วันที่ 2
ตอนแรกเราวางแพลนจะไปเดินเล่น สวนสาธารณะแถวอุเอะโนะค่ะ >>แล้วไป ชิบูย่า >> ศาลเจ้าเมจิ >>ฮาราจูกุ>>ชินจูกุ
แต่เป็นไงล่ะค่ะ 5555 สิ่งใดๆในโลกล้วนไม่แน่นอน
ตื่นสายค้าตื่นสาย อิอิ เลยไปหาไรกินกันที่ชิบูย่าเลยค่ะ

ก่อนไปอ้ะแชะๆ คือเดินผ่านวัดทุกวัน ต้องแวะแชะๆทุกวัน อิอิ
พอมาถึงทีสถานี ชิบูย่า เราจะเห็นวิว 5 แยกชิบูย่า ตั้งแต่ชั้นบนของสถานีเลยค่ะ

จากนั้นเดินออกมาที่สถานี ก่อนข้ามถนน จะเจอรูปปั้นน้องหมาผู้ซื้อสัตย์ พูดถึงน้ำตาจิไหล

เลยขอแชะภาพไว้ด้วยจ้า

5แยก shibuya

แวะมาทานราเมง ร้านนี้อร่อยมาก อร่อยเหาะเลยค่ะ น้ำซุปคือแบบกลมกล่อมมาก ราคาประมาณเกือบ300บาทค่ะ

เดินเล่นซักพักแถวชิบูย่า เข้าร้านนู่นนี่นั่น ร้านที่นี่มีเยอะมากค้ะ เราก็แวะช้อปที่นี่ซักแปป ก็ไปกันต่อที่สถานี ฮาราจูกุ

เรามาที่ศาลเจ้าเมจิค่ะ ตอนแรกนึกว่าเดินนิดเดียว ที่ใหนได้ เดินไกลมากประมาณ 20นาทีได้ แต่ด้วยความงามของสวนและต้นไม้ ถือว่าผ่านค้าา
(ศาลเจ้าเมจิ จะอยู่ไม่ไกลจากสถานีที่ลงนะค่ะ ถ้าไม่รู้ไปทางใหน ถามเจ้าหน้าที่เค้าได้ค่ะ เอารูปให้เค้าดูก็ได้)

ระหว่างทางจะมีบรรยากาศของต้นไม้ ที่ปกคลุมตลอดทั้งเส้นทาง และยังได้ยินเสียงนก เสียงแมลงที่อยู่ข้างๆทางด้วยค่ะ
จากที่เดินมาไกลๆ แทบหายเหนื่อยกันเลยทีเดียว

ถึงแล้วค้าาาา

ถ่ายจากหน้าศาลเจ้าเมจิค่ะ แล้วหันหน้าออกไปทางที่เราเดินเข้ามา
พอเราเดินเล่นถ่ายรูปซักพัก ก็เดินกลับค่ะ ขากลับ ถ้าจำไม่ผิดเราออกประตูอีกทางนึง ละเดินไปเรื่อยๆ จะมีร้านค้า ร้านอาหารค่ะ และก็มีบริการน้ำดื่มฟรีด้วยค้ะ

ตรงนี้เป็นทางเข้าแถวฮาราจูกุแหล่งช้อปค่ะ เราออกมาจากศาลเจ้าเมจิ นิดนึง ฮาราจูกุก็อยู่ถนนอีกฝั่งนึงค่ะ หาง่ายค่ะ
และรูปน่ะหรอค่ะ มีรูปเดียวค่ะ คงไม่ต้องถามเนาะว่าทำไมมีรูปเดียว คือสติหลุดค่ะ ไม่ได้ถ่ายไรเลย อิอิ
โซนนี้จะมีของขายพวกของวัยรุ่นค่ะ พวกซื้อผ้า รองเท้า ของเก๋ๆ อาหารบ้างค่ะ มิ้นไม่รุ้ถ้าแถว กทม เค้าคล้ายกับย่านอะไร แต่ถ้าเป็นเชียงใหม่ คล้ายกาดหน้ามอ หรือคล้าย มาลินพลาซ่าค่ะ อิอิ (เราเป็นเด็กนอกน่ะ.....นอกเมือง อิอิ)

