[CR] Hokkaido ใบไม้เปลี่ยนสี ฝนตก หิมะโปรย ลูกเห็บร่วง ครบรสเลย ว้าวววว

(กว่าจะรีวิว กลับมาไทยแล้วเป็นเดือน! แหะ รีวิวช้าไปหน่อยนะคะ)

เป็นการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรกของเรา (จขกท) ตื่นเต้นมากค่ะ

การมาเที่ยวครั้งนี้ พวกเราต้องการมาดูใบไม้เปลี่ยนสี แต่สิ่งที่ได้เจอ มันน่าประทับใจมากกว่านั้น คือ ได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสี ได้เห็นหิมะที่โปรยลงมาใหม่ๆ ได้เล่นหิมะ ได้เจอลูกเห็บตกลงมาจริงๆ ได้เจอฝนญี่ปุ่นในอากาศหนาว ^^

การริวิวครั้งนี้ ต้องการมาแบ่งปันและแชร์ประสบการณ์ และถ้าผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะคะ  
สามารถเพิ่มเติม พูดคุย หรือแนะนำ เกี่ยวกับสถานที่ที่ไปได้นะคะ เพื่อไว้เป็นข้อมูลสำหรับคนที่สนใจค่ะ ขอบคุณค่ะ

Part 1 (Day 1-3) -> http://pantip.com/topic/35847675
Part 2 (Day 4-6) -> http://pantip.com/topic/35855918
Part 3 (Day 7-10) -> http://pantip.com/topic/35857323

——————————————————————————————————————

ทริปนี้เราไปด้วยสายการบิน --> การบินไทย บินตรงจากสุวรรณภูมิถึงสนามบิน New Chitose Airport (CTS) ไปกลับ ทั้งสิ้น 10 วัน (18 ตุลาคม - 27 ตุลาคม 2559) ซึ่งเดินทางไปฮอกไกโดในคืนวันที่ 17 ตุลาคม ตอนห้าทุ่ม และถึงญี่ปุ่นตอนแปดโมงเช้า \ และออกเดินทางกลับเมืองไทยวันที่ 27 ตุลาคม ตอนสิบโมงเช้าค่ะ

สมาชิกเดินทางมีทั้งหมด 5 คน เป็นวัยรุ่น(หราา) 2 คน (เรากับแฟน) และแม่ ป้า น้า ที่อายุรวมกันสามคนเกือบจะ 200 ปีค่ะ :p (วัยเกษียณหัวใจวัยรุ่น) ดังนั้นการเที่ยวต้องให้เดินน้อยที่สุด จึงเป็นการวางแผนการเดินทางโดยการเช่ารถขับทั่วเกาะฮอกไกโดค่ะ ....  ป่ะ  ไปเที่ยวกัน ^^

เส้นทางของพวกเราคือ ขับรถจาก Chitose จนถึงคืนรถที่ Sapporo รวมระยะทางทั้งหมด 1,961.7 กม. ผ่านเมือง Furano, Biei, Asahikawa, Abashiri, Sounkyo, Abashiri, Shiretoko, Kushiro, Obihiro, Chitose, Otaru, Niseko, Hakodate, Muroran, Noboribetsu และ Sapporo

ในการขับรถเดินทาง ใช้เวลาทั้งหมด 7 วัน โดยในวันที่ 7 ได้คืนรถที่ Sapporo และใช้รถไฟใต้ดินในการเดินทางแทนค่ะ

ปล. พวกเราซื้อซิมมือถือเพื่อใช้ในญี่ปุ่นค่ะ ราคา 8 วัน 399 บาท

+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_
ใครจะซื้อของฝากพวก ขนม(ที่ดังๆเป็นที่นิยมเป็นของฝาก) ของสด กระเป๋า Anello ต่างๆ ที่มีขายในฮอกไกโด เราอยากบอกว่า
—> ไม่ต้องซื้อมาจากแหล่ง shopping ให้เมื่อยสำหรับคนไม่อยากเดินหาของ เพราะที่สนามบิน Chitose มีหมดเลยค่ะ (สำหรับคนที่กลับที่นี่นะ)
—> ไม่ต้องตามหาตามแหล่งให้เหนื่อย ไม่ต้องยัดใส่กระเป๋าเดินทางวันกลับให้ตุงตุง
—> ไม่ต้องซื้อให้ครบ 5,000 เยนขึ้นไปเพื่อยกเว้นภาษี ในสนามบินไม่เสียอยู่แล้วจ้า
—> ซื้อที่สนามบินหิ้วขึ้นเครื่องสวยๆ เลยค้า ขนมและของสดอยู่ชั้นล่าง เครื่องสำอางและ Anello อยู่ชั้นบน (เครื่องสำอางข้างในนี้อาจน้อยกว่านะคะ ใครเจอข้างนอกซื้อไว้เลยดีกว่า)
—> แต่สำหรับใครซื้อกับทัวร์แล้วได้ส่วนลดเยอะๆ ก็คงถูกกว่ามั้งคะ อันนี้เราไม่ทราบรายละเอียด

