ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 5

กระทู้สนทนา
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/35715756
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/35717992
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/35726142
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/35736149

ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 5

หลังจากที่คณินเคยคิดจะฆ่าตัวตายไม่ต่ำกว่า 100 ครั้งในเวลาสามเดือนที่ผ่านมา เขาก็เริ่มคิดที่จะหาผู้ชายจนๆสักคนมาทำในสิ่งที่เขาต้องการ มามีอะไรกับผู้หญิงโดยเขาเป็นคนสั่งการ แต่พอเขาได้พิภพมาช่วยดูแลเขา แค่สั่งให้พิภพเปลือยต่อหน้าเขาก็ทำให้เขาละอายใจในความเป็นมนุษย์ที่หยาบช้าต่ำทรามของตัวเอง

ทางพิภพเอง หลังจากปรับตัวได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เขาก็ทราบกิจกรรมของเขา ตื่นขึ้นมา เขาก็ต้องพาคณินไปอาบน้ำ มากินข้าวด้วย และพยายามชวนคุย ทำให้คณินไม่เหงา และหาอะไรให้คณินทำง่ายๆ ถ้าคณินเบื่อก็แค่ดูทีวีเป็นเพื่อน

หลังจากนั้นก็กินข้าวเที่ยงด้วยกัน พอหายอิ่มแล้ว คณินก็จะนอนพัก พ่อบ้านจะมาช่วยให้คณินพลิกตัวเป็นช่วงๆเพื่อไม่ให้เกิดแผลกดทับ ตอนบ่ายขณะที่คณินหลับ พิภพจะไปอบรมการดูแลผู้ป่วยชายที่เป็นอัมพาตท่อนล่างที่หมอได้จัดขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้ความรู้และเป็นกำลังใจให้กับญาติที่ตกอยู่ในสภาวะดังกล่าว

ช่วงหลังๆมานี้ หมอพบว่านอกจากผู้ป่วยจะเครียดแล้ว ผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยก็มีความเครียดสะสมอยู่ไม่น้อย หมอเลยต้องดูแลเครือข่ายของหมอเป็นพิเศษ
หลังจากอบรมกลับมา พิภพจะมากินข้าวเย็นกับคณิน พอพักจนหายอิ่มก็จะอาบน้ำให้ แล้วก็คุยกันนิดหน่อยก่อยจะเข้านอน พิภพจะแยกไปนอนอีกห้อง ช่วงกลางคืน พ่อบ้านจะเข้ามาพลิกตัวให้คณินสองเวลาคือตีสองกับตีสี่ หลังจากนั้นพอคณินตื่น มันก็จะเป็นหน้าที่ของพิภพ

พิภพไปอบรมที่โรงพยาบาลอย่างสม่ำเสมอ จนเขาเจอหวาน เพื่อนที่มาอบรมเหมือนกันและนั่งใกล้ๆกันสองสามครั้งจนเริ่มที่จะสนิทสนมคุ้นเคยกัน สามีของหวานเป็นอัมพาตท่อนล่างมาประมาณครึ่งปีแล้ว สิ่งที่หวานมาอบรมและปรึกษาหมออยู่เรื่อยๆก็คือการมีลูกด้วยกัน แต่หมออยากให้สามีของหวานมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจก่อนที่จะดำเนินการในเรื่องนี้

พอพิภพรู้ เขาก็มักจะให้กำลังใจหวาน หวานเป็นผู้หญิงผมสั้นที่น่ารัก ส่วนพิภพเองก็เป็นชายหนุ่มที่ดุกำยำล่ำสันและหน้าตาดีอยู่ไม่น้อย การเจอกันบ่อยๆ ให้กำลังใจกันบ่อยๆ ทำให้ทั้งคู่เริ่มตกหลุมรักซึ่งกันและกัน โดยต่างไม่รู้ว่าแต่ละฝ่ายรู้สึกยังไงต่อกัน

