ไม่สูง แค่แตะปลายหมอก
[บันทึกสด การเดินทางของข้าพเจ้า]
ติดตาม Page ของผู้เขียน ชมภาพ และการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว http://facebook.com/omeoyou
ฝนตกหนักตั้งแต่เที่ยงคืนเห็นจะได้ ผมนึกในใจไว้เลยว่า ตอนเช้าที่ยอดภูบ่อบิดคงหมอกหนาชนิดที่มองทางข้างหน้าไม่ค่อยเห็นแน่ ๆ แล้วก็เป็นจริง
ตั้งโทรศัพท์มือถือให้ปลูกตี 4.20 น. ล้างหน้า เตรียมของเสร็จก็ออกจากที่พักซึ่งไม่ไกลจากทางขึ้นภูมากนัก ทำให้ถึงตีนภูตั้งแต่เกือบ 5.00 น.
สำหรับทางขึ้นฝั่งเดินขึ้นบันได ที่จอดรถค่อนข้างสะดวก กว้างขวาง
พิกัด https://goo.gl/maps/7tfxsG6vERp
มีที่จอดรถ ห้องส้วม แต่มืดมาก หาข้อมูลมาก่อนแล้วว่าที่นี่ทำทางขึ้นใหม่ มีไฟส่องสว่าง แต่มืดแบบนี้ก็ติดในใจว่าเขาคงยังไม่มาเปิดไฟมั้ง
แบกอุปกรณ์กล้อง เดินขึ้นทั้งมืด ๆ กลัวนิด ๆ แต่ติดว่าไม่น่าจะมีอะไร ใช้ไฟมือถือส่องเอา จะว่าไปก็เตรียมไฟคาดหัวไว้ในห้องพัก แต่ลืมหยิบมาซะได้ โชคดีเดินได้สักพักระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติก็ทำงานตามเวลาของมันคือตอนตี 5 ซึ่งในช่วงเย็นก็เช่นเดียวกันไฟจะทำงานเอง แล้วดับเองตอน 20.00 น.
เดินได้สักพักก็ตี 5 ไฟตามทางก็สว่างขึ้นมาตลอดจนถึงยอดภู ทำให้เดินทางได้สะดวก
ทางเดินเป็นบันไดเหล็กมีราวให้จับตลอด และทำทับทางเดินขึ้นภูของเดิมที่เป็นทางดิน ทำไว้ดีมาก แต่ฝนตก อากาศชื้นทำให้ต้อระวังลื่นพอสมควร
เดินขึ้นครั้งแรกค่อนข้างเหนื่อย ความกลัว ความกังวลมีมากกว่าปกติ แล้วไม่มีผู้คนให้เห็นเลย ทางก็ลื่นพอสมควรต้องจับราวเหล็กไว้ตลอดให้ดี เจ้ากรรมรองเท้าก็มากัด คงเพราะมันโดนบีบทับทำให้ทรงตรงส้นมันบุบเข้ามาสีกับส้นเท้าผม
เหนื่อยมาก ทั้ง ๆ ที่เป็นภูที่ไม่สูงมาก หยุดถ่ายรูปบ้าง ช่วงนี้ภาพอาจจะเบลอไปนิดก็ขออภัย เพราะหอบกิน
ใช้เวลาเดินแค่ 13 นาทีก็จะถึงถ้ำพระ ดูไม่นานเลย แต่ตอนนั้นเหนื่อยพอสมควร และรู้สึกเหมือนว่าใช้เวลาเดินนานอย่างไงก็ไม่รู้
ด้านหน้าคือถ้ำพระแล้ว ถือว่าเดินมาเกินครึ่งทางไปนิดหน่อยแล้ว แบบนี้ก็อีกไม่นานก็ถึงยอดแล้วซินะ...
