Trip ตะลุยขุนเขา ตอนที่ 2 - ถ้าลอด บางมะผ้า แม่ฮ่องสอน พร้อมรีวิว Little Eden Guesthouse

กระทู้นี้ เป็นตอนที่ 2  ต่อจากไปแวะเยือนห้วยน้ำดัง หลังจากที่เราสองคนชมทะเลหมอกกันจนอิ่มหนำสำราญ ภาพความงดงามนั้นยังคงติดตาตรึงใจ หากมีโอกาสคงได้มาอีกเป็นแน่แท้  จุดหมายต่อไปของพวกเรา คือ ถ้ำลอด บางมะผ้า  ซึ่งเป็นถ้ำที่ได้ยินมาว่า งดงามยิ่งนัก บางทีเรียกอีกชื่อว่าถ้ำปลา อย่างนี้ต้องไปพิสูจน์ให้ได้ว่า จะงดงาม และมีปลามากมายมหาศาลขนาดไหน

ออกจากห้วยน้ำดัง ขับปาเจโร่คู่ใจ ผ่านไปตามเส้นทางมุ่งสู่บางมะผ้า  (ไอ้เรา ก็เรียก บางปลาม้า มาตั้งนาน ) ซึ่งจะผ่านเมืองปายด้วย แต่ก็ไม่ได้แวะ เพราะปีที่แล้วมาเยือนไปแล้ว ปีนี้เลยดิ่งไปถ้ำลอดโดยตรงเลย แต่เนื่องบนห้วยน้ำดัง อากาศหนาวมาก ประมาณ 10 องศาเซลเซียส เราเลยไม่ได้อาบน้ำกันเรย จึงขอตั้งพิกัดไปที่ Check in เข้าที่พักก่อน ที่ Little Eden Guesthoues

ที่พักนี้ห่างจากห้วยน้ำดังเพียง 70.4 กิโลเมตร แต่ขับรถเกือบสองชั่วโมง ด้วยไม่คุ้นชินเส้นทาง และทางโค้งเยอะมาก ทั้งหักศอก ถนนพับไปพับมา เส้นทางมีเสียวเป็นระยะ  (สังเกต แผนที่นิดนึง ตรงกลางเมืองปาย จะมีถนนเลี่ยงเมืองปายด้วยนะคะ ถ้าไม่ได้คิดจะเข้าในตัวเมืองปาย ก็ให้วิ่งเลี่ยงเมืองนะคะ จะทำเวลาได้ดีขึ้น ขาไปขับเลย เข้าเมือง แต่ขากลับวิ่งเลี่ยงเมือง เร็วขึ้นเยอะเลยค่ะ)




เส้นทางโค้งไปมา  ช่วงไต่ระดับขึ้น มีเสียว แต่ถนนค่อนข้างกว้างวิ่งสบาย ๆ วิวทิวทัศน์สวยมั่ก มั่ก



วิ่งมาเรื่อย ๆ เจอจุดชมวิวกิ่วลม วิวสวยได้ใจเลย มีร้านกาแฟ ร้านขายพวกมันปิ้ง ข้าวโพดปิ้ง ร้านขายของที่ระลึกโดยชาวเขา ห้องน้ำบริการ แต่เสียตังค์ 5 บาท จ้า


แวะซักนิด ชีวิตแจ่มใส วิ่งแบบหวิว ๆ มาหลายกิโล ผ่อนคลายกันหน่อย


บนนี้มีบริการชิงช้าสวรรค์โดยใช้กำลังคนหมุนด้วย เล่นได้ทีละ 4 คน เป็นของเล่นอย่างหนึ่งของชาวเขาอ่ะคะ


บนนี้จะมีเด็ก ๆ ชาวเขาเข้ามารุมหน้าหลัง ซ้ายขวา ขอให้ถ่ายรูปด้วย โดยเค้าจะบอกว่า ให้เท่าไหร่ก็ได้ อิอิ ก็นิดนุงนะ ให้เด็ก ๆ ถ้าไม่ถ่ายด้วย เค้าจะตามคุณไปทุกที่ จนคุณขึ้นรถเลยแระ


ชมวิวจนสำราญพอแระ ออกเดินทางต่อดีกว่า เจอป้ายมุ่งสู่ถ้ำลอด มาถูกเส้นทางแน่นอน


ระหว่างเส้นทางไป มีบางช่วงเป็นโค้งอันตรายมาก จนต้องทาสีถนนเป็นสีแดง เพื่อเตือนให้ระวัง


ขับไปเรื่อย ๆ เราก็มาถึงแล้ว Little Eden Guesthouse ที่พักของเราคืนนี้ ทางเข้าที่จอดรถจะแคบนิด ๆ ที่จอดรถมีไม่เยอะมากนัก เราเลือกพักที่นี่ เพราะอยู่ไม่ห่างจากถ้ำลอดมากนัก ขับรถไม่ถึง 20 นาที และที่สำคัญ เราอยากอาบน้ำแว้ววว นอนเต็นท์นี่อาบไม่ได้จริง ๆ น้ำเย็นมากกกก


