จากเด็กลูกทุ่งคนหนึ่งที่พกพาความฝันมาจากแดนไกล
มีเพียงความมั่นใจเล็ก ๆ ที่ได้รับจากคนรอบกายของเขาและจากแม่ของเขา
ถ้อยคำบางคำที่เขาเคยบอกเอาไว้ยังก้องอยู่ในหู
"แม่เคยบอกว่า คนอื่นจะร้องเพราะอย่างไรเขาไม่รู้ แต่ว่าเขาฟังลูกตัวเองร้องเมื่อไรเขาก็จะบอกว่าเพราะสำหรับเขา.."
"เวลาที่แม่ฟังผมร้องเพลงก็จะยิ้ม..รู้สึกแม่จะมีความสุขมากในตอนนั้นและต๊ะก็จะีมีความสุขไปกับแม่ด้วย.."
และเพื่อความสุขนั้น เขาก็พร้อมที่จะ "สู้เพื่อแม่"
บนเวทีที่ยิ่งใหญ่อย่าง "เดอะวอยส์ไทยแลนด์" รายการนี้
ถ้อยคำที่กลั่นออกมาจากความรู้สึก ผ่านเสียงร้องและลูกเอื้อนที่ยากนักจะหาได้ในเด็กวัยเดียวกัน เขาบรรจงเปล่งถ้อยคำรำพันเพื่อแสดงให้แม่รู้ว่า เขารู้สึกอย่างไรกับแม่ของเขา
"งานหนักงานเบา..จ้างใครเขาทำแทนก็ได้
เก็บแรงไว้กอดลูกชาย..ในวันลูกกลับคืนนา..."
ท่ามกลางข้อครหาที่กระหน่ำเข้าใส่อย่างไม่ให้ตั้งตัว
"ลูกสาวของคุณแม่" ทำให้เขาถูกมองว่าเป็นเด็กผิดเพศ
ร่างกายที่ยังดูเด็กไม่สมวัย ทำให้เขาถูกหาว่าเอาความเป็นเด็กเข้าสู้เพื่อหาคะแนนสงสาร
ร้องได้ดีแต่เพลงลูกทุ่ง ทำให้เขาถูกหาว่าใช้ความ "mass" ของเพลงเพื่อเก็บคะแนน
ร้องได้ดีแค่แนวเดียว ทำให้เขาถูกมองว่าไม่เหมาะกับคำว่า "เดอะวอยส์" ของประเทศไทยที่ควรจะร้องให้ได้ดีทุกแนว
สิ่งเหล่านี้คงกดดันเขาอย่างหนัก หนักเสียจนเขาไม่อาจจะอ่านทุกคอมเมนท์ในยูทูป ไม่อาจจะอ่านทุกความเห็นในพันทิปได้
เขาคงบอกตัวเองได้แต่เพียงว่า เขาจะทำให้ดีที่สุด ในทุกโอกาสที่เขาได้ขึ้นเวที
ไม่ว่าเขาจะถูกจับให้เล่นบทอะไร
บทเด็กร้องขอตามไปเที่ยว บทหมอรำที่เกิดมาไม่เคยร้องไม่เคยรำ บทนักร้องเพลงสากลที่เคยได้แต่ร้องเล่น ๆ อยู่กับบ้านเท่านั้น แต่เขาก็ทำเพราะเขาเชื่อคนรอบข้างของเขาว่าเขาจะได้ก้าวข้ามความเป็น "ลูกทุ่ง" ในตัวของเขาไปได้
เขาไม่รู้หรอกว่าเขาทำได้ดีหรือไม่ แต่เขาก็ทำอย่างเต็มที่ ฝึกซ้อมจนเสียงแหบแห้ง ร้องจนเจ็บคอจากทอลซิลอักเสบ นอนดึกตื่นเช้าจนตาบวมแดง ระโหยโรยแรงอย่างไรเหน็ดเหนื่อยเพียงไหนเขาก็ใส่อย่างสุดฝีมือ เพียงเพื่อจะก้าวไปสู่วันนี้..วันที่แม่และเขารอคอย
เสียงอินโทรดังขึ้นด้วยอิเลคโทน มันแผ่วหวานปนเศร้ามาพร้อมกับเสียงเครื่องเป่าที่แผ่วโหย..เขามองหน้าแม่ด้วยสาตาของคนเป็นลูก
