ทำไงดี...ไม่อยากให้ลูกขาดพ่อ แต่ไม่อยากฝืนทนอยู่กับคนที่ไม่รักเราอีกต่อไปแล้ว

เราแต่งงานกับสามีมาได้เกือบ 7 ปี
ยอมรับว่ามีเวลาเรียนรู้กันก่อนแต่งน้อย  
หลังจากแต่งงาน เราก็มีลูก  2 คน วัยไล่เรี่ยกัน

ตอนนี้เราเป็นแม่บ้านฟูลไทม์ มา 4 ปีแล้วค่ะ
แต่ก็มีรายได้เสริมจากการทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย
ก่อนหน้านั้น ก็มีอาชีพการงานดีในระดับนึง
แต่ต้องออกมาดูแลลูก เพราะลูกป่วยบ่อย
แต่ตอนนี้ลูกทั้ง 2  คน สุขภาพแข็งแรงดีค่ะ ไม่ป่วยหนักๆ เหมือนก่อน

ส่วนสามี ทำธุรกิจส่วนตัวเป็นกิจการเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มทำหลังจากแต่งงาน  และต้องเดินทางบ่อยค่ะ
โดยปกติสามีเป็นคนที่ซื่อสัตย์ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ การพนันหรือเรื่องผู้หญิงจะไว้ใจได้ค่ะ
ที่ผ่านมาอาจจะมีปัญหาในครอบครัวบ้าง
ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องการใช้เวลาร่วมกัน การดูแลเอาใจใส่ต่อกัน  
มีความคิดเห็นขัดแย้งในธุรกิจของเค้าบ้าง
เราก็เลยไม่เข้าไปยุ่งกับกิจการของเค้าค่ะ  ให้เค้าได้ทำงานเต็มที่
และเราไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงค่ะ มีแต่การโต้แย้งด้วยเหตุผลเสียมากกว่า  

เราไม่เคยยุ่งกับโทรศัพท์ ไลน์ อีเมล์ หรือเฟสบุคเค้า ก็เลยไม่ได้เป็นเพื่อนกันในเฟส
ในเฟสเค้าก็จะมีรูปเค้า งานเค้า และพ่อแม่พี่น้องเค้า มีรูปลูก แต่ไม่มีรูปเราแม้แต่รูปเดียวค่ะ
จริงๆ แล้ว เค้าเคยแอดเป็นเพื่อนในเฟสมา 2 ครั้ง  
ครั้งล่าสุดเป็นเพื่อนกันในเฟสระยะหนึ่ง  
ช่วงนั้นเราน้อยใจเค้าที่เวลาโพสเค้ามักจะแทคชื่อแม่เค้าหรือเพื่อนเค้า ทุกโพส
ทำให้เรารู้สึกไม่มีคุณค่า ความสำคัญอะไรเลย
อีกอย่าง เค้าก็มักจะไม่เคยบอกเราว่าจะทำอะไรยังไง ที่ไหน
ทุกเรื่องที่เรารู้เกี่ยวกับเขา ก็ต้องดูจากหน้าเฟสของเขา
และเห็นว่าเค้ากลับบอกคนอื่นทุกอย่าง
ก็เลยเลือกที่จะอันเฟรนด์ เพื่อไม่ต้องรับรู้หรือน้อยใจอะไรอีก



เมื่อไม่นานมานี้  เราเพิ่งจับได้ว่า สามีแอบคบกับผู้หญิงคนหนึ่งมาเกือบครึ่งปี
แต่เค้าบอกว่า แค่คุย ไปเที่ยว ดูหนัง ทานข้าวกันบ้าง  แต่ไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะความพลั้งเผลอ เพราะอิสระที่ได้รับจนเคยตัว ลืมว่าตัวเองมีครอบครัว
เพราะช่วงนั้น เป็นช่วงที่เรากับเค้ามีเรื่องขัดใจกันบางอย่าง ทำให้เค้าเซ็งไม่อยากกลับบ้านมาเจอเรา

แต่ไม่ว่าจะเกิดจากอะไร  เค้าสองคนก็คบกันมาเกือบครึ่งปี
ทั้งเจอกัน ทั้งคุยกัน ทั้งมีเฟสลับๆ ที่ใช้อัพเดทชีวิตของกันและกัน
(อันนี้เราเพิ่งมารู้เพิ่มเติม เมื่อไม่กี่วันนี้ หลังจากที่เค้าสารภาพว่าแอบคบกับคนนั้น)

