ไปแบบงงๆ วนอุทยานแห่งชาติภูลังกา เชียงราย แบบไม่รู้อะไรเลย
ต่อเนื่องจากกระทู้นี้
"อยู่ห้องนอนเหงา แบกเป๋าเที่ยว เชียงคำ ภูลังกา เชียงราย คนเดียว Ep.1"
http://pantip.com/topic/34548546
กระทู้นี้เรามาว่ากันต่อหลังจากทานข้าวเช้าที่ เกสต์เฮ้าส์ พี่เจ้าของก็ถามจะมีใคร ขึ้นไปอุทยานไหม เดี๋ยวมีรถมารับ ไปกับนักท่องเที่ยวอื่นๆที่พักอยู่ที่ ภูลังกา รีสอร์ทด้วย ไปด้วยกัน หารค่าเช่ารถกัน จำนวน 10 คน คนละ 160 บาท
แรกๆก็ลังเลค่ะ คิดในในฉันมาดูหมอกที่นี่ก็พอละ กลัวตกรถโดยสารเข้าเชียงราย ที่จะผ่านที่พัก เพียงแค่วันละ 1 รอบเท่านั้น พี่เขาบอก ยังไงก็ทันรถไม่ต้องห่วง “งั้นไปก็ไปวะ ไหนๆก็มาละ ไปให้รู้”
รถมารับเราที่หน้า เกสต์เฮ้าส์ เลยค่ะ เป็นรถกระบะ 4WD มีน้องๆ วัยรุ่นๆอยู่ท้ายกระบะ 5 คน เรานั่งท้ายกระบะด้วย ระยะเวลาจาก เกสต์เฮาส์ ถึง ที่ทำการอุทยานประมาณ 1 ชั่วโมง ค่ะ เส้นทางจากทางหลัก แยกขึ้นอุทยานฯ ถนนเป็นถนนลาดยาง 2 เลนส์สวน ค่อนข้างชัน กระบะที่เรานั่งก็ค่อนข้างเหวี่ยงไปตามโค้ง ถ่ายรูปลำบาก
บรรยากาศระหว่างการขึ้นอุทยาน
ขึ้นมาถึงอุทยานฯ จุดบริการนักท่องเที่ยว รถกระบะให้พวกเราเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย พักกินน้ำ และซื้อน้ำติดตัวให้เรียบร้อย เพราะถ้าขึ้นจากที่นี่ไปถึงเส้นทางเดินป่าแล้ว ไม่มีขายแล้ว
อุทยานภูลังกา ตั้งอยู่ที่ ต.ผาช้างน้อย อ.ปง เป็นภูเขาสูงสุดในเทือกเขาสันปันน้ำเขตแดนไทย-ลาว และยังเป็นต้นกำเนิด แม่น้ำยมด้วยนะคะ
บรรยากาศที่นี่ดีค่ะ เห็นหมอก เห็นเรือนเพาะ ปลูกผักของอุทยาน ของโครงการหลวงด้วย
เจ้าของรถกระบะบอกข้างบนสวยกว่าที่นี่อีก พร้อมแล้วลุย เส้นทางจากจุดบริการนักท่องเที่ยวจนถึง จุดเส้นทางเดินป่า ประมาณ 4 กม.ค่ะ แต่เป็นเส้นทางที่โหด สาหัส มันทรมานมากสำหรับคนอยู่ท้ายกระบะอย่างเรา ถนนเป็นทางลูกรัง ที่มีแต่หลุมบ่อ คดเคี้ยว สูงชัน มากกว่าทางที่เราผ่านก่อนหน้านี้เยอะมาก อยู่ท้ายกระบะ นั่งไม่ได้ค่ะ ไหลตลอด ต้องหาที่ยึดที่เกาะ อวัยวะภายในนี่แทบจะสลับที่อยู่กันเลย
ถึงแล้วค่ะ จุดจอดรถ ขึ้นก็มาเห็นรถจอดก่อนหน้าเราแล้ว 3 คัน ขออยู่นิ่งๆสักพักนะ ขอยาดมป้าหน่อย
ทางเดินขึ้นมาชันค่ะ แต่สนุกนะคะ ค่อยๆเดินไป ดูวิวไป
