เมืองพิลอูวินหรือเมืองเมย์เมียว ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของมัณฑะเลย์ห่างเป็นระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร เป็นเมืองในภูเขาที่ดูสงบบนระดับความสูง ประมาณ 1,070 เมตร ในอดีตเมืองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นให้เป็นสถานที่พักตากอากาศชั้นเลิศของเจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษ หลังพม่าปิดฉากระบอบกษัตริย์ที่เมืองมัณฑะเลย์ อังกฤษจึงได้ใช้เมืองนี้เป็นฐานบัญชาการรบ ปราบพวกกบฏ และพวกกลุ่มต่อต้าน โดยเหล่าทหารของอังกฤษนั่น ส่วนใหญ่มากจากทหารรับจ้างจากอินเดีย และเนปาล ต่อมาเมื่อครั้งอังกฤษได้คืนเอกราชให้กับพม่า พวกทหารเหล่านี้รู้สึกผูกพันกับเมืองพินอูลวิน และไม่อยากย้ายกลับไปไหน จึงได้แต่งงานอยู่กินกับสาวพม่าในพื้นที่ จนออกลูกหลานมาจนถึงปัจจุบัน สังเกตได้ผู้คนที่นี่หน้าละม้ายคล้ายแขกอินเดีย อย่างที่เขาเรียกว่า “ผิวพม่า นัยตาแขก”
สภาพอากาศที่เมือง พินอูลวิน มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี อาคารบ้านเรือนภายในเมืองมีความโดดเด่นตามแบบเมืองอาณานิคมของอังกฤษ และระดับความสูงของที่ตั้ง ที่ช่วยทำให้เมืองมีสภาพอากาศเหมาะแก่การปลูกดอกไม้เมืองหนาวเป็นอย่างมาก ปัจจุบันเมืองพินอูลวินได้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตดอกไม้เมืองหนาวที่สำคัญของประเทศ โดยดอกไม้และพืชพันธุ์ทางเศรษฐกิจที่มีการปลูกมากได้แก่ สตรอเบอร์รี่ , สับปะรด เบญจมาศ , แอสเตอร์ และแกล ดิโอลัส นอกจากนี้แล้วเมืองพินอูลวิน ยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมกาแฟของพม่าที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย
Day 7 : Mandalay - Pyin oo Lwin
03.30 น. ถึงขนส่งมัณฑะเลย์ หลับสนิทเลยจนเค้าต้องมาปลุก ตามแพลนวันนี้จะต้องต่อรถไป Pyin Oo Lwin (พินอูลวิน) ทีแรกคิดว่าจะต้องรอให้ขนส่งเปิดในช่วงเช้าก่อนเลยเดินไปนั่งในตึกของบริษัทรถบัสที่ผมมา ระหว่างนี้คันปากเลยไปถามพนง.เรื่องรอบรถที่จะไปพิลอูลวิน ถามปุ๊บยิ้มกว้างเลยเพราะว่า
เค้าบอกให้เอากระเป๋าไปที่รถอีกคันที่จอดข้างๆกันเลยเพราะคันนี้จะผ่านพิลอูวินจะออกภายใน 10 นาทีนี้ ดีเลยจะได้ไม่ต้องมานั่งรอ
ขนส่งมัณฑะเลย์
คันนี้เลยครับเป็นรถที่วิ่งมาจากที่อื่นแล้วแวะมาส่งคนลงที่ขนส่งมันฑะเลย์ ค่ารถ 4,000 จั๊ต(110 บาท)