พอเที่ยวเสร็จ เราก็นั่งรถไฟกลับที่พักเลยค่ะ 555 งงใช่ไม้ ทำไมไม่ไปชินจูกุต่อ
คือเหนือ่ยนั่นเองค่ะ คือเมื่อยและล้ามาก เลยขอตัวกลับไปพักก่อน และเย็นๆเราก็มาเดินเที่ยวที่ดองกี้ แหล่งรวมของสารพัดสิ่ง ที่คุณอยากได้ ดองกี้อยู่ใกล้ๆกับที่พักค่ะ เดินไปเรื่อยๆก็เจอ และแวะกินบุฟเฟ่หมูทะแถวๆนั้นค่ะ ไม่ใช่หมูทะมั้ง อารมณ์แบบ ปิ้งย่างงี้ ราคาประมาณ 500 บาทต่อคนค่ะ ถ้าจำไม่ผิดนะค่ะ ของในร้านมีหลากหลายดีค่ะ เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้เยอะ เพราะกลัวทางร้านเค้าว่าให้ แหะๆ และพวกวัตถุดิบถือว่าดีทีเดียวค่ะ หมูก็มีมันแทรกๆ สวย และอร่อยดีค่ะ ร้านนี้อยู่ใกล้ๆกับดองกี้เลย
วันที่3

และเหมือนเดิมค่ะ เดินผ่านวัดก็แวะมาแชะๆ อิอิ
วันนี้เราตั้งใจว่าตื่นเช้าๆ ละมาวัดแถวอุเอะโนะ ละไปที่ต่างๆที่แพลน แต่เอาเข้าจริง ก็ขี้เกียจไปเฉยอ่ะ คือตื่นมาละหิว เลยพากันไปตลาดปลาซึกิจิค่ะ
วันนี้เราตื่นเช้ามากก ตื่นตี5 ออกโรงแรม 6โมง แต่คือแบบบ แสงแดดคือ สว่างแล้วอ้ะ ตอนแรกงง มากก เพราะแดดจัดยังกะตอนเที่ยงเลย
แต่แฟนมิ้นบอกว่า มันสว่างตั้งแต่ตี 3ล้ะ เรานี่แบบ หืมมมม พึ่งรู้ อิอิ
อ้ะต่อๆค่ะ เราเดินทางไป ตลาดปลา ตอนแรกก็มีหลงค่ะ หาที่ตั้งไม่เจอ ก็ใช้จีพีเอสเอา มั่วไปมั่วมา ก็มาเจอตลาดปลาค่ะ เลยสุ่มๆเข้าซักร้านนึง
ตอนแรกจะไปร้านที่เค้ารีวิวว่า คนมาต่อคิวตั้งแต่ตี 5 งี้ แต่เดินๆไปละหาไม่เจออ่ะ

ปลาที่นี่สด หอม หวานมากกกก แต่ราคาก็ไม่ถือกับถูกมากและไม่แพงมากนะค่ะ มื้อนี้ 2 คน ไม่เกิน 500ค่ะ จำราคาแน่อนนไม่ได้โทษทีน้า คือมันนานมาก เป็นปีแล้ว แหะๆ
จากนั้นไปต่อกันที่ รปปงงิ ตามรีวิวที่นี่จะมีตึกที่สามารถขึ้นไปบนดาดฟ้าละถ่ายวิว โตเกียว แต่เราตื่นเช้าเกินค่ะ มาถึง 9 โมง เค้าเปิดกันตอน 10 โมง เราเลยไม่รอ เพราะอยากใช้เวลาไปทำอย่างอื่นด้วย เลย ถ่ายรูปเล่นๆกัน
ต่อด้วย โตเกียวสกายทรี ต้องบอกก่อนว่า ที่โตเกียวมี 2 ที่นะค่ะ คือ แถวๆฝั่งอาซากุสะ กับอีกที่ คือที่ๆเราไป แต่จำสถานีไม่ได้ละค่ะ แต่มิ้นแนะนำว่าไปที่แถวอาซากุสะนู่นดีกว่า เพราะน่าจะเดินทางง่ายกว่า
http://www.in1guide.com/index.php?topic=320.0
http://www.tiewyeepoon.com/review/tokyo-skytree/

