ทำไม่ได้
ตั้งแต่ต้นเดือนก่อน ...เจ้าโบ้สุนัขสีดำเพศผู้พันธ์ลาบาดอร์จะมานอนที่หน้าป้อมยามทางเข้าโรงพยาบาลแห่งนี้ ตั้งแต่เช้าจนพระอาทิตย์ตกดิน...ทุกวัน
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะนายผู้ชายของมันป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการโรคหัวใจกำเริบ...
วันนั้นมีเพียงมันและนายอยู่บ้านเพียงลำพัง
ทันทีที่มันเห็นผู้มีคุณทรุดลงที่หน้าประตูรั้ว หลังจากกลับมาจากการเดินไปจ่ายตลาดด้วยกันในตอนเช้า
เจ้าโบ้รู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติ มันทะยานเข้าไปหานายก่อนจะเลียแก้มเรียกสติ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นดั่งใจหวังเมื่ออีกฝ่ายไม่ยกมือขึ้นมาห้ามปรามแล้วบอกกับมันว่า...พอแล้วโบ้...เหมือนทุกครั้ง
เจ้าตูบตัดสินสินใจงับคอเสื้อผู้เป็นนายกระชากสะบัดไปสะบัดมาเพื่อปลุกให้ตื่น ก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับใดๆ ให้มันรู้สึกว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ
โบ้คลายเขี้ยวออกจากเสื้อเจ้าของก่อนจะวิ่งวนซ้ายวนขวาส่งเสียงเห่าและคำรามใส่เจ้านายหวังจะปลุกให้อีกฝ่ายตื่นมา...ลูบหัวมัน...อย่างที่เคยทำ
มันเคยได้ผล...แต่ครั้งนี้...ไม่
เมื่อเจ้าตูบทำในสิ่งที่คิดว่าทำได้ทุกอย่างแล้ว มันก็วิ่งทะยานออกจากรั้วบ้านตรงไปยังร้านขายของชำที่อยู่ถัดไปอีกสามคูหา
ร้านนี้มันเคยนั่งรอด้วยความสงบอยู่ข้างๆ นายตอนคุยกับลุงสิงห์ผู้เป็นเจ้าของอยู่บ่อยครั้ง
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ เจ้าโบ้วิ่งเข้าวิ่งออกร้านอย่างบ้าคลั่งพร้อมเสียงเห่าจนคนที่อยู่ใกล้เคียงต้องกรูกันออกมาดู
ด้วยความผิดปกติจากที่เคยเป็นทำให้มันเรียกชาวบ้านมาที่ประตูหน้าบ้านของมันได้
และทุกอย่างจบลงที่โรงพยาบาล...แห่งนี้
ตลอดเวลาตั้งแต่เจ้าหน้าที่นำร่างไร้วิญญาณของผมขึ้นรถ เจ้าโบ้ก็อยู่ข้างกายผมมาตลอดจนถึงหน้าห้องฉุกเฉิน
ผมอยากพามันกลับบ้าน...และบอกมันว่า...ผมไม่ได้อยู่กับมันอีกแล้ว...ตลอดไป
แต่ผมก็ทำไม่ได้...
****************
เฮ่อๆ หัวเราะก่อนทักทาย เรื่องนี้คือ...แบบว่า อยากหักมุมด้วยมุมมองการเล่าดูอ่ะครับ เจอหักมุมด้วยเนื้อเรื่องมาก็เยอะกันแล้ว...เลยอยากเสนอการหักมุมด้วยมุมมองดู...อ่านจบแล้วรู้สึกยังไงบอกกันด้วยเน้อ ผู้เขียนจะได้นำไปปรับปรุงให้ดีขึ้นนะครับผม
ทำไม่ได้(เรื่องสั้นสามร้อยเก้าสิบสามคำ)
ตั้งแต่ต้นเดือนก่อน ...เจ้าโบ้สุนัขสีดำเพศผู้พันธ์ลาบาดอร์จะมานอนที่หน้าป้อมยามทางเข้าโรงพยาบาลแห่งนี้ ตั้งแต่เช้าจนพระอาทิตย์ตกดิน...ทุกวัน
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะนายผู้ชายของมันป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการโรคหัวใจกำเริบ...
วันนั้นมีเพียงมันและนายอยู่บ้านเพียงลำพัง
ทันทีที่มันเห็นผู้มีคุณทรุดลงที่หน้าประตูรั้ว หลังจากกลับมาจากการเดินไปจ่ายตลาดด้วยกันในตอนเช้า
เจ้าโบ้รู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติ มันทะยานเข้าไปหานายก่อนจะเลียแก้มเรียกสติ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นดั่งใจหวังเมื่ออีกฝ่ายไม่ยกมือขึ้นมาห้ามปรามแล้วบอกกับมันว่า...พอแล้วโบ้...เหมือนทุกครั้ง
เจ้าตูบตัดสินสินใจงับคอเสื้อผู้เป็นนายกระชากสะบัดไปสะบัดมาเพื่อปลุกให้ตื่น ก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับใดๆ ให้มันรู้สึกว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ
โบ้คลายเขี้ยวออกจากเสื้อเจ้าของก่อนจะวิ่งวนซ้ายวนขวาส่งเสียงเห่าและคำรามใส่เจ้านายหวังจะปลุกให้อีกฝ่ายตื่นมา...ลูบหัวมัน...อย่างที่เคยทำ
มันเคยได้ผล...แต่ครั้งนี้...ไม่
เมื่อเจ้าตูบทำในสิ่งที่คิดว่าทำได้ทุกอย่างแล้ว มันก็วิ่งทะยานออกจากรั้วบ้านตรงไปยังร้านขายของชำที่อยู่ถัดไปอีกสามคูหา
ร้านนี้มันเคยนั่งรอด้วยความสงบอยู่ข้างๆ นายตอนคุยกับลุงสิงห์ผู้เป็นเจ้าของอยู่บ่อยครั้ง
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ เจ้าโบ้วิ่งเข้าวิ่งออกร้านอย่างบ้าคลั่งพร้อมเสียงเห่าจนคนที่อยู่ใกล้เคียงต้องกรูกันออกมาดู
ด้วยความผิดปกติจากที่เคยเป็นทำให้มันเรียกชาวบ้านมาที่ประตูหน้าบ้านของมันได้
และทุกอย่างจบลงที่โรงพยาบาล...แห่งนี้
ตลอดเวลาตั้งแต่เจ้าหน้าที่นำร่างไร้วิญญาณของผมขึ้นรถ เจ้าโบ้ก็อยู่ข้างกายผมมาตลอดจนถึงหน้าห้องฉุกเฉิน
ผมอยากพามันกลับบ้าน...และบอกมันว่า...ผมไม่ได้อยู่กับมันอีกแล้ว...ตลอดไป
แต่ผมก็ทำไม่ได้...
เฮ่อๆ หัวเราะก่อนทักทาย เรื่องนี้คือ...แบบว่า อยากหักมุมด้วยมุมมองการเล่าดูอ่ะครับ เจอหักมุมด้วยเนื้อเรื่องมาก็เยอะกันแล้ว...เลยอยากเสนอการหักมุมด้วยมุมมองดู...อ่านจบแล้วรู้สึกยังไงบอกกันด้วยเน้อ ผู้เขียนจะได้นำไปปรับปรุงให้ดีขึ้นนะครับผม
https://www.facebook.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%8D%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B9%8C-1644525189150659/