ไป  Check in กันค่ะ


เคาท์เตอร์ตกแต่งออกแนวตะวันตก มีเตาผิงด้วย เท่าที่สังเกต ที่นี่ชาวต่างชาติมาพักค่อนข้างเยอะ ตอนที่ไปเจอคนไทย แค่สองคนเอง นอกนั้นเป็นชาวต่างชาติที่มาเที่ยวถ้ำลอดกัน


ได้กุญแจมาแว้ว ห้องพักนี้ เราจองผ่าน Booking.com  ราคาคืนละ 1,500 บาท ไม่รวมอาหารเช้านะคะ ถ้ารับอาหารด้วยเพิ่มคนละ 130 บาท ห้องนี้เป็นห้องที่ดีที่สุด และสวยที่สุดของที่พักแห่งนี้เรยนะคะ อยู่ติดริมแม่น้ำด้วย เหมาะกับการนอนพักผ่อนมาก อากาศดี นอนพัก ได้ยินเสียงน้ำไหล  ใครสนใจ แนะนำห้องนี้เลยค่ะ ฟินสุด ๆ


ไปชมห้องพักกันเลยค่ะ ชมทางเข้าห้อง ต้นไม้เยอะมากกก


เปิดประตูเข้าไปเจอสิ่งนี้


ห้องน้ำกว้างขวาง เป็นฝักบัว ไม่มีอ่างอาบน้ำ มีชักโครก แต่ไม่มีสายชำระ  (ถ้าติดเพิ่มจะดีมากเลย แบบว่าติดสายชำระไง)


ส่วนที่นอน มีโซฟา มีระเบียงนั่งชมวิวสบาย ๆ กระจกแผ่นใหญ่ทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่งที่อยู่ในห้องนี้





ตรงทางเข้าห้องมีพื้นที่ให้ออกไปนอนเล่นได้สบาย ๆ มีเปลให้นอนด้วย ตรงนี้เป็นพื้นที่สาธารณะนะคะ


ลองดูบริเวณรอบ ๆ มีสระว่ายน้ำด้วย เป็นสระขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มาก  แต่อากาศเย็นขนาดนี้เราก็คิดว่า ใครจะว่าย แต่ก็มีชาวต่างชาติมาว่ายน้ำเล่นด้วยอ่ะ  ส่วนเราคงต้องขอตัว


ที่นี่จัดสวนได้สวยงาม ต้นไม้เพียบเรย สมชื่อเค้าจริง ๆ


มีห้องพักแบบอื่น ๆ ด้วย แอบไปถ่ายมาให้ชม ห้องนี้เป็นเหมือนบังกะโล ห้องค่อนข้างเล็ก มี 2 เตียง เป็นห้องพัดลม มีห้องน้ำในตัวด้วย ราคาราว 600 บาท



อาหารเช้า เราจ่ายเพิ่ม คนล่ะ 130  บาท ปกติราคา 140  บาท เราคิดว่ามาสั่งที่ร้านก็ได้นะคะ เพราะอาหารเช้าเค้ามีหลากหลาย เช่น ข้าวต้ม ที่อร่อยเลยทีเดียว ไม่จำเป็นต้องสั่งมาล่วงหน้า


หลังจากเรา Check in ที่พัก บ่าย ๆ เราก็ขับรถออกจากที่พักเพื่อไปถ้าลอด ซึ่งอยู่ไกลออกไปจากที่พักประมาณ 8.2 กิโล ใช้เวลาขับรถประมาณ 20 นาที ระยะไม่ไกลมาก แต่ไปได้ช้า เพราะถนนที่เข้าสู่พื้นที่บริเวณถ้ำลอด ค่อนข้างแคบ และผ่านหมู่บ้าน ซึ่งก็มี Guest House ให้บริการแก่ชาวต่างชาติตลอดเส้นทาง ก่อนจะถึงถ้ำลอดก็แวะทานอาหารเที่ยงนิดนุง หิวแว้ว พอดีเป็นทางที่จะผ่านไปทางถ้ำลอดอยู่แล้ว


บรรยากาศสบาย ๆ  อาหารร้านนี้มีหลายอย่าง ลาบ ส้มตำ น้ำตก อาหารฝรั่งก็มีนะ


อิ่มแล้วก็ลุยต่อ ขับไปเรื่อย ๆ ตามทาง มีป้ายบอก ไม่ต้องกลัวหลงเรย ในที่สุดเราก็มาถึง


ไปติดต่อเช่าแพ และจ่ายค่าคนนำทาง เราจ่ายไป  550  บาท (ราคาอาจค่อนข้างสูงไปนิด โดยราคานี้จะเป็นค่าคนนำทาง ค่าเช่าแพ ซึ่งนั่งได้สูงสุด 4 คน และค่าเข้าอุทยาน เรามากันสองคนก็จ่ายราคานี้ เพราะหาใครมาหารด้วยไม่ได้ แต่ถ้าจับกลุ่ม 4 คน ก็มาลงแพลำเดียวกันได้)


