[CR] กาลครั้งหนึ่ง...ฉันนั่งรถไฟจากหัวลำโพงไปดูแสงเหนือ!!! Ep.2 จีนแล้วเว้ย!

  
  

   หลังจากเริ่มต้นการนั่งรถไฟ จากหัวลำโพง ผ่านหนองคาย ข้ามแม่น้ำโขง สู่ประเทศลาว แล้วสมบุกสมบันนั่งรถนอนร่วมๆ สามสิบชั่วโมง ข้ามมาถึงฮานอยในตอนที่ผ่านมา (http://pantip.com/topic/34705697) แล้วนั้น เราสองคนก็เอาตัวเองขึ้นรถไฟ จากฮานอย เพื่อเดินทางต่อไปยังหนานหนิง ประเทศจีน!

   รถไฟที่จะไปหนางหนิงนั้นจะออกจากสถานีรถไฟที่อยู่นอกเมืองออกไป ชื่อว่า Gia Lam Station ซึ่งตอนที่เราไปซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีฮานอยนั้น พนักงานขายตั๋วที่ก็ย้ำแล้วย้ำอีก ว่าต้องไปขึ้นที่สถานีนู้นน่ะ อย่ามาผิดล่ะ ถึงขนาดว่าเราเดินออกมาจากช่องขายตั๋วแล้ว ยังตะโกนตามหลังมาอีก อะไรจะเป็นห่วงกูขนาดน้านนน น่ารักเหลือเกินแม่คุณเอ๊ย แสดงว่าเขาน่าจะเจอคนมาขึ้นผิดที่อยู่บ่อยๆ นั่นเลยทำให้ผมจำได้ขึ้นใจว่าต้องเอาตัวเองมาที่สถานีนี้ เรานั่งแท็กซี่จากที่พักในตัวเมือง มาลงที่สถานีรถไฟคับ ซึ่งใช้เวลาไม่นานแล้วค่าแท็กซี่ก็ไม่แพงด้วย ตามราคามิเตอร์เลยเว้ย ไม่มีบวกเพิ่มเลย

   สถานีรถไฟนี้เป็นสถานีเล็กๆน่ารักๆ อารมณ์ประมาณสถานีรถไฟตามต่างจังหวัดเลยหล่ะ ไปถึงก็มีเวลาเหลือเฟือ ก็นั่งรออยู่จุดนั่งพักในสถานี พนักงานสถานีจะยังไม่ให้เข้าไปในชานชลา จนกว่าจะถึงเวลาคับ เราก็นั่งรอกันไปซักพัก สบตาปิ๊งๆกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนพื้นที่หรือไม่ก็คนจีน เราสองคนน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียงสองหน่อบนรถไฟนี้เป็นแน่แท้

   สัญญาณบอกเวลาดังขึ้น พนักงานสถานีก็ทยอยเรียกผู้โดยสารเข้าไปยังชานชลาเพื่อขึ้นไปบนรถไฟได้ โดยรถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟจีน เป็นเตียงนอนสองชั้น สี่เตียงในหนึ่งห้อง มีผ้าปูที่นอนให้สะอาดสะอ้าน แต่โห สี่เตียงในหนึ่งห้องเลยหรอ? เคยเห็นแต่รถไฟชั้นหนึ่งบ้านเรา ที่เป็นห้องแต่ก็มีแค่สองเตียง บน-ล่าง แต่นี่มีเพื่อนหันมานอนสบตากันด้วย เราได้แชร์ห้องกับ ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่ค่อนข้างขี้อาย เราคุยอะไรไป ยิ้มอย่างเดียว โอเค อย่างน้อยก็ยังยิ้มได้ว่ะ พอเราขึ้นรถไฟได้ไม่นาน รถไฟก็เคลื่อนตัวออกจากสถานีตรงตามกำหนดเวลา สามทุ่มสี่สิบ



   นอนเล่นไปซักพักก็หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีรถไฟก็หยุด แล้วเพื่อนร่วมห้องก็ขนเอาสัมภาระของตัวเองลงจากรถไฟไปเลย ก่อนลงมีการหันมาหาเรา  คิดว่าตอนนั้นคงทำหน้างงมาก เขาเลยเอาพาสปอร์ตของเขาขึ้นมา แล้วชี้ไปข้างนอก แล้วชี้ที่พาสปอร์ต สลับอยู่อย่างนั้น คิดว่าเขาคงไม่หยุดทำ จนกว่าเราจะร้อง "อ๋ออออออ" เป็นอันว่ารู้เรื่อง แล้วเราก็ขนกระเป๋าของเราลงจากสถานี



   ผมหาข้อมูลมาก่อนแล้วว่า จะมีการจอดให้ลงไปประทับตราพาสปอร์ตที่ด่านชายแดนเวียดนาม ซึ่งก็คือที่นี่นี่เอง โดยเราจะเอาสัมภาระทั้งหมดผ่านเครื่องแสกนด้วย ไปถึงในสถานีก็มีแต่ ผู้โดยสารจากขบวนนี้แหละเต็มสถานีเลย แล้วจะมีนายสถานีมาเก็บพาสปอร์ตแต่ละคน เอาไปประทับตรา จุดพีคคือ ตอนคืนพาสปอร์ตนี่เป็นระบบ เรียกชื่อทีละคน อารมณ์เหมือนคุณครูแจกสมุดการบ้านคืนเด็กที่โรงเรียนเลย!! ใครถูกขานชื่อ ก็ออกไปเอาพาสปอร์ตของตัวเอง ก็นั่งรอไปดิ  พอเมื่อไหร่ที่เขาหยุดแล้วเริ่มอ่านตะกุกตะกักอย่างไม่มั่นใจ ก็เสนอหน้าไปเลย ชื่อพวกเราแน่

   หลังจากได้พาสปอร์ตและกระเป๋าคืนแล้ว ก็กลับขึ้นรถไฟ ไปประจำที่เดิมแล้วก็นอนต่อ ดูนาฬิกาที่ข้อมือ บอกเวลาเกือบตีสาม!! มิหน่าล่ะง่วงเป็นบ้า รถไฟเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง


  
   พอกำลังจะเคลิ้มหลับเท่านั้นแหละ รถไฟจอดอีกครั้ง เพื่อนร่วมห้องขนของลงอีกแล้ว คราวนี้ไม่มีการหันมาส่งซิกแล้ว เราก็ลงตามกันไป ตาดว่าน่าจะถึงชายแดนจีน ไปถึงก็เข้าอาคาร ตม.ที่นี่จะมีลักษณะคล้ายๆกับเวลาเราผ่านตม. ที่สนามบินเลย ต่างกับที่เวียดนามที่ผ่านมาเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราก็ได้ตราประทับเข้าประเทศจีนแล้ว!

   ขึ้นรถไฟอีกครั้งคราวนี้นอนยาวๆไปเลย ตื่นมาเจอกันอีกทีที่หนางหนิงเลยละกัน!!


ชื่อสินค้า:   หนานหนิง จีน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่