สวัสดีทุกท่านที่กดเข้ามาอ่านกระทู้รีวิวของผมนะครับ
ผมขอรีวิวในแบบประสบการณ์ตรงของผม ที่ได้เจอมาตั้งแต่ความกังวลก่อนที่จะถึงวันเดินทาง เมื่อไปถึง และกลับมาจากการเดินทางเรียบร้อยแล้ว
*** ความคาดหวังว่าจะได้อะไรจากทริปนี้ของผมนะครับ ***
1. ไปเห็น และ เก็บภาพความทรงจำ บรรยากาศ สถานที่ งามๆ
2. รับประทานอาหารญี่ปุ่น ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้รู้ว่ามันเด็ดกว่าที่ไทยแค่ไหน
3. Shopping !!! - Japan Denim มาบุกถึงถิ่น, Jacket Denim , รองเท้า (Nike air max , Converse made in japan , Onitsuka nippon made) , กระเป๋าสตางค์ Kawataku
4. ไปเล่นสกี (จริง ๆ อยากเล่นสโนว์บอร์ด แต่ขอหัดจากสกีก่อนละกันครับ)
5. ขึ้นรถไฟใต้ดินที่ญี่ปุ่นเอง โดยไม่หลง !!!
เพิ่มเติมค่าใช้จ่าย
ขอมาอัพเดทเพิ่มเติม หลังจากที่ได้ลองทำสรุปค่าใช้จ่ายดูแล้ว รายการออกมาดังนี้ครับผม
ค่ากินแบบไม่ต้องคิดเท่าไหร่นัก 11,000
ค่าเดินทางในญี่ปุ่น 12,000
ตั๋วเครื่องบิน 8,760.00
เพิ่มน้ำหนักกระเป๋า 30 kg ขากลับ 565.00
ที่พัก 5,242.00
รวมทั้งหมด ไป 9 วัน 7 คืน เป็นเงิน 37,567 บาท
แต่นอกจากนี้ ผม Shopping ไปเกือบ 60k T_T รู้สึกตัวอีกที ก็ตัวเบาเลยครัชชชช
สารบัญ กระทู้นี้ เนื่องจากยาวมาก
>>>
ที่พักที่ สำหรับเก็บของและซุกนอน
>>>
Internet สำหรับใช้งานในประเทศญี่ปุ่น
>>>
เครื่องแต่งกายเพื่อกันหนาว แต่งอย่างไรให้อบอุ่นเที่ยวได้สนุก
>>>
อุปกรณ์ถ่ายภาพ ที่ควรจะเอาไป และไม่ควรเอาไป
>>>
วิธีการเลือกกระเป๋าเดินทางที่ดี
>>>
การเดินทางโดยรถไฟ รถใต้ดิน รถบัส
>>>
สถานที่ท่องเที่ยว มีหลายวัน ผมแยกไว้แต่ละคอมเม้น ลองไล่ดูนะครับ ขออภัยภาพอาจจะเยอะไปนิดหนึ่งครับผม
>>>
อาหารการกิน ไม่ได้ เลิศหรู อลังการอะไรนะครับเน้นหาทานง่าย แต่รสชาติต้องโอเค ราคาไม่โดดเด้งมากครับผม
>>>
แหล่ง Shopping สิ่งที่ผมพลาดที่สุด น่าจะเป็นการเข้าไปซื้อ Air Max ผิดร้าน และโดนฟันราคาแพงกว่าปกติไป 1,500 บาท เซ็งเป็ดเลยทีเดียวครับผม
ปราสาทโอซาก้า
ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ต้องเดินทางไปยังที่ ๆ เราไม่เคยไปในครั้งแรก น่าจะมีความรู้สึกตื่นเต้น กังวล ไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไร จะต้องเตรียมตัวอย่างไงบ้างเหมือนกับผม เอาจริง ๆ ตอนก่อนไปนี่จองตั๋วข้ามปี ตอนที่จองตั๋วยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าที่ Osaka นั้นมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง แค่คิดว่า "เออ จองเลย ๆ ตั๋วถูก ๆ อย่างไรญี่ปุ่น เราก็อยากไปอยู่แล้วแหละ"
