
- Honeymoon in France: จุดเริ่มต้นของ13 วัน ในฝรั่งเศส -
http://pantip.com/topic/34326406
- Ep.1: Chamonix เมืองขนมหวาน กลางเทือกเขาแอลป์ -
http://pantip.com/topic/34326743
- Ep.2: Annecy "Little Venice" แห่งฝรั่งเศส -
http://pantip.com/topic/34347401
- Ep.3: Avignon สะพานขาดก็มิอาจพรากเราได้ -
http://pantip.com/topic/34382391
- Ep.4: Provence หมู่บ้านบนเนินเขา และเราสองคน -
http://pantip.com/topic/34468041
- Ep.5: Arles ตามรอย วินเซนต์ เเวนโก๊ะ -
http://pantip.com/topic/34493023
- Ep 6: L'isle sur la Sorgue ปิกนิคกลางเมืองกังหันน้ำ -
http://pantip.com/topic/34581875
- Ep 7: Rennes บ้านเอียง เคียงกัน -
http://pantip.com/topic/34643659
- Ep 8: Mont Saint Michel ท่องปราสาท The Lord of the Rings -
http://pantip.com/topic/34760301
- Ep 9: Paris "Je t'aime" หลงรักปารีส 24 ชั่วโมง -
http://pantip.com/topic/34821139
- Ep 10: Loire Valley ขอเป็นเจ้าหญิงในปราสาท 1 วัน -
http://pantip.com/topic/34875863
- Ep 11: Disneyland Paris แอ๊บเด็กไปกับ Mickey & Minnie -
http://pantip.com/topic/34904619
- Ep 12: Montmarte เสน่ห์ของถนนเส้นหลังบ้าน -
http://pantip.com/topic/34933456
ตอนเด็กๆ ดูการ์ตูนดิสนีย์แล้วฝันอยากจะเป็นเจ้าหญิง อยู่ในปราสาทหลังงาม ...

โตมาก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ นั่นมันแค่นิทาน...

แต่ถ้าได้มีโอกาศเข้าไปอยู่ในปราสาทแบบนั้นสักวันหนึ่งหละ มันจะเป็นยังไง ?
ความคิดนั้นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางวันนี้ การเดินทางที่ทำฝันของเด็กน้อยๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในตัวเราให้เป็นจริง
ฝรั่งเศสเป็นที่ที่มีปราสาทอยู่มากมายหลายแห่ง โดยเฉพาะในแถบ Loire Valley ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศ การจะไปที่นี่สามารถเดินทางไป-กลับ จากปารีสได้ภายในหนึ่งวัน โดยนั่งรถไฟจากสถานี Paris Montparnasse ไปลงที่สถานีรถไฟในเมือง Tours ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
ระหว่างรอรถมารับ เราก็มาเดินเล่นบริเวณหน้าสถานีรถไฟของเมือง Tours ด้านหน้าเป็นเหมือนถนนเส้นเล็กๆที่ขนาบข้างด้วยต้นไม้ใหญ่ ตอนเช้าเริ่มมีผู้คนสัญจรไปมา ทั้งคนที่รีบเร่งไปทำงาน และคนที่มาวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า
เดินไปจนสุดถนนต้นไม้จะเจอกับวงเวียนขนาดใหญ่ ด้านข้างเป็นที่ตั้งของ Hotel de Ville ของเมือง Tours
Hotel de Ville
