“พิพิธภัณฑ์” พูดถึงคำๆนี้ น้อยคนนักที่จะให้ความสนใจ จนกระทั่งผมได้พบกับ มิวเซียมสยาม กับนิทรรศการชุดเรียงความประเทศไทย ผมถึงกับร้องว่า เฮ๊ยยยย!!!!! พิพิธภัณฑ์แจ๋วๆมันก้อมีอยู่ในประเทศไทยเว้ยเฮ้ย ตั้งแต่มิวเซียมสยามเปิดใหม่ๆราวๆปี 2009 จนถึงปีนี้ ปี2016 ผมได้ไปเยือนที่นี่มาแล้ว 4 ครั้งด้วยกัน ครั้งล่าสุดก้อสงกรานต์ที่ผ่านมา และได้ยินข่าวว่า ทางมิวเซียมจะทำการยกเครื่องนิทรรศการชุดเรียงความประเทศไทยใหม่ เพื่อเพิ่มความสดใหม่ เลยเป็นแรงบันดาลใจให้มาตั้งกระทู้นี้ขึ้น มิวเซียมสยาม ส่งท้ายการเดินทางที่ผ่านมา เตรียมพร้อมสู่การเดินทางบทใหม่



มิวเซียมสยาม ตั้งอยู่ที่ ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยตัวพิพิธภัณฑ์เป็นตึก 3 ชั้นของอาคารกระทรวงพาณิชย์เดิม มีห้องจัดแสดงนิทรรศการถาวรทั้งหมด 17 ห้อง ภายใต้หัวข้อ "เรียงความประเทศไทย"  



เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งแรกที่เน้น การสร้างประสบการณ์สดใหม่ในการชมพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นต้นแบบของ แหล่งเรียนรู้ที่น่ารื่นรมย์ และช่วยยกระดับมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ ให้กับประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนไทยเกี่ยวกับการสร้างสำนึกในการรู้จัก ตนเอง รู้จักเพื่อนบ้าน และรู้จักโลก รวมถึงการสร้าง “แนวคิดและภาพลักษณ์ใหม่” ของพิพิธภัณฑ์ในสังคมแห่งการเรียนรู้ ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ และกิจกรรมสร้าง สรรค์ เพื่อให้การเรียนรู้ประวัติศาสตร์และเรื่องราวต่างๆ เป็นไปอย่างสนุกสนานยิ่งขึ้น





เมื่อเดินเข้ามาในอาคาร เราจะต้องเดินมาซื้อบัตรผ่านประตูกันที่นี่ก่อน ซึ่งล่าสุดเราจะได้ wrist band สีฟ้า มีชื่อ มิวเซียมสยาม กลับมาเป็นที่ระลึกด้วย อัตราคาเข้าชมคนละ 100 บาท นักเรียนนักศึกษาคนละ 50 บาท ถ้ามาเป็นหมู่คณะ 5 คนขึ้นไปจะได้ส่วนลดค่าเข้า 50%



ห้องแรกที่เราจะได้เข้าชมคือ เบิกโรง (Immersive Theater) โดยจะมีภาพยนต์สั้นๆฉายให้ดู ผมชอบภาพยนต์นี้มากๆ ดูครั้งแรกถึงกับขนลุก ภาพยนต์จะฉายวิถีชีวิตคนในปัจจุบันทั้ง 7 ตัวละคร โดยแต่ละตัวละครจะเหมือนย้อนรำลึกอดีตไปยังสมัยโบราณได้ และตัวละครทั้ง 7 นี้แหละ ที่จะเป็นตัวละครสำคัญที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของประเทศไทยผ่านห้องนิทรรศการต่างๆ จบภาพยนต์ด้วยคำว่า “คุณคือคนไทยหรือเปล่า?”





หลังจากนั้นจะเข้าสู่ในส่วนของ ไทยแท้ (Typically Thai) ที่จะแสดงวัฒนธรรมเอกลักษณ์ของไทยที่คุ้นเคยกันดี เช่นการไหว้ ตุ๊กๆ มวยไทย รถขายส้มตำไก่ย่าง ศาลเจ้า







พอออกจากห้องไทยแท้ เราจะต้องเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง ระหว่างทางจะเห็นสัญลักษณ์รูปคนสีแดงๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมิวเซียมสยาม เรียกว่า “คนกบแดง” หรือ รูปคนทำท่าเป็นกบเป็นสัญลักษณ์ของสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ เพราะกบถือเป็น สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ เป็นที่เคารพบูชาทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เห็นได้จากลวดลาย บนกลองมโหระทึกที่เป็นเครื่องมือใช้ประโคมตีในพิธีกรรมขอฝน