ทั้งหมดนี้ เราแทบจะลงไปดิ้นๆๆๆๆ ที่สนามบิน ฮ่าๆๆๆ
หิ้วให้เหนื่อยทำไม ยัดใส่กระเป๋าให้เหนื่อยทำไม เดินหาของให้เหนื่อยทำไม ดิ้นๆๆๆ
+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_

———————————

Day 1 : 18 ตุลาคม 2559  จาก สนามบิน Chitose -> Furano -> Biei -> Asahikawa
ณ สนามบิน New Chitose Airport (CTS) ตอนแปดโมงเช้า ... สัมผัสถึงอากาศที่หนาวเย็น กำลังสบายค่ะ ชอบมาก แผนการเดินทางคือการเช่ารถ ดังนั้นเมื่อมาถึงสนามบิน เราต้องแจ้งให้เค้าเตอร์ที่เช่ารถทราบว่า เราจะมาติดต่อที่เช่ารถที่เราเช่าค่ะ คือ Times Car Rental เจ้าหน้าที่ประจำเค้าเตอร์ก็จะโทรตามให้ แล้วสักพัก จะมีรถบัสมารับเราไปที่เช่ารถค่ะ

นี่คือรถบัสที่มารับค่ะ

[ ค่าเช่ารถ 21,500 บาท โดยประมาณ (ทำสัญญาเช่ามาจากไทยค่ะ) ทั้งหมด 7 วัน, ซื้อค่าทางด่วนแบบ unlimit เป็นเงิน 8,024 เยน ]

ได้คันนี้มาค่ะ Mazda 5 Premacy  รถ 7 ที่นั่ง แต่ด้านหลังใส่กระเป๋าจนเต็มเลยค่ะ ดังนั้น ด้านหลังคนขับจึงนั่งกัน 3 คนค่ะ

ออกจากที่เช่ารถ เราก็ขับไปเรื่อยๆ โดยจุดมุ่งหมายในคืนนี้คือเมือง Asahikawa ค่ะ

โดยถนนที่นี่ ตัดผ่านภูเขาเป็นอุโมงค์เยอะมาก แบบนี้ค่ะ ... สวยจัง

เนื่องจากการเดินทางมีผู้สูงวัย ดังนั้น การแวะระหว่างทางเพื่อเข้าห้องน้ำจึงบ่อย ญี่ปุ่นดีมากเลยค่ะ มีห้องน้ำให้เข้าตลอด ทั้งห้องน้ำสาธารณะ ห้องน้ำในซุปเปอร์มาร์เก็ต ทุกที่สะอาด และบริการฟรีค่ะ

ที่แรกในการจอดแวะของลุงมาสด้าญี่ปุ่นคันนี้ และแวะเข้าห้องน้ำของแม่ๆ คือ ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ เป็นร้านข้างทาง น่ารักมากๆ เราเพิ่งมาครั้งแรก เริงร่าถ่ายรูปไม่หยุดเลยค่ะ เห่อมากๆ ซึ่งตรงนี้ยังอากาศไม่หนาวมากนัก เสื้อแขนยาวตัวเดียวกำลังสบายค่ะ

จากตรงนี้ เราตั้งใจว่าจะหาร้านอาหารกินกันค่ะ หิวม๊าก เมื่อได้เหยียบแผ่นดินญี่ปุ่น พวกเราเห็นพ้องตรงกันว่า >> ราเมง เท่านั้น จัดมา!!!
แต่ .............. ระหว่างทาง เราก็ได้พบเจอกับสิ่งสวยงามเหล่านี้!!!
และ เหล่านี้ .........
สวยงามม๊ากกกก วันแรกก็เจออะไรแบบนี้ ฟินไปเลยค่ะ ^^

อยู่บริเวณนี้นานมากค่ะ .... ลืมหิวกันไปทุกคนเลย ;p ฝั่งตรงข้ามที่พวกเราถ่ายรูปนี้ มีโรงแรมด้วยค่ะ แม่ๆ ก็เดินเข้าห้องน้ำเป็นที่เรียบร้อย ^^
สถานีต่อไปคือ หาของกิน โดยไปหาร้านราเมงแถวๆ Furano ค่ะ เป็นร้านแบบชาวบ้าน ทุกคนสั่งคนละชาม เนื่องจากหิวม๊าก เวลาก็บ่ายสองเกือบบ่ายสามแล้วค่ะ