เนื่องจากการเดินทางไปปราสาทแต่ละแห่งต้องอาศัยรถยนต์ แต่เราไม่อยากเช่ารถเพียงเพื่อใช้แค่วันเดียว เราเลยตัดสินใจซื้อทัวร์แบบหนึ่งวันจากบริษัททัวร์ชื่อว่า Acco-Dispo (
http://www.accodispo-tours.com/accueil.html ) โดยจองผ่านทางเว็บไซต์ได้เลย บริษัทจะส่งรถมารับที่หน้า Tourist Information Center ที่ตั้งอยู่หน้าสถานีรถไฟ Tours ตามเวลาที่นัดหมายกัน เราสามารถเลือกโปรแกรมที่อยากจะไปได้จากเว็บไซต์ให้เหมาะกับเวลาที่มี (มีแบบครึ่งวัน และเต็มวัน )และสถานที่ที่เราอยากไป
โดยปราสาทที่เราเลือไปเที่ยวชมมีดังนี้
Chateau d'Ambois
Chateau de Chenonceur
Chateau de Cherverny
Chateau de Chambord
การบริการของทัวร์นี้คือการมีคนขับรถพาเราไปยังสถานที่ต่างๆ โดยระหว่างทางก็จะเล่าประวัติของสถานที่นั้นไปด้วย รวมทั้งบอกไฮไลท์ว่าอะไรที่ต้องไปดู อะไรที่พลาดไม่ได้ แต่เขาจะไม่ได้ลงไปเดินกับเราด้วย จะเพียงแค่ส่ง และนัดเวลากลับมาเจอกัน ทำให้เรามีอิสระที่จะเดินเที่ยวชมปราสาทด้วยตนเอง
จากสถานีรถไฟ นั่งรถไปสักพักเราก็มาถึงจุดหมายแรกชื่อว่า Amboise Chateau Royal หรือ Chateau d'Amboise ในภาษาฝรั่งเศส ปราสาทแห่งนี้สร้างอยู่เนินริมแม่น้ำ Loire ทำให้เมื่อมองจากด้านบนลงมาจะเห็นโค้งแม่น้ำที่สวยงาม

Chateau d'Ambois
Credit:
http://www.chateau-amboise.com/fr
แรกเริ่มเดิมที ที่นี่ไม่ใช่ปราสาทของราชวงศ์ฝรั่งเศส แต่ถูกยึดโดย Chales VII of France ในปี 1434 และตั้งแต่นั้นมาที่นี่ก็เป็นสถานที่โปรดของราชวงศ์ฝรั่งเศส
ภายในพื้นที่ของปราสาทประกอบไปด้วยตัวอาคารหลัก สวนของปราสาท และ โบสถ์เล็กๆที่ชื่อว่า The Saint Hubert Chapel
Saint Hubert Chapel
โบสถ์นี้ถึงแม้จะเป็นโบสถ์เล็กๆ แต่ก็เป็นสถานที่ที่สำคัญอย่างมาก เพราะภายในเป็นที่ฝังศพของผู้ที่เป็นทั้งจิตกร วิศวกร นักประดิษย์ และนักออกแบบคนสำคัญของโลกอย่าง Leonado Da Vinci
ดาวินชีที่พื้นเพเป็นคนอิตาลี ย้ายมาอยู่ที่ฝรั่งเศสตามในปี 1515 ตามคำเชิญของ King Francis I เพื่อให้มาสร้างหุ่นยนต์สิงโตที่เดินได้ ขยับหัวได้ คำรามได้ และสามารถเปิดลำตัวออกมา โดยข้างในจะมีดอกลิลลี่ซ่อนอยู่ ?? ฟังดูแปลกประหลาด คาดว่า King Francis I น่าจะอยากได้สิงโตตัวนี้ไว้สำหรับเดินโชว์ในงานเฉลิมฉลองชัยชนะ ถึงแม้นี่จะฟังดูแปลกหลุดโลก ดาวินชีก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาสเก็ตแบบของสิงโตตัวนี้ไว้ด้วยกันหลายเวอร์ชั่น แต่น่าเสียดายที่มันไม่เคยถูกสร้างขึ้น
จนกระทั่งในปี 2009 กว่า 500 ปี หลังจากดาวินชีเสียชีวิย นักออกแบบหุนยนต์ชาวอิตาลีได้สร้างเจ้าสิงโตตัวนี้ขึ้นมาจากแบบที่ ลีโอนาโด ดาวินชีเขียนไว้ ชาวโลกจึงได้เห็นสิงโตตัวนี้ขยับได้เป็นครั้งแรก

