ตัวเลขเงินที่หายไป จาก นโยบายจำนำข้าว และ รถคันแรก มีมูลค่า ที่ "น่าเสียดาย" เอามาก ๆ ซึ่งถ้าหากมองว่า รัฐนำเงินตรงนั้น ไป อุดหนุน ด้านอื่น ๆ ได้ เยอะกว่า หรือ คุ้มค่า กว่า หรือ ไม่
ลองดูนะครับ
1. รับจำนำข้าว.....กว่าที่รัฐจะเสียเงิน ชาวนาต้องนำข้าวมาขายนะครับ ...และข้าวมาจากไหน แน่นอนว่า ไม่ได้มาจากการนั่งสมาธิ หรือ นอนเฝ้าท้องนาเฉย ๆ ต้องมีต้นทุนการผลิตอื่น ๆ ประกอบด้วย
***และ ในการซื้อ-ขายต้นทุนการผลิต รัฐฯ รับภาษี มูลค่าเพิ่มเรียบร้อยไปแล้วครับ***
ถามว่า ก็ รัฐได้ภาษีอยู่แล้วไง จำนำข้าวเกี่ยวอะไรด้วย......นโยบายจำนำข้าว ทำให้ ชาวนาลงทุนผลิตข้าวมากขึ้น ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการจำหน่ายต้นทุนการผลิต อื่น ๆ ก็ เก็บได้มากขึ้น ...ต้นทุนการผลิต มีเยอะ ขี้เกียจสาธยาย.... เพราะฉะนั้นผมเห็นว่า นโยบายนี้ รัฐบาลเก็บภาษีได้มาแล้วประมาณนึง ก็ เติมเงินงบประมาณลงไปเพิ่ม และทีนี้ ถ้าหากข้าวที่รับจำนำมา สามารถนำไปขายได้ราคาดี ก็ ไม่น่าขาดทุนเยอะมาก หรือ อาจจะมีกำไร ใน อนาคต
2. รถคันแรก หลักการคิด คล้าย ๆ จำนำข้าว คือ รัฐบาลช่วยเอกชนในเรื่องของการส่งเสริมการขาย ทำให้ รถขายดี เมื่อ รถขายดี เกิดการจ้างงานที่มากขึ้น แรงงานมากจำนวนการบริโภคก็มาก และ สินค้าขายดี ก็ เกิดการลงทุนมากตามไปด้วย และ รัฐบาล ก็ได้รับ เงินภาษีทางตรงจากตรงนั้นมาแล้ว ต่อไปอีก ....การที่คนเรามีรถสักคัน จะเดินทางไปไหน ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ไหนจะค่าเบี้ยประกัน ซ่อมบำรุง ของแต่งรถ ต่าง ๆ กระทั่ง ผู้ให้บริการรับฝากรถ ก็ ยังมีรายได้เพิ่มไปด้วย ...ส่วนผลกระทบที่ว่า รถติด เพราะ รถคันแรกนั้น ก็ มีส่วน แต่ ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเค้าพิจารณากันเอาเองดีกว่ามั้ยครับ ไหนจะเรื่องหนี้สิน หนี้สูญ NPL อะไรต่าง ๆ มันเป็นเรื่องของ ผู้ซื้อ-ผู้ขาย-ผู้ให้กู้ ไม่เกี่ยวกับ รัฐบาล นะครับ
ใน นโยบายนี้ รัฐบาล ไม่ได้บอกให้ ประชาชนไปกู้เงินมาซื้อ หรือ บอกให้ สถาบันการเงินอนุมัตินะครับ รัฐบาลเพียงยกเว้นภาษีแค่นั้นเอง
นโยบายของรัฐบาลนี้ ผู้ที่ได้ประโยชน์ คือ ผู้ที่ทำมาหากิน ครับ ไม่ใช่ พวกที่นั่งกินนอนกิน หรือ ทำนาบนหลังคนกิน ไปวัน ๆ
ปัญหาการจราจร ขอ แอบสงสัยว่า ผู้ว่า กทม. ถ้าหากสมัยหน้า ยังคงเป็น สุขุมพันธ์ ก็ คง ไม่วาย กล่าวหา นโยบายรถคันแรกของรัฐบาล หรือ นโยบาย การก่อสร้างรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ของ รัฐบาล ว่า เป้น เหตุให้รถติด ในขณะที่ ตัวเองนั้น มี นโยบายสร้างอุโมงค์ลอดทางแยก ก็ บอกว่า เป็น การแก้ไขปัญหาจราจร...ซึ่งกว่าจะเสร็จ รถก็ติด พอ ๆ กัน
