เรื่องสั้น แต่งทั้งน้ำตา (สร้างจากเรื่องจริง มอบให้หญิง ที่จะทิ้งเราไปแต่งงาน)

มารลิขิต โดย : ชายคาราเต้
องค์ 1 ปฐมบท
ณ.ร้านอาหารอีสาน หน้าห้างแมคโคร สาขา จำเริญสำเหนียกจัง ท่ามกลางบรรยากาศที่พลุกพล่านของช่วงเวลาเย็นของวันทำงาน
“เออ... เขาบอกว่าคนท้องนี่ จะมีเซ้นต์พิเศษ จะเห็นผีง่ายกว่าคนธรรมดานี่” ผมโพล่งออกไปแบบไม่ได้คิด
“กลับบ้านดึก ๆ น่ะ เคยเจอผีมั่งไม๊?” … ความเงียบย่างกรายเข้ามาแทนที่ความรื่นเริงแบบปัจจุบันทันใจ พลันผมนึกขึ้นได้ว่า เรื่องนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ควรจะเปิดเผย
“บ้า!!! เราไม่ได้ท้อง!” เธอตอบกลับแบบหน้าตื่น... ใช่ ผมเผลอไป ที่สำคัญคือ ณ.ร้านอาหารริมทางไม่ได้มีแค่ผมกับเธอสองคนเท่านั้น... มีแม่เธอด้วยอีกคน!