ถ้ำพระ เป็นจุดที่เลยกลางภูมาหน่อยหนึ่ง มีเฉลียงยื่นออกไปให้ถ่ายรูปได้สะดวก มีพระพุทธรูปอยู่ในชะง่อนผาที่บุ๋มเข้าไป ผมจำได้ว่าเห็นภาพภูบ่อบิดช่วงยังไม่ทำทาง ณ จุดนี้จะมีพระมาแสวงบุญ เดินตามรอยครูอาจารย์ที่เคยมาพักค้างแรมที่นี่ (เป็นคำบอกเล่าจากลุงแว่นผู้ดูแลที่นี่)
พระประธานที่ตั้งไว้ในถ้ำ หรือที่เรียกว่าถ้ำพระ จุดนี้จะพบลุงแว่นนั่งประจำอยู่ถ้าคุณมาสาย ๆ หรือมาตอนเย็น ลุงแว่นจะรอจนนักท่องเที่ยวหมดแล้วถึงค่อยลง
ที่นี่เริ่มถูกพัฒนาตั้งแต่ 2513 โดยลุงแว่นเป็นแม่แรงในการผลักดัน พอผลักดันก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปเรื่อย ๆ ถึงจะไม่โด่งดังเท่าภูดัง ๆ อย่างภูกระดึง หรือภูเรือก็ตาม แต่ท้ายที่สุดลุงแว่นก็ทำได้สำเร็จ จนผู้ว่าการจังหวัดเลย มาทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2557 ซึ่งตอนนั้นการพัฒนาก็สมบูรณ์เรียบร้อย (แต่ปัจจุบันก็ยังคงพัฒนาอะไรอยู่ต่อเนื่องนะครับ)
ลังที่ใส่น้ำรอให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาซื้อไป และมีช่องหยอดเงินเข้ากรุโดยไร้คนเก็บเงิน แต่ถ้าตอนลุงแว่นมาก็สามารถจ่ายเงินให้ลุงแว่นได้
ติดใจตรงมีน้ำเปล่า โค๊ก สปอนเซอร์ขายด้วย โดยใส่ลังน้ำแข็งไว้ เย็นใช้ได้ แล้วมันเด็ดตรงไม่มีคนเก็บเงิน คุณต้องหยอดเงินลงกรุเอง ต้องซื่อสัตย์เอง
มองจากหน้าถ้ำพระไปที่เฉลียง จะเห็นป้าย Check in ภูบ่อบิด กับเบื้องหน้าที่เป็นตัวเมืองเลย
หน้าฝนทำให้ที่นี่มีความชื้นสูง วิว ณ หน้าถ้ำพระ จะเหมือนเราอยู่ระนาบเดียวกับหมอก หรือใต้หมอกลงมาหน่อย พอจะเห็นตัวเมืองบ้าง แต่บางทีหมอกก็ล้อมเราจนเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก
ภาพนี้จะเห็นว่าเราอยู่ระนาบเดียวกับหมอกเลย
เมืองเลยอยู่ใต้เมฆหมอก
จากทางที่ผมขึ้นมาถึงถ้ำพระ จะเห็นทางขึ้นอีกฝากมาบรรจบกันที่หน้าถ้ำพระนี่แหละ แล้วก็มีทางขึ้นต่อไปจนถึงยอดภู
หันห้าเข้าหาถ้ำพระ ด้านซ้ายมือจะเป็นทางขึ้น มีธงตามความเชื่อของคนเมืองเลยเป็นม่านไว้อยู่ ผมได้คุยกับลุงแว่น และคนพื้นที่คนอื่นถามถึงที่มาของธง ได้ความว่าไม่เกี่ยวกับศาสนาพุทธ แต่เป็นเหมือนความเชื่อ นับถือผี ไหว้ผี อะไรประมาณนั้น ไม่ใช่แค่ตรงนี้ หลาย ๆ วัดในเลยก็จะมีธงคล้ายกันนี้
ถ่ายรูปที่จุดชมวิวหน้าถ้ำพระสักพักใหญ่ก็เดินขึ้นยอดภูต่อ
ธงตามความเชื่อกั้นเป็นม่านหน้าทางขึ้นยอดภู ผมก็ไม่แน่ใจว่าธงนับถือผี หรือกันผีนะ
บันทึกสด 29 มิ.ย. 2559 [เมืองเลย ภูบ่อบิด หน้าฝน หมอกและดาวบนดิน]
[บันทึกสด การเดินทางของข้าพเจ้า]
ติดตาม Page ของผู้เขียน ชมภาพ และการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว http://facebook.com/omeoyou
ฝนตกหนักตั้งแต่เที่ยงคืนเห็นจะได้ ผมนึกในใจไว้เลยว่า ตอนเช้าที่ยอดภูบ่อบิดคงหมอกหนาชนิดที่มองทางข้างหน้าไม่ค่อยเห็นแน่ ๆ แล้วก็เป็นจริง
ตั้งโทรศัพท์มือถือให้ปลูกตี 4.20 น. ล้างหน้า เตรียมของเสร็จก็ออกจากที่พักซึ่งไม่ไกลจากทางขึ้นภูมากนัก ทำให้ถึงตีนภูตั้งแต่เกือบ 5.00 น.