Credit:
http://www.independent.co.uk
แม้ไม่มีสิงโตตัวนี้ ดาวินชีก็ได้สร้างผลงานที่เป็นที่พอใจให้กับกษัตร์ไว้หลายชิ้น จนได้รับพระราชทานบ้านหนึ่งหลัง เรียกว่า Clos-Luce ที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจาก Chateau d'Amboise

Saint Hubert Chapel
Leonardo Da Vinci เสียชีวิตลงในวันที่ 2 พฤษภาคม 1519 ด้วยวัย 67 ปี และได้ถูกฝังไว้ ณ ที่แห่งนี้ เราจึงขอแวะทำความเคารพอัจฉริยะคนนี้เสียหน่อย หลังจากตามดูผลงานของเขามาแล้วหลายชิ้น รวมทั้งไปเยี่ยม Mona Lisa ถึงที่ลูฟ ในปารีสมามาแล้วด้วย (ใครสนใจลองดูรีวิวทริปปารีสได้จากลิ้งนี้เลยจ้า "Je T'aime" หลงรักปารีส 24 ชั่วโมง -
http://www.2roamwithlove.com/2016/02/ep9-paris-je-taime-24.html ) ถ้าดาวินชีเป็นคนยุคนี้ เราก็คงเป็นแฟนคลับเขาแล้ว แบบอารมณ์ ตาม follow Instragram หรือ กดไลค์ เพจ
หลุมศพของ Leonardo Da Vinci
ออกมาจากโบสถ์ เราเดินไปยังอาคารหลักของ Chateau d'Amboise ที่เรียกว่า Royal Lodge
เดินเข้าไปจะพบกับระเบียงใหญ่ที่มองเห็นวิวแม่น้ำ Loire สมัยก่อนทหารยามจะเฝ้าดูเรือที่ข้ามไปมาบริเวณนี้
ภายในปราสาทยังคงมีเฟอร์นิเจอร์ ที่ใช้ในสมัยนั้นหลงเหลืออยู่ อย่างเช่นเตียงนอนของกษัตริย์ Henri II
และชุดเกราะสมัยศตวรรษที่ 16 ที่ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ เหมือนเป็นทหารยามยืนอยู่
จุดที่พลาดไม่ได้ของปราสาทแห่งนี้คือบริเวณชั้นบนสุด ที่เหมือนเป็นลานเล็กๆ มองออกไปเห็นลุ่มแม่น้ำลัวร์ คดเคี้ยวไปจนสุดสายตา เห็นวิวนี้แล้วจึงคิดว่าไม่แปลกที่ปราสาทนี้เป็นที่โปรดปรานของราชวงศ์ฝรั่งเศส เราเองอยากจะเอาโต๊ะเล็กๆมานั่ง ทำเป็นมุมจิบกาแฟซะเหลือเกิน จิบกาแฟพร้อมดูวิวแบบนี้คงฟินไม่น้อยเลยทีเดียว (เข้าโหมดฝันกลางวัน

)
เดินออกมาจากปราสาท แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือ จะเจอกับสวนน่ารัก มีพุ่มไม้ก้อนกลมๆ และบรรไดทอดยาวไปด้านบน ถ้าเดินตามไปเรื่อยๆอาจไปโผล่ใน Wonderland
ปราสาทนี้เล็กมาก ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงก็ดูทุกอย่างได้ครบถ้วน ได้เวลาเดินทางสู่ปราสาทต่อไป
ที่ๆสองที่เราจะไป คือปราสาทที่เราชอบมาก (อีกแล้ว

) ที่นี่ถูกขนานนามว่า "Ladies' Castle"ที่มาของชื่อนี้ จากประวัติอันยาวเหยียด เราขอสรุปสั้นๆให้ฟังว่า มันสวยมากจนผู้หญิๆหลายๆคน ต้องแย่งชิงกันเพื่อจะอยู่ที่นี่ เลยเป็นที่มาของคำว่า "Ladies' Castle"
ทางเข้าปราสาท เชอนงเซอ
