ขอเกริ่นนิดนึงก่อนว่า ตั๋วนี้เราซื้อสำหรับใช้เดินทาง 3 ประเทศ คือ Netherlands, Belgium, Luxembourg ซึ่งEurail Pass นับเป็น ประเทศเดียว(Benelux)
แพลนี่เราจะเดินทางก็ประมาณนี้

จากตอนแรกแถบจะไม่รู้ทิศรู้ทางว่าประเทศไหนอยู่ตรงไหน เมืองไหนอยู่ตรงไหน พอเอาชื่อเมืองมาจุดเท่านั้นละ อ่อออออเลยจ้า
ระหว่างที่markจุด เราก็เช็คได้ด้วยว่ามีรถไฟอะไรผ่านมั้ง เราจะเดินทางยังไง นั่งหาข้อมูลเปิดpantip google จนได้มารู้จัก www.b-europe.com เนี่ยเช็ครอบ,เวลาและราคาได้ ทำให้เราแพลนได้คร่าวๆว่าวันนี้จะเที่ยวไหนบ้าง เที่ยวได้ถึงกี่โมงไรงี้
การจองตั๋ว EURAIL PASS
หลักๆเราเดินทางด้วยรถไฟ นั่งหาข้อมูลไปเรื่อยจนมาเจอ ตั๋วEurail pass อารมณ์แบบตั๋วบุฟเฟ่ต์ไรประมาณนั้น เราลองนั่งคำนวณ ค่ารถไฟแต่ละรอบแบบ point to point ใน www.b-europe.com แล้วเทียบราคากับEurail pass ปรากฏว่า Eurail pass ถูกกว่า สะดวกกว่าด้วย ไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วทุกครั้งที่เดินทาง เพราะเราต้องลากกระเป๋ากันเองด้วย สั่งซื้อเองก้ได้นะ
http://www.eurail.com/eurail-passes แต่ไม่รู้เราเข้าใจถูกไหม คือที่ไทยมันไม่ส่งฟรีอะ เลยต้องหา Agency ที่ขายEurail pass
เริ่มติดต่อไปตั้งแต่เดือนมีนา(เดินทางเมษา) ก็แบบเรื่อยๆไม่เร่ง agencyก็เรื่อยๆเหมือนกัน ติดต่อไป2agencyแรก ไม่ค่อยโอ เจ้าแรกserviceดีแต่feedbackช้า ราคาไม่แน่นอน เจ้าที่2 serviceดี feedbackเร็ว ได้โปรโมชั่นเหมือนในเว็บEurail pass คือ ซื้อ4วันแถม 1 วัน แต่เช็คราคาแต่ละรอบไม่ตรงกันสักครั้ง จนสุดท้ายพี่เราไปเจอ
http://www.lostripthailand.com/tours/eurail-global-pass/ บอกราคาชัดเจนหน้าเว็บแถม แถมราคาถูกกว่า2เจ้าแรก serviceดี feedback เร็ว เลยตัดสินใจซื้อที่นี้ รอ1-2วัน ก็ได้ตั๋วส่งมาทางไปรษณีย์แล้ว เราแพลนว่าจะใช้ตั๋วทั้งหมด 5 วัน เลยจอง แบบ 4วันแถม 1 วันไป โชคดีที่มีโปรแถมวันมาพอดี แถมยังได้ส่วนลดค่าธรรมเนียมอีก50% แล้วก็แถม Voucher King Power อีก แถมเยอะขนาดนี้ จัดไป4 ตั๋ว ซื้อAdult saver 3 ใบ ใบละ6,200 บาท Youthอีก 1 ใบ 5,900 บาท บวกค่าธรรมเนียมไปอีกคนละ100บาท
วิธีใช้ตั๋ว EURAIL PASS
เราซื้อตั๋วไปสำหรับ 4 คน แต่แยกเป็นแบบ Adult Saver กับ Youth ก็เลยได้ตั๋วมา 2 เล่ม เล่มนึง Youth อีกเล่มใช้ด้วยกัน3คน เพราะซื้อแบบSaverมา เดินทางเป็นกลุ่ม 2 คนขึ้นไป ราคาก็ถูกว่า เขาเลยออกตั๋วเล่มเดียว แต่ข้างในจะมีตั๋วทั้ง3คนเย็บติดกันมานะ

เปิดซองไปรษณีย์มาก็เจอ 4 สิ่งนี้ (ซ้าย>ขวา)
1. Eurail Map : แผนที่ยุโรปทั้งหมดที่ใช้Eurail Passได้ ดีงาม แต่เราไม่ได้ใช้หรอก ไปแค่3ประเทศโหลดAppลงมือถือง่ายกว่า