จากนั้นเราจะเข้าสู่ห้องที่สาม เปิดตำนานสุวรรณภูมิ (Introduction to Suvarnabhumi) ห้องจัดแสดงที่ตั้งของดินแดนที่เรียกว่าสุวรรณภูมิ ชาติพันธุ์ในดินแดนนี้ และวิธีการขุดค้นหลักฐานทางประวัติศาสตร์





ถัดมาจะเป็นห้อง สุวรรณภูมิ(Suvarnabhumi) จัดแสดงความเป็นอยู่ของผู้คนในสุวรรณภูมิ การติดต่อกับต่างประเทศ และหลักฐานประวัติศาสตร์สุวรรณภูมิ





ห้องที่ห้า ห้องพุทธิปัญญา (Buddhism) ห้องแสดงหัวใจพระพุทธศาสนาและเรื่องราวที่แสดงถึงสัจจธรรม จะเป็นห้องมืดๆ มีเสียงสวดมนต์เล่าเรื่องราว ห้องนี้ตรงเสาจะใช้แสงเล่นลวดลายไทยได้อย่างสวยงาม เดินมาเมื่อยๆ นั่งพักที่ห้องนี้ ฟังธรรมะให้เย็นใจก่อนจะเดินทางไปสู่ห้องถัดไปได้ครับ





ถัดมาจะเป็น ห้องกำเนิดสยามประเทศ (Founding of Ayutthaya) ห้องแสดงเรื่องราวความเป็นมาอาณาจักรต่าง ๆ ในดินแดนสยาม และตำนานต้นกำเนิดกรุงศรีอยุธยา และ ห้องสยามประเทศ (Siam) ห้องแสดงเรื่องราวความเป็นอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และรูปจำลองเรือแบบต่าง ๆ ตั้งแต่เรือพื้นบ้านถึงเรือพระราชพิธี สองห้องนี้สนุกสนานมากครับ มีแบบจำลองบ้านเมืองเรื่องราวในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งสวยและละเอียดมาก ถ่ายรูปกันสนุกสนานไปเลย















ห้องถัดไป สยามยุทธ์ (War Room) ห้องแสดงรูปแบบการรบ กำลังพล และการทำสงครามในสมัยอยุธยา พอดีไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ มีเกมวางแผนการรบให้เล่นด้วย และเกมปืนใหญ่ที่ให้เราหมุนปืนใหญ่จริงๆอันเบ้อเร่งเลยครับ

และก้อมาถึงห้อง แผนที่ ความยอกย้อนบนแผ่นกระดาษ (Map Room) ห้องแสดงแผนที่ประเทศไทยในสมัยต่าง ๆ



ห้องที่สิบ กรุงเทพฯ ภายใต้ฉากอยุธยา (Bangkok, New Ayutthaya) ห้องแสดงเรื่องราวเมื่อสิ้นกรุงศรีอยุธยา เริ่มตั้งกรุงธนบุรี จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ การอพยพของคนชาติต่าง ๆ ในสยาม และการเปรียบเทียบว่ากรุงรัตนโกสินทร์เหมือนกับกรุงศรีอยุธยาอย่างไร ห้องนี้ทำได้เจ๋งดีครับ เค้าจะทำเป็นหน้าต่างหลายๆบาน เปิดเข้าไปจะมีปุ่มให้กดฟังคนเชื้อสายต่างๆ เช่นชาวไทยมุศลิม ชาวพม่า ชาวจีน เล่าเรื่องการอพยพเข้ามาประเทศไทยในสมัยนั้นๆ พร้อมกับมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับชาตินั้นๆวางประกอบอยู่ ยืนฟังเพลินทีเดียวเชียวล่ะ





ห้องชีวิตนอกกรุงเทพฯ (Village Life) ห้องแสดงวิถีชีวิตของคนในชนบทนอกกรุงเทพฯ โดยมีเรื่องข้าวเป็นหลัก ห้องนี้เด็ดตรงมีของเล่นเด็กต่างจังหวัดสมัยก่อนวางเรียงอยู่มากมาย เช่นคอปเตอร์ใบพัด ลูกข่าง











ห้องที่12 แปลงโฉมสยามประเทศ (Change) ห้องแสดงการเปลี่ยนแปลงสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 และเรื่องราวของถนนเจริญกรุง ห้องนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ

ห้องที่13 กำเนิดประเทศไทย (Politics & Communications) ห้องแสดงเรื่องราวในสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย ส่วนใหญ่จะเป็นการแสดงเรื่องสื่อต่างๆในสมัยนั้น ห้องนี้คนนิยมถ่ายรูปกันเยอะมาก เพราะมีการทำห้องข่าวจำลอง ให้เราเข้าไปยืนอ่านข่าวถ่ายรูปได้ ของช่อง4 โดยจะมีภาพเราปรากฎบนทีวีเก่าๆขาวดำ และทีวีสีที่วางเรียงๆกันบนกำแพง ถ่ายรูปสนุกมากเลยครับห้องนี้





ห้องสีสันตะวันตก (Thailand and the World) ห้องแสดงวัฒนธรรมตะวันตกที่เริ่มเข้ามาในประเทศไทย โดยจะจำลองเป็นผับสมัยก่อน มีตู้เพลงเปิดเพลงยุคเก่าๆ พร้อมกับรถยุโรปโบราณ เห็นลุงๆป้าๆมาเที่ยวกัน เล่นตู้เพลงกันฟินเลยล่ะ ห้องนี้คนก้อหยุดถ่ายรูปกันเยอะมากเข่นเดียวกัน





ห้องเมืองไทยวันนี้ (Thailand Today) เป็นห้องอุโมงค์กระจกขนาดใหญ่ มีโทรทัศน์ขนาดเล็กรายล้อมทั่วห้อง พอดีรูปที่ถ่ายมามีแต่รูปที่ติดตัวคน เลยไม่ได้เอามาลงนะครับ
ห้องสุดท้าย มองไปข้างหน้า (Thailand Tomorrow) ห้องสำหรับแสดงความคิดเห็นของผู้เข้าชม ด้วยระบบคอมพิวเตอร์แสดงข้อความบนผนัง ครั้งสุดที่ไปมาถูกนำออกไปแล้ว น่าเสียดายเหมือนกัน เพราะจะมีกระดานให้เราเขียนตัวอักษร แล้วจะมี projjectore ฉายตัวอักษรที่เราเขียนลอยไปลอยมาที่ผนัง

ในขณะนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ได้ปิดในส่วนนิทรรศการถาวรลงชั่วคราว ยังไม่แน่ใจว่าจะเปิดใหม่วันไหนนะครับ เพื่อปรับปรุงการแสดง รอลุ้นว่าจะยกเครื่องนิทรรศการใหม่ทั้งหมดเลย หรือปรับปรุงบางส่วน เสร็จเมื่อไหร่ผมคงไม่พลาดที่จะตามไปเที่ยวเป็นครั้งที่ 5 มิวเซียมสยามถือเป็นพิพิธภัณฑ์ยุคใหม่ที่นำเทคโนโลยีมาช่วยในการนำเสนอได้ดีทีเดียว เราจะได้รับความรู้ต่างๆด้วยความตื่นตาตื่นใจและไม่น่าเบื่อ เหมาะสำหรับคนทุกวัยครับ เด็กๆก้อได้เล่นสนุก ได้ความรู้ วัยรุ่นนอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังมีมุมให้ถ่ายรูปจำนวนมากครับ แนะนำให้ไปเลยครับ

สุดท้ายแล้วกับ (ของแถม)ตึกเก่าเล่าเรื่อง เนื่องจากที่นี่เป็นอาคารเก่า มุมสวยๆมีอยู่มากมาย จึงขอนำภาพต่างๆของอาคารที่ได้ถ่ายรูปมาฝากเป็นของแถมก่อนจบรีวิวชุดนี้ครับผม แล้วพบกันใหม่กับบทความฉบับหน้า สวัสดีครับ













----------------------------------------------------------------------------------------------
การเดินทางของมนุษย์เงินเดือนตอนเก่าๆ
ตอน 35 Maria Pizzeria & Restaurant พิซซ่าเตาถ่าน และอีกหลากเมนูเด็ด
http://pantip.com/topic/34877970
ตอน 34 พาเที่ยววัดที่มีชื่ออยู่หลังรถหลายคันบนท้องถนน วัดท่าไม้ สมุทรสาคร
http://pantip.com/topic/34446604
ตอน 33 โลกใบเล็กที่ปางสีดา
http://pantip.com/topic/34359144

ติดตามผลงานได้ที่
http://voravudstudio.blogspot.com/
http://www.facebook.com/voravudstudio
http://www.facebook.com/voravuds