สวัสดีเพื่อนๆนักเดินทางทั้งหลายยย
กระทู้นี้จัดทำเพื่อบันทึกเรื่องราวของการเดินทาง
ไม่เน้นแพง ไม่เน้นพัก เน้นลุย แบบวัยรุ่นลุยหนาว
ติดตามการเดินทางได้ที่
Day 3 Hakodate หิมะแรกของฉัน
http://pantip.com/topic/34925559
Day 4 Sapporo โอตารุที่รอคอย
http://pantip.com/topic/34925714
Day 5 Tokyo เมืองหลวง
http://pantip.com/topic/34942260
เข้าเรื่องเลยละกัน. . . ไม่มีอะไรมาก ไปญี่ปุ่นมา
แบบว่าๆอยากส่งต่อการเดินทางในครั้งนี้
โดยแผนเดินทางเป็นดังนี้
Takayama -Hakodate -Sapporo -Tokyo-
Kawagujiko - Kyoto - Osaka
ตั้งใจจะไปเก็บ landmark ให้ครบ
ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้า ไม่มีโปรดีๆงามๆ แบบนี้
หลังจากวินาทีที่จองตั้วผ่านไป5 นาที แบบไร้สติ !!!
คำถามมากมายก็ถาโถมเข้ามาในหัว
ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง, ไปแบบไหนถูก ,ไปแบบไหนดี
จากวันนั้นจนถึงวันเดินทางมีเวลา 3 เดือนนิดๆ
และแล้วความโลภ ก็บังเกิดขึ้นฮ่าๆๆ สรุป คือฉันอยากไปทุกที่ แต่ด้วยระยะเวลาที่เดินทางเพียงแค่ 8 วัน
เราจึงทำได้เพียงเท่านี้ 🙏🏻🎌 เนื่องจากเจ้าของกระทู้มีโอกาศได้ไปฟูกุโอกะมาแล้ว ...
ครั้งนี้จึงพรุ่งเป้าหมายไปที่ฮอกไกโด-โตเกียว-โอซาก้า
จึงได้ตัดสินใจซื้อตั๋ว JR railpass (all area )
ราคา 8xxx.-บาท ไทย
และแล้วการเดินทางก็เริ่มขึ้น 🇯🇵👍🏻
🎌22-Jan-16 🎌🗺
ถึงดอนเมืองตั้งแต่ตี5ครึ่ง ตื่นเต้นสุดๆ
สัก6โมงเจ้าหน้าที่ก็เปิดให้บริการ Check-inแล้ว
พร้อมออกเดินทาง ที่นั่งเหยียดขาได้สบายเลย🛫
และนี้คือแผนการเดินทางที่จัดเตรียมไว้สำหรับวันแรก
หลังจากเครื่องลง สวยๆที่ Kansai Airport
ดีเลย์ไป15 นาที จากนั้นรอต่อแถวเข้า ตม. นั้นยาวยื่งกว่าเขาวงกต ทำให้ หัวใจเต้นรัวๆๆ เพราะรถไฟที่จะขึ้นคือรอบ 17:45 ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีในการผ่านด่านเข้ามารับกระเป็าจากสายพาน
จากนั้นก็รีบเอา JR pass ไปแลก
เดินขึ้นชั้น 2 มา ทางอาคาร 1
อากาศตอนนั้น คือหนาวจนปากสั่น
และแล้วเหตุการณ์ ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ....
เมื่อยกมาถือขึ้นมาถ่ายรูป
ถึงรู้ว่ากระเป๋าเดินทางสลับกับใครก็ไม่รู้
รู้แค่เป็นคนไทยแน่นอนในป้ายติดกระเป๋า I❤️bangkok.. ภาวนาให้กระเป๋ายังอยู่ข้างในเพราะ
เราก็ออกมาแรกๆ
ต้องเดินย้อนไปติดต่อประชาสัมพันธ์ และ สายการบิน
ในที่สุดก็ได้กลับเข้าไปเปลี่ยนกระเป๋า กับผู้โดยสาร คนไทยข้างใน ซึ่งยังไม่ได้ออกจากสนามบินเหมือนกัน
ถือว่าโชคดีสุดๆไม่อยากจะคิดภาพตอน ไปเปืดกระเป๋าที่รร. แล้วเพิ่งรู้ว่าหยิบผิดใบ
พอก้มมองดูนาฬิกา ตายยยห่า 6โมงแล้ว ....
