สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 38
คุณต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ว่าการเลี้ยงเด็กให้มีคุณภาพ มันอยู่ที่ "ใช้เวลาคุณภาพ" ไม่ใช่ "เงินเลี้ยงลูก"
นึกภาพตามนะครับ อย่างเด็กทารก-3ขวบ เขาไม่สนใจหรอกว่าเสื้อผ้าที่ใส่จะมีราคาเท่าไหร่ เตียงนอนมันนุ่มสบายแค่ไหน
ผ้าอ้อมสำเร็จรูปคืออะไร เด็กเขาแยกไม่ออกหรอกว่าเป็นสำเร็จรูปหรือผ้าอ้อมธรรมดา อาหารก็ไม่ต้องกินของอร่อยแพงๆ
เงินใช้จ่ายที่คุณมีเหลือหนะ แค่ไม่ไปเที่ยวหาความบันเทิงใส่ตัว เลี้ยงลูกให้มีคุณภาพได้สบายๆ
ลองซื้อหนังสือการเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพนะครับ แล้วคุณจะพบว่า.. ของใช้จ่ายดีๆแพงๆ มันมีเพื่อให้คุณเลี้ยงลูกสบายยิ่งขึ้น
คือยิ่งคุณเหนื่อยในการเลี้ยงลูกมากเท่าไหร่ เงินก็แทบไม่ต้องใช้ ยกเว้นว่าคุณอยากสบายแล้วให้ลูกมีคุณภาพ ก็ต้องยอมจ่ายแพง
ความเป็นจริงคือแบบนี้ แล้วคนก็ตกอยู่ในบ่วงของความสบาย และการใช้จ่ายในการเลี้ยงลูกที่สิ้นเปลือง
ยกตัวอย่าง : ผมเลี้ยงลูกไม่เคยซื้อนมผง เพราะมีการวางแผนให้ภรรยามีนมแม่ได้ตลอดจนลูกเลิกดูดนมตอน 2 ขวบครึ่ง
ลูกผมสามารถกินนมกล่องได้ตั้งแต่อายุ 7 เดือน เราให้ฝึกกินนมถั่วเหลือง ทั้งนี้ต้องใช้ความอดทนและความพยายามเป็นหลัก
ขวดนมก็ไม่ต้องใช้ ลูกดูดนมแม่ แล้วก็กินนมกล่อง ลองคิดว่าคนเราเกิดมา พระเจ้าก็ประทานหนทางแบบธรรมชาติมาให้
ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เราใช้แต่ตอนกลางคืน เพราะอยากให้ลูกนอนได้นานๆ ส่วนตอนกลางวันใส่ผ้าอ้อมธรรมดา
เราต้องยอมเหนื่อยเปลี่ยนผ้าบ่อยๆ ต้องซักผ้าเองอีก ผมเหนื่อยแต่ก็ไม่ใช้เงินมากไปกับผ้าอ้อมสำเร็จรูป
ผมกับภรรยาผลัดช่วงปีกันออกจากงานมาเลี้ยงลูก คำตอบง่ายๆคือเราไม่มีเงินไปจ้างคนมาเลี้ยง
เราเลยยอมลดเงินตัวเอง เพื่อที่จะเลี้ยงลูกได้อย่างมีคุณภาพที่เราต้องการ และกลับไปทำงานเต็มที่ตอนลูกเข้าโรงเรียนอนุบาล
นึกภาพตามนะครับ อย่างเด็กทารก-3ขวบ เขาไม่สนใจหรอกว่าเสื้อผ้าที่ใส่จะมีราคาเท่าไหร่ เตียงนอนมันนุ่มสบายแค่ไหน
ผ้าอ้อมสำเร็จรูปคืออะไร เด็กเขาแยกไม่ออกหรอกว่าเป็นสำเร็จรูปหรือผ้าอ้อมธรรมดา อาหารก็ไม่ต้องกินของอร่อยแพงๆ
เงินใช้จ่ายที่คุณมีเหลือหนะ แค่ไม่ไปเที่ยวหาความบันเทิงใส่ตัว เลี้ยงลูกให้มีคุณภาพได้สบายๆ