ปราสาทแห่งนี้ชื่อว่า Chateau de Chenonceau มีความโดดเด่นอยู่ที่มันถูกสร้างขึ้นบนแม่น้ำ Cher อย่างที่เห็นในรูป ผู้หญิงผู้โชคดีที่ได้ครองปราสาทนี้คนแรกคือ Diane de Poitiers นางเป็นผู้หญิงที่ กษัตรย์ Henri II โปรดปราน เพราะทั้งสวย และฉลาด จึงทรงยกปราสาทหลังนี้ให้นางไปครอบครอง (ช่างน่าอิจฉา) และ Diane คนนี้คือคนที่สั่งให้สร้างปราสาทให้เป็นเหมือนสะพานข้ามแม่น้ำ รวมทั้งสร้างสวนสวยไว้รอบๆ อีกด้วย
Link -
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%8B
ถือว่าเราต้องชื่นชมในรสนิยมของ Diane de Poitiers มิเช่นนั้นเราคงไม่ได้เห็นปราสาทสวยๆ ที่เหมือนเทพนิยายแห่งนี้
มุมที่ถ่ายรูปสวยคือจากบริเวณกำแพงสวนที่อยู่ริมแม่น้ำ เพราะจะได้เห็นทั้งส่วนหอคอยของปราสาท และส่วนสะพาน
เดินกลับมาที่ด้านหน้าของปราสาทเราจะเห็นความยิ่งใหญ่ของปราสาทแห่งนี้ชัดเจนขึ้น จึงไม่แปลกที่มันจะเป็นที่หมายปองของใครหลายๆคน หลังจากที่ กษัตรย์ Henri II ทรงสินพระชนต์ ภรรยาของกษัตรย์ Henri II ชื่อว่า Catherine de' Medici ก็ได้ขับไล่ Diane de Poitiers ออกไป และเข้ามายึดครองปราสาทแห่งนี้แทน
ช่วงที่ Catherine de' Medici เป็นเจ้าของปราสาทเชอนองเซอ นางได้ขยายสวนให้อลังการขึ้น พร้อมทั้งต่อเติมในส่วนของ The Gallery เพื่อใช้สำหรับจัดปาร์ตี้แบบโอ่อ่า
[CR] Honeymoon in France: Ep.10 - Loire Valley: ขอเป็นเจ้าหญิงในปราสาท 1 วัน
- Honeymoon in France: จุดเริ่มต้นของ13 วัน ในฝรั่งเศส - http://pantip.com/topic/34326406
- Ep.1: Chamonix เมืองขนมหวาน กลางเทือกเขาแอลป์ - http://pantip.com/topic/34326743
- Ep.2: Annecy "Little Venice" แห่งฝรั่งเศส - http://pantip.com/topic/34347401
- Ep.3: Avignon สะพานขาดก็มิอาจพรากเราได้ - http://pantip.com/topic/34382391
- Ep.4: Provence หมู่บ้านบนเนินเขา และเราสองคน - http://pantip.com/topic/34468041
- Ep.5: Arles ตามรอย วินเซนต์ เเวนโก๊ะ - http://pantip.com/topic/34493023
- Ep 6: L'isle sur la Sorgue ปิกนิคกลางเมืองกังหันน้ำ - http://pantip.com/topic/34581875
- Ep 7: Rennes บ้านเอียง เคียงกัน - http://pantip.com/topic/34643659
- Ep 8: Mont Saint Michel ท่องปราสาท The Lord of the Rings - http://pantip.com/topic/34760301
- Ep 9: Paris "Je t'aime" หลงรักปารีส 24 ชั่วโมง - http://pantip.com/topic/34821139
- Ep 10: Loire Valley ขอเป็นเจ้าหญิงในปราสาท 1 วัน - http://pantip.com/topic/34875863
- Ep 11: Disneyland Paris แอ๊บเด็กไปกับ Mickey & Minnie - http://pantip.com/topic/34904619
- Ep 12: Montmarte เสน่ห์ของถนนเส้นหลังบ้าน - http://pantip.com/topic/34933456
ตอนเด็กๆ ดูการ์ตูนดิสนีย์แล้วฝันอยากจะเป็นเจ้าหญิง อยู่ในปราสาทหลังงาม ...