ทำให้ทุกอย่างที่วางเอาไว้ถูกเลื่อนไปหมด
OMG แต่เราก็ไม่ย่อท้อ พร้อมลุย ออกจากสนามบิน
รอบ 6โมงนิดๆ มุ่งหน้าสู่ Shin-Osaka
มุ่งหน้าไปที่ Jr เพื่อจองตั้วไป Nagoya ตามแผน
แต่พอไปถึงรอบรถไฟหมด มีเพียงรอบเดียวคือ
สายNOZOMI ที่ต้องเสียเงินเพิ่ม...โอ้ยกริ้ดๆๆ
ลองดูอีกทางขึ้นรถบัสก็ได้ไป รถบัสก็หมดรอบไปแล้ว
เอาไงๆๆดี สุดท้ายยอมเสี่ยงขึ้นรถไฟ ไปใกล้ๆ
Takayama ที่สุดเพื่อหมู่บ้าน Shirakawa-go
ชิราคาวาโกะหมู่บ้านแห่งมรดกโลก
เลยตัดสินใจนั้งรถไฟมาลง Mino-Ota รอบ 3ทุ่มนิดๆ
ถึง 23:20 ขึ้นรถไฟมา 2 ชั่งโมงเศษๆก็ถึงสถานี
เป็นสถานีเล็กๆและหนาวววววววมาก
อารมณ์ตอนนั้นทั้งความหิว ความหนาว ควาทเมื่อยล้า มาเต็มตัดสินใจจะหาห้องพักนอน มีโรงแรมระยะ500 เมตรใกล้ๆ แต่พอลองไปเช็คราคาแล้วสูงปริ้ดไม่คุ้มค่ากับการนอนเพียง 4 ชม. เพื่อจะขึ้นรถไฟรอบแรก ตอนตี5
จุดๆๆนั้นคิดไรไม่ออก ขอเติมพลังก่อนเหลือไปเห็นร้านอาหารยามดึก เลยเอาว่ะกินก่อนค่อยคิด
จัดมา2 set แก้หิวและแก้หนาววว ได้เป็นอย่างดี
หลังจากท้องอิ่ม แหงนดูเวลา ก็เกือบตี1 แล้ว
ออกจากร้านอาหารมาเผชิญ อากาศหนาวเหน็บ
ความคิดแรกจะไปนั่งรอที่สถานีรถไฟเพื่อขึ้นรถไฟรอบแรกตอนตี 5 แต่ด้วยสถานีเล็ก ไม่มีที่ให้นั่งรอแบบอุ่นๆ
มีเพียงเก้าอี้เหล็ก พร้อมลมหนาวที่พัดตลอด
และแล้วความหนาวก็ทำให้เกิดความกล้า .....
ตัดสินใจบุกเข้าโรมแรงข้างสถานี เพื่อลองถามราคาที่พัก แค่ 4 ชม . ได้หรือไม่ พนักงาน รร. ก็บอกเลยไม่มี ราคา4 ชม. นอกจากเสียเต็มราคา 😭😭😭
ตอนนั้นเลยพูดว่า it cold out side , May i sit here ?