พอเริ่มที่จะวางแผนหาข้อมูลเที่ยวที่โอซาก้า ก็เริ่มแล้วครับ ความเขลาเริ่มครอบงำ จากตอนแรกที่คิดว่าก็ไม่น่าจะมีอะไร ก็แค่เหมือนไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่ไปจังหวัดไกล ๆ เท่านั้นเอง ไม่น่าจะมีอะไรมาก
แต่...ผิดถนัด แค่ค้นหาข้อมูลใน Google เจอแค่เรื่อง Pass ต่าง ๆ ในญี่ปุ่นผมนี่ก็งงเป็นไก่ตาแตกแล้วครับ Pass อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด แล้วอะไรควรซื้อ อะไรไม่ควรซื้อ ซื้ออันนี้จะคุ้มมั้ย หรือว่า ซื้อเป็นเที่ยว ๆ ไปดีกว่า โอ้ย...งงเต็ก
ยังไม่พอเท่านั้น พอไปลองหาข้อมูลเรื่องการแต่งตัวสำหรับอากาศหนาว ๆ ประมาณ 5 องศา จะต้องแต่งอะไรอย่างไรบ้าง ตอนนั้นก่อนหาข้อมูลคิดเองว่า ก็แค่ใส่เสื้อกันหนาวก็น่าจะโอเคแล้ว แต่...ความจริงมันมีอะไรลึกลับซับซ้อนกว่านั้นเยอะ เรียกได้ว่าเยอะจนผมนี่งงไปเลยครับ ไหนจะ ลองจอน ไหนจะ ฟลีซ ไหนจะ Heat tech ไหนจะ Down Jacket อีก คำศัพท์แต่ละคำอ่านเจอแล้วไม่เข้าใจอย่างมาก
ทีนี้พอเริ่มหาข้อมูลก็เริ่มรู้ว่า เราไม่รู้อะไร และต้องวางแผนอะไรอย่างไรบ้าง ซึ่งลำดับในการวางแผนสำหรับผมถ้าหากว่าย้อนเวลาได้อีกครั้งหนึ่ง คงจะเริ่มต้นตั้งแต่ ช่วงเวลาที่เราต้องการที่จะเดินทางไปถึง เพราะญี่ปุ่นนี่แต่ละช่วงเวลา สถานที่เที่ยวก็จะมีความงามแตกต่างกันไป ถ้า Highlight จริง ๆ ก็น่าจะเป็นช่วงซากุระบาน ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งช่วงที่ผมไปนั้นเป็นช่วงที่กำลังจะบานครับ (คือมันยังไม่บานนั้นแหละครับ T_T )
และจากนั้นก็ลองวางแผนต่อว่าเราอยากไปที่ไหนบ้าง ยกตัวอย่างเช่น อยากไปดูปราสาทต่างๆ ของญี่ปุ่น อยากไปดูป่าไผ่ อยากไปดูฟูจิซัง เป็นต้น ซึ่งถ้าจะให้ง่ายกว่านั้นอาจจะต้องดูแหล่งท่องเที่ยวเป็น Zone ๆ ไป น่าจะดีกว่า เพราะอย่างน้อยจะได้ Scope ลงมาได้ง่ายขึ้น ว่าถ้าเราอยากไปโซนนี้ มันมีสถานที่เที่ยวอะไรที่น่าสนใจบ้าง เพราะการที่ต้องย้ายโรงแรม สำหรับการไปท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนนี่ สำหรับผม ผมว่าเหนื่อย และเสียเวลาพอสมควร เอาจริงๆ คือ ผมขี้เกียจที่จะต้อง Pack กระเป๋าหลายๆ รอบ ทริปนี้ตอนแรก ก็วางแผนว่าจะไปเที่ยวแถว ๆ โอซาก้า แล้วก็จะนั่งรถไปพักที่โตเกียวด้วย แต่พอลองจัดแผนดี ๆ แล้ว คิดว่าโตเกียวไว้ค่อยหาโอกาศไปเยือนอีกรอบดีกว่า รอบนี้ขอแค่แถบคันไซ ก็พอแล้ว