โตมาก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ นั่นมันแค่นิทาน...
แต่ถ้าได้มีโอกาศเข้าไปอยู่ในปราสาทแบบนั้นสักวันหนึ่งหละ มันจะเป็นยังไง ?
ความคิดนั้นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางวันนี้ การเดินทางที่ทำฝันของเด็กน้อยๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในตัวเราให้เป็นจริง
ฝรั่งเศสเป็นที่ที่มีปราสาทอยู่มากมายหลายแห่ง โดยเฉพาะในแถบ Loire Valley ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศ การจะไปที่นี่สามารถเดินทางไป-กลับ จากปารีสได้ภายในหนึ่งวัน โดยนั่งรถไฟจากสถานี Paris Montparnasse ไปลงที่สถานีรถไฟในเมือง Tours ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
ระหว่างรอรถมารับ เราก็มาเดินเล่นบริเวณหน้าสถานีรถไฟของเมือง Tours ด้านหน้าเป็นเหมือนถนนเส้นเล็กๆที่ขนาบข้างด้วยต้นไม้ใหญ่ ตอนเช้าเริ่มมีผู้คนสัญจรไปมา ทั้งคนที่รีบเร่งไปทำงาน และคนที่มาวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า
เดินไปจนสุดถนนต้นไม้จะเจอกับวงเวียนขนาดใหญ่ ด้านข้างเป็นที่ตั้งของ Hotel de Ville ของเมือง Tours
เนื่องจากการเดินทางไปปราสาทแต่ละแห่งต้องอาศัยรถยนต์ แต่เราไม่อยากเช่ารถเพียงเพื่อใช้แค่วันเดียว เราเลยตัดสินใจซื้อทัวร์แบบหนึ่งวันจากบริษัททัวร์ชื่อว่า Acco-Dispo ( http://www.accodispo-tours.com/accueil.html ) โดยจองผ่านทางเว็บไซต์ได้เลย บริษัทจะส่งรถมารับที่หน้า Tourist Information Center ที่ตั้งอยู่หน้าสถานีรถไฟ Tours ตามเวลาที่นัดหมายกัน เราสามารถเลือกโปรแกรมที่อยากจะไปได้จากเว็บไซต์ให้เหมาะกับเวลาที่มี (มีแบบครึ่งวัน และเต็มวัน )และสถานที่ที่เราอยากไป
โดยปราสาทที่เราเลือไปเที่ยวชมมีดังนี้
Chateau d'Ambois
Chateau de Chenonceur
Chateau de Cherverny
Chateau de Chambord
การบริการของทัวร์นี้คือการมีคนขับรถพาเราไปยังสถานที่ต่างๆ โดยระหว่างทางก็จะเล่าประวัติของสถานที่นั้นไปด้วย รวมทั้งบอกไฮไลท์ว่าอะไรที่ต้องไปดู อะไรที่พลาดไม่ได้ แต่เขาจะไม่ได้ลงไปเดินกับเราด้วย จะเพียงแค่ส่ง และนัดเวลากลับมาเจอกัน ทำให้เรามีอิสระที่จะเดินเที่ยวชมปราสาทด้วยตนเอง
จากสถานีรถไฟ นั่งรถไปสักพักเราก็มาถึงจุดหมายแรกชื่อว่า Amboise Chateau Royal หรือ Chateau d'Amboise ในภาษาฝรั่งเศส ปราสาทแห่งนี้สร้างอยู่เนินริมแม่น้ำ Loire ทำให้เมื่อมองจากด้านบนลงมาจะเห็นโค้งแม่น้ำที่สวยงาม
