เที่ยวโตเกียว ง้ายง่าย ไม่ง้อทัวร์ -งบไม่เกิน15,000 part 2

กระทู้สนทนา

วันที่ 1
เราขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองค่ะ เวลา 23.45 น.
ก่อนขึ้นเครื่องอย่าลืมเชคความเรียบร้อยนะค่ะ
http://www.airasia.com/th/th/baggage-info/checked-baggage.page

ลักษณะที่นั่งบนเครื่องนะคะ จะเป็นที่นั่งแบบ 3-3-3 ค่ะ ถือว่านั่งสะดวกค่ะ นั่งได้แต่ถ้าคนใหนตัวใหญ่มาก ก็อาจจะลำบากนิดนึงน้าาา
เพื่อนๆคนใหนที่คิดว่าจะหิวแน่นอนตอนดึกแนะนำสั่งอาหารไว้ล่วงหน้าค่ะ
http://www.airasia.com/th/th/inflight-comforts/hot-meals.page

หลังจากที่เรานั่งเครื่องมาประมาณ 6 ชั่วโมงนะคะ ก็มาถึงสนามบินนาริตะ แห่งโตเกียวๆๆๆๆ กันแล้ววว

ตื่นแต้วจีๆ
เราถึงตอน 8.00น. ค้าาาาาา เวลาที่ญี่ปุ่นจะเร็วกว่าบ้านเรา 2 ชม. และเราผ่านตม ง่ายค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรเลย
ถ้าเพื่อนๆคนใหนกลัวผ่านตม อยากนะค่ะมิ้นแนะนำว่า เราปริ้นพวกตารางเที่ยวของเราค่ะ ละก็ใบจองที่พักที่โตเกียวค่ะ เผื่อไว้เวลาเค้าเรียกเนาะๆ

พอรับกระเป๋าเสร็จ จากนั้นทำไรล่ะค่ะ เข้าห้องน้ำแต่งหน้าค้า เดี๋ยวโชว์หน้าสดคนญี่ปุ่นจิตกใจ 555

ตอนนั้นเอาจริงๆ เราไม่รู้จะไปซื้อตั๋วตรงใหน เพราะดูรีวิวตอนซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมืองมาละมันหาไม่เจอ อิอิ โชคดีที่เจอน้องคนไทยคนนึงค่ะ มากับแม่ น้องเค้าเคยมาญี่ปุ่น เลยพาเราไปซื้อตั๋วค่ะ เราซื้อตั๋วของ Keisei skylyner + tokyo subway เป็นแบบแพ็คเกจค่ะ คือได้ตั๋วรถไฟเข้าเมืองไป-กลับ ละก็ได้ตั๋ว tokyo subway สำหรับ 3 วัน แบบไม่จำกัดค่ะ ราคาประมาณ 1,500 บาทค่ะ

พิกัดคือเราเดินลงไปชั้นล่างที่จะไปรถไฟใต้ดินค่ะ จะเจอเค้าเตอร์แบบนี้

เพื่อนๆสามารถเลือกได้เลยค่ะ ว่าเราจะซื้อแบบใหน
แพ็คเกจตั๋วมีให้เลือกสองแบบ คือ
1. แพ็คเกจตั๋ว Keisei Skyliner เที่ยวเดียว (นาริตะ-โตเกียว) + Tokyo Subway (ตั๋ว 1 วัน 2 วัน หรือ 3 วัน)
2. แพ็คเกจตั๋ว Keisei Skyliner ไป-กลับ (นาริตะ-โตเกียว-นาริตะ) + Tokyo Subway (ตั๋ว 1 วัน 2 วัน หรือ 3 วัน)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ค้า
http://www.maamjourney.com/2014/package-keisei-skyliner-and-tokyo-subway/

อันนี้คือตั๋ว Keisei skylyner ค่ะ มิ้นจะไม่ได้ว่ารถไฟจะมากี่นาที แต่เท่าที่จำได้รถไฟไม่ได้มาตลอดนะค่ะ เหมือนจะทุกๆ 10นาที หรือครึ่งชั่วโมงอ่ะค่ะ

ตั๋ว tokyo subway ค่ะ ขึ้นกี่รอบก็ได้ ใช้ได้3วัน นับตั้งแต่วันที่เราเริ่มใช้วันแรกค่ะ

พอซื้อตั๋วเสร็จรอซักพัก รถไฟมาตอน 10.00น. ค่ะ เราขึ้นรถมาคือแบบ คนโล่งมาก ถือว่าโอเคเลยค่ะ ไม่แออัดดี ละอีกอย่างนึง ในรถไฟอ่ะ คือแบบ หมุนเก้าอี้ได้ด้วยนะ คือปกติมันต้องวางเก้าอี้ไปทางเดียวกันเนาะ แต่ที่นี่คือ หมุดได้180 องศาอ่ะ คือ สามารถหันหลังไปคุยกับเพื่อนข้างหลังได้ 5555 ใครมาเป็นกลุ่มนี้นั่งเม้ามอยกันสนุกเลยทีเดียววว

