สวัสดีค่ะ
เราก็เป็นคนที่มีความฝันเหมือนคนอื่นๆ และค่อยๆ พยายามไล่ตามความฝันของตัวเองทีละฝันๆ
จนมาถึงความฝันสุดท้ายที่ยังไม่พร้อมจะทำสักที จนกระทั่งเริ่มอายุมากขึ้น จำเป็นต้องหักดิบ
รีบกลับบ้านมาทำตามความฝันในตอนที่ร่างกายยังสู้ไหวค่ะ
เห็นรีวิวหรือรีโนเวทมาตลอดและแอบชื่นชมเงียบๆ วันนี้มีโอกาสได้โพสบ้าง เชิญติดตามกันได้เลยค่ะ
เราเป็นคนต่างจังหวัดค่ะ ทำงานในกรุงมาตั้งแต่เรียนจบนับเป็นสิบปี
ใช้ชีวิตเร่งรีบจนมาเห็นวิถีชีวิตของเมือง...น่าน เนิบเนิบ แล้วก็ชักจะติดใจความสโลวไลฟ์
คือ...เราปลูกบ้านที่ จ.น่าน มายี่สิบกว่าปีแล้วค่ะ แต่เราเติบโตและเรียนที่ จ.แพร่
การมาทำธุรกิจในจังหวัดที่ไม่ค่อยมีเพื่อนและคนรู้จัก ก็ถือว่าเป็นเรื่องลำบากมากทีเดียว
ตอนที่เริ่มจะทำร้านดูไว้หลายทางเลือกมาก ทั้งซื้อตึก ซื้อที่ เช่าตึก เช่าบ้าน
แต่ด้วยงบประมาณและหลายๆสิ่ง หลายๆ อย่าง จนมาสรุปจบลงที่ทำร้านในรั้วบ้านนี่แหละ
ซึ่งง่าย สะดวก แต่จะหนักและลำบากในการทำร้านให้เป็นที่รู้จักและการเป็นที่จดจำค่ะ
โชคดีเหมือนกันที่บ้านค่อนข้างมีบริเวณ คุยกับพ่อแม่แล้วก็ตัดสินใจใช้โรงรถเดิม ก่อสร้างขึ้นป็นร้าน
ซึ่งเราก็มีแบบอยู่ในใจนานแล้วว่าอยากทำแบบนี้
ซึ่งพอได้ใช้โรงรถจริงๆ มันก็สามารถจะทำภาพอย่างที่หวังเกิดขึ้นได้
ขอบคุณภาพสวยๆ จาก Pinterest ค่ะ
เราเริ่มต้นคุยและเตรียมช่วงต้นปีนี้ค่ะ จากโรงรถโล่งๆ ก็เริ่มก่อสร้าง
โดยคุณแม่ให้ช่างมาเจาะรั้วข้างบ้านทำประตูบ้านใหม่และทำโรงรถแห่งใหม่
จากนั้นก็เริ่มทำฟ้าเพดาน โดยเลือกใช้แผ่นฝ้าเพดานลายไม้
หลังจากนั้นก็พักไปยาวมาก สล่า(ช่าง) ไม่ว่าง
กลับบ้านอีกครั้งช่วงสงกรานต์ก็ยังมีแต่ฝ้าเพดานอยู่ค่ะ ฮ่าๆ
เริ่มมาทำผนังในช่วงเดือนมิ.ย. โดยช่างวางโครงเหล็กก่อนจะก่อ ใช้วิธีก่ออิฐโชว์แนวค่ะ
ขณะที่ก่อกันอยู่นั้นช่างไฟก็เข้ามาเดินสาย เจาะฝ้าเพดานสำหรับติดไฟ
งานก่อสร้างดูเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่ใช้เวลานานทีเดียวค่ะ
สล่าเป็นสล่าที่สร้างบ้านให้เราเอง ใจเย็น ทำงานละเอียดมากๆ ค่ะ ถือว่าฝีมือไว้ใจกันได้
ในที่สุดก็เสร็จค่ะ เก็บงานแล้วก็เตรียมทาสี
ลุ้นเหมือนกันค่ะ ว่าทาสีแล้วจะเป็นไง...