ถึงสามแยก แยกซ้ายไปยอดภูลังกา แยกขวาไปทางภูนม ชื่อดีค่ะ งั้นเราแยกขวาไปภูนมก่อน ไม่ช่ายยย เราตามเขามาก
จากที่จอดรถ ขึ้นมาที่ยอดภูนม 800 เมตร เองค่ะ แต่เหนื่อยหอบมาก ระหว่างทางเราต้องหยุดพักและพ่นยา เป็นระยะ ถึงเดินต่อไหว
ณ จุด นี้ยอดภูนม ถ่ายรูปกันแบบ 360 องศากันได้เลยค่ะ
ชักภาพหน่อย
เดินย้อนกลับไป ขึ้นยอดภูเทวดา จาก ภูนมไปภูเทวดา พี่เขาบอกประมาณ 1 กม. เราตั้งใจจะไปให้ถึงนะคะ แต่ยาที่เราพกมาหล่นหายไปตอนไหนไม่รู้ งั้นขอจอด สถิตจุดนี้ละกันนะ ไหวแค่ไหนแค่นั้น ไม่เป็นภาระใครด้วย ตัวเราปลอดภัยด้วย ได้ทีสุดของแจ้เท่านี้แหละ
ยอดภูนั่นค่ะ จุดหมาย
เท่านี้สำหรับเรา เราก็ฟินมากเลยค่ะ ไม่ได้ออกมาสัมผัสธรรมชาติแบบนี้มาหลายปี นี่ก็โคตรฟินแล้ววววว
บรรยากาศดีงาม
คณะเราใช้เวลาที่ประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ ระหว่างรอคนอื่นๆ ที่อยู่บนอุทยานฯเราก็ห่วงรถโดยสาร ว่าจะตกรถหรือเปล่า พี่เจ้าของกระบะ ก็บอกว่าไม่น่าทันแล้ว แต่พี่เขาจะไปส่งนักท่องเที่ยว ที่.เชียงคำ เราสามารถติดรถไปด้วยได้ คิดค่าบริการคนละ 100 บาท งั้นก็ตามนั้นค่ะ ไหนๆก็ไม่ทันละ
รถโดยสารจาก อ.เชียงคำ - เชียงราย มีทุกๆ 1 ชั่วโมง เที่ยวสุดท้าย 6 โมงเย็นค่ะ ระหว่างรอรถ หาไรกินก่อนดีกว่า เที่ยงยังไม่ได้กินไรเลย เล็งก๋วยเตี๋ยว ตรงทางเข้า ขนส่งเชียงคำไว้ตั้งแต่เมื่อวานละ วันนี้ขอจัดสักชามนะ ไม่รู้เพราะเราหิวหรือ อร่อย เบิ้ลไป 2 ชาม
อิ่มละก็ขึ้นรถ ตั้งใจว่าจะนั่งชมวิวไปเรื่อยๆ แต่เผลอหลับยาว จากเชียงคำถึงเชียงรายเลยค่ะ ค่าโดยสาร 67 บาท
มาถึงก็มืดละ หกโมงกว่าแล้ว ไม่เจอใครเลยนอกจากน้องคนรับห้อง เก็บของเรียบร้อยแล้ว ไปไหนต่อดีล่ะ
เพื่อนเราแนะนำสถานที่สุดฮิตของเชียงราย “หอนาฬิกา เปลี่ยนสี” คิดในใจ “ฉันมาเชียงรายเพื่อดู หอนาฬิกา เนี่ยเหรอแก” ไม่รู้จะไปไหน งั้นก็ ไปหาไรกินแถว หอนาฬิกา ละกัน
จากที่พักเดินมาประมาณ 15 นาทีถึง หอนาฬิกา “เออว่ะ สวยนะเนี่ย งามแต๊ๆนา” เห็นคนกำลัง selfie กับหอนาฬิกาเยอะแยะเลย แต่ทำไมมันไม่เปลี่ยนสีล่ะ ไหนล่ะเพลง หรือเรามาผิดวัน ขาตั้งกล้องพังเมื่อเช้า ไม่ได้หิ้วมาด้วย อยากจะ selfie ตัวเอง ก็ไม่มั่นหนังหน้าตัวเองเท่าไร งั้นก็ถ่ายแต่หอนาฬิกาละกัน 5555