2. King Power Voucher
3. Eurail pass : อันนี้สำคัญสุด พกติดตัวไว้ รักษาไว้อย่างดี
4. Eurail Pass Guide : คู่มือ วิธีใช้ เงื่อนไข ข้อมูลรถไฟ บลาๆ
ได้เอกสารมาครบแล้ว ตรวจดูข้อมูลข้างในว่าถูกต้องรึป่าว ชื่อถูกไหม, เลข Passport , ประเภทตั๋ว เราเดินทางกลุ่มBenelux เขานับเป็น1ประเทศ (Eurail Benelux Pass)
ขั้นตอนการใช้
1. กรอกข้อมูลแค่หัวข้อ “Personal details” ที่เหลือยังไม่ต้องเขียน ตรวจข้อมูล แค่นั้นแล้วพกติดตัวไว้
2. Activate ตั๋วกับเคาเตอร์ขายตั๋วสถานีแรกที่เดินทาง : ของเราเริ่มใช้ตั๋วสถานีแรกที่ Schiphol Airport มองหาเคาเตอร์ขายตั๋วรถไฟ Intercity / IC ไรพวกนี้ ที่ Schiphol Airport เคาเตอร์อยู่ตรงข้ามเยื้องกับBurger King จนท.จะปั๊มที่ตั๋วเรา 1 ตึ้ง! เป็นอันใช้งานได้
3. เดินถือตั๋วขึ้นรถไฟได้เลย ที่ยุโรปไม่มีช่องเสียบบัตรเหมือนBTS / MRTบ้านเรา เขาจะใช้วิธีให้จนท.รถไฟขึ้นมาสุ่มตรวจตั๋วโดยสาร.....เดี๋ยวอย่าเพิ่งคิดว่าจะโมเมไม่ซื้อตั๋วแล้วขึ้นไปนั่งเนียนๆนะ มันไม่โอนะ ถ้าจับได้นี้โดนปรับแพงมาก แถมอาจจะติดBlack listไม่ให้เข้าประเทศอีก ไม่คุ้มๆ
เราใช้Eurail pass 5 วัน ก็เจอจนท.มาขอดูตั๋วทุกรอบนะ แถมครั้งแรกขอดูPassportคู่ด้วย
4. กรอกข้อมูลเพิ่ม : ตอนเดินทาง

4.1. กรอกวัน+เดือนที่จะเดินทาง ด้านซ้ายมุมล่างตั๋วที่เป็นช่องๆ ช่องบนวันที่ ช่องล่างเดือน
4.2. กรอก “Journey details” ทุกครั้งที่เดินทาง อันนี้สำคัญมาก อย่างของเราแถวแรกจะกรอก
(from)Schiphol – (to)Antwerp central จนท.ตรวจตั๋วเขาดูข้อมูลตรงนี้ว่าเรากำลังจะไปไหน นั่งมาจากไหน
เส้นทางที่เราจะไปครอบคลุมตั๋วที่เราใช้ไหม กรอกข้อมูลครบก็นั่งชมวิวเพลินๆ หยิบตั๋ว+Passport เตรียมไว้
เจอจนท.ก้ยื่นให้เซเฮโหลลล พร้อมส่งยิ้มสวยๆ
5. เช็ครอบ เช็คประเภทรถไฟ : ทีแรกเราจะจองรถไฟความเร็วสูง(Thalys) กับเส้นทางระยะไกล แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จอง เพราะต้องจ่ายค่าจองเพิ่มอีกเป็นพันต่อคน แถมจองแล้วมันฟิคเวลาเลยจะสายไม่ได้ ไม่งั้นตกรถไฟแน่ ถ้าถามว่ามันเร็วกว่า IC มากไหม ก็ประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชม. แล้วแต่เส้นทางนะ เราเลือกช้าแต่ชัวร์ดีกว่า เผื่อมีปัญหาจะได้เปลี่ยนแผนได้ด้วย
6. เช็ครอบ + Platform : เช็ครอบรถไฟได้ 2 ทาง :
1. App “Rail Planner” โหลดลงมือถือ ใช้งานง่าย
2. Google map