คือที่เราไปตอนแรกเห็นอยู่ไม่น่าจะไกลมากเลยเดินกันไปค่ะ ใช้จีพีเอสด้วย แต่เป็นไงล่ะค่ะ มิ้นว่ามิ้นเดินไปซักครึ่งชั่วโมงได้อ่ะ ละร้อนมากก เดินผ่านนู่นนั่นนี่ กว่าจะถึง เค้าผิดที่อีก เป็นด้านหลังเข้าไม่ได้ เลยต้องมาเข้าด้านหน้า 5555 แต่ก็คุ้มที่มาอยู่ค่ะ
จากนั้นเวลาเหลือ ทำไรค่ะ ไปเดินเล่นแถวชิบูย่าอีกรอบค่ะ อิอิ ไปดูรองเท้า แต่หาคู่ถูกใจไม่ได้เลยไม่ได้ซื้อมา และแว้บไปกินราเมงร้านเดิม อิอิ คือติดใจมากกก
จากนั้น บ่ายๆ เราไปที่ตลาดอาเมโยโกะค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ มัวหลงระเริงอยู่ 5555
ตลาดนี้หาไม่อยากค่ะ ดูข้อมูลเพิ่มเติมตามนี้เลย
http://www.mu-ku-ra.com/2015/04/26-ueno-ameyoko.html
แถวนี้เรามาเดินเล่นซื้อของฝากค่ะ ส่วนมากมิ้นซื้อขนมไป เพราะขนมน่ากินมาก มันจะมีร้านขายขนมโดยเฉพาะค่ะ แต่ร้านเค้าจะบวภาษีเพิ่มด้วย ถ้าใครอยากซื้อของฝากพวกขนม แนะนำไปซื้อในเกต ตรงสนามบินดีกว่าค่ะ ไม่มีภาษีด้วย

จากกนั้นเราก็ไปเชคอินที่สนามบินนาริตะค่ะ โดยใช้ตั๋วรถไฟที่ซื้อไว้เมื่อตอนอยู่สนามบินค้าา
แวะทานข้าวแกงกระหรี่ รสชาติก็โอเคค่ะ ใช้ได้ อิอิ
ทริปนี้ลืมพูดไปอย่างนึงคือ การเที่ยวเองแน่นอนค่ะ เราจะคอแห้งบ่อยมากก ถ้าใครอยากประหยัดพกขวดน้ำไว้ก็ได้ค่ะ เพราะที่ญี่ปุ่นตามสถานีเค้าจะมีน้ำให้กินฟรี แต่เราหาไม่เจอนะ อิอิ ส่วนมากมิ้นซื้อกินเอา คือกดจากตู้กดน้ำเอาค่ะ ลองชิมน้ำหลายๆแบบ อร่อยดี
จบทริปกันแล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆบ้างนะค่ะ ถ้ามิ้นรีวิวผิดอะไรตรงใหน ขออภัย เพื่อนๆด้วยน้าาา
แล้วเจอกันทริปหน้านะค่ะ See u HK