ลูกที่แบกรับความกดดันที่ถาโถมเข้าหาเพียงเพราะสาเหตุว่าเวทีแห่งนี้มันยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับเด็กลูกทุ่งอย่างเขา
ลูกที่แบกรับความหวังของแม่และครอบครัว ญาติพี่น้องและผองเพื่อน โดยเฉพาะทุกคะแนนโหวตมากมายที่ทำให้เขาผ่านมาจนถึงวันนี้ มันป็นคะแนนแห่งความรักความเมตตา จากคนที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย มันทำให้เขายิ่งบอกกับตัวเองว่าเขาจะผิดพลาดไม่ได้ เขาจะทำให้ทุกคนที่รักเขาผิดหวังไม่ได้
ไหลเล็ก ๆ ห่อลู่ตามนำหนักของภาระ ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มประสาเด็กกลับแทนที่ด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น คั้นเสียงออกมาจากหัวใจของคนเป็นลูก
"แบกเอาความฝันขึ้นมากรุงเทพ..
มีแม่เป็นสิ่งยึดมั่นจิตใจ..
ยืนแหงนมองเดือนและดาวบนฟ้า
นักร้องคนโปรดที่แม่ห่วงหา
คงได้เอื้อมมือคว้า..มาได้สักวัน..
แม่จ๋า...แม่คงไม่รู้หรอกว่านักร้องคนโปรดของแม่คนนี้..รู้สึกอย่างไร
"แบกคำว่ารักมามอบให้แม่...
วันนี้เป็นวันที่เรารอคอย
มือถือไมค์ลอยที่เคยวาดฝัน
แสงสีเวทีผู้ชมเป็นพัน
แต่ลูกไม่ลืมรักแม่..แบบเดิม..."
แม่คงอยากให้ผมชนะ ทุกคนที่รักผมคงอยากให้ผมประสบความสำเร็จ
"ขอแม่...จนฟัง..หลับตาแล้วนั่งฟังเพลงของหนู...
เข้ามาใกล้ๆ ที่ตรงหน้าจอ วันนี้ลูกแม่จะขอ ขอร้องเพลงกล่อมแม่..ออกทีวี.."
ผมอยากจะหาเงินให้แม่ ผมอยากจะใช้หนี้ให้แม่
"คงทำให้แม่ชื่นใจได้บ้าง...
นักร้องคนเก่าที่แม่ถนอม..
จะขอดูแลแม่เป็นอย่างดี
เหมือนแม่เลี้ยงดูจนมีวันนี้..
ขอเสาทีวีช่วยเป็นพยาน..."
แม่ครับ..วันนี้ถ้าผมแพ้..ผมคงไม่ได้เห็นแม่ยิ้มอย่างดีใจอีกแล้ว
"ขอแม่...จงฟัง...หลับตาแล้วนั่งฟังเพลงของหนู"
เข้ามาใกล้ ๆ ที่ตรงหน้าจอ วันนี้ลูกแม่จะขอ ขอร้องเพลงกล่อมแม่ออกทีวี.."
แม่ครับ ผมขอโทษ...
แม่อย่าร้องไห้สิครับ
"เข้ามาใกล้ ๆ ที่ตรงหน้าจอ วันนี้ลูกแม่จะขอ....
ขอร้องเพลงกล่อม...
แม่....
ออก...ที...วี..."
เสียงปรบมือดังกึกก้อง ความรู้สึกที่เขาถ่ายทอดออกมาจากเสียงเพลงกรูเกรียวเข้าจับหัวใจของคนดูแทบทุกคน
น้ำตารินหลั่งออกมาอย่างสุดฝืน..
เขาทำหน้าที่ของเขาได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดแล้ว...
จากเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่บังอาจเข้าประกวดในรายการของผู้ใหญ่ระดับประเทศ
จากเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่เพิ่งเคยเล่นเฟสบุ๊คอันมีแต่ถ้อยคำที่ใสซื่อไร้การประดิษฐ์ประดอยอะไร
จากเด็กตัวเล็ก ๆ ที่แม้จะแปะคลิปของตัวเองก็ยังต้องพึ่งพาพี่ชายให้แปะให้ในยูทูป
จากเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่มีโอกาสขึ้นเวทีก็แค่งานประกวดต่าง ๆ และเวทีงานการกุศลของจังหวัดเพียงเพื่อแลกกับพวงมาลัยและทิปจากคนดู
เขามาถึงจุดนี้ได้
จุดที่สามารถร้องเพลงกล่อมแม่ออกทีวีได้
ผมว่าเขามีหัวใจที่แกร่งเกินกว่าเด็กทั่วไป
แกร่งเกินกว่าใครคนที่เคยดูถูกเขาเอาไว้
เขาเหมาะสมกับ "เดอะวอยส์" ในหัวใจ
ของผู้ที่รักเขาจริง ๆ
หากเขาหรือใครที่ใกล้ชิดเขาเข้ามา่อ่านในกระทู้นี้
ผมซึ่งไม่เคยมาขีดเขียนอะไรอย่างนี้ให้กับใครมาก่อนเลยในชีวิต
ขอฝากกำลังใจไปถึงเขา..
ขอให้เขามุ่งมั่นต่อไป
ทำสิ่งที่ตนเองรัก..สิ่งที่ตัวเองศรัทธา
ด้วยการขับร้องเพลงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของคนเป็นลูก
ที่จะทำให้แม่ของเขา "มีความสุข" จากเสียงร้องของเขา
ต่อไปตราบนานเท่านาน...
สู้เพื่อแม่ต่อไปนะครับ น้องต๊ะ ตระการ ศรีแสงจันทร์!!
ขอกระทู้่นี้ให้กับผู้แพ้ที่หัวใจไม่แพ้..น้องต๊ะ ตระการ ศรีแสงจันทร์
มีเพียงความมั่นใจเล็ก ๆ ที่ได้รับจากคนรอบกายของเขาและจากแม่ของเขา
ถ้อยคำบางคำที่เขาเคยบอกเอาไว้ยังก้องอยู่ในหู
"แม่เคยบอกว่า คนอื่นจะร้องเพราะอย่างไรเขาไม่รู้ แต่ว่าเขาฟังลูกตัวเองร้องเมื่อไรเขาก็จะบอกว่าเพราะสำหรับเขา.."
"เวลาที่แม่ฟังผมร้องเพลงก็จะยิ้ม..รู้สึกแม่จะมีความสุขมากในตอนนั้นและต๊ะก็จะีมีความสุขไปกับแม่ด้วย.."
และเพื่อความสุขนั้น เขาก็พร้อมที่จะ "สู้เพื่อแม่"
บนเวทีที่ยิ่งใหญ่อย่าง "เดอะวอยส์ไทยแลนด์" รายการนี้
ถ้อยคำที่กลั่นออกมาจากความรู้สึก ผ่านเสียงร้องและลูกเอื้อนที่ยากนักจะหาได้ในเด็กวัยเดียวกัน เขาบรรจงเปล่งถ้อยคำรำพันเพื่อแสดงให้แม่รู้ว่า เขารู้สึกอย่างไรกับแม่ของเขา
"งานหนักงานเบา..จ้างใครเขาทำแทนก็ได้
เก็บแรงไว้กอดลูกชาย..ในวันลูกกลับคืนนา..."