สำหรับทางขึ้นฝั่งเดินขึ้นบันได ที่จอดรถค่อนข้างสะดวก กว้างขวาง
พิกัด https://goo.gl/maps/7tfxsG6vERp
มีที่จอดรถ ห้องส้วม แต่มืดมาก หาข้อมูลมาก่อนแล้วว่าที่นี่ทำทางขึ้นใหม่ มีไฟส่องสว่าง แต่มืดแบบนี้ก็ติดในใจว่าเขาคงยังไม่มาเปิดไฟมั้ง
แบกอุปกรณ์กล้อง เดินขึ้นทั้งมืด ๆ กลัวนิด ๆ แต่ติดว่าไม่น่าจะมีอะไร ใช้ไฟมือถือส่องเอา จะว่าไปก็เตรียมไฟคาดหัวไว้ในห้องพัก แต่ลืมหยิบมาซะได้ โชคดีเดินได้สักพักระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติก็ทำงานตามเวลาของมันคือตอนตี 5 ซึ่งในช่วงเย็นก็เช่นเดียวกันไฟจะทำงานเอง แล้วดับเองตอน 20.00 น.
เดินได้สักพักก็ตี 5 ไฟตามทางก็สว่างขึ้นมาตลอดจนถึงยอดภู ทำให้เดินทางได้สะดวก
ทางเดินเป็นบันไดเหล็กมีราวให้จับตลอด และทำทับทางเดินขึ้นภูของเดิมที่เป็นทางดิน ทำไว้ดีมาก แต่ฝนตก อากาศชื้นทำให้ต้อระวังลื่นพอสมควร
เดินขึ้นครั้งแรกค่อนข้างเหนื่อย ความกลัว ความกังวลมีมากกว่าปกติ แล้วไม่มีผู้คนให้เห็นเลย ทางก็ลื่นพอสมควรต้องจับราวเหล็กไว้ตลอดให้ดี เจ้ากรรมรองเท้าก็มากัด คงเพราะมันโดนบีบทับทำให้ทรงตรงส้นมันบุบเข้ามาสีกับส้นเท้าผม
เหนื่อยมาก ทั้ง ๆ ที่เป็นภูที่ไม่สูงมาก หยุดถ่ายรูปบ้าง ช่วงนี้ภาพอาจจะเบลอไปนิดก็ขออภัย เพราะหอบกิน
ใช้เวลาเดินแค่ 13 นาทีก็จะถึงถ้ำพระ ดูไม่นานเลย แต่ตอนนั้นเหนื่อยพอสมควร และรู้สึกเหมือนว่าใช้เวลาเดินนานอย่างไงก็ไม่รู้
ด้านหน้าคือถ้ำพระแล้ว ถือว่าเดินมาเกินครึ่งทางไปนิดหน่อยแล้ว แบบนี้ก็อีกไม่นานก็ถึงยอดแล้วซินะ...