จำนำข้าว / รถคันแรก ขาดทุนเยอะ หรือ สูญเปล่า จริงเหรอครับ
ลองดูนะครับ
1. รับจำนำข้าว.....กว่าที่รัฐจะเสียเงิน ชาวนาต้องนำข้าวมาขายนะครับ ...และข้าวมาจากไหน แน่นอนว่า ไม่ได้มาจากการนั่งสมาธิ หรือ นอนเฝ้าท้องนาเฉย ๆ ต้องมีต้นทุนการผลิตอื่น ๆ ประกอบด้วย
***และ ในการซื้อ-ขายต้นทุนการผลิต รัฐฯ รับภาษี มูลค่าเพิ่มเรียบร้อยไปแล้วครับ***
ถามว่า ก็ รัฐได้ภาษีอยู่แล้วไง จำนำข้าวเกี่ยวอะไรด้วย......นโยบายจำนำข้าว ทำให้ ชาวนาลงทุนผลิตข้าวมากขึ้น ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการจำหน่ายต้นทุนการผลิต อื่น ๆ ก็ เก็บได้มากขึ้น ...ต้นทุนการผลิต มีเยอะ ขี้เกียจสาธยาย.... เพราะฉะนั้นผมเห็นว่า นโยบายนี้ รัฐบาลเก็บภาษีได้มาแล้วประมาณนึง ก็ เติมเงินงบประมาณลงไปเพิ่ม และทีนี้ ถ้าหากข้าวที่รับจำนำมา สามารถนำไปขายได้ราคาดี ก็ ไม่น่าขาดทุนเยอะมาก หรือ อาจจะมีกำไร ใน อนาคต
2. รถคันแรก หลักการคิด คล้าย ๆ จำนำข้าว คือ รัฐบาลช่วยเอกชนในเรื่องของการส่งเสริมการขาย ทำให้ รถขายดี เมื่อ รถขายดี เกิดการจ้างงานที่มากขึ้น แรงงานมากจำนวนการบริโภคก็มาก และ สินค้าขายดี ก็ เกิดการลงทุนมากตามไปด้วย และ รัฐบาล ก็ได้รับ เงินภาษีทางตรงจากตรงนั้นมาแล้ว ต่อไปอีก ....การที่คนเรามีรถสักคัน จะเดินทางไปไหน ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ไหนจะค่าเบี้ยประกัน ซ่อมบำรุง ของแต่งรถ ต่าง ๆ กระทั่ง ผู้ให้บริการรับฝากรถ ก็ ยังมีรายได้เพิ่มไปด้วย ...ส่วนผลกระทบที่ว่า รถติด เพราะ รถคันแรกนั้น ก็ มีส่วน แต่ ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเค้าพิจารณากันเอาเองดีกว่ามั้ยครับ ไหนจะเรื่องหนี้สิน หนี้สูญ NPL อะไรต่าง ๆ มันเป็นเรื่องของ ผู้ซื้อ-ผู้ขาย-ผู้ให้กู้ ไม่เกี่ยวกับ รัฐบาล นะครับ
ใน นโยบายนี้ รัฐบาล ไม่ได้บอกให้ ประชาชนไปกู้เงินมาซื้อ หรือ บอกให้ สถาบันการเงินอนุมัตินะครับ รัฐบาลเพียงยกเว้นภาษีแค่นั้นเอง
นโยบายของรัฐบาลนี้ ผู้ที่ได้ประโยชน์ คือ ผู้ที่ทำมาหากิน ครับ ไม่ใช่ พวกที่นั่งกินนอนกิน หรือ ทำนาบนหลังคนกิน ไปวัน ๆ
ปัญหาการจราจร ขอ แอบสงสัยว่า ผู้ว่า กทม. ถ้าหากสมัยหน้า ยังคงเป็น สุขุมพันธ์ ก็ คง ไม่วาย กล่าวหา นโยบายรถคันแรกของรัฐบาล หรือ นโยบาย การก่อสร้างรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ของ รัฐบาล ว่า เป้น เหตุให้รถติด ในขณะที่ ตัวเองนั้น มี นโยบายสร้างอุโมงค์ลอดทางแยก ก็ บอกว่า เป็น การแก้ไขปัญหาจราจร...ซึ่งกว่าจะเสร็จ รถก็ติด พอ ๆ กัน