https://www.facebook.com/mymintws
http://pantip.com/topic/35317081 part 1
http://pantip.com/topic/35325142 part 2
เที่ยวโตเกียว ง้ายง่าย ไม่ง้อทัวร์ -งบไม่เกิน15,000 part 3
ตอนแรกเราวางแพลนจะไปเดินเล่น สวนสาธารณะแถวอุเอะโนะค่ะ >>แล้วไป ชิบูย่า >> ศาลเจ้าเมจิ >>ฮาราจูกุ>>ชินจูกุ
แต่เป็นไงล่ะค่ะ 5555 สิ่งใดๆในโลกล้วนไม่แน่นอน
ตื่นสายค้าตื่นสาย อิอิ เลยไปหาไรกินกันที่ชิบูย่าเลยค่ะ
ก่อนไปอ้ะแชะๆ คือเดินผ่านวัดทุกวัน ต้องแวะแชะๆทุกวัน อิอิ
พอมาถึงทีสถานี ชิบูย่า เราจะเห็นวิว 5 แยกชิบูย่า ตั้งแต่ชั้นบนของสถานีเลยค่ะ
จากนั้นเดินออกมาที่สถานี ก่อนข้ามถนน จะเจอรูปปั้นน้องหมาผู้ซื้อสัตย์ พูดถึงน้ำตาจิไหล
5แยก shibuya
แวะมาทานราเมง ร้านนี้อร่อยมาก อร่อยเหาะเลยค่ะ น้ำซุปคือแบบกลมกล่อมมาก ราคาประมาณเกือบ300บาทค่ะ
เดินเล่นซักพักแถวชิบูย่า เข้าร้านนู่นนี่นั่น ร้านที่นี่มีเยอะมากค้ะ เราก็แวะช้อปที่นี่ซักแปป ก็ไปกันต่อที่สถานี ฮาราจูกุ
เรามาที่ศาลเจ้าเมจิค่ะ ตอนแรกนึกว่าเดินนิดเดียว ที่ใหนได้ เดินไกลมากประมาณ 20นาทีได้ แต่ด้วยความงามของสวนและต้นไม้ ถือว่าผ่านค้าา
(ศาลเจ้าเมจิ จะอยู่ไม่ไกลจากสถานีที่ลงนะค่ะ ถ้าไม่รู้ไปทางใหน ถามเจ้าหน้าที่เค้าได้ค่ะ เอารูปให้เค้าดูก็ได้)
ระหว่างทางจะมีบรรยากาศของต้นไม้ ที่ปกคลุมตลอดทั้งเส้นทาง และยังได้ยินเสียงนก เสียงแมลงที่อยู่ข้างๆทางด้วยค่ะ
จากที่เดินมาไกลๆ แทบหายเหนื่อยกันเลยทีเดียว
ถึงแล้วค้าาาา
ถ่ายจากหน้าศาลเจ้าเมจิค่ะ แล้วหันหน้าออกไปทางที่เราเดินเข้ามา
พอเราเดินเล่นถ่ายรูปซักพัก ก็เดินกลับค่ะ ขากลับ ถ้าจำไม่ผิดเราออกประตูอีกทางนึง ละเดินไปเรื่อยๆ จะมีร้านค้า ร้านอาหารค่ะ และก็มีบริการน้ำดื่มฟรีด้วยค้ะ
ตรงนี้เป็นทางเข้าแถวฮาราจูกุแหล่งช้อปค่ะ เราออกมาจากศาลเจ้าเมจิ นิดนึง ฮาราจูกุก็อยู่ถนนอีกฝั่งนึงค่ะ หาง่ายค่ะ
และรูปน่ะหรอค่ะ มีรูปเดียวค่ะ คงไม่ต้องถามเนาะว่าทำไมมีรูปเดียว คือสติหลุดค่ะ ไม่ได้ถ่ายไรเลย อิอิ
โซนนี้จะมีของขายพวกของวัยรุ่นค่ะ พวกซื้อผ้า รองเท้า ของเก๋ๆ อาหารบ้างค่ะ มิ้นไม่รุ้ถ้าแถว กทม เค้าคล้ายกับย่านอะไร แต่ถ้าเป็นเชียงใหม่ คล้ายกาดหน้ามอ หรือคล้าย มาลินพลาซ่าค่ะ อิอิ (เราเป็นเด็กนอกน่ะ.....นอกเมือง อิอิ)
พอเที่ยวเสร็จ เราก็นั่งรถไฟกลับที่พักเลยค่ะ 555 งงใช่ไม้ ทำไมไม่ไปชินจูกุต่อ
คือเหนือ่ยนั่นเองค่ะ คือเมื่อยและล้ามาก เลยขอตัวกลับไปพักก่อน และเย็นๆเราก็มาเดินเที่ยวที่ดองกี้ แหล่งรวมของสารพัดสิ่ง ที่คุณอยากได้ ดองกี้อยู่ใกล้ๆกับที่พักค่ะ เดินไปเรื่อยๆก็เจอ และแวะกินบุฟเฟ่หมูทะแถวๆนั้นค่ะ ไม่ใช่หมูทะมั้ง อารมณ์แบบ ปิ้งย่างงี้ ราคาประมาณ 500 บาทต่อคนค่ะ ถ้าจำไม่ผิดนะค่ะ ของในร้านมีหลากหลายดีค่ะ เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้เยอะ เพราะกลัวทางร้านเค้าว่าให้ แหะๆ และพวกวัตถุดิบถือว่าดีทีเดียวค่ะ หมูก็มีมันแทรกๆ สวย และอร่อยดีค่ะ ร้านนี้อยู่ใกล้ๆกับดองกี้เลย
วันที่3
และเหมือนเดิมค่ะ เดินผ่านวัดก็แวะมาแชะๆ อิอิ
วันนี้เราตั้งใจว่าตื่นเช้าๆ ละมาวัดแถวอุเอะโนะ ละไปที่ต่างๆที่แพลน แต่เอาเข้าจริง ก็ขี้เกียจไปเฉยอ่ะ คือตื่นมาละหิว เลยพากันไปตลาดปลาซึกิจิค่ะ