ท่ามกลางข้อครหาที่กระหน่ำเข้าใส่อย่างไม่ให้ตั้งตัว
"ลูกสาวของคุณแม่" ทำให้เขาถูกมองว่าเป็นเด็กผิดเพศ
ร่างกายที่ยังดูเด็กไม่สมวัย ทำให้เขาถูกหาว่าเอาความเป็นเด็กเข้าสู้เพื่อหาคะแนนสงสาร
ร้องได้ดีแต่เพลงลูกทุ่ง ทำให้เขาถูกหาว่าใช้ความ "mass" ของเพลงเพื่อเก็บคะแนน
ร้องได้ดีแค่แนวเดียว ทำให้เขาถูกมองว่าไม่เหมาะกับคำว่า "เดอะวอยส์" ของประเทศไทยที่ควรจะร้องให้ได้ดีทุกแนว
สิ่งเหล่านี้คงกดดันเขาอย่างหนัก หนักเสียจนเขาไม่อาจจะอ่านทุกคอมเมนท์ในยูทูป ไม่อาจจะอ่านทุกความเห็นในพันทิปได้
เขาคงบอกตัวเองได้แต่เพียงว่า เขาจะทำให้ดีที่สุด ในทุกโอกาสที่เขาได้ขึ้นเวที
ไม่ว่าเขาจะถูกจับให้เล่นบทอะไร
บทเด็กร้องขอตามไปเที่ยว บทหมอรำที่เกิดมาไม่เคยร้องไม่เคยรำ บทนักร้องเพลงสากลที่เคยได้แต่ร้องเล่น ๆ อยู่กับบ้านเท่านั้น แต่เขาก็ทำเพราะเขาเชื่อคนรอบข้างของเขาว่าเขาจะได้ก้าวข้ามความเป็น "ลูกทุ่ง" ในตัวของเขาไปได้
เขาไม่รู้หรอกว่าเขาทำได้ดีหรือไม่ แต่เขาก็ทำอย่างเต็มที่ ฝึกซ้อมจนเสียงแหบแห้ง ร้องจนเจ็บคอจากทอลซิลอักเสบ นอนดึกตื่นเช้าจนตาบวมแดง ระโหยโรยแรงอย่างไรเหน็ดเหนื่อยเพียงไหนเขาก็ใส่อย่างสุดฝีมือ เพียงเพื่อจะก้าวไปสู่วันนี้..วันที่แม่และเขารอคอย
เสียงอินโทรดังขึ้นด้วยอิเลคโทน มันแผ่วหวานปนเศร้ามาพร้อมกับเสียงเครื่องเป่าที่แผ่วโหย..เขามองหน้าแม่ด้วยสาตาของคนเป็นลูก
ลูกที่แบกรับความกดดันที่ถาโถมเข้าหาเพียงเพราะสาเหตุว่าเวทีแห่งนี้มันยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับเด็กลูกทุ่งอย่างเขา
ลูกที่แบกรับความหวังของแม่และครอบครัว ญาติพี่น้องและผองเพื่อน โดยเฉพาะทุกคะแนนโหวตมากมายที่ทำให้เขาผ่านมาจนถึงวันนี้ มันป็นคะแนนแห่งความรักความเมตตา จากคนที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย มันทำให้เขายิ่งบอกกับตัวเองว่าเขาจะผิดพลาดไม่ได้ เขาจะทำให้ทุกคนที่รักเขาผิดหวังไม่ได้
ไหลเล็ก ๆ ห่อลู่ตามนำหนักของภาระ ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มประสาเด็กกลับแทนที่ด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น คั้นเสียงออกมาจากหัวใจของคนเป็นลูก
"แบกเอาความฝันขึ้นมากรุงเทพ..
มีแม่เป็นสิ่งยึดมั่นจิตใจ..
ยืนแหงนมองเดือนและดาวบนฟ้า
นักร้องคนโปรดที่แม่ห่วงหา
คงได้เอื้อมมือคว้า..มาได้สักวัน..
แม่จ๋า...แม่คงไม่รู้หรอกว่านักร้องคนโปรดของแม่คนนี้..รู้สึกอย่างไร
"แบกคำว่ารักมามอบให้แม่...
วันนี้เป็นวันที่เรารอคอย
มือถือไมค์ลอยที่เคยวาดฝัน
แสงสีเวทีผู้ชมเป็นพัน
แต่ลูกไม่ลืมรักแม่..แบบเดิม..."