ลองซื้อหนังสือการเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพนะครับ แล้วคุณจะพบว่า.. ของใช้จ่ายดีๆแพงๆ มันมีเพื่อให้คุณเลี้ยงลูกสบายยิ่งขึ้น
คือยิ่งคุณเหนื่อยในการเลี้ยงลูกมากเท่าไหร่ เงินก็แทบไม่ต้องใช้ ยกเว้นว่าคุณอยากสบายแล้วให้ลูกมีคุณภาพ ก็ต้องยอมจ่ายแพง
ความเป็นจริงคือแบบนี้ แล้วคนก็ตกอยู่ในบ่วงของความสบาย และการใช้จ่ายในการเลี้ยงลูกที่สิ้นเปลือง
ยกตัวอย่าง : ผมเลี้ยงลูกไม่เคยซื้อนมผง เพราะมีการวางแผนให้ภรรยามีนมแม่ได้ตลอดจนลูกเลิกดูดนมตอน 2 ขวบครึ่ง
ลูกผมสามารถกินนมกล่องได้ตั้งแต่อายุ 7 เดือน เราให้ฝึกกินนมถั่วเหลือง ทั้งนี้ต้องใช้ความอดทนและความพยายามเป็นหลัก
ขวดนมก็ไม่ต้องใช้ ลูกดูดนมแม่ แล้วก็กินนมกล่อง ลองคิดว่าคนเราเกิดมา พระเจ้าก็ประทานหนทางแบบธรรมชาติมาให้
ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เราใช้แต่ตอนกลางคืน เพราะอยากให้ลูกนอนได้นานๆ ส่วนตอนกลางวันใส่ผ้าอ้อมธรรมดา
เราต้องยอมเหนื่อยเปลี่ยนผ้าบ่อยๆ ต้องซักผ้าเองอีก ผมเหนื่อยแต่ก็ไม่ใช้เงินมากไปกับผ้าอ้อมสำเร็จรูป
ผมกับภรรยาผลัดช่วงปีกันออกจากงานมาเลี้ยงลูก คำตอบง่ายๆคือเราไม่มีเงินไปจ้างคนมาเลี้ยง
เราเลยยอมลดเงินตัวเอง เพื่อที่จะเลี้ยงลูกได้อย่างมีคุณภาพที่เราต้องการ และกลับไปทำงานเต็มที่ตอนลูกเข้าโรงเรียนอนุบาล
ความคิดเห็นที่ 5
ไม่พร้อมครับ ผมก็คิดแบบเดียวกัน
รายใด้เท่านี้ไม่ควรจะมีเลยแหละครับ
เด็กเกิดมาถ้าคุณภาพโตไปเป็นชนชั้นแรงงาน
พวกนี้มีเยอะมากครับ พ่อแม่บางคนคิดเห็นแก่ตัว
มีลูกแค่เพราะอยากมี สุดท้ายแรงงาน oversupply แล้ว bargaining power ตก สุดท้ายค่าแรงตก คนตกงานแพราะแย่งกัน นายจ้างรวย แล้วมันก็จะวนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆสำหรับประเทศโลกที่สาม
ถ้ามีลูกตอนนี้ คุณจะไม่มีวันลืมตาอ้าปากใด้อีกเลย
รายใด้เท่านี้ไม่ควรจะมีเลยแหละครับ
เด็กเกิดมาถ้าคุณภาพโตไปเป็นชนชั้นแรงงาน
พวกนี้มีเยอะมากครับ พ่อแม่บางคนคิดเห็นแก่ตัว
มีลูกแค่เพราะอยากมี สุดท้ายแรงงาน oversupply แล้ว bargaining power ตก สุดท้ายค่าแรงตก คนตกงานแพราะแย่งกัน นายจ้างรวย แล้วมันก็จะวนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆสำหรับประเทศโลกที่สาม
ถ้ามีลูกตอนนี้ คุณจะไม่มีวันลืมตาอ้าปากใด้อีกเลย
ความคิดเห็นที่ 4
ขอตอบว่าเข้าใจทั้ง คุณ จขกท. และภรรยา ค่ะ เพราะเราเคยผ่านช่วงเวลานี้มาแล้ว ทีแรกแฟนเราก็คิดแบบคุณค่ะ ว่ายังไม่มีเงิน ไม่พร้อม แต่ถ้ารอพร้อม คือเมื่อไหร่ อายุผู้หญิงยิ่งมาก ก็ยิ่งเสี่ยงนะคะ การมีลูกถ้าวางแผนดีๆ ก็ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไรมากมายอย่างที่กังวัลหรอกค่ะ อย่างเคสเรา เราวางแผนก่อนท้องเลย หา รพ. ที่ราคาโอเค เราอยู่ต่างจังหวัด ราคาผ่าคลอด ประมาณสี่หมื่น แต่ได้เงินประกันสังคมมาช่วย ก็ออกเองครึ่งนึง ถือว่าซื้อความสะดวกให้ตัวเอง เริ่มเก็บเงิน ตั้งแต่ยังไม่ท้อง เดือนละ 3-5000 บาท แล้วแต่เดือนไหนเหลือเท่าไหร่ ตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และเลี้ยงไปตามธรรมชาติของเด็ก รร.ก็คิดว่าจะเลือกที่เหมาะสมกับฐานะ ถ้าเราไม่เลี้ยงลูกแบบเวอร์มากๆ ค่าใช้จ่ายก็ปกติค่ะ อย่างที่แฟนคุณบอก ถ้ามีเดี๋ยวก็พร้อมเอง เลี้ยงลูกต้องใข้ความรัก ความเข้าใจ แต่ก็ไม่เถียงว่าเงินสำคัญ แต่อย่าเอามาเป็นเรื่องบั่นทอนชีวิตนะคะ ลองวางแผนกับแฟนดูค่ะ คุยกันให้เข้าใจ ขอให้พบทางออกที่เหมาะสมนะคะ ^^
ความคิดเห็นที่ 15
สิ่งที่จะตามมา แน่นอน แฟนคุณต้องออกจากงานมาเลี้ยงลูก คุณหาเงินคนเดียวอาจจะคิดว่าเอาวะหารายได้เสริม รายได้อะไร? ทำโอทีเหรอ...
ไม่ได้มากขึ้นหรอกครับ เพราะช่วงที่เด็กเล็กๆ อาจเจ็บป่วย คุณก็ต้องลางานพาลูกไปหาหมอ หรือบางทีไม่ป่วย แต่อาจมีอะไรผิดปกติ ก็อยากไปพบหมอ ยิ่งลูกคนแรก จะเป็นกังวลมาก เพราะฉะนั้นรายได้จากโอที มันก็ไม่ได้มากขึ้น หรือ จะให้แม่แฟน หรือ แม่เรา มาช่วยแฟนดูลูก นั่นยิ่งเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้นไปอีก ทีนี้พอลูกได้สัก2ขวบ อาจจะคิดว่าเออ ให้แฟนไปทำงาน เอาลูกไปฝากเนิรส์เซอรี่ ขอบอกว่า คิดผิด คุณก็ต้องกังวลอีกว่า จะดีมั้ย มีลูกใครบ้าง สังคมเป็นไง ที่แน่ๆลูกป่วยบ่อยขึ้นไปอีก เพราะพ่อแม่บางคนก็ต้องทำงาน บางทีรู้นะลูกตัวเองไม่สบาย แต่ทำไงได้ต้องทำงาน ลูกตัวเองก็เอาโรคไปติดคนอื่นอีก..............ผมว่านะ รายได้ที่เหมาะสมจริงๆ ควรจะมีเงินเก็บอย่างต่ำ200000บาท รายได้2คนผัวเมียต้อง50000 ถึงจะเหมาะสมกับยุคสมัย.....อย่าดันทุรัง อย่าโลกสวย พยายามอยู่ในโลกความเป็นจริง...
