเช็คเรตติ้ง อะเช็คเรตติ้ง อะเช็คเรตติ้งสักนิดนึง (ถึงไม่ได้เสียงดีแบบบลูเบอรี่
แต่ลีลาดีชนะเลิศจ้า) ถ้าใครอยากทราบเรื่องราวถัดไปรบกวนช่วยกันโหวตนิดนึงนะคะ เดี๋ยวมาต่อจ้า