อยากไป...ก็ไปสิ โอซาก้า-USJ-เกียวโต-คาวากูจิโกะ-โตเกียว Part 5 หลงในโตเกียว+นอนสนามบินนาริตะ

พาพันชอบกลับมาแล้วค่า  มารีวิวตอนสุดท้ายแล้วนะ
ติดตามความเดิมตอนที่แล้วได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เช้าวันที่ 18 เม.ษ. 59 วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส่มาก เราเช็คเอ้าออกจาก Akaishi Ryokan แต่เช้า แล้วออกมาเดินเล่นหน้าที่พัก เพื่อรอคุณลุงเจ้าของที่พักไปส่งที่สถานีคาวากูจิโกะ ซึ่งโรงแรมจะไปส่งสองรอบ คือ  08:45 น. และ 09:45 น. เราไปรอบ 8:45

ลุงเค้าไม่ได้ใช้รถคันนี้ไปส่งเราหรอกนะ เพราะมีแค่สองคน เขาก็เอารถเก๋งไปส่ง

เมื่อไปถึงสถานีคาวากูจิโกะ ก็นำใบจองรถ High way bus ไปจ่ายเงินด้านในสถานีเพื่อรับตั๋ว พนักงานจะบอกว่าเราจะต้องไปรอที่ป้ายหน้าสถานีหมายเลขที่เท่าไหร่  เราเดินทางรอบ 10:10 เพราะฉะนั้นเวลาที่เหลือ ก็ไปถ่ายรูปวิวอลังการที่หน้าสถานีกันดีกว่า




ตัดมาเวลาประมาณเที่ยง เราก็มาถึงสถานี ชินจูกุ คือยอมรับตามตรงว่าวันนี้เราหาข้อมูลโตเกียวมาน้อยมาก เพราะกะว่าแค่แวะช็อปปิ้งเล็กน้อย แล้วเข้าไปนอนที่สนามบินนาริตะเลย หลังจากที่ลงจากรถก็มึนๆงงๆไปหมด พอลงจากรถได้ เราก็เดินลงสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อหาที่ฝากกระเป๋าเดินทาง ด้วยความที่ก็กลัวหลงจึง แคป Location และถ่ายรูปสถานที่ใกล้เคียงไว้ หลังจากนั้นก็อยากจะซื้อ Tokyo Metro 1 Day Pass 800Y แต่ไม่รู้ว่าซื้อที่ไหน ถามพนักงานที่ยืนแถวตู้ขายตั๋ว เขาก็พาไปที่ตู้ จิ้มๆให้ดู เขาก็บอกว่า มีแต่ Tokyo Metro + Toei Line 1 day  1000Y ก็เลยตกลงซื้อมาก

ตอนแรกนั้นจะเข้าสนามบินนาริตะโดย Shuttle Bus เราจึงเดินทางจะไปหาซื้อตั๋วรถบัสที่ Tokyo Station แต่มันไม่ง่ายเลย เพราะสถานีแต่ละสถานีมันใหญ่มาก กว่าจะเดินต่อไปแต่ละสถานี เดินก็ไกล พอถึง Tokyo Station ฝนทำท่าจะตก จากแผนที่คือเราต้องเดินข้ามถนนไปอีก จุดนั้นเลยตัดสินใจว่า เราจะเปลี่ยนไปเข้าสนามบินโดย Keisei Sky access แทน ซึ่งมันแพงกว่า Shuttle Bus เล็กน้อยเท่านั้น

ใต้ดินของแต่ละสถานีในโตเกียว มันใหญ่มาก ต่างจากที่โอซาก้าโดยสิ้นเชิง ข้างใต้เป็นเมืองเมืองนึง มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของยันห้างสรรพสินค้า
เราแวะทานซูชิ ที่สถานีไหนจำไม่ได้แล้ว