เค้าบอกว่า เค้าได้บอกเลิกผู้หญิงคนนั้น ก่อนที่เราจะทราบเรื่องนี้มาเกือบอาทิตย์
เราคุยอะไรกันหลายอย่าง  ทั้งเรื่องความรู้สึกของเราที่เป็นอยู่ นับตั้งแต่พฤติกรรมของเค้าเปลี่ยนไป
ทั้งเรื่องที่เราเป็นโรคซึมเศร้า จนเกิดมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย จากสถานการณ์และความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเค้า
แต่ทุกอย่างเราต้องทน เพื่อลูก  อยากให้ลูกมีพ่อมีแม่ครบพร้อมหน้าพร้อมตา

เค้าขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น และขอโอกาสให้เค้าได้ปรับปรุงตัวอีกครั้ง
ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็รับไม่ได้ และอยากจะเลิกกับเขา
แต่ติดที่สงสารลูก และลูกก็ค่อนข้างติดเค้ามาก (แม้เค้าจะไม่มีเวลาให้ลูกเลยก็ตาม)
เราก็เลยตัดสินใจให้อภัยเค้าค่ะ

และเค้าก็ปรับปรุงตัวดีขึ้น
จากเดิมออกจากบ้านเช้า กลับบ้านดึก 5 ทุ่ม เที่ยงคืน - ตี3  บางวันก็กลับเช้า
ก็เป็นกลับบ้านเร็วขึ้น

จากไม่เคยทานข้าวที่บ้าน  ตอนนี้ก็เริ่มมาทานที่บ้านเกือบทุกวัน (มื้อค่ำ)
จากไม่เคยให้เวลาลูก ไม่เคยสนใจ  ตอนนี้ก็เริ่มมีเวลาให้ลูก พาลูกไปไหนมาไหนบ้าง

แต่

นั่นคือความสัมพันธ์ของพ่อ กับลูก ที่ดูเหมือนดีขึ้น

แต่ในความสัมพันธ์ สามี ภรรยา เรายังรู้สึก ไม่เคยได้รับการสนใจ
เหมือนอยู่ด้วยหน้าที่ ความถูกต้อง  และความรักที่มีต่อลูก แต่ไม่ได้มีความรักต่อกันแล้ว

ไม่กี่วันมานี้  เค้าก็เพิ่งยอมรับว่ายังพูดคุยกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่ในฐานะเพื่อน พี่ น้อง
(ซึ่งจริงๆ ก่อนหน้านั้นเค้าไม่เคยรู้จักกันค่ะ เค้าเพิ่งมารู้จักกันตอนไปเที่ยวกลางคืนและคบกันมาเรื่อย)

เรารู้สึกเสียใจ ในความไม่จริงใจในการแก้ปัญหาของเค้า
เราถามเค้าว่า ที่ยังคุยเพื่ออะไร  เพื่อให้ความสัมพันธ์มันคุกรุ่นขึ้น แล้วกลับไปเชื่อมต่อกัน?
หรือเพราะรักมาก จนไม่อยากจะตัดกันออกจากชีวิต?

เค้าไม่ได้รับปากว่าจะเลิกคุย   ได้แต่บอกคุยกันเฉยๆ ไม่หวาน ไม่ได้จีบแล้ว

วันนี้เราก็มารู้เรื่องของเค้าที่ทำให้รู้สึกว่า เค้ารักผู้หญิงคนนั้นมาก
ถึงขั้นเมา ร้องไห้ กับคนอื่น (ก่อนหน้าที่เค้าจะสารภาพกับเรา)

หัวใจของเราเหมือนถูกกระชากอีกครั้ง
ทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนที่ไม่มีใจให้เรา หรือแบ่งปันใจให้ใครไปแล้วได้
แต่เราก็สงสารลูกเราเหลือเกิน

เราไม่รู้ว่า เราจะเห็นแก่ตัวเกินไปไหม ถ้าเราเลือกที่จะเลือกทำเพื่อตัวเอง รักษาใจของตัวเอง
หรือว่าเราควรจะอดทนต่อไปเพื่อลูก   ทนอยู่แบบนี้ต่อไปเพื่อวันนึงใจมันจะชาชินในที่สุด

คนเราจะอยู่ด้วยกันโดยไม่ห่วงใย  ไม่สนใจในความทุกข์หรือสุขกันได้หรือ
คนเราจะอยู่ด้วยกันโดยไม่มีความรักต่อกันได้หรือ

ใจนึงเราก็อยากปล่อยให้เค้าเป็นอิสระ  ได้ทำตามหัวใจของตัวเอง
เราไม่อยากบีบบังคับหัวใจใคร ให้อยู่แต่ตัว แต่ใจไปอยู่กับคนอื่น

