เริ่มต้น…เพราะการเดินทาง>>ไปเกาหลีกัน 9 วัน ^^ (4-12 April 2016) Ep 1 มาเดี่ยวเที่ยวหลายคน

เดือนเมษายนที่ผ่านมา หลายคนคงไปเที่ยวหนีร้อน วันนี้เลยขอมารีววิวบ้าง เป็นการรีวิวครั้งแรกเลย มาแบ่งปันความสุขคลายร้อนกัน

เจ้าของกระทู้เป้นพวกชอบเที่ยวมาก เที่ยวคนเดียว แบกเป้ ลากกระเป๋า ไม่เที่ยวช่วงเทศกาล  (ตั๋วแพงงงง) ชะโงกทัวร์ไม่สน จนถูกเรียกว่า "สาวอินดี้"  และปีนี้ตั้งใจว่าจะเที่ยวมันทุกเดือน!!!!  หลังจากเหนื่อยกับชีวิตมาหลายปี 5 5 5

สุดท้ายตัดสินใจ "เกาหลี" ้ครั้งแรกในชีวิตเลย  จะรอช้าทำไม  รีบจองตั๋วเลยยย หาตั๋ว 2 อาทิตย์จนตกลงปลงใจ  อย่างเราต้อง "ตั๋วโปรเท่านั้น!!!"
คิดหนักมากไปกี่วันดี 5 วัน 3 คืนก็พอ  ประชุมงานให้เสร็จแล้วค่อยไปนะ (คือรักงานงัย  เผื่อนายมาอ่าน )  สุดท้าย!!!! ซื้อตั๋วผิดวัน TT TT ขาขาไปคือวันที่ประชุมงัย  รุ่งขึ้นรีบสารภาพกับนายแบบเสียงอ่อย  ไปเกาหลี 9 วันนะค้าาา

การเที่ยวของเราจะเป็นแบบสบายๆ นะคะ เหนื่อยก็พัก หิวก็กิน ทริปที่จัดก็ยืดหยุ่นกันไปตามแต่ขาจะไหว

พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกัน....และเป้าหมายหลักของทริปนี้ คือ  ดอกพ็อตกต หรือ ซากุระเกาหลี กับ "ปั่นจักรยาน" ตามรอยเพจ 'หนึ่งเงาในเกาหลี'

งบทั้งทริปรวมทุกสิ่งอย่าง >>> 40,000 บาทเท่านั้น ไม่ shopping จ๊ะ
วัตถุที่ห้ามลืม : ขาตั้งกล้อง (มาคนเดียวอยากมีรูปก็ต้องแบกกันไป) กล้อง และเงินๆๆ

ก่อนลงเครื่องขอกินข้าวเติมพลัง  ก่อนเจอพี่ ตม.สุดโหดตามคำร่ำลือก่อนนะ Fighting!!!





แล้วก็เดินตามคนอื่นไป ตื่นเต้นมากพูดเลย ในหัวคิดว่า จะโดนกักตัวมั้ยอ่ะ?  จะถามอะไรมั้ย? รีบมาต่อแถวที่ ตม.ผู้ชาย  แต่พอดีเราเป็นคนที่โชคดีงัย  เจ้าหน้าที่เรียกมาแถวนี้ค่ะ ประมาณว่าคิวว่าง... ได้ตม.ผู้หญิงเลย หมดทางหนีละ เราก็รีบ "อันยองฮาเซโย" เลย จ้องหน้าเข้าไว้  เอ้าสแกนนิ้วค่ะ แล้วก็ "Welcome to Korea"...  ไอ้เราก็นั่งเครียดมาหลายเดือน (นับตั้งแต่ซื้อตั๋วตอนมกราที่ผ่านมา) เพื่ออารายยยยย 10 วิเท่านั้น!!!

ผ่านตม. มาตั้งแต่ 10 กว่าๆ ซื้อ sim กินขนม แต่สุดท้าย sim เจ็งก็เลยแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาดูให้ รอ รอ รอ อีก 2 โมง กว่าจะมาถึง Seoul Station ก็ปาไปบ่าย 2 กว่าๆ ก็รีบไปซื้อตั๋วรถไฟเพื่อไป Jinhae วันรุ่งขึ้น ซื้อเสร็จรีบไป hostel ย่าน Myeong-dong (ไว้จะมารีวิวแยกนะคะ)

ทุกสิ่งคือดีงามไปหมด แม้แต่ Krispy Kreme


ดอกหญ้าริมถนน ยังดูดีอ่ะ


ถึงที่พักแล้วรีบซุกหัวนอนเลย คือง่วงและเหนื่อย ตื่นมาอีกที ตอนทุ่มนึง ได้ยินเสียงรูมเมทเข้ามา เงยหน้าปุ๊บ เมทถามไปกินข้าวด้วยกันมั้ย???  เพราะพวกเรามาคนเดียวคงกินไรได้ยาก ถึงจะงัวเงียขี้ตา แต่เรื่องกินมีสติเสมอจ๊ะ....  ไปสิ!!!  ขอล้างหน้า + แปรงฟันก่อนน้าาา

แล้วเจ้าของ Hostel ก็พา 3 สาว  (สาวจีน + สาวไต้หวัน และสาวไทย) ไปร้านใกล้ๆ ที่พัก สั่งมา 3 อย่าง เพราะร้านไม่ยอม ไอ้เราก็ไม่เข้าใจ กินๆ ไปละกัน คือ หมูย่างสไตล์เกาหลี, แกงส้มมั้ง และก็เบคอน  เบ็ดเสร็จคนละ 300 บาท


เรา 3 ตกลงกันว่าจะไปถ่ายดอกกุหลาบไฟ LED แต่หาไม่เจอ เดาว่าคงเก็บไปละมั้ง ก็เดินเล่น ถ่ายรูปกันเรื่อยเปื่อยแถว DDP สนุกสนานเหมือนรู้จักกันนานนับปี



ทัคโกกิ (닭고기) พ่อค้าแอบนิดนึง อิอิ


เลือกไก่ย่างบาร์บีคิวมา 1 ไม้ เผ็ดแซบ สู้กับอากาศหนาวๆ ประมาณ 10 องศา


สาวจีนซื้อสตอร์เบอร์มากล่องนึง 270 บาท


4 ทุ่มกว่าละตามล่าหาร้านนมกล้วยสุดฮิต  แต่ไม่ได้กิน ถ่ายรูปแล้ว...กลับเลย ประมาณว่าว่าถึงละนะค้าบบบ




บรรยากาศร้านอาหารข้างเคียง  สวยงาม น่าเข้าร้าน


สาวไต้หวันแสนน่ารัก


สาวจีนก็สวยไม่แพ้กัน


ภาพหมู่ที่ระลึกของเรา


ถ่ายรูปเสร็จเราก็กลับมาเม้ากัน เพราะวันรุ่งขึ้นสาวจีนต้องกลับแล้ววว เราคุยกันโดนห้องข้างๆ เคาะห้องบอกเบาๆ หน่อยจ้าาา