ภาพบรรยากาศขณะนั่งรถไฟเข้าเมืองค่ะ คือมีรูปเดียว 555 มัวแต่ชื่นชมความงามของเมืองนี้ อิอิ
ไม่น่าเชื่อเลยว่าเมืองญี่ปุ่นจะสวยงาม และสะอาดขนานี้ค่ะ มิ้นยังงง กับตัวเองอยู่ว่า เราไปอยู่ใหนมา นอกจากเกาหลีล่ะที่ประทับใจก็เป็นญี่ปุ่นนี่แหละที่เลิฟสุดๆ

การเดินทางใช้เวลาเพียง 36 นาที ถึงสถานี Nippori, ใช้เวลาเพียง 41 นาทีถึงสถานี Ueno และสามารถต่อรถไฟ JR ไปยังสถานีต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น Akihabara, Tokyo, Shinjuku, Shibuya, Ikebukuro

พวกเราลงสถานี Ueno ค้าา เพราะใกล้ Asakusa ที่สุดเลี้ยวววว
ระหว่างที่อยู่สถานีรถไฟอย่าลืมหยิบ Map รถไฟใต้ดินมานะคะ มันช่วยคุณได้เยอะเลย อิอิ

แล้วเวลาเราเดินลงบันไดเลื่อนนะคะ อันนี้ดอกจัน ****เยอะๆ คนที่ไม่รีบอ่ะคะ ให้ยืนชิดขวา ถ้าคนรีบลงให้วิ่งลงด้านซ้ายได้เลยจ้าา
และเวลาเราอยู่ในรถไฟฟ้าใต้ดินนะค่ะ เค้าจะไม่ส่งเสียงดังกันค่ะ

โรงแรมที่มิ้นพัก จะเดินเลยวัด เซ็นโซจิไปนะค่ะ เดินเท้าน่าจะประมาณ 5นาทีได้ค่ะ ย่านที่มิ้นพักตอนกลางคืนจะไม่มีเสียงดังเลยค่ะ คนจะนอนไวกว่าแถวย่าน ชินจูกุ ชิบูย่า ถ้าเพื่อนๆคนใหนชอบแสงสีตอนกลางคืนสามารถไปพักย่าน ชินจูกุ ชิบูย่า ได้เลยค้า

พอถึงที่พักเราก็เอากระเป๋าฝากกับโรงแรมไว้ ละก็ไปเดินเที่ยวกันค่ะ
คือถ้าใครดูตามแพลนที่วางไว้จะไม่ตรงนะ 5555 ตอนแรกเรากะจะไปโอไดบะเลย แต่สถาณการณ์จริงคือร้อน หิว 555 เลยคิดว่าไปหาไรกินละอาบน้ำในห้องก่อนละก็ค่อยไปค่ะ ...เราไปหาข้าวทานแถววัดเซ็นโซจิ

ก่อนไปทานข้าวแวะแชะรูปซักหน่อยย นี่ขนาดหิวนะ 555

อ้ะแชะ...

(ในวัดคนเยอะมากค่ะ ส่วนมากจะเป็นคนจีนค่ะ ไม่ค่อยเจอคนไทย)

อ้ะๆ นี่หิวนะๆ

ในที่สุดๆๆๆๆๆ ในที่สุดค่ะ จากการเดินทางซักพัก เจอร้านนึง เป็นร้านเล็กๆ มีคนพอควร มีแอร์ด้วย จะรออะไรค้ะ เข้าไปเลยค้าา
เปิดรีวิวดูน่ะหรอค่ะ ไม่สำคัญค่ะนะโมเม้นนั้น 5555 ความหิวครอบงำ ถ่ายหน้าร้านไม่ทัน เพราะหิวจัด อิอิ

เราสั่งเมนูที่บ้านเราก็คุ้นหน้าคุ้นตากัน หมูทอดนั่นเอง

สั่งมาทำไมหรอ เออ ไม่รู้ 5555
และที่นี่เวลามาทานข้าวใครมีกระเป๋ามาเค้าจะมีที่แขวนให้ด้วยนะคะ ดีงามมพระราม 9 มากกก ผู้คนก็แสนใจดี นอบน้อม เป็นกันเอง เลิฟเลย

กินเสร็จก็มาแชะๆ แถววัดกันค่ะ

อ้ะแชะๆ 5555 เรามาชิมซาลาเปาทอดตามรีวิวด้วยน้าา แต่ความรู้สึกมิ้นเฉยๆนะ ไม่ได้อร่อยมากแต่ก็ไม่ใช่ไม่อร่อย เอ้ะ งงไม้ ช่างมันเถอะเนาะ
แต่คนอื่นอาจจะว่าอร่อยก็ได้นะ

ตามกำหนดการเลี้ยววว ......เราต้องไปดูวิวสกายทรีตอนเที่ยง ไปโอไดบะตอนบ่ายชิป้ะ แต่ม่ายเลยค้ะ
ตอนเที่ยงพึ่งหาข้าวกินได้ ตอนบ่ายก็เดินเล่นแถววัดเฉย ละพอเชคอินตอนบ่ายสองได้ ทำไงละค่ะ เอาของไปเก็บ อาบน้ำกันซักหน่อย เพราะเหงื่อแตกพล่านกันเลยทีเดียว ได้ไปโอไดบะอีกทีก็ 4โมงจ้าวข้าาาา อิอิ