ดูกฎ ระเบียบการเเข้าชมหน่อย


ลองดูบริเวณรอบ ๆ ระหว่างเดินไปถ้าลอด ที่นี่จะเป็นอุทยานด้วย มีพื้นที่กางเต็นท์ ใครเอาเต็นท์มาก็นำมากางได้เรย


เจอป้าย เดินไปถูกแน่ ๆ


แต่จริง ๆ ไม่ต้องกลัวหลงทางเรย หลังจากจ่ายตังค์ จะมีไกด์พื้นที่มานำทางพาเราไปยังแพ และพาชมถ้าด้วย คนถือตะเกียงเป็นไกด์ให้พวกเรา เป็นชาวบ้านที่พักอาศัยในบริเวณนี้ ซึ่งไกด์แถวนี้ก็จะมีหลากหลายวัย ทั้งวัยรุ่น กลางคน จนถึงอายุระดับลุงป้าเรย



เดินมาไม่ไกลมากนัก ก็ถึงปากเข้าถ้ำลอด หรือ อาจเรียก ถ้ำน้ำลอด เพราะปากถ้า มีลำธารที่ลอดผ่านถ้ำ จากหน้าถัำ ไหลไปออกอีกด้านนึงของถ้ำ


ชาวบ้านต่อแพ จอดเรียงราย เพื่อรอรับลูกค้า ส่วนใหญ่คนที่ถ่อแพจะดูแข็งแรงมาก เพราะขาออกจากถ้ำ จะต้องเดินลากแพออกมาทางหน้าถ้า ถ่อไม่ไหว เพราะสวนกระแสน้ำ


เตรียมตัวลงแพ หนึ่งแพ จะนั่งได้มากสุด 4 คน


ระหว่างทางที่นั่งแพไม้ไผ่เข้าไป ก็จะมีแพอื่น ๆ สวนออกมา ดูนั่งกันสบาย ๆ  


ภายในถ้ำจะค่อนข้างมืด ไกด์จะหิ้วตะเกียงจ้าวพายุมาด้วย ส่วนเราก็พกไฟฉายเข้าไปด้วย จะได้ส่องดูความงามของถ้ำตามที่เราต้องการ


ถ้ำนี้มีปลาเยอะมาก จนบางทีเรียกว่า ถ้าปลา ส่วนใหญ่เป็นปลาพลวง รองลงมาเป็นปลาดุก ปลาแต่ละตัวมีขนาดใหญ่มาก และเชื่องมาก มันจะว่ายตามแพของเราเลยอ่ะ เพราะมันรู้ว่า มันจะได้อาหารกิน


เรานั่งแพไปซักระยะนึง หลังจากเพลิดเพลินกับการให้อาหารปลา ก็จะต้องลงไปเดินชมถ้ำ

มีป้ายอธิบายเป็นระยะ


ภายในมีหินรูปร่างแปลก ๆ  คนนำทาง จะคอยชี้ชวนให้ดูหินรูปร่างต่าง ๆ


หินเหมือนน้ำตก

หินเหมือนพระพุทธรูป


ที่นี่จะมีถ้ำอยู่หลายถ้ำ เดินขึ้นลงกันจนเมื่อยเลยแระ ที่นี่ชาวบ้านจะทำทางเดินและที่เกาะไว้บ้าง เวลาขึ้นที่สูง แต่ก็ยังต้องระวังเวลาปีนป่าย


บริเวณนี้เป็นสวนท้ายถ้ำ ที่น้ำไหลออก ชาวบ้านจะทำฝายเล็ก ๆ เพื่อกั้นน้ำบางส่วนไว้ในถ้ำ และกั้นไม่ให้ปลาออกไปด้วย ที่นี่ก็จะมีปลาเยอะมาก



บริเวณท้ายถ้ำ แพจะพาเรามายังถ้าส่วนสุดท้าย ชื่อถ้าผีแมน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ชาวถ้ำในยุคก่อนใช้เก็บโลงบรรจุศพ ซึ่งมีลักษณะเหมือนเรือ
โดยถ้ำนี้จะมีนกและค้างคาวอาศัยอยู่มาก บริเวณรอบ ๆ จึงเต็มด้วยขี้นก ไม่เหมาะสำหรับคนแพ้ฝุ่นนกค่ะ

หลังจากชมถ้าสุดท้าย เราก็นั่งแพออกมา แล้วกลับที่พัก เพื่อเตรียมตัวไปดอยตุงต่อ ในวันรุ่งขึ้น

ตอนที่ 1 Trip ตะลุยขุนเขา ห้วยน้ำดัง-ถ้าลอด บางมะผ้า แม่ฮ่องสอน- ดอยตุง - ดอยช้างมูบ- แม่สาย 8-12 ธค 58http://pantip.com/topic/3455599
ตอนที่ 3 - รีวิวดอยตุงวิว รีสอร์ท เชียงราย - http://pantip.com/topic/34620718
ตอนที่ 4 - เยี่ยมชมดอยตุง - http://pantip.com/topic/34620992
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่