[CR] [CR]MOTHEWAY: พาแม่ตะลุยฮ่องกง ตอนที่ 4: นั่งกระเช้านองปิงไปไหว้พระใหญ่ลันเตา วัดโปลินก่อนกลับไทย

MOTHEWAY: พาแม่ตะลุยฮ่องกง ตอนที่ 1: เหินฟ้าสู่ฮ่องกง
http://pantip.com/topic/35552764
MOTHEWAY: พาแม่ตะลุยฮ่องกง ตอนที่ 2: เที่ยว Repulse bay, Ocean Park และ Victoria Peak
http://pantip.com/topic/35554151
MOTHEWAY: พาแม่ตะลุยฮ่องกง ตอนที่ 3: เที่ยวมาเก๊า และSymphony of Lights ณ อ่าววิคทอเรีย ฮ่องกง
http://pantip.com/topic/35557528
MOTHEWAY: พาแม่ตะลุยฮ่องกง ตอนที่ 4: นั่งกระเช้านองปิงไปไหว้พระใหญ่ลันเตา วัดโปลินก่อนกลับไทย
http://pantip.com/topic/35558593

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปแล้ว วันนี้เราแพลนจะไปนั่งกระเช้านองปิง เพื่อไปไหว้พระใหญ่ลันเตา ณ วัดโปลิน เราจองตั๋วมาเรียบร้อยจากในไทย  ฉะนั้นเราจะไม่ต้องเสียเวลาเข้าแถวเพื่อซื้อตั๋วอันยาวเหยียดตามที่เขาว่าๆกัน ก่อนไปเราก็คิดเรื่องกระเป๋าเดินทาง 3 ใบว่าจะเอายังงัยดี ตอนแรกอ่านในกระทู้เขาก็บอกว่ามี Coin locker ที่ City Gate นะ แต่ว่าสงสารคุณแม่เลยคิดว่าไปทำ intown check in ที่สถานีฮ่องกงดีกว่า เพราะที่โรงแรมที่เราพักนั้นจะมี Shuttle Bus ของ Airport Express มารับถึงหน้าโรงแรม เราเลยไปเลือกที่จะกลับไปสนามบินด้วย AE ค่ะ
เราเช็คเอาท์จากโรงแรมเกือบๆ 10 โมงเช้า แล้วก็มารอรถ Airport Express Shuttle Bus มารับเพื่อไป Hong Kong Station ค่ะ คนขับรถ shuttle bus จะไม่ตรวจตั๋วนะคะ ลากกระเป๋ามารอไว้ เค้าก็จะรู้อยู่แล้ว รถหน้าตาแบบนี้ รถ shuttle bus จะมาส่งที่ Hong Kong Station ตรงชั้นที่ทำ in-town check เดินเข้ามาจะมี counter ขายตั๋วอยู่คะ มาซื้อตรงนี้ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อมาก่อนนะคะ สำหรับคนที่มาเป็นกลุ่มแนะนำให้ซื้อแบบ group  ราคาจะถูกกว่านะคะ
แบบ group  2 คน ราคา 170 hkd จะตกคนละ 85 hkd
แบบ group 3 คน  จะตกคนละ 76.7hkd
แบบ group 4 คน  จะตกคนละ 70 hkd
ถ้ามา 1 คน จะใช้แบบ group ไม่ได้นะคะโดนราคาเต็ม 100 hkd ถ้ามีเงินใน Octopus card เหลืออยู่เกิน 100 hkd ก็ใช้ Octopus card ได้นะคะ จะโดนตัดเงิน 100 hkdค่ะเมื่อได้ตั๋วมาแล้วให้นำตั๋วมาแตะที่แท่นสีเหลืองตรงทางเข้าประตูก็จะเปิดออก แล้วก็เดินไป check-in ที่ counterสายการบินได้เลยนะคะ counterจะแยกแต่ละ airlineไว้ให้แล้วขั้นตอนการ check-in เหมือนที่สนามบินทุกอย่าง สามารถโหลดกระเป๋าพร้อมกับรับ boarding pass มาได้เลยแต่จะยังไม่มีบอก Gate นะคะ ต้องไปดูที่สนามบิน ถ้าใครต้องการเดินทางไปสนามบินเลย ก็เดินไปตามป้าย Trains to Airport ได้เลยค่ะ ถ้าใครมาทำ in town check in ตั้งแต่เช้าแต่กลับไฟล์ค่ำเหมือนเราก็สามารถไปเที่ยวได้ก่อน แล้วค่อยกลับมานั่ง AE ไปสนามบินอีกทีได้นะคะ ตอนนี้เราทำการโหลดกระเป๋าเรียบร้อยละ ไปเที่ยวกันต่อดีกว่า เราจะไปกระเช้านองปิงกันนะคะ ให้นั่ง MTR สายสีส้มไปลงที่สถานี Tung Chung ออกทางออก B ออกมาก็จะเจอกับห้างสรรพสินค้า City Gate ดังที่เห็น ซึ่งสายสีส้มนั้นเราจะผ่านสถานีดิสนีย์แลนด์ด้วย เมื่อออกมาจากสถานี Tung Chung แล้ว ให้เดินไปทางซ้ายของห้าง City Gate