ภายในรถเป็นแบบแถวละ 4 ที่นั่งแต่อารมณ์ตอนนี้นอนกับพื้นก็หลับสบายครับ
06.00 น. ถึงขนส่งที่พิลอูลวินใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง รู้สึกว่าจะไวกว่าที่หาข้อมูลมา(ขึ้นTaxi 2 ชม. , Bus 3 ชม.) ลงมาปุ๊ปหนาวมากอุณหภูมิ 16 องศา เท้าแตะพื้นปุ๊ปโดนประกบจากคนขี่มอไซค์ทันที เลยตกลงราคาเพื่อจะไปลงที่แถวๆหอนาฬิกาที่ราคา 2,000 จั๊ต เป็นรถมอไซค์วิ่งฝ่าหมอกและอากาศหนาวๆตลอดทางจนหน้าชาไม่หมด
ขนส่งพินอูวิล
6.30 น. check in ที่ Grace ll Hotel เป็นห้องเดี่ยวซึ่งว่างเฉพาะห้องแบบ Twin bedroom ราคาคืนละ 20 usd พร้อมอาหารเช้า ราคาแพงกว่าข้อมูลที่หามา คือ 10 usd เค้าบอกว่าวันนี้เป็นวันเทศกาลบอลลูนอะไรสักอย่าง แหม่ะ...ช่างพอดีอะไรอย่างนี้จ่ายแพงเท่าตัวแต่ไม่เป็นไรถือว่าโชคดีที่ได้มาเจอเทศกาลคืนนี้จะได้มีที่ไป
หน้าที่พักห่างจากหอนาฬิกาไม่ถึง100เมตร
ห้องพัก
ระหว่างนี้สอบถามราคาเที่ยวที่ต่างๆกับพนง ได้ข้อมูลตามนี้
-ค่าเดินทางเที่ยวในพินอูลวิน
ค่าเช่ารถมอไซค์จากที่พักวันละ 8,000 จั๊ต เป็นรถแบบ 4 เกียร์
ค่าเช่าจักรยานวันละ 2,000 จั๊ต
-ค่ารถจากพินอูลวินไปมัณฑะเลย์
Taxi ค่ารถแชร์กันไปตกคนละ 6 usd
Bus ไม่มีรถบัสจากเมืองนี้ไปมัณฑะเลย์ ???? งงเลย เพราะกะว่าจะกลับรถบัสไปซะหน่อย
สองแถว เป็นรถสองแถวเล็กวิ่ง 3 ชม.ไปมัณฑะเลย์ค่ารถแค่ 1,500 เดินจากที่พักไปทางขวามือ 1 km จะมีจุดจอดอยู่
เดินมาทางซ้ายมือมากินกาแฟร้อน Pinsi มีไวไฟฟรีด้วยแต่เนื่องจากคนกินเย่อะเลยมีการใช้ไวไฟฟรีเย่อะเช่นกัน ความเร็วเยี่ยงทากเลยมื้อนี้สั่งกาแฟร้อน,ซาโมซ่า(2ชิ้น),นานกับถั่วผัด ค่าเสียหาย 1,050 จั๊ต (30 บาท) นานกับถั่วไม่อร่อยเลยสั่งผิดทีแรกจะเอาโรตีคิดว่าเหมือนกัน
แป้งนานแข็งๆจืดๆไม่ค่อยชอบแต่ซาโมซ่าอร่อยดี
เอาเมนูมาเผื่อครับ
หลังจากนั้นก็กลับไปนอนเอาแรงต่อที่ที่พักวันนี้ยังไม่ได้อยากเที่ยวอะไรมาก ตามโปรแกรมเดิมคือไม่มีอะไรเลยนอกจากเดินเล่นดูเมืองไปเรื่อยๆโปรแกรมใหม่ก็คล้ายๆกันเพิ่มเติมแต่ตอนกลางคืนไปงานเทศกาลบอลลูน หลังจากนอนไปงีบนึงแล้วก็ออกมาเดินตากแดดรับอากาศอุ่นๆดูวิวบรรยากาศของเมืองนี้ไปเรื่อยๆ
เมืองแห่งรถม้าจริงๆ น่านั่งด้วยแต่งซะสวยเชียว
วัดฮินดู
วัดฮินดู
ยืนยันด้วยภาพว่าคนพม่าน่ารัก คิขุเชียว555
เดินมาทางไปตลาดสดเจอวัดพุทธแถวนี้
ติดๆกับวัดพุทธก็เป็นทางเข้าไปในตลาดซึ่งก็เหมือนบรรยากาศตลาดสดที่เจอๆมา