และก็บอกเค้าไปว่าพรุ่งนี้ขึ้นรถไฟรอบแรกตี5 เค้าก็พูดญี่ปุ่นกันเหมือนจะปรึกษา หัวหน้าจากนั้นก็หันมาตอบตกลง และให้เรานั่งรอใน lobby โรงแรม
พร้อมเปิดฮีทเตอร์ให้อย่างอุ่น 🙏🏻ยกมือไหว้เค้าไปหลายทีด้วยความ ปลามปลื้ม ใจ
ในเมื่อความเมื่อยล้า วุ่นวายของวันนี้ ทำให้ เรา พักสายตาแบบไม่รู้ตัว นอนคอตก อยู่บนเก้าอี้
ทันใดนั้นเอง พนักงานญี่ปุ่น เอามานวม มาให้ 2 ผืนใหญ่ เพื่อให้ห่มนอน .. บอกตรงๆว่าเกรงใจมากแค่เค้าให้นั่งหลบหนาวก็ดีใจมากแล้ว 👏🏻 3 ชม.ผ่านไปไวยังกะโกหกตั้งใจออกจาก รร. ตี 4:30 หลังจากตื่นคืนผ้าห่มเรียบร้อย ช็อตแห่งความประทับใจยังไม่หมด พนักงานญี่ปุ่น ถือกาแฟร้อนมาเสริฟอีก ...โอ้ยใจดีจนทำตัวไม่ถูก
นี้เราไม่เสียเงินสักเยน ถือเป็นความทรงจำที่ดีจนลบความผิดพลาดของวันนี้ไปเลย จากนั้นก็ก้มหัว อาริงาโตะ ไปหลายครั้ง ด้วยความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง
🎌23 JAN 2016 🎌🗺
ออกจาก รร. มาต้อนรับเช้าวันใหม่ ล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำสถานี ... น้ำนี้เย็นยิ่งกว่าใส่น้ำถแข็งที่ไทยซะอีก ...กาแฟร้อนที่ถือมาจาก รร. กลายเป็นกาแฟเย็นในชั่วพริบตา ... หยิบมือถือมาเช็คอุณหภูมิ คือ -7 หนาวเป็นบ้าในที่สุดรถไฟรอบแรกก็มา
ข้างทางเต็มไปด้วยหิมะสีขาว⛄️⛄️⛄️
ในที่สุด 2 ชั่วโมงนิดๆ เราก็เดินทางมาถึง
Takayama Station
จากนั้นก็ดิ่งไปที่ J-Hoppers ที่พักที่จองไว้เมื่อคืน+รถบัสทัวร์ที่ ชิราคาวาโกะ ตอน 8โมงเช้า
มาถึงทีพักก็แวะฝากกระเป๋าไว้พร้อมจ่ายเงินค่าที่พักที่จองไว้แต่ไม่ได้นอน.. อยากจะโอนเงินไปให้ รร. ที่ให้พักเมื่อคืนจัง 😂 สักพักก็มีรถบัสมารอรับด้านหน้าเลย
ขึ้นรถกันเลยยยย เดินทางสู่หมู่บ้านในฝัน
บนรถจะมีไกด์พูดอังกฤษ จีน ญี่ปุ่นได้
เล่าประวัติคร่าวๆ พร้อม อธิบายแผนที่มีภาษาไทยด้วยนะจ้ะ ไม่หลงแน่นอน
อากาศตอนนั้น -4 องศา คือหนาวจนชา ใช้ระยะเวลา
เดินทางประมาณ 50 นาทีและแล้ว เราก็มาถึงหมู่บ้าน
แห่งมรดกโลกกกกกก ..คือฟิน คือสวย คือคิดถูกที่อดหลับอดนอนมาถึงนี้
ไกด์ปล่อยให้เราเดินเล่นรอบๆเป็นเวลา 2 ชม.
ข้างในมีร้านค้า ร้านขนม ตลอดทาง เนื้อHida อร่อยมาก
วันที่มา เป็น วัน light up แรก ของปีซะด้วย
เสียใจที่อยู่ถึงเย็นไม่ได้ต้องไปที่อื่นต่อ
เสร็จเรียบร้อยสำหรับ Half-Day Trip ของเรา
เดินทางกลับ ทาคายาม่า 🚌
และนี้คือแผนการเดินทางของวันที่2 ที่เราเตรียมไว้
ซื้อข้าวแฟมมิลี่ มาร์ท แต่วิวข้างทางนี้สวยมากจริงๆ
และแล้วแผนของเราตั้งใจไว้มุ่งหน้า สู่ Hakodate
ตามที่กำหนดไว้ นั่งรถไฟยาวๆ สู่ฮอกไกโด 🚅
หลับแล้วหลับอีกจนในที่สุด เกือบๆ 12 ชม.