องค์ 2 ก่อนการณ์ จะบานสะพรั่ง
“ฉันอยู่ในตึกสอง โรงพยาบาลธนจังเลย ถ้าโง่หาไม่เจอก็ไม่ต้องมารับ” เสียงปลายสายตอบกลับมาเมื่อผมโทรถามว่าเขาอยู่ส่วนไหนของโรงพยาบาลธนจังเลย โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง
“ครับๆเจอแล้วครับ” เป็นปรกติที่ผมจะอาสาขับรถพาแม่ของ “ปา” แฟนสาวสุดน่ารักของผมไปไหนมาไหน เพราะอาการบาดเจ็บกระจุกกระจิกมากมายรุมเร้า ผมจึงปรารถนาดี ไม่อยากจะให้ คนมีอายุต้องเดินทางกับรถสาธารณะ และครั้งนี้ก็เช่นกัน อาการเจ็บขายังไม่ทันจะทุเลา ก็มีอาการปวดท้องรุนแรง อาเจียน และถ่ายเหลว ต่อเนื่องมานานนับเดือนแล้ว
“จะกลับบ้านเลยไหมแม่” ผมถาม
“ไม่เอา พาฉันไปห้าง ดอกแมว ท่าแพะ ก่อน โทรศัพท์ฉันไม่ค่อยจะดี จะลองเอาไปซ่อมหน่อย” แม่ตอบ แม้หน้าตาจะซูบซีดเพราะอาการไม่สบาย แต่ก็ใจสู้น่าดู
“ถ้ามาขี้แตกในรถผมจะทำไงดีเนี่ย?” ผมถามติดตลกตามปรกติ
“เอ้อ..ช่างปะไร ไม่ใช่รถฉันนี่”
หลังจากที่แม่ทำธุระเรียบร้อย ด้วยความใจดี จึงแสดงการขอบใจผมด้วยการเลี้ยงข้าวมื้อกลางวันหนึ่งมื้อ แม้ผมจะไม่ค่อยหิวแต่ก็ไม่อยากขัดน้ำใจ ถึงศูนย์อาหารที่อยู่ชั้นล่างสุดของห้างดอกแมว เธอจัดแจงแลกคูปองมูลค่าสองร้อยบาท ก่อนยื่นมาให้ผม
“สิน เธอช่วยไปซื้อแกงเลียงให้ฉันหน่อย ฉันเดินไม่ไหว” ผมรับคูปองมาแล้วก็แทบจะประคองให้แม่นั่ง ดูเธอเหนื่อยมาก ผมล่ะเป็นห่วงจริง ๆ เพราะข้อมูลในอินเตอร์เน็ตที่ผมเสิร์ซ มีความไกล้เคียงกับอาการ มะเร็งกระเพาะอาหารค่อนข้างมาก “เขาลวกยังไม่สุกนี่ แข็งยังกะหิน” แม่บ่นพร้อมกับตักอาหารในชามมาให้ผมลองกินดู
“อื้ม... แข็งอ่ะ เอาของผมแทนไหม?” ผมส่งข้าวมันไก่ให้เธอ แต่เธอปฏิเสธ บอกไม่ชอบกินไก่ ให้เปลี่ยนใหม่ก็ไม่เอา
ผมส่งแม่กลับบ้าน ก่อนไปรับแฟนสาวที่ออฟฟิศย่านบ้างรัก เป็นปรกติที่บางวันฝนทำท่าจะตก หรือเธอเลิกดึกผมจะขับรถไปรับเธอ
“เหนื่อยไหมวันนี้ เป็นไงมั่ง” ผมถามเธอ หลังจากที่เห็นขึ้นมาบนรถแล้วก็แทบจะสลบ
“อ่ะ ลูกชิ้น ผมซื้อติดรถไว้ เผื่อคุณหิว” ผมยื่นลูกชิ้นให้เธอ เห็นเธอกินเข้าไปแค่ไม้เดียวก็ทำท่าจะอ้วก พร้อมทั้งกอดอกแน่น “หนาว... สินลดแอร์หน่อยสิ” เธอบอกผม น่าแปลกใจที่เธอมีอาการสะท้านกับแอร์ที่ไม่ได้เย็นอะไรมากมาย ปรกติเธอเป็นคนที่ค่อนข้างจะขี้ร้อนด้วยซ้ำ และคนที่บ่นหนาวมักจะเป็นผม อาการแปลก ๆ ของเธอทำให้ผมระแวงแปลกๆ
“ปา... ประจำเดือนคุณมาหรือยัง?” ผมเอ่ยปากถาม โดยสายตาไม่ยอมละจากถนน
ชุดตรวจหน้าตาธรรมดา ๆ ซื้อผมแวะซื้อที่ร้านท็อป ถูกฉีกออก ผมนำปัสสาวะของ ปา มาหยดลงในหลุมตามคู่มือใช้งานบอกไว้อย่างเชื่องช้า ทีละหยด จนครบสามหยด สายตาสองคู่เพ่งมองแท่งพลาสติกสี่เหลี่ยมผืนผ้าตาไม่กระพริบ
“ขีดเดียว อิอิ” ปา ยิ้มสบายใจ ส่วนผมเองก็คลายวิตกไปมาก เพราะผมเองเพิ่งออกจากงานประจำด้วยเหตุผลเรื่องรายได้จากงานส่วนตัวที่อาจจะมากกว่า และ มีอิสระกว่า หากแต่รายรับยังไม่แน่นอน หากมีปัญหาเรื่องตั้งครรภ์ตอนนี้ ก็อาจจะลำบากมากๆ ขณะที่ผมยังใจลอย คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แถบตรวจที่เริ่มอิ่มน้ำหลังจากทิ้งไว้ราว 2 นาที เริ่มปรากฏขีดสีม่วงจาง ๆ เส้นที่สองขึ้นมา “ฉิ...หาย...” ผมอุทานเบา ๆ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณที่แชร์ แต่อย่าแต่งต่ออีกเลยนะคะ ให้จบแค่นี้ เดินหน้าไปแล้วอย่าหันหลังกลับมาทบทวนความเจ็บปวด จำได้แต่ไม่จำเป็นต้องทบทวน
....ถ้ายังมีวาสนาต่อกัน คงได้พบกับพวกเค้าอีกสักครั้งในชีวิต

โชคดีและเข้มแข็งมากๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่