หอนาฬิกานี้แห่งนี้ออกแบบและสร้างสรรค์โดย อ.เฉลิมชัย ค่ะ
มาเที่ยวทั้งที ต้องหาของพื้นถิ่นกิน เดินมาสักพัก เจอร้านอาหาร เห็นเมนูหน้าร้านเป็นอาหารทางเหนือ แต่เมนูที่สะดุดคือ “ข้าวบาลาบ” เมนูนี้ไม่รู้เคยได้ยิน ฉันต้องลอง ไหนๆก็มาถึงเชียงรายแล้ว จัดไป
มาแล้วค่ะ “ข้าวบาลาบ”
ข้าวสวยราดด้วยลาบคั่วทางเหนือ ฮากับความโก๊ะ ของตัวเอง รสเริ่ด อร่อยดีอยู่นะ กินข้าวเสร็จก็เดินเล่นไปจนถึง ถนนคนม่วน เสร็จก็กลับที่พัก
ละอ่อนน้อย พักที่นี่เน้อ บ้านรับอรุณ
เมื่อวานนี้มาถึงก็มืดละ ไม่เห็นบรรยากาศที่พักเลย ตอนเช้าเลยเดินเล่นรอบๆบ้านค่ะ สำรวจนิดหน่อย
มีโอกาสได้คุยกับ “พี่น้อง” เจ้าของที่นี่ เล่าให้ฟังว่า เดิมทีที่นี่เป็นศุนย์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับทางด้านการแพทย์ อะไรนี่แหละ แล้วพี่เขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์ แต่พอศูนย์เลิกกิจการหรือย้ายอันนี้ไม่แน่ใจ พี่เขาก็เลยขอเช่าบ้านต่อ เพื่อทำเกสต์เฮ้าส์ นี่ก็ผ่านมา 20 กว่าปี ที่เปิดให้บริการ คนที่มาพักส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติค่ะ ค่าที่พักก็ 700 บาท รวมอาหารเช้า แล้วแต่ห้องนะคะ แต่ละห้อง ราคาไม่เท่ากัน เพราะมีแบบห้องน้ำรวม ห้องน้ำส่วนตัวในห้องค่ะ แอร์มีทุกห้อง WiFi มีให้ใช้ ตู้เย็น ทีวี ครบสำหรับเรา
บรรยากาศที่พักภายนอกค่ะ
บรรยากาศภายในบ้าน
อาหารเช้าที่พี่น้องและ ทีมงานทำให้แขกทุกคนที่เข้าเองด้วยตัวเอง
พี่เขาก็ถามว่าเรา มีแผนจะไปเที่ยวไหนที่เชียงราย เราตอบไป unplan ค่ะ ยังไม่รู้เลย กะว่าจะเดินเล่นในเวียง นี่แหละมั้งพี่
พี่เขาก็แนะนำ ถ้ากะจะเที่ยวในเวียงเชียงราย ก็มีรถคล้ายๆ shuttle bus บริการนักท่องเที่ยวนะ เที่ยวรอบเวียง ไปตามวัด
พี่เขาแนะนำอีก วัดร่องขุ่นก็ไม่ไกล ประมาณ 14 กม. ไร่สิงห์ ก็อยู่ใกล้ๆกัน เลยไปอีกหน่อยก็เป็นน้ำตกขุนกรณ์ ตัดสินใจ เช่ามอไซค์ วัดร่องขุ่น เผื่อจะขับเล่นๆในเวียงด้วย
ละอ่อนน้อยมาแล้วเน้อ วัดร่องขุ่น
สวัสดีค่ะ อาจารย์ มารอต้อนรับเราเลยนะ หนูมาหาอาจารย์เพราะความเป็นศิลปะ
วัดร่องขุ่น สวยค่ะ แต่เราคงเป็นโรคจิต ไม่ชอบสถานที่ท่องเที่ยวที่คนเยอะๆ ทัวร์ลงเยอะมาก หาฟังศัพท์ไทยไม่ได้เลย มีแต่นักท่องเที่ยวถ้าเดาไม่ผิด คงจากจีนกันซะส่วนใหญ่ สะพานเขาพระสุเมรูอยู่ไหน ขอเดินผ่านหน่อย ไม่ต้องเดินเองค่ะ ไหลไปตามกระแสคน 55555