แม่คงอยากให้ผมชนะ ทุกคนที่รักผมคงอยากให้ผมประสบความสำเร็จ
"ขอแม่...จนฟัง..หลับตาแล้วนั่งฟังเพลงของหนู...
เข้ามาใกล้ๆ ที่ตรงหน้าจอ วันนี้ลูกแม่จะขอ ขอร้องเพลงกล่อมแม่..ออกทีวี.."
ผมอยากจะหาเงินให้แม่ ผมอยากจะใช้หนี้ให้แม่
"คงทำให้แม่ชื่นใจได้บ้าง...
นักร้องคนเก่าที่แม่ถนอม..
จะขอดูแลแม่เป็นอย่างดี
เหมือนแม่เลี้ยงดูจนมีวันนี้..
ขอเสาทีวีช่วยเป็นพยาน..."
แม่ครับ..วันนี้ถ้าผมแพ้..ผมคงไม่ได้เห็นแม่ยิ้มอย่างดีใจอีกแล้ว
"ขอแม่...จงฟัง...หลับตาแล้วนั่งฟังเพลงของหนู"
เข้ามาใกล้ ๆ ที่ตรงหน้าจอ วันนี้ลูกแม่จะขอ ขอร้องเพลงกล่อมแม่ออกทีวี.."
แม่ครับ ผมขอโทษ...
แม่อย่าร้องไห้สิครับ
"เข้ามาใกล้ ๆ ที่ตรงหน้าจอ วันนี้ลูกแม่จะขอ....
ขอร้องเพลงกล่อม...
แม่....
ออก...ที...วี..."
เสียงปรบมือดังกึกก้อง ความรู้สึกที่เขาถ่ายทอดออกมาจากเสียงเพลงกรูเกรียวเข้าจับหัวใจของคนดูแทบทุกคน
น้ำตารินหลั่งออกมาอย่างสุดฝืน..
เขาทำหน้าที่ของเขาได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดแล้ว...
จากเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่บังอาจเข้าประกวดในรายการของผู้ใหญ่ระดับประเทศ
จากเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่เพิ่งเคยเล่นเฟสบุ๊คอันมีแต่ถ้อยคำที่ใสซื่อไร้การประดิษฐ์ประดอยอะไร
จากเด็กตัวเล็ก ๆ ที่แม้จะแปะคลิปของตัวเองก็ยังต้องพึ่งพาพี่ชายให้แปะให้ในยูทูป
จากเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่มีโอกาสขึ้นเวทีก็แค่งานประกวดต่าง ๆ และเวทีงานการกุศลของจังหวัดเพียงเพื่อแลกกับพวงมาลัยและทิปจากคนดู
เขามาถึงจุดนี้ได้
จุดที่สามารถร้องเพลงกล่อมแม่ออกทีวีได้
ผมว่าเขามีหัวใจที่แกร่งเกินกว่าเด็กทั่วไป
แกร่งเกินกว่าใครคนที่เคยดูถูกเขาเอาไว้
เขาเหมาะสมกับ "เดอะวอยส์" ในหัวใจ
ของผู้ที่รักเขาจริง ๆ
หากเขาหรือใครที่ใกล้ชิดเขาเข้ามา่อ่านในกระทู้นี้
ผมซึ่งไม่เคยมาขีดเขียนอะไรอย่างนี้ให้กับใครมาก่อนเลยในชีวิต
ขอฝากกำลังใจไปถึงเขา..
ขอให้เขามุ่งมั่นต่อไป
ทำสิ่งที่ตนเองรัก..สิ่งที่ตัวเองศรัทธา
ด้วยการขับร้องเพลงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของคนเป็นลูก
ที่จะทำให้แม่ของเขา "มีความสุข" จากเสียงร้องของเขา
ต่อไปตราบนานเท่านาน...
สู้เพื่อแม่ต่อไปนะครับ น้องต๊ะ ตระการ ศรีแสงจันทร์!!