Chateau d'Ambois
Credit:http://www.chateau-amboise.com/fr
แรกเริ่มเดิมที ที่นี่ไม่ใช่ปราสาทของราชวงศ์ฝรั่งเศส แต่ถูกยึดโดย Chales VII of France ในปี 1434 และตั้งแต่นั้นมาที่นี่ก็เป็นสถานที่โปรดของราชวงศ์ฝรั่งเศส
ภายในพื้นที่ของปราสาทประกอบไปด้วยตัวอาคารหลัก สวนของปราสาท และ โบสถ์เล็กๆที่ชื่อว่า The Saint Hubert Chapel
โบสถ์นี้ถึงแม้จะเป็นโบสถ์เล็กๆ แต่ก็เป็นสถานที่ที่สำคัญอย่างมาก เพราะภายในเป็นที่ฝังศพของผู้ที่เป็นทั้งจิตกร วิศวกร นักประดิษย์ และนักออกแบบคนสำคัญของโลกอย่าง Leonado Da Vinci
ดาวินชีที่พื้นเพเป็นคนอิตาลี ย้ายมาอยู่ที่ฝรั่งเศสตามในปี 1515 ตามคำเชิญของ King Francis I เพื่อให้มาสร้างหุ่นยนต์สิงโตที่เดินได้ ขยับหัวได้ คำรามได้ และสามารถเปิดลำตัวออกมา โดยข้างในจะมีดอกลิลลี่ซ่อนอยู่ ?? ฟังดูแปลกประหลาด คาดว่า King Francis I น่าจะอยากได้สิงโตตัวนี้ไว้สำหรับเดินโชว์ในงานเฉลิมฉลองชัยชนะ ถึงแม้นี่จะฟังดูแปลกหลุดโลก ดาวินชีก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาสเก็ตแบบของสิงโตตัวนี้ไว้ด้วยกันหลายเวอร์ชั่น แต่น่าเสียดายที่มันไม่เคยถูกสร้างขึ้น
จนกระทั่งในปี 2009 กว่า 500 ปี หลังจากดาวินชีเสียชีวิย นักออกแบบหุนยนต์ชาวอิตาลีได้สร้างเจ้าสิงโตตัวนี้ขึ้นมาจากแบบที่ ลีโอนาโด ดาวินชีเขียนไว้ ชาวโลกจึงได้เห็นสิงโตตัวนี้ขยับได้เป็นครั้งแรก
Credit: http://www.independent.co.uk
แม้ไม่มีสิงโตตัวนี้ ดาวินชีก็ได้สร้างผลงานที่เป็นที่พอใจให้กับกษัตร์ไว้หลายชิ้น จนได้รับพระราชทานบ้านหนึ่งหลัง เรียกว่า Clos-Luce ที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจาก Chateau d'Amboise
Saint Hubert Chapel
Leonardo Da Vinci เสียชีวิตลงในวันที่ 2 พฤษภาคม 1519 ด้วยวัย 67 ปี และได้ถูกฝังไว้ ณ ที่แห่งนี้ เราจึงขอแวะทำความเคารพอัจฉริยะคนนี้เสียหน่อย หลังจากตามดูผลงานของเขามาแล้วหลายชิ้น รวมทั้งไปเยี่ยม Mona Lisa ถึงที่ลูฟ ในปารีสมามาแล้วด้วย (ใครสนใจลองดูรีวิวทริปปารีสได้จากลิ้งนี้เลยจ้า "Je T'aime" หลงรักปารีส 24 ชั่วโมง - http://www.2roamwithlove.com/2016/02/ep9-paris-je-taime-24.html ) ถ้าดาวินชีเป็นคนยุคนี้ เราก็คงเป็นแฟนคลับเขาแล้ว แบบอารมณ์ ตาม follow Instragram หรือ กดไลค์ เพจ
ออกมาจากโบสถ์ เราเดินไปยังอาคารหลักของ Chateau d'Amboise ที่เรียกว่า Royal Lodge
เดินเข้าไปจะพบกับระเบียงใหญ่ที่มองเห็นวิวแม่น้ำ Loire สมัยก่อนทหารยามจะเฝ้าดูเรือที่ข้ามไปมาบริเวณนี้