ราเมงชามแรกของการมาเยี่ยนญี่ปุ่นของเรา มันต้องดีงามเริ่ดแน่ๆ คิดแบบนั้นใช่ไหมคะ แต่ ....... เอิ่ม  - -“  เรากินไม่ได้อ่ะ ทำไมไม่เหมือน ชาบูตง ที่เราชอบเลย ทำไมมันแปลกๆ นึกว่าคิดไปคนเดียว สรุป ไม่มีใครกินหมดเลยค่ะ จะเรียกว่า ไม่กินกันเลยดีกว่าค่ะ ฮ่าาาา สงสัยไม่ถูกปากพวกเรา (ชามนี้ราคา 700 เยน) ..... แต่ร้านเค้าน่ารักมากๆ เจ้าของร้านใจดีน่ารัก มีนามบัตรแปะการันตีความป๊อปปูล่าเต็มร้านด้วยนะคะ บรรยากาศดีงามค่ะ

Furano เป็นเมืองที่สงบมาก บรรยากาศเรียบง่าย เมื่อกินกัน(ไม่อิ่ม)แล้ว ก็ออกมาเดินเล่นกันสักหน่อยค่ะ

เด็กๆ น่าจะขี่จักรยานกลับบ้านกันนะคะ เลิกเรียนแล้วๆๆ

จากนั้น แวะ Farm Tomita ค่ะ (สถานที่เที่ยวบังคับเมือง Furano) กว่าจะมาถึงก็เวลา 15:40 ได้ค่ะ ใกล้จะปิดแล้ว และสวนเค้าก็ปรับปรุง ไม่มีลาเวนเดอร์ลานกว้างๆ ให้ดูแล้วค่ะ เหลือแต่ส่วนเล็กๆ หน้าประตูทางเข้า

ได้เดินดูรอบๆ ฟาร์ม แปปเดียวเองค่ะ เนื่องจากมืดเร็วมาก 16:30 ก็เริ่มมืดแล้วค่ะ สถานที่ท่องเที่ยวก็ปิดกันหมดแล้วด้วย เลยต้องขับไปโรงแรมเลย
แต่ ... ระหว่างทาง ก็ขอแวะชมน้ำตกสักหน่อย  ถึงจะมืดแต่เสียงน้ำตกมันเรียกร้องเหลือเกิน อิอิ (ใช้โหมดกีฬาถ่าย จริงๆ มืดกว่านี้)

ใจจริงแล้วมาถึง Furano อยากมาดู Blue pond ม๊าก แต่กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ ก็มืดแล้ว อีกอย่าง หลงค่ะ แหะ :p คือ GPS ของรถญี่ปุ่น จะสามารถใส่เบอร์โทรแทนใส่พิกัด lat long ได้ (สะดวกมาก) แต่ข้อเสียของมันคือ ถ้าเบอร์โทรเป็นเบอร์เดียวกับที่ทำการอุทยานล่ะ! นั่นน่ะสินะ ... เมื่อเราใส่เบอร์โทรของ blue pond ลงไป (ที่หาได้จาก google map) มันดันเป็นเบอร์เดียวกับเบอร์ของที่ทำการอุทยาน (เลย blue pond ไปสุดทางบนยอดเขา) มันก็เลยพาไปสถานที่ใหม่ซะเลย นั่นก็คือ จุดชมพระอาทิตย์ตกบนยอดเขา แต่ ... ก็สวยนะ โอเค และ ณ จุดจุดนี้ หนาวมากค่ะ ไม่มีแดดแล้ว ฮ่าๆๆๆ

และเราก็เข้าโรงแรมที่ Asahikawa แล้วออกมาเดินถนนคนเดินของเมืองนี้กันค่ะ ...
แต่ ..... เดี้ยวก่อน .... คืออะไร ...... คนหายไปไหน ง่าาาา ขอบอกก่อนเลยว่า เห็นแต่ภาพในทีวีในบรรยากาศฮาราจูกุ โตเกียว คนเยอะๆ ฮ่าๆๆๆ

และธรรมเนียมของการมาญี่ปุ่น คือ ----> ถ่ายกับฝาท่อประจำเมืองค่ะ เอ้ายิ้ม!!

— จบ Day 1 ค่ะ —
ชื่อสินค้า:   ฮอกไกโด ใน ฤดูใบไม้ร่วง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่