...แต่เราไม่คิดว่าพอทาสีออกมาแล้วอารมณ์ที่ได้คนละเรื่องเลยค่ะ
[SR] รีวิว เปลี่ยนโรงรถให้เป็นร้านค้า ถึงเวลาทำตามความฝัน เมื่อสาวแก่ไม่หวาน...เปิดร้านดอกไม้ในเมืองน่าน
เราก็เป็นคนที่มีความฝันเหมือนคนอื่นๆ และค่อยๆ พยายามไล่ตามความฝันของตัวเองทีละฝันๆ
จนมาถึงความฝันสุดท้ายที่ยังไม่พร้อมจะทำสักที จนกระทั่งเริ่มอายุมากขึ้น จำเป็นต้องหักดิบ
รีบกลับบ้านมาทำตามความฝันในตอนที่ร่างกายยังสู้ไหวค่ะ
เห็นรีวิวหรือรีโนเวทมาตลอดและแอบชื่นชมเงียบๆ วันนี้มีโอกาสได้โพสบ้าง เชิญติดตามกันได้เลยค่ะ
เราเป็นคนต่างจังหวัดค่ะ ทำงานในกรุงมาตั้งแต่เรียนจบนับเป็นสิบปี
ใช้ชีวิตเร่งรีบจนมาเห็นวิถีชีวิตของเมือง...น่าน เนิบเนิบ แล้วก็ชักจะติดใจความสโลวไลฟ์
คือ...เราปลูกบ้านที่ จ.น่าน มายี่สิบกว่าปีแล้วค่ะ แต่เราเติบโตและเรียนที่ จ.แพร่
การมาทำธุรกิจในจังหวัดที่ไม่ค่อยมีเพื่อนและคนรู้จัก ก็ถือว่าเป็นเรื่องลำบากมากทีเดียว
ตอนที่เริ่มจะทำร้านดูไว้หลายทางเลือกมาก ทั้งซื้อตึก ซื้อที่ เช่าตึก เช่าบ้าน
แต่ด้วยงบประมาณและหลายๆสิ่ง หลายๆ อย่าง จนมาสรุปจบลงที่ทำร้านในรั้วบ้านนี่แหละ
ซึ่งง่าย สะดวก แต่จะหนักและลำบากในการทำร้านให้เป็นที่รู้จักและการเป็นที่จดจำค่ะ
โชคดีเหมือนกันที่บ้านค่อนข้างมีบริเวณ คุยกับพ่อแม่แล้วก็ตัดสินใจใช้โรงรถเดิม ก่อสร้างขึ้นป็นร้าน
ซึ่งเราก็มีแบบอยู่ในใจนานแล้วว่าอยากทำแบบนี้
ซึ่งพอได้ใช้โรงรถจริงๆ มันก็สามารถจะทำภาพอย่างที่หวังเกิดขึ้นได้
ขอบคุณภาพสวยๆ จาก Pinterest ค่ะ
เราเริ่มต้นคุยและเตรียมช่วงต้นปีนี้ค่ะ จากโรงรถโล่งๆ ก็เริ่มก่อสร้าง
โดยคุณแม่ให้ช่างมาเจาะรั้วข้างบ้านทำประตูบ้านใหม่และทำโรงรถแห่งใหม่
จากนั้นก็เริ่มทำฟ้าเพดาน โดยเลือกใช้แผ่นฝ้าเพดานลายไม้
หลังจากนั้นก็พักไปยาวมาก สล่า(ช่าง) ไม่ว่าง
กลับบ้านอีกครั้งช่วงสงกรานต์ก็ยังมีแต่ฝ้าเพดานอยู่ค่ะ ฮ่าๆ
เริ่มมาทำผนังในช่วงเดือนมิ.ย. โดยช่างวางโครงเหล็กก่อนจะก่อ ใช้วิธีก่ออิฐโชว์แนวค่ะ
ขณะที่ก่อกันอยู่นั้นช่างไฟก็เข้ามาเดินสาย เจาะฝ้าเพดานสำหรับติดไฟ
งานก่อสร้างดูเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่ใช้เวลานานทีเดียวค่ะ
สล่าเป็นสล่าที่สร้างบ้านให้เราเอง ใจเย็น ทำงานละเอียดมากๆ ค่ะ ถือว่าฝีมือไว้ใจกันได้
ในที่สุดก็เสร็จค่ะ เก็บงานแล้วก็เตรียมทาสี
ลุ้นเหมือนกันค่ะ ว่าทาสีแล้วจะเป็นไง...
...แต่เราไม่คิดว่าพอทาสีออกมาแล้วอารมณ์ที่ได้คนละเรื่องเลยค่ะ