พอละ ไม่ไหว ไปต่อดีกว่า ขับรถมาเรื่อยๆ เจอป้ายน้ำตกขุนกรณ์ มุ่งหน้าไปโลด
เลี้ยวผิดแยกนิดเดียว หลงค่ะ ถามแม่อุ๊ยที่กำลังเก็บผักข้างทาง แม่อุ๊ยบอกน้ำตกไม่ได้มาทางนี้ ทางนี้ไปพระธาตุศรีจอมจันทร์ งั้นแวะไหว้ดลยละกัน
[img]http://f.ptcdn.info/417/038/000/nzioxplzzkvEjEI0MH
อยู่ห้องนอนเหงา แบกเป๋าเที่ยว เชียงคำ ภูลังกา เชียงราย คนเดียว Ep.2
ต่อเนื่องจากกระทู้นี้
"อยู่ห้องนอนเหงา แบกเป๋าเที่ยว เชียงคำ ภูลังกา เชียงราย คนเดียว Ep.1"
http://pantip.com/topic/34548546
กระทู้นี้เรามาว่ากันต่อหลังจากทานข้าวเช้าที่ เกสต์เฮ้าส์ พี่เจ้าของก็ถามจะมีใคร ขึ้นไปอุทยานไหม เดี๋ยวมีรถมารับ ไปกับนักท่องเที่ยวอื่นๆที่พักอยู่ที่ ภูลังกา รีสอร์ทด้วย ไปด้วยกัน หารค่าเช่ารถกัน จำนวน 10 คน คนละ 160 บาท
แรกๆก็ลังเลค่ะ คิดในในฉันมาดูหมอกที่นี่ก็พอละ กลัวตกรถโดยสารเข้าเชียงราย ที่จะผ่านที่พัก เพียงแค่วันละ 1 รอบเท่านั้น พี่เขาบอก ยังไงก็ทันรถไม่ต้องห่วง “งั้นไปก็ไปวะ ไหนๆก็มาละ ไปให้รู้”
รถมารับเราที่หน้า เกสต์เฮ้าส์ เลยค่ะ เป็นรถกระบะ 4WD มีน้องๆ วัยรุ่นๆอยู่ท้ายกระบะ 5 คน เรานั่งท้ายกระบะด้วย ระยะเวลาจาก เกสต์เฮาส์ ถึง ที่ทำการอุทยานประมาณ 1 ชั่วโมง ค่ะ เส้นทางจากทางหลัก แยกขึ้นอุทยานฯ ถนนเป็นถนนลาดยาง 2 เลนส์สวน ค่อนข้างชัน กระบะที่เรานั่งก็ค่อนข้างเหวี่ยงไปตามโค้ง ถ่ายรูปลำบาก
ขึ้นมาถึงอุทยานฯ จุดบริการนักท่องเที่ยว รถกระบะให้พวกเราเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย พักกินน้ำ และซื้อน้ำติดตัวให้เรียบร้อย เพราะถ้าขึ้นจากที่นี่ไปถึงเส้นทางเดินป่าแล้ว ไม่มีขายแล้ว
อุทยานภูลังกา ตั้งอยู่ที่ ต.ผาช้างน้อย อ.ปง เป็นภูเขาสูงสุดในเทือกเขาสันปันน้ำเขตแดนไทย-ลาว และยังเป็นต้นกำเนิด แม่น้ำยมด้วยนะคะ
บรรยากาศที่นี่ดีค่ะ เห็นหมอก เห็นเรือนเพาะ ปลูกผักของอุทยาน ของโครงการหลวงด้วย