วันนี้เราตื่นเช้ามากก ตื่นตี5 ออกโรงแรม 6โมง แต่คือแบบบ แสงแดดคือ สว่างแล้วอ้ะ ตอนแรกงง มากก เพราะแดดจัดยังกะตอนเที่ยงเลย
แต่แฟนมิ้นบอกว่า มันสว่างตั้งแต่ตี 3ล้ะ เรานี่แบบ หืมมมม พึ่งรู้ อิอิ
อ้ะต่อๆค่ะ เราเดินทางไป ตลาดปลา ตอนแรกก็มีหลงค่ะ หาที่ตั้งไม่เจอ ก็ใช้จีพีเอสเอา มั่วไปมั่วมา ก็มาเจอตลาดปลาค่ะ เลยสุ่มๆเข้าซักร้านนึง
ตอนแรกจะไปร้านที่เค้ารีวิวว่า คนมาต่อคิวตั้งแต่ตี 5 งี้ แต่เดินๆไปละหาไม่เจออ่ะ
ปลาที่นี่สด หอม หวานมากกกก แต่ราคาก็ไม่ถือกับถูกมากและไม่แพงมากนะค่ะ มื้อนี้ 2 คน ไม่เกิน 500ค่ะ จำราคาแน่อนนไม่ได้โทษทีน้า คือมันนานมาก เป็นปีแล้ว แหะๆ
จากนั้นไปต่อกันที่ รปปงงิ ตามรีวิวที่นี่จะมีตึกที่สามารถขึ้นไปบนดาดฟ้าละถ่ายวิว โตเกียว แต่เราตื่นเช้าเกินค่ะ มาถึง 9 โมง เค้าเปิดกันตอน 10 โมง เราเลยไม่รอ เพราะอยากใช้เวลาไปทำอย่างอื่นด้วย เลย ถ่ายรูปเล่นๆกัน
ต่อด้วย โตเกียวสกายทรี ต้องบอกก่อนว่า ที่โตเกียวมี 2 ที่นะค่ะ คือ แถวๆฝั่งอาซากุสะ กับอีกที่ คือที่ๆเราไป แต่จำสถานีไม่ได้ละค่ะ แต่มิ้นแนะนำว่าไปที่แถวอาซากุสะนู่นดีกว่า เพราะน่าจะเดินทางง่ายกว่า
http://www.in1guide.com/index.php?topic=320.0
http://www.tiewyeepoon.com/review/tokyo-skytree/
คือที่เราไปตอนแรกเห็นอยู่ไม่น่าจะไกลมากเลยเดินกันไปค่ะ ใช้จีพีเอสด้วย แต่เป็นไงล่ะค่ะ มิ้นว่ามิ้นเดินไปซักครึ่งชั่วโมงได้อ่ะ ละร้อนมากก เดินผ่านนู่นนั่นนี่ กว่าจะถึง เค้าผิดที่อีก เป็นด้านหลังเข้าไม่ได้ เลยต้องมาเข้าด้านหน้า 5555 แต่ก็คุ้มที่มาอยู่ค่ะ
จากนั้นเวลาเหลือ ทำไรค่ะ ไปเดินเล่นแถวชิบูย่าอีกรอบค่ะ อิอิ ไปดูรองเท้า แต่หาคู่ถูกใจไม่ได้เลยไม่ได้ซื้อมา และแว้บไปกินราเมงร้านเดิม อิอิ คือติดใจมากกก
จากนั้น บ่ายๆ เราไปที่ตลาดอาเมโยโกะค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ มัวหลงระเริงอยู่ 5555
ตลาดนี้หาไม่อยากค่ะ ดูข้อมูลเพิ่มเติมตามนี้เลย http://www.mu-ku-ra.com/2015/04/26-ueno-ameyoko.html
แถวนี้เรามาเดินเล่นซื้อของฝากค่ะ ส่วนมากมิ้นซื้อขนมไป เพราะขนมน่ากินมาก มันจะมีร้านขายขนมโดยเฉพาะค่ะ แต่ร้านเค้าจะบวภาษีเพิ่มด้วย ถ้าใครอยากซื้อของฝากพวกขนม แนะนำไปซื้อในเกต ตรงสนามบินดีกว่าค่ะ ไม่มีภาษีด้วย
จากกนั้นเราก็ไปเชคอินที่สนามบินนาริตะค่ะ โดยใช้ตั๋วรถไฟที่ซื้อไว้เมื่อตอนอยู่สนามบินค้าา
แวะทานข้าวแกงกระหรี่ รสชาติก็โอเคค่ะ ใช้ได้ อิอิ
ทริปนี้ลืมพูดไปอย่างนึงคือ การเที่ยวเองแน่นอนค่ะ เราจะคอแห้งบ่อยมากก ถ้าใครอยากประหยัดพกขวดน้ำไว้ก็ได้ค่ะ เพราะที่ญี่ปุ่นตามสถานีเค้าจะมีน้ำให้กินฟรี แต่เราหาไม่เจอนะ อิอิ ส่วนมากมิ้นซื้อกินเอา คือกดจากตู้กดน้ำเอาค่ะ ลองชิมน้ำหลายๆแบบ อร่อยดี
จบทริปกันแล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆบ้างนะค่ะ ถ้ามิ้นรีวิวผิดอะไรตรงใหน ขออภัย เพื่อนๆด้วยน้าาา
แล้วเจอกันทริปหน้านะค่ะ See u HK
https://www.facebook.com/mymintws
http://pantip.com/topic/35317081 part 1
http://pantip.com/topic/35325142 part 2