พอได้ที่พักเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อมาก็คือ จัดลำดับว่าเราจะไปแต่ละที่วันไหนบ้าง เวลากี่โมงถึงกี่โมง จริง ๆ ถ้าหากว่าทำไว้ยิ่งละเอียดจะยิ่งดีครับ เพราะเราจะสามารถบริหารเวลา และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นได้ค่อยข้างแม่นยำ กว่าไปคิดเอาข้างหน้า อันนี้เหมาะกับคนที่อยากไปแบบล่องลอย Slow life หายใจทิ้ง เสพบรรยากาศ จริง ๆ ถ้าหากว่าคนเคยไปหลาย ๆ ครั้งแล้ว ผมว่าเขาคงอยากจะเลือกแบบนี้ แต่ถ้าไปครั้งแรก ผมว่าเตรียมแผนไปดีกว่าครับ ไม่งั้นจะมาเสียดายทีหลังว่า ที่นี้ก็ไม่ได้ไป ที่โน้นก็ไม่ได้ไป
ทีนี้ก็จะมาถึงสิ่งที่สำคัญ สุด ๆ คือการเดินทางไปแต่ละที่ ตอนแรกผมคิดว่าเรื่องนี้

ยากมาก ๆ เพราะ ต้องไปโดยรถไฟใต้ดิน รถไฟ รถบัส ตาย ๆ แล้วเราจะรู้ได้ไง ว่าต้องนั่งรถจากสถานีไหน ลงสถานีไหน ขึ้นคันไหน แต่ไม่น่าเชื่อครับว่า คำตอบพวกนี้ Google map และ Hyperdia สามารถ ตอบเราได้อย่างชัดเจน แม่นยำ เป๊ะเวอร์ !!! ซึ่งพอเราลองใส่จุดเริ่มต้น (ที่พักของเรา) และจุดหมายปลายทาง (สถานที่ท่องเที่ยวที่เราลิสไว้) จากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง เราก็จะเห็นค่าใช้จ่ายทีเกิดขึ้น คร่าวๆ แล้วครับ ทั้งนี้ก็จะพอเห็นภาพว่า เราควรจะซื้อตั๋วเป็น Pass ที่เหมาจ่ายไปเลยมั้ย หรือว่าซื้อเป็นแค่ตั๋วเที่ยวก็พอ
ซึ่งพออ่านมาถึงตรงนี้ผมคิดว่าถ้าคุณกำลังเคยประสบปัญหาแบบผมอยู่ ก็แสดงว่าคุณน่าจะกำลังมาลงเรือลำเดียวกับผมแล้วครับ 555555
โดยจะขอแยกเป็นเรื่อง ๆ ตามหัวข้อด้านล่างนี้เลยนะครับผม เพื่อข้อมูลของผมจะเป็นประโยชน์ต่อใครที่กำลังหาข้อมูลเหล่านี้อยู่
>>>
ที่พักที่ สำหรับเก็บของและซุกนอน
>>>
Internet สำหรับใช้งานในประเทศญี่ปุ่น
>>>
เครื่องแต่งกายเพื่อกันหนาว แต่งอย่างไรให้อบอุ่นเที่ยวได้สนุก
>>>
อุปกรณ์ถ่ายภาพ ที่ควรจะเอาไป และไม่ควรเอาไป
>>>
วิธีการเลือกกระเป๋าเดินทางที่ดี
>>>
การเดินทางโดยรถไฟ รถใต้ดิน รถบัส
>>>
สถานที่ท่องเที่ยว มีหลายวัน ผมแยกไว้แต่ละคอมเม้น ลองไล่ดูนะครับ ขออภัยภาพอาจจะเยอะไปนิดหนึ่งครับผม
>>>