เจ้าของรถกระบะบอกข้างบนสวยกว่าที่นี่อีก พร้อมแล้วลุย เส้นทางจากจุดบริการนักท่องเที่ยวจนถึง จุดเส้นทางเดินป่า ประมาณ 4 กม.ค่ะ แต่เป็นเส้นทางที่โหด สาหัส มันทรมานมากสำหรับคนอยู่ท้ายกระบะอย่างเรา ถนนเป็นทางลูกรัง ที่มีแต่หลุมบ่อ คดเคี้ยว สูงชัน มากกว่าทางที่เราผ่านก่อนหน้านี้เยอะมาก อยู่ท้ายกระบะ นั่งไม่ได้ค่ะ ไหลตลอด ต้องหาที่ยึดที่เกาะ อวัยวะภายในนี่แทบจะสลับที่อยู่กันเลย
ถึงสามแยก แยกซ้ายไปยอดภูลังกา แยกขวาไปทางภูนม ชื่อดีค่ะ งั้นเราแยกขวาไปภูนมก่อน ไม่ช่ายยย เราตามเขามาก
จากที่จอดรถ ขึ้นมาที่ยอดภูนม 800 เมตร เองค่ะ แต่เหนื่อยหอบมาก ระหว่างทางเราต้องหยุดพักและพ่นยา เป็นระยะ ถึงเดินต่อไหว
เดินย้อนกลับไป ขึ้นยอดภูเทวดา จาก ภูนมไปภูเทวดา พี่เขาบอกประมาณ 1 กม. เราตั้งใจจะไปให้ถึงนะคะ แต่ยาที่เราพกมาหล่นหายไปตอนไหนไม่รู้ งั้นขอจอด สถิตจุดนี้ละกันนะ ไหวแค่ไหนแค่นั้น ไม่เป็นภาระใครด้วย ตัวเราปลอดภัยด้วย ได้ทีสุดของแจ้เท่านี้แหละ
เท่านี้สำหรับเรา เราก็ฟินมากเลยค่ะ ไม่ได้ออกมาสัมผัสธรรมชาติแบบนี้มาหลายปี นี่ก็โคตรฟินแล้ววววว
คณะเราใช้เวลาที่ประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ ระหว่างรอคนอื่นๆ ที่อยู่บนอุทยานฯเราก็ห่วงรถโดยสาร ว่าจะตกรถหรือเปล่า พี่เจ้าของกระบะ ก็บอกว่าไม่น่าทันแล้ว แต่พี่เขาจะไปส่งนักท่องเที่ยว ที่.เชียงคำ เราสามารถติดรถไปด้วยได้ คิดค่าบริการคนละ 100 บาท งั้นก็ตามนั้นค่ะ ไหนๆก็ไม่ทันละ
รถโดยสารจาก อ.เชียงคำ - เชียงราย มีทุกๆ 1 ชั่วโมง เที่ยวสุดท้าย 6 โมงเย็นค่ะ ระหว่างรอรถ หาไรกินก่อนดีกว่า เที่ยงยังไม่ได้กินไรเลย เล็งก๋วยเตี๋ยว ตรงทางเข้า ขนส่งเชียงคำไว้ตั้งแต่เมื่อวานละ วันนี้ขอจัดสักชามนะ ไม่รู้เพราะเราหิวหรือ อร่อย เบิ้ลไป 2 ชาม
มาถึงก็มืดละ หกโมงกว่าแล้ว ไม่เจอใครเลยนอกจากน้องคนรับห้อง เก็บของเรียบร้อยแล้ว ไปไหนต่อดีล่ะ
เพื่อนเราแนะนำสถานที่สุดฮิตของเชียงราย “หอนาฬิกา เปลี่ยนสี” คิดในใจ “ฉันมาเชียงรายเพื่อดู หอนาฬิกา เนี่ยเหรอแก” ไม่รู้จะไปไหน งั้นก็ ไปหาไรกินแถว หอนาฬิกา ละกัน
จากที่พักเดินมาประมาณ 15 นาทีถึง หอนาฬิกา “เออว่ะ สวยนะเนี่ย งามแต๊ๆนา” เห็นคนกำลัง selfie กับหอนาฬิกาเยอะแยะเลย แต่ทำไมมันไม่เปลี่ยนสีล่ะ ไหนล่ะเพลง หรือเรามาผิดวัน ขาตั้งกล้องพังเมื่อเช้า ไม่ได้หิ้วมาด้วย อยากจะ selfie ตัวเอง ก็ไม่มั่นหนังหน้าตัวเองเท่าไร งั้นก็ถ่ายแต่หอนาฬิกาละกัน 5555