ผ่านด้านข้างห้างก็จะเห็นบันไดเลื่อนข้างหน้าแบบนี้ไม่ผิดแน่ ทางไปนั่งกระเช้านองปิง เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนไปด้านบนแล้ว ทางเข้าจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งซ้ายคือ สำหรับคนที่เข้าคิว ซื้อตั๋วตามปกติ ส่วนด้านขวาคือ สำหรับคนที่จองตั๋วแบบ Online Booking หรือ Voucher สำหรับตั๋วกระเช้า เราจองจากHongkongfanclubนะคะ สามารถไปซื้อได้ที่ Gateway เอกมัย ชั้นใต้ดินได้เลยนะคะ ตอนไปซื้อจะได้ Voucher หน้าตาแบบนี้ค่ะ ไม่ต้องต่อคิวกับนักท่องเที่ยวปกตินะค่ะ ให้เดินไปเข้าที่ช่อง 14 เป็นต้นไปที่เขียนว่า Passengers with bookings แค่ยื่นใบจอง Voucher ที่พิมพ์มาแล้วรับตั๋วก็เป็นอันเสร็จเดินผ่านเคาน์เตอร์ซื้อตั๋วเสร็จก็เดินมาทางขวาเลี้ยวซ้ายมาก็จะเจอกับแถวอีกแล้ว คราวนี้เป็นแถวที่รอขึ้นกระเช้ากันแล้วนะ ครั้งนี้ยังไงก็ต้องต่อแถวแต่ค่อยๆเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ แล้วก็ได้ขึ้นไปนั่งกระเช้าสมใจ เราเลือกกระเช้าแบบธรรมดาไม่ใช่คริสตอลพื้นใสๆ เพราะกลัวคุณแม่ไม่กล้านั่ง มาดูวิวจากด้านบนกันค่ะ มองเห็นสนามบินด้วยนะ ใช้เวลานั่งกระเช้าประมาณ 30 นาทีได้มั้ง มองเห็นพระใหญ่อยู่ลิบๆ ลงกระเช้าก็จะถึง หมู่บ้านวัฒนธรรมนอนปิง มีร้านขายของที่ระลึก souvenirs อยู่ 3-4 ร้านได้ ถ้าหิว ก็มีร้านอาหารก็เพียบนะ 7-11 ยังมีเลย เดินเล่นกันไปเรื่อยๆค่ะ เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นทางขึ้นไป ไหว้พระใหญ่กันนะคะ ขึ้นด้านขวา ลงด้านซ้ายนะค่ะ เดินขึ้น-ลง ก็เหนื่อยเหมือนกัน หลังจากที่ไหว้พระกันเสร็จแล้ว เราก็เดินไปอีกประมาณ 10 นาทีถึงจะถึง Wisdom Path ค่ะ (คุณนายแม่ขอรอข้างล่าง เพราะนางเมื่อย) ระหว่างทางจะปกคลุมด้วยต้นไม้ และต้นชาอยู่เต็มสองข้างทาง บรรยากาศและอากาศดีมากๆเลยค่ะ  มีทางขึ้นเขาชันบ้างสลับกันไปเล็กน้อย ในที่สุดเราก็มาถึงจุดหมายของเราซะที ด้านขวามือของเราก็จะเป็น Wisdom Path ค่ะ  ที่นี่เป็นที่ตั้งของเสาไม้จำนวนทั้งสิ้น 38 ต้น โดยทั้งหมดเรียงกันเป็นเลข 8 บ้างก็บอกว่าเป็นเหมือนสัญญาลักษณ์ Infinity แต่ละแผ่นไม้นี้ก็จะสลักปรัชญาจีนต่างๆไว้ด้วย เราก็เดินกลับลงมาเพื่อจะไปวัดโปลินกันต่อ คุณนายรออยู่ข้างล่าง ด้านนอกก็เห็นเขาจุดเทียนอันใหญ่ๆกัน มีขายแต่ไม่ได้สอบถามราคา หลังจากที่เดินเล่นกันอยู่นานมาก และก็ถึงเวลาอำลาพระใหญ่ลันเตาแล้ว หลังจากนั้นเราเข้าไปทานข้าวกันใน City Gate outlet นะคะ เขาบอกว่าอาหารที่ Food Republic แหล่งรวมอาหารอร่อย สามารถลิ้มลองอาหารเอเซีย และยุโรปได้หลากหลายประเภท หลังจากนั้นเราก็กลับมา shopping ซื้อของฝากไปเรื่อยๆ แล้วกลับมาขึ้น Airport Express เพื่อไปสนามบินกันค่ะ มาดู Gate ที่จอนะคะ หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปที่ gate ของเราได้เลย จากนั้นก็รอเวลาขึ้นเครื่อง ไฟล์ทนี้ EK385 เครื่องออกจากสนามบินฮ่องกง 21.15 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 23.15 น. เป็นอันจบทริปฮ่องกง-มาเก๊า 4 วัน 3 คืนไปอย่างงงๆ ไปมาหลายสถานที่มาก ถ้ามีโอกาสจะกลับมาใหม่เนอะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