มันเป็นช่วงทรมานที่ทั้งคู่ต้องผ่านไปให้ได้

หวานแก้ปัญหานี้ด้วยการขออบรมและคุยกับหมอคนละเวลากับพิภพ แต่ทำได้ไม่นาน หวานก็ขอให้เป็นเวลาเดิม เพราะเธอเริ่มรู้สึกกับพิภพมากขึ้น

พิภพพยายามข่มใจ ทางหนึ่งที่พอทำได้คือการเอางานวิจัยของ ธัญพร ชื่นกลิ่น มาอ่านซ้ำไปซ้ำมาเพื่อจะได้เข้าถึงคณินได้ง่ายขึ้น อีกอย่างหนึ่งเขาจะได้ลืมหวานด้วย




รหัสวิจัย : Code Research    1267
ชื่อเรื่องภาษาไทย:Thai Title    ประสบการณ์การมีชีวิตอยู่อย่างอัมพาตท่อนล่าง
ชื่อภาษาอังกฤษ:English Title    -
ผู้แต่ง: Author    ธัญพร ชื่นกลิ่น
หน่วยงาน:    มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. บัณฑิตวิทยาลัย
ปีที่ดำเนินการ:     2542
บทคัดย่อ : Abstract

การศึกษาเชิงคุณภาพแบบปรากฏการณ์วิทยาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรยายและอธิบาย ประสบการณ์การมีชีวิตอยู่อย่างผู้ป่วยอัมพาตท่อนล่าง ผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้ป่วยอัมพาตท่อนล่าง แบบสมบูรณ์จำนวน 10 ราย ซึ่งคัดเลือกแบบเจาะจงจากโรงพยาบาลและในชุมชน ในพื้นที่ ภาคใต้ตอนล่าง เก็บรวบรวมข้อมูลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2541 ถึงเดือนกรกฎาคม 2542 ด้วยวิธีการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก การสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม การบันทึกภาคสนาม และการ บันทึกเสียง วิเคราะห์ข้อมูลโดยดัดแปลงขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูลของโคไลซี่

ผลการศึกษาพบว่า ประสบการณ์การมีชีวิตอยู่อย่างอัมพาตท่อนล่าง แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะก่อนการรับรู้การเป็นอัมพาตท่อนล่าง ระยะเผชิญหน้ากับอัมพาตท่อนล่าง และระยะอยู่ กับอัมพาตท่อนล่าง ซึ่งในแต่ละระยะผู้ป่วยให้ความหมายต่อการมีชีวิตอยู่อย่างอัมพาตท่อนล่าง ดังนี้ 1) ความหมายในระยะก่อนการรับรู้การเป็นอัมพาตท่อนล่าง เป็นการให้ความหมายต่อการ บาดเจ็บว่า ชาไม่มีความรู้สึกขยับไม่ได้ ซึ่งเป็นชั่วคราวจะหายได้ 2) ความหมายในระยะเผชิญหน้ากับอัมพาตท่อนล่าง ให้ความหมายต่ออัมพาตท่อนล่างว่า เป็นแล้วหายได้ หรือเป็นแล้วพิการตลอดชีวิต ให้ความหมายต่อชีวิตที่อยู่อย่างอัมพาตท่อนล่างว่า เป็นครึ่งหนึ่งตายครึ่งหนึ่ง มีขาดีกว่าไม่มี มีชีวิตอยู่คู่รถเข็น พึ่งพาและเป็นภาระผู้อื่น ลำบากกายทุกข์ทรมานใจ อยู่ในพื้นที่จำกัด เป็นเบ้าสายตาเป็นจุดสนใจ ไม่สามารถมีครอบครัวได้/ ไม่มีใครเอา ต่ำต้อยด้อยค่าน่ารังเกียจ อดทนและสู้ชีวิต อยู่ไปเรื่อยๆ อนาคตเลื่อนลอย และ เป็นโชคชะตา/เวรกรรม 3) ความหมายในระยะอยู่กับอัมพาตท่อนล่าง คือ เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่พิการเฉพาะกาย เท่านั้น แต่หัวใจและสมองไม่พิการ