ผมย๊าวยาวววว
ขอลุงเจ้าของร้านถ่ายรูปสักรูป แกพยายามยิ้มให้อยู่^^
เรียงใบพลูสวยงามเชียว
มะพร้าวสดที่นี่เอาใบมะพร้าวมาถักดูมีราคาทันที
ลุงคนนี้มาทักพอรู้ว่าเป็นคนไทยคุยภาษาไทยใส่เลย
ที่นี่ไม่มีแผงขายล็อตเตอรี่เจอแต่แบบเดลิเวอรี่
นี่ก็รถขายล็อตเตอรี่
แล้วก็เดินออกมาแถวๆหอนาฬิกาเพอร์เซล
Purcell Tower หอนาฬิกาเพอร์เซลล์ทาวเวอร์หอนาฬิกาแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2477 โดยบริษัทจอห์นสันและ Gillete จำกัด ของอังกฤษเพื่อเฉลิมฉลองซิลเวอร์จูบิลีในรัชสมัยของกษัตริย์จอร์จ แห่งสหราชอาณาจักร จากรูปเดินไปทางขวาไปที่พัก
มัสยิดกลางเมือง
เดินย้อนไปดูจุดจอดรถสองแถวเล็กที่จะไปมัณฑะเลย์ รถที่นี่จะออกเที่ยวแรก 7 โมงเช้าและออกทุกๆชั่วโมงค่ารถ 1,500 จั๊ต
แวะกินข้าวเที่ยงเป็นร้านชาวบ้านๆข้างทางใต้ต้นไม้ มื้อนี้อาหารอย่างละ 600 จั๊ตถูกสุดละตั้งแต่มาที่นี่เลยสั่งไป 2 อย่าง
[CR] ทิ้งเนคไทไปแบกเป้ ตะลอนเดี่ยวเที่ยวพม่า 8 เมือง 14 วัน (ตอนที่4 @ Pyin Oo Lwin)
ตอนที่2 @ Bagan http://pantip.com/topic/34647018
ตอนที่3 @ Inle http://pantip.com/topic/34650584
ตอนที่4 @ Pyin Oo Lwin http://pantip.com/topic/34662264
ตอนที่5 @ Mandalay-Mingun http://pantip.com/topic/34669587
ตอนที่6 @ Bago-Kyaikh tiyo http://pantip.com/topic/34674190
ตอนที่7 @ Yangon http://pantip.com/topic/34678106
คุยกันในนี้ได้นะครับ https://www.facebook.com/NotesfromBackpacker/
สภาพอากาศที่เมือง พินอูลวิน มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี อาคารบ้านเรือนภายในเมืองมีความโดดเด่นตามแบบเมืองอาณานิคมของอังกฤษ และระดับความสูงของที่ตั้ง ที่ช่วยทำให้เมืองมีสภาพอากาศเหมาะแก่การปลูกดอกไม้เมืองหนาวเป็นอย่างมาก ปัจจุบันเมืองพินอูลวินได้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตดอกไม้เมืองหนาวที่สำคัญของประเทศ โดยดอกไม้และพืชพันธุ์ทางเศรษฐกิจที่มีการปลูกมากได้แก่ สตรอเบอร์รี่ , สับปะรด เบญจมาศ , แอสเตอร์ และแกล ดิโอลัส นอกจากนี้แล้วเมืองพินอูลวิน ยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมกาแฟของพม่าที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย
03.30 น. ถึงขนส่งมัณฑะเลย์ หลับสนิทเลยจนเค้าต้องมาปลุก ตามแพลนวันนี้จะต้องต่อรถไป Pyin Oo Lwin (พินอูลวิน) ทีแรกคิดว่าจะต้องรอให้ขนส่งเปิดในช่วงเช้าก่อนเลยเดินไปนั่งในตึกของบริษัทรถบัสที่ผมมา ระหว่างนี้คันปากเลยไปถามพนง.เรื่องรอบรถที่จะไปพิลอูลวิน ถามปุ๊บยิ้มกว้างเลยเพราะว่า
เค้าบอกให้เอากระเป๋าไปที่รถอีกคันที่จอดข้างๆกันเลยเพราะคันนี้จะผ่านพิลอูวินจะออกภายใน 10 นาทีนี้ ดีเลยจะได้ไม่ต้องมานั่งรอ
06.00 น. ถึงขนส่งที่พิลอูลวินใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง รู้สึกว่าจะไวกว่าที่หาข้อมูลมา(ขึ้นTaxi 2 ชม. , Bus 3 ชม.) ลงมาปุ๊ปหนาวมากอุณหภูมิ 16 องศา เท้าแตะพื้นปุ๊ปโดนประกบจากคนขี่มอไซค์ทันที เลยตกลงราคาเพื่อจะไปลงที่แถวๆหอนาฬิกาที่ราคา 2,000 จั๊ต เป็นรถมอไซค์วิ่งฝ่าหมอกและอากาศหนาวๆตลอดทางจนหน้าชาไม่หมด
6.30 น. check in ที่ Grace ll Hotel เป็นห้องเดี่ยวซึ่งว่างเฉพาะห้องแบบ Twin bedroom ราคาคืนละ 20 usd พร้อมอาหารเช้า ราคาแพงกว่าข้อมูลที่หามา คือ 10 usd เค้าบอกว่าวันนี้เป็นวันเทศกาลบอลลูนอะไรสักอย่าง แหม่ะ...ช่างพอดีอะไรอย่างนี้จ่ายแพงเท่าตัวแต่ไม่เป็นไรถือว่าโชคดีที่ได้มาเจอเทศกาลคืนนี้จะได้มีที่ไป
ระหว่างนี้สอบถามราคาเที่ยวที่ต่างๆกับพนง ได้ข้อมูลตามนี้
-ค่าเดินทางเที่ยวในพินอูลวิน
ค่าเช่ารถมอไซค์จากที่พักวันละ 8,000 จั๊ต เป็นรถแบบ 4 เกียร์
ค่าเช่าจักรยานวันละ 2,000 จั๊ต
-ค่ารถจากพินอูลวินไปมัณฑะเลย์
Taxi ค่ารถแชร์กันไปตกคนละ 6 usd
Bus ไม่มีรถบัสจากเมืองนี้ไปมัณฑะเลย์ ???? งงเลย เพราะกะว่าจะกลับรถบัสไปซะหน่อย
สองแถว เป็นรถสองแถวเล็กวิ่ง 3 ชม.ไปมัณฑะเลย์ค่ารถแค่ 1,500 เดินจากที่พักไปทางขวามือ 1 km จะมีจุดจอดอยู่
เดินมาทางซ้ายมือมากินกาแฟร้อน Pinsi มีไวไฟฟรีด้วยแต่เนื่องจากคนกินเย่อะเลยมีการใช้ไวไฟฟรีเย่อะเช่นกัน ความเร็วเยี่ยงทากเลยมื้อนี้สั่งกาแฟร้อน,ซาโมซ่า(2ชิ้น),นานกับถั่วผัด ค่าเสียหาย 1,050 จั๊ต (30 บาท) นานกับถั่วไม่อร่อยเลยสั่งผิดทีแรกจะเอาโรตีคิดว่าเหมือนกัน
หลังจากนั้นก็กลับไปนอนเอาแรงต่อที่ที่พักวันนี้ยังไม่ได้อยากเที่ยวอะไรมาก ตามโปรแกรมเดิมคือไม่มีอะไรเลยนอกจากเดินเล่นดูเมืองไปเรื่อยๆโปรแกรมใหม่ก็คล้ายๆกันเพิ่มเติมแต่ตอนกลางคืนไปงานเทศกาลบอลลูน หลังจากนอนไปงีบนึงแล้วก็ออกมาเดินตากแดดรับอากาศอุ่นๆดูวิวบรรยากาศของเมืองนี้ไปเรื่อยๆ
ติดๆกับวัดพุทธก็เป็นทางเข้าไปในตลาดซึ่งก็เหมือนบรรยากาศตลาดสดที่เจอๆมา
แล้วก็เดินออกมาแถวๆหอนาฬิกาเพอร์เซล