ลงมาเก๊า เข้าจูไห่ ต่อกวางโจว กลับเซินเจิ้น Macao-Zhuhai-Guangzhou-Shenzhen EP3 Guangzhou

EP1 Zhuhai http://pantip.com/topic/35588020
EP2 Zhuhai-Guangzhouhttp://pantip.com/topic/35588125
EP3 Guangzhou http://pantip.com/topic/35590114
EP4 Guangzhou-Shenzhen http://pantip.com/topic/35590230
EP5 Shenzhen http://pantip.com/topic/35590327

จูไห่ โกวไท โฮเต็ล (Zhuhai Guotai Hotel) http://pantip.com/topic/35590561
กวางโจว โคอาลา โฮม โฮสเทล (Guangzhou Koala Home Hostel) http://pantip.com/topic/35597637
โรงแรมเสินเจิ้น ซูนอน (Shenzhen Sunon Hotel) [urlhttp://pantip.com/topic/35597691]
-----------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากเมื่อวานเราเสียเวลาอยู่ในสถานีรถไฟความเร็วสูงจูไห่มา 6 ชั่วโมง  วันนี้เราก็ไม่ชักช้าลีลา  เริ่มรีบสำรวจกวางโจวกันเลยจ๊ะ



วันนี้เราเริ่มกันที่โบสถ์ชิชิ (ชิชิ แปลว่าหิน) โบสถ์นี้เป็นเหมือนโบสถ์ประจำเมืองกวางโจวน่ะ  ตอนที่เราไปผู้คนด้านในเหมือนจะพึ่งทำพิธีเสร็จ  เราเลยไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปด้านในน่ะ  เกรงใจคนเดินกันออกมาเยอะเชียว



หลังจากนั้นเราก็ไปหาอะไรแถวตึก One Ling รองท้องสักหน่อย  ตอนเราไปห้างยังไม่เปิดน่ะ  เลยไม่ได้เข้าไปด้านใน  สองชามที่เห็นแค่ 30 กว่าหยวนเอง เยอะมาก  เราแนะนำถ้าเป็นอาหารเช้าอย่าพึ่งสั่งเลย  ชามมันใหญ่กว่าหน้าเราอีก  เรางี้กินเส้นอย่างเดียวยังไม่หมดเลย

เนื่องจากเข็ดจากรถไฟความเร็วสูงที่จูไห่มาแล้ว  คราวนี้เราเลยรีบพากันไปซื้อตั๋วเพื่อจะขึ้นรถไฟความเร็วสูงในวันพรุ่งนี้กันก่อนเลย  เนื่องจากทุกอย่างเป็นภาษาจีน  นอกจากทางเข้า ทางออก และคำว่า Ticket  ดีนะยังมีป้ายทิกเก็ต  แต่ๆเราไม่รู้เลยว่าสถานีกวางโจวเป็นสถานีรวมทั้งรถไฟความเร็วสูงและรถไฟธรรมดา  แถมเป็นสถานีใหญ่อารมณ์ประมาณเป็นสถานีรถไฟใหญ่ประจำมณฑลประมาณนี้อ๊ะ  ผู้คนเลยหนาแน่นเป็นพิเศษ (เราสามารถนั่งรถไฟสายนี้ไปปักกิ่งได้เลยนะ)  เราเห็นป้ายขายตั๋วและห้องขายตั๋วใหญ่มากๆ ด้านขวาของสถานีเราจึงเดินเข้าไปต่อแถวซื้อตั๋ว  รอประมาณ 45 นาทีก็ได้ตั๋วมาจากพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยสักกะนิดเดียว  (แนะนำให้ท่องศัพท์จีน 1-10 และคำศัพท์วัน เวลารู้ไว้บ้างก็ดีนะ)  โชคดีที่เราเคยเรียนภาษาจีนมีความรู้เท่าหางอึ่ง  เลยพอเอาตัวรอดได้บ้างนิดหน่อย  จึงรอดไป อิอิ



และเราก็ไปถ่ายรูปร่วมกับแพะห้าตัว สัญลักษณ์ของเมืองนี้กัน  เนื่องจากช่วงที่เราไป (25-29 ส.ค. 2559) เป็นช่วงหน้าร้อนของประเทศจีน  เราจึงเดินกันเหงื่อแตกนิดนึงกว่าจะถึงห้าแพะ  ก็มันเดินเป็นทางเดินขึ้นเขาอ๊ะ  แต่ก็ไม่ไกลหรอก  ถ้าอากาศดีๆ ก็เดินสบายๆ เลยหละ



หลังจากนั้นเราก็กลับมาสถิตอยู่ที่โฮสเทล  เนื่องจากไม่ไหวจากสภาพอากาศด้านนอก  และจากที่โฮลเทลเราอยู่ที่เป่ยจิงลู่หรือถนนปักกิ่ง  เราก็พากันช็อปปิ้งสบายกระเป๋า(กระเป๋าเบา)กันไปเลยจ๊ะ

ใครที่รักเสื้อผ้าแบรนด์ฮ่องกง เช่น จีออดาโน่ บอสซินี่ บาเลนโน่  อะไรประมาณนี้  แนะนำเลยจ๊ะ  ขนาดสามีเราเป็นผู้ชายบิ๊กไซส์ นางยังเข้าร้านโน้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่น  สนุกกับการช็อปปิ้งเพลินเลย  แถมราคาน่ารักมาก  ตัวนึงประมาณ 30-40 หยวนเท่านั้น  พวกกางเกงยีนส์ก็แค่ประมาณ 100 หยวน(ตอนเราไปหยวนละ 5.20 บาท)



ถนนปักกิ่งหรือเป่ยจิงลู่นอกจากมีแหล่งช็อปปิ้งแล้ว  ก็ยังมีประวัติศาสตร์ด้วยนะ  เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นสายเก่าของเมือง  เก่ามากแค่ไหนดูจากรูปละกัน  แล้วก็มีการสร้างทับขึ้นมาเป็นชั้นๆหลายทศวรรษ  ทางการจึงได้ทำการขุดเจาะถนนบางจุดให้เป็นหลุมกว้างๆ แล้วเอากระจกทับไว้  เพราะให้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้เห็นกับพื้นถนนเก่าด้านล่างได้ด้วย



นอกจากร้าน "ฉันยุ่งมาก" ก็ยังมีร้านน้ำมะม่วงที่ชื่อว่า "บ้ามะม่วง" ตกแต่งคล้ายๆกันอยู่ด้วยนะ  แต่เราว่ารสชาดคงใกล้เคียงกันแหละ



ร้านไส้กรอกทอดคลุกพริก  คนต่อคิวกันยาวมากๆๆๆๆๆ  เราก็เอากับเขาด้วย  สรุปคือไส้กรอกทอด 10 บาทบ้านเรานั่นแหละ  แต่เขาทอดดีนะไม่อมน้ำมันเลยแถมกรอบด้วย



จบท้ายวันนี้ด้วยการลงไปช็อปปิ้งอีกรอบตอนสามทุ่ม

พรุ่งนี้ไปไหนกันบ้างไปดูกันจ๊ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่