แต่เราเทใจให้ Google map มากกว่า นางreal timeกว่า แถมโชว์สถานีปลายทาง แต่2ทางนี้เช็คplatformไม่ได้นะ สุดท้ายเราก็ต้องไปเช็คplatform ที่สถานีอยู่ดี ถ้ามีรูทไหนที่ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟ ควรเลือกรอบที่มีเวลาเหลือให้เดินหาplatform ซัก15 นาที หรือถ้าใครไม่มีภาระต้องแบกกระเป๋า20 กก.เหมือนเราก็ไม่ต้องวอรี่เรื่องเวลาเปลี่ยนขบวนรถไฟ...ส่วนมากรถไฟจะตรงเวลานะ บวกลบ 1 นาทีได้ ถ้าไปถึงplatformก่อนเวลา ก็อย่าไปเผลอขึ้นผิดขบวนละ แบบรถไฟมันจะมาถี่มาก สมมติรถเรารอบ 9.50 แต่รถไฟรอบ9.40 มันก็มี 9.30 มันก็มี เพราะงั้นเช็คเวลาดีๆ แล้วก็เช็คชื่อสถานีปลายทาง สมมติจะไปลง Antwerp สุดสายของขบวนนี้คือ Brussel-midi จอที่platform มันก็จะโชว์ Brussel-midi นะ เพราะงั้นเช็คสถานีปลายทางดีๆ
7. เช็คประเภทรถไฟ : IC มีทั้งรถสีเหลือง สีขาวเทา 1ชั้น 2ชั้น ส่วนมากก็จะเป็นรถ IC นะ รถไฟของIC มีแบ่งเป็น 2 ชั้น คือ First class (แพงกว่า นั่งบายกว่า) กับ Second class(ถูกกว่า แคบกว่า) ใครจองแบบไหนไว้ก้นั่งแบบนั้นนะ สังเกตได้ง่ายคือ จะมีเลข 1 กะ 2 ด้านนอกรถไฟ ติดกันบ้าง สลับกันบ้าง ก็เลือกขึ้นให้ถูกตู้ แล้วรถไฟที่นี้ จะขึ้นจะลงกดปุ่มเปิดเองนะ....

สำหรับใครที่เดินทางไกลกลัวหิว แนะนำให้ตุนอาหารขึ้นไปกินบนรถไฟได้ แต่บนรถไฟก็มีขายนะ แต่นานๆทีจะเจอ ขายพวกน้ำ snack อาหารเบาๆ แล้วๆบนรถไฟก็มีห้องน้ำฟรีให้ใช้นะ สภาพก็สะอาดระดับนึง เสียงชักโครกใสๆเหมือนบนเครื่องบิน5555+ ค่อยสังเกตป้าย WC ไว้ละกัน
จบแล้ววว หวังว่าจะเป็นประโบชน์สำหรับคนที่จะใช้ Eurail Pass เที่ยวBenelux น้า
[CR] รีวิว EURAIL PASS ใช้เที่ยว Benelux (one country) พร้อมวิธีใช้
แพลนี่เราจะเดินทางก็ประมาณนี้
จากตอนแรกแถบจะไม่รู้ทิศรู้ทางว่าประเทศไหนอยู่ตรงไหน เมืองไหนอยู่ตรงไหน พอเอาชื่อเมืองมาจุดเท่านั้นละ อ่อออออเลยจ้า
ระหว่างที่markจุด เราก็เช็คได้ด้วยว่ามีรถไฟอะไรผ่านมั้ง เราจะเดินทางยังไง นั่งหาข้อมูลเปิดpantip google จนได้มารู้จัก www.b-europe.com เนี่ยเช็ครอบ,เวลาและราคาได้ ทำให้เราแพลนได้คร่าวๆว่าวันนี้จะเที่ยวไหนบ้าง เที่ยวได้ถึงกี่โมงไรงี้
การจองตั๋ว EURAIL PASS
หลักๆเราเดินทางด้วยรถไฟ นั่งหาข้อมูลไปเรื่อยจนมาเจอ ตั๋วEurail pass อารมณ์แบบตั๋วบุฟเฟ่ต์ไรประมาณนั้น เราลองนั่งคำนวณ ค่ารถไฟแต่ละรอบแบบ point to point ใน www.b-europe.com แล้วเทียบราคากับEurail pass ปรากฏว่า Eurail pass ถูกกว่า สะดวกกว่าด้วย ไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วทุกครั้งที่เดินทาง เพราะเราต้องลากกระเป๋ากันเองด้วย สั่งซื้อเองก้ได้นะ http://www.eurail.com/eurail-passes แต่ไม่รู้เราเข้าใจถูกไหม คือที่ไทยมันไม่ส่งฟรีอะ เลยต้องหา Agency ที่ขายEurail pass