มาเที่ยวทั้งที ต้องหาของพื้นถิ่นกิน เดินมาสักพัก เจอร้านอาหาร เห็นเมนูหน้าร้านเป็นอาหารทางเหนือ แต่เมนูที่สะดุดคือ “ข้าวบาลาบ” เมนูนี้ไม่รู้เคยได้ยิน ฉันต้องลอง ไหนๆก็มาถึงเชียงรายแล้ว จัดไป
ข้าวสวยราดด้วยลาบคั่วทางเหนือ ฮากับความโก๊ะ ของตัวเอง รสเริ่ด อร่อยดีอยู่นะ กินข้าวเสร็จก็เดินเล่นไปจนถึง ถนนคนม่วน เสร็จก็กลับที่พัก
เมื่อวานนี้มาถึงก็มืดละ ไม่เห็นบรรยากาศที่พักเลย ตอนเช้าเลยเดินเล่นรอบๆบ้านค่ะ สำรวจนิดหน่อย
มีโอกาสได้คุยกับ “พี่น้อง” เจ้าของที่นี่ เล่าให้ฟังว่า เดิมทีที่นี่เป็นศุนย์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับทางด้านการแพทย์ อะไรนี่แหละ แล้วพี่เขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์ แต่พอศูนย์เลิกกิจการหรือย้ายอันนี้ไม่แน่ใจ พี่เขาก็เลยขอเช่าบ้านต่อ เพื่อทำเกสต์เฮ้าส์ นี่ก็ผ่านมา 20 กว่าปี ที่เปิดให้บริการ คนที่มาพักส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติค่ะ ค่าที่พักก็ 700 บาท รวมอาหารเช้า แล้วแต่ห้องนะคะ แต่ละห้อง ราคาไม่เท่ากัน เพราะมีแบบห้องน้ำรวม ห้องน้ำส่วนตัวในห้องค่ะ แอร์มีทุกห้อง WiFi มีให้ใช้ ตู้เย็น ทีวี ครบสำหรับเรา
พี่เขาก็ถามว่าเรา มีแผนจะไปเที่ยวไหนที่เชียงราย เราตอบไป unplan ค่ะ ยังไม่รู้เลย กะว่าจะเดินเล่นในเวียง นี่แหละมั้งพี่
พี่เขาก็แนะนำ ถ้ากะจะเที่ยวในเวียงเชียงราย ก็มีรถคล้ายๆ shuttle bus บริการนักท่องเที่ยวนะ เที่ยวรอบเวียง ไปตามวัด
พี่เขาแนะนำอีก วัดร่องขุ่นก็ไม่ไกล ประมาณ 14 กม. ไร่สิงห์ ก็อยู่ใกล้ๆกัน เลยไปอีกหน่อยก็เป็นน้ำตกขุนกรณ์ ตัดสินใจ เช่ามอไซค์ วัดร่องขุ่น เผื่อจะขับเล่นๆในเวียงด้วย
วัดร่องขุ่น สวยค่ะ แต่เราคงเป็นโรคจิต ไม่ชอบสถานที่ท่องเที่ยวที่คนเยอะๆ ทัวร์ลงเยอะมาก หาฟังศัพท์ไทยไม่ได้เลย มีแต่นักท่องเที่ยวถ้าเดาไม่ผิด คงจากจีนกันซะส่วนใหญ่ สะพานเขาพระสุเมรูอยู่ไหน ขอเดินผ่านหน่อย ไม่ต้องเดินเองค่ะ ไหลไปตามกระแสคน 55555
พอละ ไม่ไหว ไปต่อดีกว่า ขับรถมาเรื่อยๆ เจอป้ายน้ำตกขุนกรณ์ มุ่งหน้าไปโลด
เลี้ยวผิดแยกนิดเดียว หลงค่ะ ถามแม่อุ๊ยที่กำลังเก็บผักข้างทาง แม่อุ๊ยบอกน้ำตกไม่ได้มาทางนี้ ทางนี้ไปพระธาตุศรีจอมจันทร์ งั้นแวะไหว้ดลยละกัน