[CR] [CR] ทริป "๑๑ วัน ในเกาหลี ตามล่าหาพ็อดกด (벗꽃)" เชจู,ปูซาน,จินเฮ,โซล,อินชอน

สวัสดีค่ะ ชาวพันทิป หลังจากที่บินมาหลายครั้ง วืดการเขียนรีวิวมาหลายหน
เพราะคิดว่า กลับไปค่อยไปทำรีวิวก็ได้ สุดท้าย ก็ขี้เกียจ บาย~ ไม่ทำละ

แต่คราวนี้ มีโอกาสได้มาเกาหลีในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก็เลยไม่อยากปล่อยผ่านไป
เลยทำแบบรายงานสด ส่งตรงจากเกาหลีไปเลย ๕๕๕๕
แต่ก็ยังเจอปัญหาการใช้งาน เพราะไอดีของตัวเองอัพรูปไม่ได้ เลยยืมของน้องมาอีกที
เพิ่งเข้าใจวันนี้เองที่ว่าทำไมกระทู้ในพันทิปถึงชอบมีคนยืมไอดีกันบ่อยจัง ๕๕

โอเค เรานอกเรื่องกันมามากแล้ว เริ่มเลยละกันนะคะ ^^

หลายคนคงสงสัย พ็อดกด คืออะไร นางคือ  Cherry Blossom หรือว่า ซากุระ ค่ะ
แต่เคยได้ยินว่า อย่าไปเรียกว่าซากุระให้เกาหลีได้ยิน เพราะเกาหลีเค้าก็บอกนี่ของชั้นญี่ปุ่นเอาไป ทางญี่ปุ่นก็บอก ของชั้น ดังนั้น เราเรียกพ็อดกด กันเถอะ



เราเดินทางด้วยสายการบิน ออช เครื่องออกเวลา ๒.๒๐น.
ระหว่างที่รอ....


ดูวนไปค่ะ ๕๕๕๕๕๕๕

เราเดินทางมาถึงเกาหลีตอนประมาณ ๑๐ โมง แล้วต้องไปฝ่าฝูงชนขนาดมหึมาตรงหน้า ตม.
ระหว่างที่ยืนรอไปเกือบ ๒ ชั่วโมง ก็พบว่า มีคนไทยโดนดึงออกไปเข้าห้องเย็นเยอะมาก เกือบ  ๑๐ คนได้
ผมนี่เกร็งไปหมด ถึงแม้ว่าจะบินมาหลายครั้งก็เถอะ
แต่พอถึงคิว ออนนี่ ตม. ไม่สนใจเลยค่ะ ไม่ถาม ไม่ทัก สแกนๆ ปั๊ม โอเค ยูแคนโก โอเค ไอโก ค่ะ ๕๕๕

ถึงแม้ว่าเราจะชอบการเที่ยวแบบขึ้นรถบัส แต่ก็ไม่เถียงว่า การเดินทางจากอินชอนไปกิมโปด้วยใต้ดินง่ายกว่า โอเค จัดค่ะ กลัวไม่ทันเหมือนกัน
พอถึงกิมโป ก็ตรงไปที่เค้าเตอร์เช็คอินชั้น ๒ แล้วก็นั่งรอเวลาค่ะ



เราบินด้วยเจ๊ส้ม จองมานาน ได้มาในราคาไม่ถึงพัน รู้สึกปลื้มใจตัวเอง

ระหว่างที่รอบอร์ด เราก็ส่องเจ๊ใหญ่ค่ะ อยากบินกับเค้าจัง



แต่ราคา ไม่น่ารักแรง เรากลับไปซบอกเจ๊ส้มกันเถอะค่ะ โหลดกระเป๋าฟรี ๑๕ กิโล ถือขึ้นเครื่องได้อีก ๑๐ กิโล รักนาง



หลังจากบินมาทั้งชีวิต ครบ ๒๔ ชั่วโมงแล้ว ที่ไม่ได้นอน ดี เราก็มาถึงเชจูซักทีค่ะ..แต่ ไม่มีอารมณ์ถ่ายรูปใดๆทั้งสิ้นค่ะ

เพราะลงจากเครื่องมา พบว่า มีคนหยิบกระเป๋าเดินทางสลับไป ลายกระเป๋าเหมือนกันเป๊ะ
แต่คือ เราจำได้ว่าเราเก็บกระเป๋าเรียบร้อย ไม่มีสายโผล่ออกมา ใจไม่ดีเลยฮะ
พอเหลือใบนั้นใบสุดท้าย ก็เลยแจ้งเค้าไปว่า อันนี้ไม่ใช่ของเรา เท่านั้นแหละ เค้าหิ้วกระเป๋าเราแล้ววิ่งหน้าตั้งไปเลย
แล้วคือ...ทิ้งเราไว้กลางทาง เคว้งคว้างกลางสนามบินเลย ㅠㅠ

หลังจากนั้นประมาณเกือบครึ่ง ชม. เค้าก็ติดต่อให้คนที่หยิบผิดไปเอามาเปลี่ยน แอบเสียดายที่ไม่ใช่ ผช หน้าตาดี แบบในหนัง
แต่เป็นแม่ลูกอ่อน หอบลูกกลับมาด้วย สงสารเค้าก็สงสารอ่ะนะ แต่เหลือบมองนาฬิกา มันห้าโมงกว่าแล้ว สงสารตัวเองค่ะ ต้องนั่งรถต่อไปที่พักอีกเป็น ชม.