อาหารการกิน ไม่ได้ เลิศหรู อลังการอะไรนะครับเน้นหาทานง่าย แต่รสชาติต้องโอเค ราคาไม่โดดเด้งมากครับผม
>>>
แหล่ง Shopping สิ่งที่ผมพลาดที่สุด น่าจะเป็นการเข้าไปซื้อ Air Max ผิดร้าน และโดนฟันราคาแพงกว่าปกติไป 1,500 บาท เซ็งเป็ดเลยทีเดียวครับผม
ปราสาทฮิเมจิ
Osaka castle มุมสูง
[CR] เที่ยว คันไซ 9 วัน 7 คืน โอซาก้า นารา โกเบ เกียวโต ครั้งแรก...เตรียมตัว วางแผน อย่างไร มาดูกัน >>
ผมขอรีวิวในแบบประสบการณ์ตรงของผม ที่ได้เจอมาตั้งแต่ความกังวลก่อนที่จะถึงวันเดินทาง เมื่อไปถึง และกลับมาจากการเดินทางเรียบร้อยแล้ว
*** ความคาดหวังว่าจะได้อะไรจากทริปนี้ของผมนะครับ ***
1. ไปเห็น และ เก็บภาพความทรงจำ บรรยากาศ สถานที่ งามๆ
2. รับประทานอาหารญี่ปุ่น ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้รู้ว่ามันเด็ดกว่าที่ไทยแค่ไหน
3. Shopping !!! - Japan Denim มาบุกถึงถิ่น, Jacket Denim , รองเท้า (Nike air max , Converse made in japan , Onitsuka nippon made) , กระเป๋าสตางค์ Kawataku
4. ไปเล่นสกี (จริง ๆ อยากเล่นสโนว์บอร์ด แต่ขอหัดจากสกีก่อนละกันครับ)
5. ขึ้นรถไฟใต้ดินที่ญี่ปุ่นเอง โดยไม่หลง !!!
เพิ่มเติมค่าใช้จ่าย
ขอมาอัพเดทเพิ่มเติม หลังจากที่ได้ลองทำสรุปค่าใช้จ่ายดูแล้ว รายการออกมาดังนี้ครับผม
ค่ากินแบบไม่ต้องคิดเท่าไหร่นัก 11,000
ค่าเดินทางในญี่ปุ่น 12,000
ตั๋วเครื่องบิน 8,760.00
เพิ่มน้ำหนักกระเป๋า 30 kg ขากลับ 565.00
ที่พัก 5,242.00
รวมทั้งหมด ไป 9 วัน 7 คืน เป็นเงิน 37,567 บาท
แต่นอกจากนี้ ผม Shopping ไปเกือบ 60k T_T รู้สึกตัวอีกที ก็ตัวเบาเลยครัชชชช
สารบัญ กระทู้นี้ เนื่องจากยาวมาก
>>> ที่พักที่ สำหรับเก็บของและซุกนอน
>>> Internet สำหรับใช้งานในประเทศญี่ปุ่น
>>> เครื่องแต่งกายเพื่อกันหนาว แต่งอย่างไรให้อบอุ่นเที่ยวได้สนุก
>>> อุปกรณ์ถ่ายภาพ ที่ควรจะเอาไป และไม่ควรเอาไป
>>> วิธีการเลือกกระเป๋าเดินทางที่ดี
>>> การเดินทางโดยรถไฟ รถใต้ดิน รถบัส
>>> สถานที่ท่องเที่ยว มีหลายวัน ผมแยกไว้แต่ละคอมเม้น ลองไล่ดูนะครับ ขออภัยภาพอาจจะเยอะไปนิดหนึ่งครับผม
>>> อาหารการกิน ไม่ได้ เลิศหรู อลังการอะไรนะครับเน้นหาทานง่าย แต่รสชาติต้องโอเค ราคาไม่โดดเด้งมากครับผม
>>> แหล่ง Shopping สิ่งที่ผมพลาดที่สุด น่าจะเป็นการเข้าไปซื้อ Air Max ผิดร้าน และโดนฟันราคาแพงกว่าปกติไป 1,500 บาท เซ็งเป็ดเลยทีเดียวครับผม
ปราสาทโอซาก้า
ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ต้องเดินทางไปยังที่ ๆ เราไม่เคยไปในครั้งแรก น่าจะมีความรู้สึกตื่นเต้น กังวล ไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไร จะต้องเตรียมตัวอย่างไงบ้างเหมือนกับผม เอาจริง ๆ ตอนก่อนไปนี่จองตั๋วข้ามปี ตอนที่จองตั๋วยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าที่ Osaka นั้นมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง แค่คิดว่า "เออ จองเลย ๆ ตั๋วถูก ๆ อย่างไรญี่ปุ่น เราก็อยากไปอยู่แล้วแหละ"
พอเริ่มที่จะวางแผนหาข้อมูลเที่ยวที่โอซาก้า ก็เริ่มแล้วครับ ความเขลาเริ่มครอบงำ จากตอนแรกที่คิดว่าก็ไม่น่าจะมีอะไร ก็แค่เหมือนไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่ไปจังหวัดไกล ๆ เท่านั้นเอง ไม่น่าจะมีอะไรมาก
แต่...ผิดถนัด แค่ค้นหาข้อมูลใน Google เจอแค่เรื่อง Pass ต่าง ๆ ในญี่ปุ่นผมนี่ก็งงเป็นไก่ตาแตกแล้วครับ Pass อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด แล้วอะไรควรซื้อ อะไรไม่ควรซื้อ ซื้ออันนี้จะคุ้มมั้ย หรือว่า ซื้อเป็นเที่ยว ๆ ไปดีกว่า โอ้ย...งงเต็ก
ยังไม่พอเท่านั้น พอไปลองหาข้อมูลเรื่องการแต่งตัวสำหรับอากาศหนาว ๆ ประมาณ 5 องศา จะต้องแต่งอะไรอย่างไรบ้าง ตอนนั้นก่อนหาข้อมูลคิดเองว่า ก็แค่ใส่เสื้อกันหนาวก็น่าจะโอเคแล้ว แต่...ความจริงมันมีอะไรลึกลับซับซ้อนกว่านั้นเยอะ เรียกได้ว่าเยอะจนผมนี่งงไปเลยครับ ไหนจะ ลองจอน ไหนจะ ฟลีซ ไหนจะ Heat tech ไหนจะ Down Jacket อีก คำศัพท์แต่ละคำอ่านเจอแล้วไม่เข้าใจอย่างมาก
ทีนี้พอเริ่มหาข้อมูลก็เริ่มรู้ว่า เราไม่รู้อะไร และต้องวางแผนอะไรอย่างไรบ้าง ซึ่งลำดับในการวางแผนสำหรับผมถ้าหากว่าย้อนเวลาได้อีกครั้งหนึ่ง คงจะเริ่มต้นตั้งแต่ ช่วงเวลาที่เราต้องการที่จะเดินทางไปถึง เพราะญี่ปุ่นนี่แต่ละช่วงเวลา สถานที่เที่ยวก็จะมีความงามแตกต่างกันไป ถ้า Highlight จริง ๆ ก็น่าจะเป็นช่วงซากุระบาน ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งช่วงที่ผมไปนั้นเป็นช่วงที่กำลังจะบานครับ (คือมันยังไม่บานนั้นแหละครับ T_T )