เราก็มาถึง Hakodate Station หิมะรายล้อมสมใจ
ในเวลา 00:40 โดยประมาณ
ไม่รอช้าเดินเข้ารร. อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ พอดีเลย
สะดวกใกล้มากๆ Smile Hotel เช็คอินเรียบร้อย
แถวรร. มี เซเว่นใกล้ ในเวลาตี1 เซเว่นคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หลังจากกินอื่ม แม้เวลาจะนอนบนรถไฟแทบจะตลอดทาง แต่ก็ยังง่วง... ราตรีสวัสดิ์ สำหรับคืนนี้
ติดตามการเดินวันต่อไปคลิ๊กด้านล่างค่ะ
----------------------
Day 3 Hakodate หิมะแรกของฉัน
http://pantip.com/topic/34925559
[CR] เที่ยวญี่ปุ่นแบบ Yen(¥)เย็น สะใจวัยรุ่น 8 วัน 7 คืน 2016
กระทู้นี้จัดทำเพื่อบันทึกเรื่องราวของการเดินทาง
ไม่เน้นแพง ไม่เน้นพัก เน้นลุย แบบวัยรุ่นลุยหนาว
ติดตามการเดินทางได้ที่
Day 3 Hakodate หิมะแรกของฉัน
http://pantip.com/topic/34925559
Day 4 Sapporo โอตารุที่รอคอย
http://pantip.com/topic/34925714
Day 5 Tokyo เมืองหลวง
http://pantip.com/topic/34942260
เข้าเรื่องเลยละกัน. . . ไม่มีอะไรมาก ไปญี่ปุ่นมา
โดยแผนเดินทางเป็นดังนี้
Takayama -Hakodate -Sapporo -Tokyo-
Kawagujiko - Kyoto - Osaka
ตั้งใจจะไปเก็บ landmark ให้ครบ
ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้า ไม่มีโปรดีๆงามๆ แบบนี้
หลังจากวินาทีที่จองตั้วผ่านไป5 นาที แบบไร้สติ !!!
คำถามมากมายก็ถาโถมเข้ามาในหัว
ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง, ไปแบบไหนถูก ,ไปแบบไหนดี
จากวันนั้นจนถึงวันเดินทางมีเวลา 3 เดือนนิดๆ
และแล้วความโลภ ก็บังเกิดขึ้นฮ่าๆๆ สรุป คือฉันอยากไปทุกที่ แต่ด้วยระยะเวลาที่เดินทางเพียงแค่ 8 วัน
เราจึงทำได้เพียงเท่านี้ 🙏🏻🎌 เนื่องจากเจ้าของกระทู้มีโอกาศได้ไปฟูกุโอกะมาแล้ว ...
ครั้งนี้จึงพรุ่งเป้าหมายไปที่ฮอกไกโด-โตเกียว-โอซาก้า
จึงได้ตัดสินใจซื้อตั๋ว JR railpass (all area )
ราคา 8xxx.-บาท ไทย
และแล้วการเดินทางก็เริ่มขึ้น 🇯🇵👍🏻
🎌22-Jan-16 🎌🗺
ถึงดอนเมืองตั้งแต่ตี5ครึ่ง ตื่นเต้นสุดๆ
สัก6โมงเจ้าหน้าที่ก็เปิดให้บริการ Check-inแล้ว
พร้อมออกเดินทาง ที่นั่งเหยียดขาได้สบายเลย🛫
และนี้คือแผนการเดินทางที่จัดเตรียมไว้สำหรับวันแรก
หลังจากเครื่องลง สวยๆที่ Kansai Airport
ดีเลย์ไป15 นาที จากนั้นรอต่อแถวเข้า ตม. นั้นยาวยื่งกว่าเขาวงกต ทำให้ หัวใจเต้นรัวๆๆ เพราะรถไฟที่จะขึ้นคือรอบ 17:45 ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีในการผ่านด่านเข้ามารับกระเป็าจากสายพาน
จากนั้นก็รีบเอา JR pass ไปแลก
เดินขึ้นชั้น 2 มา ทางอาคาร 1
อากาศตอนนั้น คือหนาวจนปากสั่น
และแล้วเหตุการณ์ ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ....
เมื่อยกมาถือขึ้นมาถ่ายรูป
ถึงรู้ว่ากระเป๋าเดินทางสลับกับใครก็ไม่รู้
รู้แค่เป็นคนไทยแน่นอนในป้ายติดกระเป๋า I❤️bangkok.. ภาวนาให้กระเป๋ายังอยู่ข้างในเพราะ
เราก็ออกมาแรกๆ
ต้องเดินย้อนไปติดต่อประชาสัมพันธ์ และ สายการบิน
ในที่สุดก็ได้กลับเข้าไปเปลี่ยนกระเป๋า กับผู้โดยสาร คนไทยข้างใน ซึ่งยังไม่ได้ออกจากสนามบินเหมือนกัน
ถือว่าโชคดีสุดๆไม่อยากจะคิดภาพตอน ไปเปืดกระเป๋าที่รร. แล้วเพิ่งรู้ว่าหยิบผิดใบ
พอก้มมองดูนาฬิกา ตายยยห่า 6โมงแล้ว ....