เริ่มติดต่อไปตั้งแต่เดือนมีนา(เดินทางเมษา) ก็แบบเรื่อยๆไม่เร่ง agencyก็เรื่อยๆเหมือนกัน ติดต่อไป2agencyแรก ไม่ค่อยโอ เจ้าแรกserviceดีแต่feedbackช้า ราคาไม่แน่นอน เจ้าที่2 serviceดี feedbackเร็ว ได้โปรโมชั่นเหมือนในเว็บEurail pass คือ ซื้อ4วันแถม 1 วัน แต่เช็คราคาแต่ละรอบไม่ตรงกันสักครั้ง จนสุดท้ายพี่เราไปเจอ http://www.lostripthailand.com/tours/eurail-global-pass/ บอกราคาชัดเจนหน้าเว็บแถม แถมราคาถูกกว่า2เจ้าแรก serviceดี feedback เร็ว เลยตัดสินใจซื้อที่นี้ รอ1-2วัน ก็ได้ตั๋วส่งมาทางไปรษณีย์แล้ว เราแพลนว่าจะใช้ตั๋วทั้งหมด 5 วัน เลยจอง แบบ 4วันแถม 1 วันไป โชคดีที่มีโปรแถมวันมาพอดี แถมยังได้ส่วนลดค่าธรรมเนียมอีก50% แล้วก็แถม Voucher King Power อีก แถมเยอะขนาดนี้ จัดไป4 ตั๋ว ซื้อAdult saver 3 ใบ ใบละ6,200 บาท Youthอีก 1 ใบ 5,900 บาท บวกค่าธรรมเนียมไปอีกคนละ100บาท
วิธีใช้ตั๋ว EURAIL PASS
เราซื้อตั๋วไปสำหรับ 4 คน แต่แยกเป็นแบบ Adult Saver กับ Youth ก็เลยได้ตั๋วมา 2 เล่ม เล่มนึง Youth อีกเล่มใช้ด้วยกัน3คน เพราะซื้อแบบSaverมา เดินทางเป็นกลุ่ม 2 คนขึ้นไป ราคาก็ถูกว่า เขาเลยออกตั๋วเล่มเดียว แต่ข้างในจะมีตั๋วทั้ง3คนเย็บติดกันมานะ
เปิดซองไปรษณีย์มาก็เจอ 4 สิ่งนี้ (ซ้าย>ขวา)
1. Eurail Map : แผนที่ยุโรปทั้งหมดที่ใช้Eurail Passได้ ดีงาม แต่เราไม่ได้ใช้หรอก ไปแค่3ประเทศโหลดAppลงมือถือง่ายกว่า
2. King Power Voucher
3. Eurail pass : อันนี้สำคัญสุด พกติดตัวไว้ รักษาไว้อย่างดี
4. Eurail Pass Guide : คู่มือ วิธีใช้ เงื่อนไข ข้อมูลรถไฟ บลาๆ
ได้เอกสารมาครบแล้ว ตรวจดูข้อมูลข้างในว่าถูกต้องรึป่าว ชื่อถูกไหม, เลข Passport , ประเภทตั๋ว เราเดินทางกลุ่มBenelux เขานับเป็น1ประเทศ (Eurail Benelux Pass)
ขั้นตอนการใช้
1. กรอกข้อมูลแค่หัวข้อ “Personal details” ที่เหลือยังไม่ต้องเขียน ตรวจข้อมูล แค่นั้นแล้วพกติดตัวไว้
2. Activate ตั๋วกับเคาเตอร์ขายตั๋วสถานีแรกที่เดินทาง : ของเราเริ่มใช้ตั๋วสถานีแรกที่ Schiphol Airport มองหาเคาเตอร์ขายตั๋วรถไฟ Intercity / IC ไรพวกนี้ ที่ Schiphol Airport เคาเตอร์อยู่ตรงข้ามเยื้องกับBurger King จนท.จะปั๊มที่ตั๋วเรา 1 ตึ้ง! เป็นอันใช้งานได้
3. เดินถือตั๋วขึ้นรถไฟได้เลย ที่ยุโรปไม่มีช่องเสียบบัตรเหมือนBTS / MRTบ้านเรา เขาจะใช้วิธีให้จนท.รถไฟขึ้นมาสุ่มตรวจตั๋วโดยสาร.....เดี๋ยวอย่าเพิ่งคิดว่าจะโมเมไม่ซื้อตั๋วแล้วขึ้นไปนั่งเนียนๆนะ มันไม่โอนะ ถ้าจับได้นี้โดนปรับแพงมาก แถมอาจจะติดBlack listไม่ให้เข้าประเทศอีก ไม่คุ้มๆ
เราใช้Eurail pass 5 วัน ก็เจอจนท.มาขอดูตั๋วทุกรอบนะ แถมครั้งแรกขอดูPassportคู่ด้วย
4. กรอกข้อมูลเพิ่ม : ตอนเดินทาง
4.1. กรอกวัน+เดือนที่จะเดินทาง ด้านซ้ายมุมล่างตั๋วที่เป็นช่องๆ ช่องบนวันที่ ช่องล่างเดือน