พอตั้งสติได้ ก็นั่งบัส ๕๐๐ จากสนามบิน ลง 광양(กวังยาง) เดินตรงไป ข้ามแยกแล้วเลี้ยวขวา เดินตรงไปอีกหน่อย เพื่อไปขึ้น ๗๓๐ ไปลง공천포(คงชอนโพ)


ถึงที่พักก็มืดแล้ว เราพักที่ 공천포 올레 게스트하우스  
http://www.ollehouse.co.kr แต่เราจองผ่าน บุ๊คกิ้งไป ๕๕๕๕ เข้าไปดูห้องกันได้
วิวจากห้องคือมองเห็นทะเลเลย สตาฟก็น่ารัก นางบอก พรุ่งนี้เช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน สวยนะ
พอเช้ามา คือนางมานอนห้องเดียวกับเรา พอเห็นเราตื่น ก็มาเรียกเราออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ๕๕๕๕

เราเริ่มเช้าวันที่ ๒๕ มี.ค ด้วยแสงสวยๆ


ระหว่างนั้น ก็มีน้องหมามาเล่นด้วย


นางน่ารักก


แล้วก็กลับมากินข้าวที่เกสเฮ้าส์ ที่นี่มีอาหารเช้าฟรี วันนี้เป็นไข่ ขนมปัง น้ำส้ม แล้วก็กาแฟ



หลังจากฟาดอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อย  ก็ได้เวลาตะลอนต่อ~

ที่แรกที่เราเลือกไป คือ  성산 일출봉 (Seongsan Ilchulbong)
ปากปล่องภูเขาไฟ ที่เกิดจากการระเบิดใต้ทะเลเมื่อประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ ปีก่อน และติด UNESCO World Heritage ด้วย
เราเดินทางจากที่พัก แค่เดินออกมาจากซอย ก็มีป้ายรถบัสอยู่ข้างหน้าเลย
วิธีไปคือ นั่ง ๗๐๑ ยาวไปเลยค่ะ ลงป้าย 일출봉입구(อิลชุลบงอิบกู) ลงแล้วไปทางซ้ายมือ เดินตรงไป เลี้ยวขวาเมื่อเจอแยก เดินตามถนนไป เลี้ยวขวาอีกที ทางเข้าจะอยู่ซ้ายมือ ขั้นตอนนี้อาจงงนิดนึง แต่ไปไม่ยากค่ะ จริงๆ

คนเยอะมากก ชนิดที่ว่า หามุมถ่ายรูปไม่เจอ ทั้งคนเกาหลี ทั้งทัวร์จีน



ค่าเข้าอยู่ที่ ๒,๐๐๐ วอน ต่อคน

ระหว่างทาง ช่างลาดชัน ไม่มีอารมณ์ถ่ายรูปใดๆทั้งนั้นค่ะ ๕๕๕ เหนื่อย พอๆกับเดินขึ้นเขาคิชกูฏ เลยค่ะ ㅠㅠ
พอไปถึง คิดว่า จะต้องเจอภาพปล่องภูเขาไฟเขียวๆแบบที่เคยอ่านรีวิวมา...
แต่.....



แทบทรุดค่ะ ชันมาก เสียใจแรงมาก ๕๕๕๕ ก็ต้องเข้าใจว่าอากาศเพิ่งจะหายหนาว แต่มันก็ ฮืออ ไม่หายเหนื่อย ๕๕๕๕
อยู่ไม่นานค่ะ แดดร้อน เสียใจ รีบลง วิวตอนลงก็พอปลอบใจอยู่





ต้องการที่จะไป 섭지코지 (Seopjikoji)  ต่อค่ะ แต่ทางเข้านางไม่สามารถนั่งบัสได้ ตอนขามาระหว่างทางเห็นทุ่งดอกเรปซีดอยู่ เลยว่าจะเดินไปดู



เก็บค่าเข้าไปถ่าย คนละ ๑,๐๐๐ วอน บายค่ะ ถ่ายข้างนอกพอ


มีม้าด้วย


แท็กซี่มาพอดี เลยโบกไป ซอบชิโคจิ ต่อ ราคา ๕,๐๐๐ วอน

ที่นี่ก็ทัวร์จีนเยอะเหมือนเดิม เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาก


แต่ติดใจ ทุ่งดอกเรปซีด หรือ 유체꽃 ค่ะ ส่วนตัวมีความรู้สึกว่านางเหมือนดอกผักกาดสีเขียวๆบ้านเรา




ถ่ายรูปเล่นไม่นาน ก็กลับค่ะ เพราะล้าจากการเดินทางเมื่อวาน ไหนจะเดินขึ้นเขาอีก

ตอนเย็น เลยมาถ่ายรูปเล่นแถวที่พัก ก็ไปเจอกับขนมนี่เข้า อร่อยค่ะ นางคือ ฮันนี่บัตเตอร์อัลมอนด์


จนถึงตอนนี้ ยังไม่เจอพ็อดกด ซักดอกเลยค่ะ เห็นแว๊บๆ ตอนนั่งรถผ่าน แต่ก็ยังไม่บานเลย ก็ทำใจค่ะ เพราะสตาฟเค้าบอกว่ามันยังหนาวอยู่ ㅠㅠ

-----------------------------------
ชื่อสินค้า:   ซากุระเกาหลี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่