ความรู้สึกในแต่ละระยะของการมีชีวิตอยู่อย่างอัมพาตท่อนล่าง มีดังนี้ 1) ความรู้สึกในระยะก่อนการรับรู้การเป็นอัมพาตท่อนล่าง คือ เฉยๆ สงสัย/กลัวจะเดินไม่ได้ 2) ความรู้สึกในระยะเผชิญหน้ากับอัมพาตท่อนล่าง แบ่งเป็น2.1 ความรู้สึกเมื่อรับรู้การเป็นอัมพาตท่อนล่าง ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกไม่เชื่อว่า จะเดินไม่ได้ หรือเดินไม่ได้ก็ไม่เป็นไร2.2 ความรู้สึกที่ตอบสนองต่อการเป็นอัมพาตท่อนล่าง ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกเสียใจ น้อยใจที่เดินไม่ได้ เครียดคิดมาก หงุดหงิดที่ช่วยตนเองไม่ได้ ไม่มีค่า อยากตายอยู่ไปก็ลำบาก อายที่ตนเองไม่เหมือนเดิม เกรงใจไม่อยากเป็นภาระ และเหมือนถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว2.3 ความรู้สึกในการจัดการกับชีวิตที่อยู่อย่างอัมพาตท่อนล่าง ผู้ป่วยจะรู้สึกมีกำลังใจ ในความหวัง ท้อแท้หดหู่ในความสิ้นหวัง และทำใจไม่คิด 3) ความรู้สึกในระยะอยู่กับอัมพาตท่อนล่าง เป็นความรู้สึกธรรมดาของคนพิการ ยังมีคุณค่า ช่วยเหลือผู้อื่นได้ รู้สึกมีปมด้อยเป็นบางครั้ง กลัวไม่มีผู้ดูแลเมื่อแก่เฒ่า และมีความหวังที่จะ เดินได้เป็นช่วงๆ

การดำเนินชีวิตอยู่อย่างอัมพาตท่อนล่าง มีดังนี้ 1) การดำเนินชีวิตในระยะก่อนการรับรู้การเป็นอัมพาตท่อนล่าง เป็นช่วงที่นอนอย่างเดียว และอยู่ในความดูแลของผู้อื่น 2) การดำเนินชีวิตในระยะเผชิญหน้ากับอัมพาตท่อนล่าง ผู้ป่วยจะแสวงหาทางเลือกอื่น ในการรักษา ผจญกับภาวะแทรกซ้อนและอาการข้างเคียง เรียนรู้การดำเนินชีวิต สรรหาสิ่งอำนวย ความสะดวก พึ่งตนเองเพื่อลดภาระ และหันหลังให้สังคมเดิม 3) การดำเนินชีวิตในระยะอยู่กับอัมพาตท่อนล่าง เป็นระยะที่หยุดแสวงหาการรักษา ช่วยเหลือตนเองตามศักยภาพกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และทำบุญทำทาน ความต้องการความช่วยเหลือ/การดูแลเมื่อมีชีวิตอยู่อย่างอัมพาตท่อนล่าง มี 5 ประการ คือ 1) มีค่าใช้จ่ายในการกินอยู่ 2) ได้รับความรักความเอื้ออาทร 3) มีความสะดวกสบายและการพึ่งตนเองในการดำเนินชีวิต 4) ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความเจ็บป่วยและการดำเนินชีวิต และ 5) การหายจากการเจ็บป่วย จากการศึกษาครั้งนี้ ทำให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับประสบการณ์การมีชีวิตอยู่อย่างผู้ป่วย อัมพาตท่อนล่างมากขึ้น สามารถใช้ผลการศึกษาเป็นข้อมูลพื้นฐาน ในการพัฒนาการพยาบาลอย่าง เป็นองค์รวม เกิดความเข้าใจในการดูแลช่วยเหลือให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างอิสระ และตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้อย่างแท้จริง ตามบริบทของสังคมและวัฒนธรรมไทย


อ้างอิง :Reference    มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. บัณฑิตวิทยาลัย
http://www.jvkk.go.th/research/qrresearch.asp?code=1267

แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกเครียด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่