OMG แต่เราก็ไม่ย่อท้อ พร้อมลุย ออกจากสนามบิน
รอบ 6โมงนิดๆ มุ่งหน้าสู่ Shin-Osaka
มุ่งหน้าไปที่ Jr เพื่อจองตั้วไป Nagoya ตามแผน
แต่พอไปถึงรอบรถไฟหมด มีเพียงรอบเดียวคือ
สายNOZOMI ที่ต้องเสียเงินเพิ่ม...โอ้ยกริ้ดๆๆ
ลองดูอีกทางขึ้นรถบัสก็ได้ไป รถบัสก็หมดรอบไปแล้ว
เอาไงๆๆดี สุดท้ายยอมเสี่ยงขึ้นรถไฟ ไปใกล้ๆ
Takayama ที่สุดเพื่อหมู่บ้าน Shirakawa-go
ชิราคาวาโกะหมู่บ้านแห่งมรดกโลก
เลยตัดสินใจนั้งรถไฟมาลง Mino-Ota รอบ 3ทุ่มนิดๆ
ถึง 23:20 ขึ้นรถไฟมา 2 ชั่งโมงเศษๆก็ถึงสถานี
เป็นสถานีเล็กๆและหนาวววววววมาก
อารมณ์ตอนนั้นทั้งความหิว ความหนาว ควาทเมื่อยล้า มาเต็มตัดสินใจจะหาห้องพักนอน มีโรงแรมระยะ500 เมตรใกล้ๆ แต่พอลองไปเช็คราคาแล้วสูงปริ้ดไม่คุ้มค่ากับการนอนเพียง 4 ชม. เพื่อจะขึ้นรถไฟรอบแรก ตอนตี5
จุดๆๆนั้นคิดไรไม่ออก ขอเติมพลังก่อนเหลือไปเห็นร้านอาหารยามดึก เลยเอาว่ะกินก่อนค่อยคิด
จัดมา2 set แก้หิวและแก้หนาววว ได้เป็นอย่างดี
หลังจากท้องอิ่ม แหงนดูเวลา ก็เกือบตี1 แล้ว
ออกจากร้านอาหารมาเผชิญ อากาศหนาวเหน็บ
ความคิดแรกจะไปนั่งรอที่สถานีรถไฟเพื่อขึ้นรถไฟรอบแรกตอนตี 5 แต่ด้วยสถานีเล็ก ไม่มีที่ให้นั่งรอแบบอุ่นๆ
มีเพียงเก้าอี้เหล็ก พร้อมลมหนาวที่พัดตลอด
และแล้วความหนาวก็ทำให้เกิดความกล้า .....
ตัดสินใจบุกเข้าโรมแรงข้างสถานี เพื่อลองถามราคาที่พัก แค่ 4 ชม . ได้หรือไม่ พนักงาน รร. ก็บอกเลยไม่มี ราคา4 ชม. นอกจากเสียเต็มราคา 😭😭😭
ตอนนั้นเลยพูดว่า it cold out side , May i sit here ?