4.2. กรอก “Journey details” ทุกครั้งที่เดินทาง อันนี้สำคัญมาก อย่างของเราแถวแรกจะกรอก
(from)Schiphol – (to)Antwerp central จนท.ตรวจตั๋วเขาดูข้อมูลตรงนี้ว่าเรากำลังจะไปไหน นั่งมาจากไหน
เส้นทางที่เราจะไปครอบคลุมตั๋วที่เราใช้ไหม กรอกข้อมูลครบก็นั่งชมวิวเพลินๆ หยิบตั๋ว+Passport เตรียมไว้
เจอจนท.ก้ยื่นให้เซเฮโหลลล พร้อมส่งยิ้มสวยๆ
5. เช็ครอบ เช็คประเภทรถไฟ : ทีแรกเราจะจองรถไฟความเร็วสูง(Thalys) กับเส้นทางระยะไกล แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จอง เพราะต้องจ่ายค่าจองเพิ่มอีกเป็นพันต่อคน แถมจองแล้วมันฟิคเวลาเลยจะสายไม่ได้ ไม่งั้นตกรถไฟแน่ ถ้าถามว่ามันเร็วกว่า IC มากไหม ก็ประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชม. แล้วแต่เส้นทางนะ เราเลือกช้าแต่ชัวร์ดีกว่า เผื่อมีปัญหาจะได้เปลี่ยนแผนได้ด้วย
6. เช็ครอบ + Platform : เช็ครอบรถไฟได้ 2 ทาง :
1. App “Rail Planner” โหลดลงมือถือ ใช้งานง่าย
2. Google map
แต่เราเทใจให้ Google map มากกว่า นางreal timeกว่า แถมโชว์สถานีปลายทาง แต่2ทางนี้เช็คplatformไม่ได้นะ สุดท้ายเราก็ต้องไปเช็คplatform ที่สถานีอยู่ดี ถ้ามีรูทไหนที่ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟ ควรเลือกรอบที่มีเวลาเหลือให้เดินหาplatform ซัก15 นาที หรือถ้าใครไม่มีภาระต้องแบกกระเป๋า20 กก.เหมือนเราก็ไม่ต้องวอรี่เรื่องเวลาเปลี่ยนขบวนรถไฟ...ส่วนมากรถไฟจะตรงเวลานะ บวกลบ 1 นาทีได้ ถ้าไปถึงplatformก่อนเวลา ก็อย่าไปเผลอขึ้นผิดขบวนละ แบบรถไฟมันจะมาถี่มาก สมมติรถเรารอบ 9.50 แต่รถไฟรอบ9.40 มันก็มี 9.30 มันก็มี เพราะงั้นเช็คเวลาดีๆ แล้วก็เช็คชื่อสถานีปลายทาง สมมติจะไปลง Antwerp สุดสายของขบวนนี้คือ Brussel-midi จอที่platform มันก็จะโชว์ Brussel-midi นะ เพราะงั้นเช็คสถานีปลายทางดีๆ
7. เช็คประเภทรถไฟ : IC มีทั้งรถสีเหลือง สีขาวเทา 1ชั้น 2ชั้น ส่วนมากก็จะเป็นรถ IC นะ รถไฟของIC มีแบ่งเป็น 2 ชั้น คือ First class (แพงกว่า นั่งบายกว่า) กับ Second class(ถูกกว่า แคบกว่า) ใครจองแบบไหนไว้ก้นั่งแบบนั้นนะ สังเกตได้ง่ายคือ จะมีเลข 1 กะ 2 ด้านนอกรถไฟ ติดกันบ้าง สลับกันบ้าง ก็เลือกขึ้นให้ถูกตู้ แล้วรถไฟที่นี้ จะขึ้นจะลงกดปุ่มเปิดเองนะ....
สำหรับใครที่เดินทางไกลกลัวหิว แนะนำให้ตุนอาหารขึ้นไปกินบนรถไฟได้ แต่บนรถไฟก็มีขายนะ แต่นานๆทีจะเจอ ขายพวกน้ำ snack อาหารเบาๆ แล้วๆบนรถไฟก็มีห้องน้ำฟรีให้ใช้นะ สภาพก็สะอาดระดับนึง เสียงชักโครกใสๆเหมือนบนเครื่องบิน5555+ ค่อยสังเกตป้าย WC ไว้ละกัน
จบแล้ววว หวังว่าจะเป็นประโบชน์สำหรับคนที่จะใช้ Eurail Pass เที่ยวBenelux น้า