จากนั้นก็แวะไปเยี่ยมฮาจิโกะที่ Shibuya




ห้าแยก Shibuya


จากนั้นกลับมาที่สถานี Shinjuku ไปช็อปปิ้งที่ ดองกี้สาขาชินจูกุ


เดินเล่น ช็อปปิ้งกันเสร็จก็ใกล้ค่ำแล้ว จึงจะกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ แต่...ก็...หลงสิคะ ท่านผู้ชม คือสถานีมันใหญ่มาก จำทางก็ไม่ได้
แวะกินอุด้งกันก่อน

จากรูป อยากบอกว่า เทคนิคการเลือกกินอุด้งคือ ดูสีไว้ก่อน ถ้าขาวๆ ซึดๆแบบนี้ จืดแน่นอนนานาโกรธ


เดินหากระเป๋าเป็นชั่วโมง ถามยามก็แล้ว อะไรก็แล้ว แต่สุดท้ายก็เจอจนได้
สรุปแล้วเราใช้เวลาครึ่งวันอยู่ใต้ดินซะส่วนใหญ่ เม่าเศร้า

จากนั้นก็ลากกระเป๋าและหอบหิ้วของที่ซื้อมาไปที่สถานี Ueno
ดูรีวิวการซื้อตั๋ว Keisei sky access ได้ที่ http://www.mu-ku-ra.com/2015/04/28-keisei-ueno.html

ได้รอบประมาณ 21:47 ไปที่ชานชาลา แล้วให้สังเกตที่ข้างขบวนจะเขียนว่า Express
เวลาเกือบๆเที่ยงคืนเห็นจะได้ เราก็เดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ ตอนนั้นอยู่แถว Terminal 2 โซน B
ตอนแรกก็งงๆ ไม่รู้จะไปนอนตรงไหน คนจับจองที่กันเกือบหมดแล้ว บังเอิญว่าเหลือบไปเห็นป้ายนี้


North Waiting Area จาก Terminal 2 โซน B ให้เดินออกไปตามทางที่ลูกศรในรูปชี้ เดินไปตามทางเรื่อยๆ มันจะเชื่อมกับอีกอาคารหนึ่ง
ระหว่างทางเดินผ่านมีสนามเด็กเล่นพลาสติกเล็กๆด้วย เดินต่อไปอีกนิดก็จะเป็น Waiting Area น่าแปลกใจที่คนน้อยมาก ผิดจากที่คิดไว้
ที่นี่ดีงามยังไงมาดูกัน จากรูป
1. มีที่นอนคล้ายๆเตียงใหญ่ ในรูปคือสีเขียวๆ นอนได้หลายคน แต่ตอนนั้นมีคนนอนอยู่เลยไม่ได้เข้าไป
2. มีโซฟาแบบแบนๆสีดำเหมือนในรูป คล้ายๆเตียงคงจะนอนสบายน่าดู แต่มีน้อย และแน่นอนว่าถูกจับจองหมดแล้ว
3. มีเก้าอี้สนามบินเรียงราย คนไม่มากเหลือที่อีกเยอะ
4. มีห้องน้ำอยู่ในนั้นเลย ไม่ต้องเดินไกล
5. มีโต๊ะตั้งให้ชาร์ทอุปกรณ์ได้เลย
6. ในพื้นที่นั้นมีตู้ขายขนม ตู้ขายน้ำ โต๊ะนั่งเล่น
7. ไฟสลัวๆไม่สว่างมาก มียามยืนเฝ้า 24 ชั่วโมง

แค่นี้ก็ดีมากมาย.... เราจัดการเคลียร์กระเป๋า และเข้านอน
ตอนเช้า ล้างหน้า แปรงฟัน (ซักแห้งอีกตามเคย) ไปเช็คอิน ผ่านตม.
และเข้าไปช็อปต่อหน้า Gate อีกเล็กน้อย และก็เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย

การเดินทางครั้งนี้มันดี มันมีความหมายมาก ถึงแม้จะมีผิดแผนบ้างแต่ก็สนุกสุดๆ ได้ทำให้สิ่งที่ไม่เคยทำ ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม นานาขอบคุณ

เจอกัน Next Station .... Singapore  เพี้ยนออกทริป
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่