เราไม่อยากต้องมานั่งระแวงว่าวันนี้เค้าไปไหนกับใคร กลับไปคบกันอีกมั้ย
ไม่อยากต้องมาระแวงสิ่งที่เค้าพูด อันไหนคือเรื่องจริง หรือ โกหก
ไม่อยากทนกับความรู้สึกรันทดใจ น้อยใจ  
เปรียบเทียบกับสิ่งที่เค้าทำระหว่างเรากับผู้หญิงคนนั้น

รถคันใหม่ของเค้า เราเคยนั่งไม่ถึง 3 ครั้ง เพราะไปกับลูก
แต่เค้ากลับใช้รถคันนั้นพาคนนั้นไปไหนมาไหน

เราออกจากงาน ไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม ทานข้าวคนเดียวมาตลอด
เค้าไม่เคยพาเราไปทานข้าวนอกบ้านสักครั้ง
แต่เค้ากลับพาคนนั้นไปทานข้าว ใช้เวลาด้วยกัน

เค้าไม่เคยพาเราไปพักผ่อน ไปดูหนัง ไปเที่ยว
แต่เค้าใช้เวลาไปกับคนนั้น

เค้าคุยกับคนนั้นทุกวัน  ทั้งทางเฟส ทางไลน์ ทางโทรศัพท์ หรือไปพบกัน
แต่คุยกับเราวันนึงไม่ถึง 5 ประโยค

สิ่งเหล่านี้มันกัดกินหัวใจเรา  จนเราเกิดภาวะโรคซึมเศร้าอีกครั้ง
เราทำงานไม่ได้ เราไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขได้ในแต่ละวัน
แต่เราก็ต้องฝืนตัวเองเพื่อลูก
พอลูกไปโรงเรียน เราก็นั่งจมกับเรื่องราวเหล่านี้

เราพยายามทำใจให้ยอมรับ ให้อภัย และสร้างความสัมพันธ์ต่อกันใหม่
ซื้อของขวัญวันเกิดให้เค้า  ทำอาหารที่เค้าชอบ  
พยายามร่าเริง พูดคุยปกติ  กระตือรือร้นที่จะไปไหนกับเค้าเพื่อเค้าจะได้ใช้เวลากับลูก
แต่มันก็ยังเหมือนเดิม คือ ทำเพื่อลูก ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น
ถ้าไม่มีลูกอยู่  เราก็เหมือนคนแปลกหน้า ไม่ได้พูดคุยกัน ไม่มองหน้ากัน

เราจะทนไปได้อีกนานแค่ไหน
เค้าจะทนกับการฝืนความรู้สึกตัวเองได้แค่ไหน

เราจะทำยังไง
มันบีบหัวใจเราเหลือเกิน เราร้องไห้คนเดียวทุกวัน
เพราะเราไม่อยากให้ใครรู้ว่าเรากำลังเจอปัญหาอะไร
ไม่อยากให้ใครมองเค้าไม่ดี
ไม่อยากให้เค้าอาย
ไม่อยากให้ลูกเสียความภาคภูมิใจในตัวพ่อเค้า
ไม่อยากให้คนที่รักเราต้องโกรธ เกลียดเค้า แทนเรา เพราะอย่างน้อยเค้าก็เป็นพ่อของลูกเรา

เราควรจะทำยังไงดี....

ข้อมูลเพิ่มเติม
เราอายุ 39  อาจจะอายุมากเกินไปที่จะกลับไปหางานทำใหม่ หากต้องเลิกกันจริงๆ
แต่เราสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง และงานเสริมที่เราทำก็สร้างรายได้ในระดับหนึ่ง
แต่ช่วงนี้เราไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรเท่าไหร่ค่ะ  รายได้ก็เลยลดลงเยอะ

ที่ผ่านมา สามีไม่ค่อยให้เงินใช้เป็นกิจลักษณะค่ะ
บางเดือนก็ให้เยอะหน่อย บางเดือนก็ให้น้อย  ส่วนใหญ่การให้คือ เอาเงินใส่มือลูกบอกไปซื้อขนม ประมาณนี้

คาดดูจากระยะเวลา..ตั้งแต่เค้าคบกับคนนั้น เค้าไม่เคยให้เราเลยค่ะ
เราเอารายได้จากงานเสริมของเรามาจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน
แต่เค้าก็จ่ายค่าเทอมให้ลูกค่ะ


..........

อาจจะพิมพ์วกวนนะคะ
พิมพ์ไปร้องไห้ไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่