ถ้ำพระ เป็นจุดที่เลยกลางภูมาหน่อยหนึ่ง มีเฉลียงยื่นออกไปให้ถ่ายรูปได้สะดวก มีพระพุทธรูปอยู่ในชะง่อนผาที่บุ๋มเข้าไป ผมจำได้ว่าเห็นภาพภูบ่อบิดช่วงยังไม่ทำทาง ณ จุดนี้จะมีพระมาแสวงบุญ เดินตามรอยครูอาจารย์ที่เคยมาพักค้างแรมที่นี่ (เป็นคำบอกเล่าจากลุงแว่นผู้ดูแลที่นี่)
พระประธานที่ตั้งไว้ในถ้ำ หรือที่เรียกว่าถ้ำพระ จุดนี้จะพบลุงแว่นนั่งประจำอยู่ถ้าคุณมาสาย ๆ หรือมาตอนเย็น ลุงแว่นจะรอจนนักท่องเที่ยวหมดแล้วถึงค่อยลง
ที่นี่เริ่มถูกพัฒนาตั้งแต่ 2513 โดยลุงแว่นเป็นแม่แรงในการผลักดัน พอผลักดันก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปเรื่อย ๆ ถึงจะไม่โด่งดังเท่าภูดัง ๆ อย่างภูกระดึง หรือภูเรือก็ตาม แต่ท้ายที่สุดลุงแว่นก็ทำได้สำเร็จ จนผู้ว่าการจังหวัดเลย มาทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2557 ซึ่งตอนนั้นการพัฒนาก็สมบูรณ์เรียบร้อย (แต่ปัจจุบันก็ยังคงพัฒนาอะไรอยู่ต่อเนื่องนะครับ)
ลังที่ใส่น้ำรอให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาซื้อไป และมีช่องหยอดเงินเข้ากรุโดยไร้คนเก็บเงิน แต่ถ้าตอนลุงแว่นมาก็สามารถจ่ายเงินให้ลุงแว่นได้
ติดใจตรงมีน้ำเปล่า โค๊ก สปอนเซอร์ขายด้วย โดยใส่ลังน้ำแข็งไว้ เย็นใช้ได้ แล้วมันเด็ดตรงไม่มีคนเก็บเงิน คุณต้องหยอดเงินลงกรุเอง ต้องซื่อสัตย์เอง
มองจากหน้าถ้ำพระไปที่เฉลียง จะเห็นป้าย Check in ภูบ่อบิด กับเบื้องหน้าที่เป็นตัวเมืองเลย
หน้าฝนทำให้ที่นี่มีความชื้นสูง วิว ณ หน้าถ้ำพระ จะเหมือนเราอยู่ระนาบเดียวกับหมอก หรือใต้หมอกลงมาหน่อย พอจะเห็นตัวเมืองบ้าง แต่บางทีหมอกก็ล้อมเราจนเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก
ภาพนี้จะเห็นว่าเราอยู่ระนาบเดียวกับหมอกเลย
เมืองเลยอยู่ใต้เมฆหมอก
จากทางที่ผมขึ้นมาถึงถ้ำพระ จะเห็นทางขึ้นอีกฝากมาบรรจบกันที่หน้าถ้ำพระนี่แหละ แล้วก็มีทางขึ้นต่อไปจนถึงยอดภู
หันห้าเข้าหาถ้ำพระ ด้านซ้ายมือจะเป็นทางขึ้น มีธงตามความเชื่อของคนเมืองเลยเป็นม่านไว้อยู่ ผมได้คุยกับลุงแว่น และคนพื้นที่คนอื่นถามถึงที่มาของธง ได้ความว่าไม่เกี่ยวกับศาสนาพุทธ แต่เป็นเหมือนความเชื่อ นับถือผี ไหว้ผี อะไรประมาณนั้น ไม่ใช่แค่ตรงนี้ หลาย ๆ วัดในเลยก็จะมีธงคล้ายกันนี้
ถ่ายรูปที่จุดชมวิวหน้าถ้ำพระสักพักใหญ่ก็เดินขึ้นยอดภูต่อ
ธงตามความเชื่อกั้นเป็นม่านหน้าทางขึ้นยอดภู ผมก็ไม่แน่ใจว่าธงนับถือผี หรือกันผีนะ