และก็บอกเค้าไปว่าพรุ่งนี้ขึ้นรถไฟรอบแรกตี5 เค้าก็พูดญี่ปุ่นกันเหมือนจะปรึกษา หัวหน้าจากนั้นก็หันมาตอบตกลง และให้เรานั่งรอใน lobby โรงแรม
พร้อมเปิดฮีทเตอร์ให้อย่างอุ่น 🙏🏻ยกมือไหว้เค้าไปหลายทีด้วยความ ปลามปลื้ม ใจ
ในเมื่อความเมื่อยล้า วุ่นวายของวันนี้ ทำให้ เรา พักสายตาแบบไม่รู้ตัว นอนคอตก อยู่บนเก้าอี้
ทันใดนั้นเอง พนักงานญี่ปุ่น เอามานวม มาให้ 2 ผืนใหญ่ เพื่อให้ห่มนอน .. บอกตรงๆว่าเกรงใจมากแค่เค้าให้นั่งหลบหนาวก็ดีใจมากแล้ว 👏🏻 3 ชม.ผ่านไปไวยังกะโกหกตั้งใจออกจาก รร. ตี 4:30 หลังจากตื่นคืนผ้าห่มเรียบร้อย ช็อตแห่งความประทับใจยังไม่หมด พนักงานญี่ปุ่น ถือกาแฟร้อนมาเสริฟอีก ...โอ้ยใจดีจนทำตัวไม่ถูก
นี้เราไม่เสียเงินสักเยน ถือเป็นความทรงจำที่ดีจนลบความผิดพลาดของวันนี้ไปเลย จากนั้นก็ก้มหัว อาริงาโตะ ไปหลายครั้ง ด้วยความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง
🎌23 JAN 2016 🎌🗺
ออกจาก รร. มาต้อนรับเช้าวันใหม่ ล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำสถานี ... น้ำนี้เย็นยิ่งกว่าใส่น้ำถแข็งที่ไทยซะอีก ...กาแฟร้อนที่ถือมาจาก รร. กลายเป็นกาแฟเย็นในชั่วพริบตา ... หยิบมือถือมาเช็คอุณหภูมิ คือ -7 หนาวเป็นบ้าในที่สุดรถไฟรอบแรกก็มา
ข้างทางเต็มไปด้วยหิมะสีขาว⛄️⛄️⛄️
ในที่สุด 2 ชั่วโมงนิดๆ เราก็เดินทางมาถึง
Takayama Station
จากนั้นก็ดิ่งไปที่ J-Hoppers ที่พักที่จองไว้เมื่อคืน+รถบัสทัวร์ที่ ชิราคาวาโกะ ตอน 8โมงเช้า
มาถึงทีพักก็แวะฝากกระเป๋าไว้พร้อมจ่ายเงินค่าที่พักที่จองไว้แต่ไม่ได้นอน.. อยากจะโอนเงินไปให้ รร. ที่ให้พักเมื่อคืนจัง 😂 สักพักก็มีรถบัสมารอรับด้านหน้าเลย
ขึ้นรถกันเลยยยย เดินทางสู่หมู่บ้านในฝัน
บนรถจะมีไกด์พูดอังกฤษ จีน ญี่ปุ่นได้
เล่าประวัติคร่าวๆ พร้อม อธิบายแผนที่มีภาษาไทยด้วยนะจ้ะ ไม่หลงแน่นอน
อากาศตอนนั้น -4 องศา คือหนาวจนชา ใช้ระยะเวลา
เดินทางประมาณ 50 นาทีและแล้ว เราก็มาถึงหมู่บ้าน
แห่งมรดกโลกกกกกก ..คือฟิน คือสวย คือคิดถูกที่อดหลับอดนอนมาถึงนี้
ไกด์ปล่อยให้เราเดินเล่นรอบๆเป็นเวลา 2 ชม.
ข้างในมีร้านค้า ร้านขนม ตลอดทาง เนื้อHida อร่อยมาก
วันที่มา เป็น วัน light up แรก ของปีซะด้วย
เสียใจที่อยู่ถึงเย็นไม่ได้ต้องไปที่อื่นต่อ
เสร็จเรียบร้อยสำหรับ Half-Day Trip ของเรา
เดินทางกลับ ทาคายาม่า 🚌
และนี้คือแผนการเดินทางของวันที่2 ที่เราเตรียมไว้
ซื้อข้าวแฟมมิลี่ มาร์ท แต่วิวข้างทางนี้สวยมากจริงๆ
และแล้วแผนของเราตั้งใจไว้มุ่งหน้า สู่ Hakodate
ตามที่กำหนดไว้ นั่งรถไฟยาวๆ สู่ฮอกไกโด 🚅
หลับแล้วหลับอีกจนในที่สุด เกือบๆ 12 ชม.
เราก็มาถึง Hakodate Station หิมะรายล้อมสมใจ
ในเวลา 00:40 โดยประมาณ
ไม่รอช้าเดินเข้ารร. อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ พอดีเลย
สะดวกใกล้มากๆ Smile Hotel เช็คอินเรียบร้อย
แถวรร. มี เซเว่นใกล้ ในเวลาตี1 เซเว่นคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หลังจากกินอื่ม แม้เวลาจะนอนบนรถไฟแทบจะตลอดทาง แต่ก็ยังง่วง... ราตรีสวัสดิ์ สำหรับคืนนี้
ติดตามการเดินวันต่อไปคลิ๊กด้านล่างค่ะ
----------------------
Day 3 Hakodate หิมะแรกของฉัน
http://pantip.com/topic/34925559