ภายในปราสาทยังคงมีเฟอร์นิเจอร์ ที่ใช้ในสมัยนั้นหลงเหลืออยู่ อย่างเช่นเตียงนอนของกษัตริย์ Henri II
และชุดเกราะสมัยศตวรรษที่ 16 ที่ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ เหมือนเป็นทหารยามยืนอยู่
จุดที่พลาดไม่ได้ของปราสาทแห่งนี้คือบริเวณชั้นบนสุด ที่เหมือนเป็นลานเล็กๆ มองออกไปเห็นลุ่มแม่น้ำลัวร์ คดเคี้ยวไปจนสุดสายตา เห็นวิวนี้แล้วจึงคิดว่าไม่แปลกที่ปราสาทนี้เป็นที่โปรดปรานของราชวงศ์ฝรั่งเศส เราเองอยากจะเอาโต๊ะเล็กๆมานั่ง ทำเป็นมุมจิบกาแฟซะเหลือเกิน จิบกาแฟพร้อมดูวิวแบบนี้คงฟินไม่น้อยเลยทีเดียว (เข้าโหมดฝันกลางวัน
เดินออกมาจากปราสาท แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือ จะเจอกับสวนน่ารัก มีพุ่มไม้ก้อนกลมๆ และบรรไดทอดยาวไปด้านบน ถ้าเดินตามไปเรื่อยๆอาจไปโผล่ใน Wonderland
ปราสาทนี้เล็กมาก ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงก็ดูทุกอย่างได้ครบถ้วน ได้เวลาเดินทางสู่ปราสาทต่อไป
ที่ๆสองที่เราจะไป คือปราสาทที่เราชอบมาก (อีกแล้ว
ปราสาทแห่งนี้ชื่อว่า Chateau de Chenonceau มีความโดดเด่นอยู่ที่มันถูกสร้างขึ้นบนแม่น้ำ Cher อย่างที่เห็นในรูป ผู้หญิงผู้โชคดีที่ได้ครองปราสาทนี้คนแรกคือ Diane de Poitiers นางเป็นผู้หญิงที่ กษัตรย์ Henri II โปรดปราน เพราะทั้งสวย และฉลาด จึงทรงยกปราสาทหลังนี้ให้นางไปครอบครอง (ช่างน่าอิจฉา) และ Diane คนนี้คือคนที่สั่งให้สร้างปราสาทให้เป็นเหมือนสะพานข้ามแม่น้ำ รวมทั้งสร้างสวนสวยไว้รอบๆ อีกด้วย
Link - https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%8B
ถือว่าเราต้องชื่นชมในรสนิยมของ Diane de Poitiers มิเช่นนั้นเราคงไม่ได้เห็นปราสาทสวยๆ ที่เหมือนเทพนิยายแห่งนี้
มุมที่ถ่ายรูปสวยคือจากบริเวณกำแพงสวนที่อยู่ริมแม่น้ำ เพราะจะได้เห็นทั้งส่วนหอคอยของปราสาท และส่วนสะพาน
เดินกลับมาที่ด้านหน้าของปราสาทเราจะเห็นความยิ่งใหญ่ของปราสาทแห่งนี้ชัดเจนขึ้น จึงไม่แปลกที่มันจะเป็นที่หมายปองของใครหลายๆคน หลังจากที่ กษัตรย์ Henri II ทรงสินพระชนต์ ภรรยาของกษัตรย์ Henri II ชื่อว่า Catherine de' Medici ก็ได้ขับไล่ Diane de Poitiers ออกไป และเข้ามายึดครองปราสาทแห่งนี้แทน
ช่วงที่ Catherine de' Medici เป็นเจ้าของปราสาทเชอนองเซอ นางได้ขยายสวนให้อลังการขึ้น พร้อมทั้งต่อเติมในส่วนของ The Gallery เพื่อใช้สำหรับจัดปาร์ตี้แบบโอ่อ่า