การเดินทางไปโอไดบะ ตามลิ้งนี้เลยนะคะ http://www.emagtravel.com/archive/odaiba-tokyo-trip.html

รถไฟที่ไปโอไดบะนะค่ะ จะเป็นรถไฟอัตโนมัติคะไม่มีคนขับนะค่ะ แนะนำให้เพื่อน รีบขึ้นมาอยู่ตรงหัวขบวนนะค่ะ เราจะได้เห็นเมืองโตเกียวแบบจุใจ
(ที่จริงถ่ายคลิปไว้น้าาา แต่ลบไปแล้วอ่า เสียดายย

)

ถึงแล้ววว อ้าวแชะๆ คือที่นี่เป็นเกาะที่แบบ อยากมาอยู่มากกกก บรรยากาศร่มรื่น ลมพัดเย็น บ้านเมืองเงียบสงบ มีรถราไม่มาก สะอาดมากกก และตึกราบ้านช่องก็สวยอ้าาาาา คือหลงรักญี่ปุ่งเอามากๆ

พอถึงเราก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ จะมีห้างมากมายเลยนะค่ะ เช่นห้าง อควา ห้างวีนัส เป็นต้น

มีoutlet ด้วยค่ะ คล้ายๆเวเนเชี่ยนที่มาเก๊าเลย

มีคล้ายๆพิพิธภัณฑ์รถเก่าด้วยค่ะ แต่ถ่ายมาคันเดียว คือร่ะ?? 555

อย่างนึง มาโอไดบะเค้าจะมาถ่ายอะไรค้ะ .....
ถ่ายเทพีเสรีภาพ กับ สะพานสายรุ้งค้าาาาา

สวยเนาะ http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/12/E10043531/E10043531.html ขอบคุณรูปภาพจากคอมเม้นของกระทู้พันทิปนะค่ะ

ละคิดว่าได้ถ่ายไม้ค้าาาาา ..... ไม่ค้าาาา

มัวแต่เห่อดูกันดั้มกับขึ้นชิงช้าสวรรค์อ้าาา แลดูเด็กน้อยมาก อิอิ พอจะไปหาถ่ายอีกที ค่ำละ อดเลย

พอเดินเล่นในห้างเรื่อยจนมาเจอ พี่กันดั้มสุดหล่อของเรา ก็แชะๆภาพกันไป ดูตอนพี่แกขยับตัวหน่อยๆ ก็พากันโยกย้ายไปนั่งชิงช้าสวรรค์กันค้าาา

ราคาที่นั่งประมาณ 250 บาทค่ะ เนื่องจากการสื่อสารขัดข้อง ตอนแรกเลือก กระเช้าธรรมดาค่ะ ซื้อตั๋วเสร็จขึ้นบันไดมาอีกชั้นนึง จะมี2แถวค่ะ คาดว่าจะเป็นแถวของกระเช้าแต่ละแบบ ละพอกระเช้าธรรมดามากี่อันๆ เราก็ไม่ได้ขึ้น คนอื่นขึ้นก่อนเราก็งงอ้ะค่ะ อีคุณแฟนก็เริ่มหงุดหงิด เลยชี้ๆไปว่า เมื่อไหร่จะได้ขึ้น และทันไดนั้นเองค่ะ นางดันไปชี้ตอนกระเช้าครัสตัลมาค้าาาา เป็นไงล่ะค่ะ เค้าก็ให้ขึ้นครัสตัลเฉย 55555

พอเราขึ้นมาได้ซัก 5 นาที คนในกระเช้าเริ่มเงียบบบ

คือแฟนน่ะกลัวความสูงแต่นางขึ้นมาเป็นเพื่อน ตัวมิ้นเองตอนแรกชิวค่ะ ไม่กลัวๆ
พึ่งรู้ตัวเองว่า อ้ออออกูเป็นคนกลัวความสูงนี่ 55555 คือมันสูงมากค่ะ แบบหายใจยังไม่กล้าเลยอ่ะ เหงื่อนี่แตกเต็มตัวเลย แค่แฟนไอยังไม่ให้ไออ้ะ คือมันดิ้นนิดนึงนี่ใจอยู่ตาตุ่มอ่าา 5555

แต่ถือว่าคุ้มนะค่ะ ครั้งนึง ได้เห็นวิว โอไดบะ สวยค้าาา

ก่อนกลับ มีอุโมงค์ไฟเปลี่ยนสีด้วยค่ะสวยดี เลยแวะถ่าย เอ้ะ เห็นมิ้นม้ายยย 555

กลับมาก็ 2ทุ่มได้มั้ง ตอนแรกตั้งใจถ่ายกับโตเกียวสกายทรี แต่เหนื่อยมาก ถ่ายแค่นี้ไปก่อน อิอิ