ไม่ได้มากขึ้นหรอกครับ เพราะช่วงที่เด็กเล็กๆ อาจเจ็บป่วย คุณก็ต้องลางานพาลูกไปหาหมอ หรือบางทีไม่ป่วย แต่อาจมีอะไรผิดปกติ ก็อยากไปพบหมอ ยิ่งลูกคนแรก จะเป็นกังวลมาก เพราะฉะนั้นรายได้จากโอที มันก็ไม่ได้มากขึ้น หรือ จะให้แม่แฟน หรือ แม่เรา มาช่วยแฟนดูลูก นั่นยิ่งเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้นไปอีก ทีนี้พอลูกได้สัก2ขวบ อาจจะคิดว่าเออ ให้แฟนไปทำงาน เอาลูกไปฝากเนิรส์เซอรี่ ขอบอกว่า คิดผิด คุณก็ต้องกังวลอีกว่า จะดีมั้ย มีลูกใครบ้าง สังคมเป็นไง ที่แน่ๆลูกป่วยบ่อยขึ้นไปอีก เพราะพ่อแม่บางคนก็ต้องทำงาน บางทีรู้นะลูกตัวเองไม่สบาย แต่ทำไงได้ต้องทำงาน ลูกตัวเองก็เอาโรคไปติดคนอื่นอีก..............ผมว่านะ รายได้ที่เหมาะสมจริงๆ ควรจะมีเงินเก็บอย่างต่ำ200000บาท รายได้2คนผัวเมียต้อง50000 ถึงจะเหมาะสมกับยุคสมัย.....อย่าดันทุรัง อย่าโลกสวย พยายามอยู่ในโลกความเป็นจริง...
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ปัญหาครอบครัว
วางแผนครอบครัว
ด้วยฐานะทางการเงิน ผมยังไม่พร้อมจะมีลูก แต่แฟนกดดันอยากมี สุดท้ายทะเลาะกันทุกที ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรครับ
แต่ช่วงหลังๆมานี้ แฟนผมเริ่มกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ เธออยากมีลูก เธอบอกว่าคนรอบตัวมีกันหมดแล้ว
และ เธอก็จะเข้าเลขสามแล้ว ก็กังวลใจ
แต่คือ ผมยังไม่พร้อมอะไรเลยสักอย่าง ปัจจุบัน เงินเดือนผมประมาณ 38000
ผ่อนบ้านเดือนละ 10000 ผ่อนรถ 8000 หักค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์จิปาถะ ค่าของใช้ในบ้าน ค่าน้ำไฟ
ก็จะเหลือใช้เดือนละประมาณ 13000-14000
ส่วนแฟนเงินเดือน 18000 ค่าใช้จ่ายมีแค่ให้พ่อที่อยู่ตจว. เดือนละ 4-5 พัน ที่เหลือก็ไม่ได้ใช้อะไรมาก
คือด้วยเงินจำนวนนี้ ถ้ากับตัวเอง มันไม่มีปัญหาครับ หรืออยู่กันสองคนก็ยังโอเค
เรายังไปเที่ยวกันได้ ยังซื้อของให้กันและกันได้
แต่ถ้ามีลูกขึ้นมา เงินจำนวนนี้ผมนึกไม่ออกเลยว่า มันจะพอได้ไง
เด็กคนนึงใช้เงินมหาศาล ตั้งแต่ค่าคลอด ค่าเลี้ยงช่วงแรกเกิด เสื้อผ้า นม และฯลฯ
เราก็โต้เถียงกัน เขาบอกว่า ถ้ามีลูกไป เดี๋ยวมันก็พร้อมเองแหละ คนที่เขารายได้น้อยกว่าเรา เขายังเลี้ยงกันได้ แล้วทำไมเราจะไม่ได้
ผมก็บอกว่า มันเลี้ยงให้โตน่ะได้ แต่คุณภาพชีวิตที่ดีของเขาล่ะ เราจะมอบให้เขาได้หรอ
เงินเดือนเราสองคน มันไม่ได้มากพอจะเลี้ยงดูเด็กสักคนหรอกนะ ลองคิดตามความเป็นจริง
ยิ่งถ้าเธอท้อง และคลอด พอมีลูกก็อาจต้องลาออกจากงานมา รายได้ก็จะหายไปอีก
แล้วลำพังรายได้ที่ผมมีอยู่ค่าใช้จ่ายมันก็ fixed อยู่แล้ว จะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงเด็ก
ผมพยายามอธิบายเหตุผล แต่เธอก็เหมือนไม่ฟังเลย
สุดท้ายลงเอยด้วยการทะเลาะกันทุกที
คือผมไม่รู้ต้องทำยังไง ดูจากสภาพชีวิตผม และเราสองคน เราพร้อมจะมีลูกจริงๆหรอ
หรือว่า ขอแค่ให้มีก่อน จากนั้นมันจะแก้ปัญหาได้เอง
กลุ้มใจมากครับ คิดหาทางไม่ออก ขอคำแนะนำด้วยครับ