และจากนั้นก็ลองวางแผนต่อว่าเราอยากไปที่ไหนบ้าง ยกตัวอย่างเช่น อยากไปดูปราสาทต่างๆ ของญี่ปุ่น อยากไปดูป่าไผ่ อยากไปดูฟูจิซัง เป็นต้น ซึ่งถ้าจะให้ง่ายกว่านั้นอาจจะต้องดูแหล่งท่องเที่ยวเป็น Zone ๆ ไป น่าจะดีกว่า เพราะอย่างน้อยจะได้ Scope ลงมาได้ง่ายขึ้น ว่าถ้าเราอยากไปโซนนี้ มันมีสถานที่เที่ยวอะไรที่น่าสนใจบ้าง เพราะการที่ต้องย้ายโรงแรม สำหรับการไปท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนนี่ สำหรับผม ผมว่าเหนื่อย และเสียเวลาพอสมควร เอาจริงๆ คือ ผมขี้เกียจที่จะต้อง Pack กระเป๋าหลายๆ รอบ ทริปนี้ตอนแรก ก็วางแผนว่าจะไปเที่ยวแถว ๆ โอซาก้า แล้วก็จะนั่งรถไปพักที่โตเกียวด้วย แต่พอลองจัดแผนดี ๆ แล้ว คิดว่าโตเกียวไว้ค่อยหาโอกาศไปเยือนอีกรอบดีกว่า รอบนี้ขอแค่แถบคันไซ ก็พอแล้ว
พอได้ที่พักเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อมาก็คือ จัดลำดับว่าเราจะไปแต่ละที่วันไหนบ้าง เวลากี่โมงถึงกี่โมง จริง ๆ ถ้าหากว่าทำไว้ยิ่งละเอียดจะยิ่งดีครับ เพราะเราจะสามารถบริหารเวลา และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นได้ค่อยข้างแม่นยำ กว่าไปคิดเอาข้างหน้า อันนี้เหมาะกับคนที่อยากไปแบบล่องลอย Slow life หายใจทิ้ง เสพบรรยากาศ จริง ๆ ถ้าหากว่าคนเคยไปหลาย ๆ ครั้งแล้ว ผมว่าเขาคงอยากจะเลือกแบบนี้ แต่ถ้าไปครั้งแรก ผมว่าเตรียมแผนไปดีกว่าครับ ไม่งั้นจะมาเสียดายทีหลังว่า ที่นี้ก็ไม่ได้ไป ที่โน้นก็ไม่ได้ไป
ทีนี้ก็จะมาถึงสิ่งที่สำคัญ สุด ๆ คือการเดินทางไปแต่ละที่ ตอนแรกผมคิดว่าเรื่องนี้
ซึ่งพออ่านมาถึงตรงนี้ผมคิดว่าถ้าคุณกำลังเคยประสบปัญหาแบบผมอยู่ ก็แสดงว่าคุณน่าจะกำลังมาลงเรือลำเดียวกับผมแล้วครับ 555555
โดยจะขอแยกเป็นเรื่อง ๆ ตามหัวข้อด้านล่างนี้เลยนะครับผม เพื่อข้อมูลของผมจะเป็นประโยชน์ต่อใครที่กำลังหาข้อมูลเหล่านี้อยู่
>>> ที่พักที่ สำหรับเก็บของและซุกนอน
>>> Internet สำหรับใช้งานในประเทศญี่ปุ่น
>>> เครื่องแต่งกายเพื่อกันหนาว แต่งอย่างไรให้อบอุ่นเที่ยวได้สนุก
>>> อุปกรณ์ถ่ายภาพ ที่ควรจะเอาไป และไม่ควรเอาไป
>>> วิธีการเลือกกระเป๋าเดินทางที่ดี
>>> การเดินทางโดยรถไฟ รถใต้ดิน รถบัส
>>> สถานที่ท่องเที่ยว มีหลายวัน ผมแยกไว้แต่ละคอมเม้น ลองไล่ดูนะครับ ขออภัยภาพอาจจะเยอะไปนิดหนึ่งครับผม
>>> อาหารการกิน ไม่ได้ เลิศหรู อลังการอะไรนะครับเน้นหาทานง่าย แต่รสชาติต้องโอเค ราคาไม่โดดเด้งมากครับผม
>>> แหล่ง Shopping สิ่งที่ผมพลาดที่สุด น่าจะเป็นการเข้าไปซื้อ Air Max ผิดร้าน และโดนฟันราคาแพงกว่าปกติไป 1,500 บาท เซ็งเป็ดเลยทีเดียวครับผม
ปราสาทฮิเมจิ
Osaka castle มุมสูง