วันแรกเดินทาง
http://pantip.com/topic/34134162#!
วันที่สอง ณ ซะคะตะ
http://pantip.com/topic/34159136#!
วันที่สามที่ทซึรุโอกะ
http://pantip.com/topic/34283994
วันที่สี่อยู่ที่ทซึรุโอกะ
http://pantip.com/topic/34297225
วันที่ห้า อ้า Akihabara
http://pantip.com/topic/34320849
วันที่หก ก็ที่Asakusa Shinjuku
http://pantip.com/topic/34347772
วันที่เจ็ด Shibuya
http://pantip.com/topic/34364310
วันที่แปด Hirosaki & Aomori
http://pantip.com/topic/34402819
วันที่เก้า Yamadera , Hiraizumi
http://pantip.com/topic/34431134
Chill สำหรับวันนี้ ไม่ต้องรีบตื่น ตื่นมาก็ไปนั่งทานอาหารบุฟเฟ่ท์ของโรงแรม นั่งคุยสนุกสนานเพลิดเพลินเจริญใจ ประมาณ 10.30 น.ก็ Check out ที่แสนง่าย รวดเร็ว เพียงแต่คืนคีย์การ์ด แล้วก็ Sayounara เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เดินซื้อขนมที่หมายตาเอาไว้เมื่อวาน และเดินเก็บตกเพื่อมีอะไรอยากได้เพิ่มเติม ในงานมีร้านหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะมาจากSakata เพราะเห็นเป็นผัก(ผักอะไรก็ไม่รู้)ห่อด้วยปลาฝอยๆเสียบด้วยไม้ เวลาเคี้ยวจะหอมหวานอร่อยมาก เหมือนกับที่เราเคยซื้อกินตอนไปซะคะตะ แต่ก็ไม่มีขนมอีกอย่างที่ชอบมาก (ข้าวเหนียวปันราดด้วยถั่วสีเขียวๆ)แอบ เสียดาย เสร็จก็ตรงไปที่ชานชาลาที่ 13 เพื่อนั่งเจ้า
Shinkansen Komachi พอถึงเวลา 12.30 น.มันก็พาเราพุ่งทะยานพาเราออกจากเซนได
Sendai ...... ลาที แต่ ไม่ลาจาก แล้วจะแวะกลับมาเที่ยวใหม่
Shin. Komachi (ภาพจากกูเกิ้ล)
*Shinkansen Komachi เริ่มวิ่งครั้งแรกเมื่อ 22 มีนาคม 1997
สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง *
การเดินทางออกจากเซนไดครั้งนี้ เราได้เจอกับกลุ่มสาว(น้อย)ๆๆชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งกลุ่มเล็กๆและกลุ่มใหญ่ๆ 3 คนบ้าง 4 คนหรือ 8 คนบ้าง และแต่ละคนจะมีกระเป๋าลากใบเล็ก กระติกน้ำประจำตัว แต่งกายดูดี บ้างก็สวมหมวก แต่ ..............มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไม่มี นั่นก็คือ
ไม่มีลูกหลานหรือคนรับใช้คอยติดตามดูแล ถ้ามากลุ่มใหญ่ก็จะมีการปรับเบาะนั่งให้หันหน้าเข้าหากัน ฟังจากเสียงพูดคุยประกอบกับสีหน้าท่าทาง ทุกคนดูมีความสุขมากๆ หน้าตาอิ่มเอิบผ่องใส
ถึงสถานีTokyo ก็ต้องเปลี่ยนเป็นนั่ง...... ใช่แล้ว Jr.Yamanote เราลงไปฝากกระเป๋าลากที่สถานี Hamamatsucho ที่ต้องมาฝากกระเป๋าสถานีนี้ก็เพราะ ....... เป็นสถานีต้นทางของรถที่จะพาเราเข้าไปถึงที่สนามบินฮาเนดะ..Tokyo Monorail ที่นี่เป็นสถานีใหญ่อีกแห่ง มีล็อกเกอร์รับฝากกระเป๋ามากมายหลายจุด หลายจุดล็อกเกอร์ขนาดใหญ่ก็เต็มๆๆ แต่ โชคก็เข้าข้าง เหลือบไปเห็นล็อกเกอร์จุดที่อยู่ใกล้ทางเข้าโมโนเรล มีคนกำลังไขประตูหยิบของออก มันเป็นขนาดที่เราต้องการพอดี
อย่าลืมถ่ายรูป เผื่อหาไม่เจอ
จัดการกระเป๋าเรียบร้อย เราก็เดินแบกเป้ไปเดินเที่ยวต่อที่Shibuya เดินได้ไม่นาน คุณนายที่รักก็บอกว่าไปสนามบินดีกว่า เธอเป็นห่วงเราแบกเป้หนัก กลัวเดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหว (ใจไหวอยู่นะ) หัวใจพองโต โต โต โต
เราเลยมาถึงที่สนามบินฮาเนดะตั้งแต่ยังไม่ 2 ทุ่ม เดินดูของร้านค้าในสนามบินก็ได้
เมื่อขึ้นไปชั้น4 จะพบว่ามีการต่อเติมเป็นรูปแบบ
หมู่บ้านสไตล์ Edo มันเป็นสิ่งที่แปลกที่องค์ประกอบทั้งหมดถูกสร้างได้อย่างดีภายในตัวอาคาร บ้านในหมู่บ้านมีภัตตาคารอาหารขายตั้งแต่ ราเมน ไปถึง ซูชิ รวมถึงอาหารยุโรปและอาหารจีน อีกทั้งร้านขายของฝากและร้านเสื้อผ้ายังตกแต่งเลียนแบบ Edo โบราณ รวมทั้งมีร้าน Royce ‘ Chocolate ที่เราชอบอีกด้วย การที่จะซื้อกลับบ้านนั้น เราต้องบรรจุใส่ถุงเก็บความเย็น ไม่อย่างนั้นช็อคโกเล็ตมันจะละลายเละๆๆ เลยตัดสินใจเดินเข้าไปข้างในสนามบินก่อน ดีกว่าแล้วค่อยเดินหาซื้อทีหลัง
บรรยากาศหมู่บ้านสไตล์ Edo ที่ชั้น 4 (ภาพจากกูเกิ้ล)
ร้าน Royce (ภาพจากกูเกิ้ล)
Check- in และโหลดกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อย เราก็เดินเข้าไปด้านใน จัด
Royce ‘ Chocclate ตามที่ตั้งใจไว้ เผื่อใครจะซื้อ ขอบอกทางร้านก็มีข้อกำหนดให้ซื้อได้ไม่เกินคนละ 10 กล่อง
เดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่นด้วยเที่ยวบิน NH-0849 เมื่อเวลา 00.25 น และเดินทางมาถึงแผ่นดินเกิดโดยสวัสดิภาพ เวลา 05.00 น.
[CR] แบกเป้เที่ยวโตเกียว,โตโฮกุและเซนได จำนวน 11 วัน/10
วันที่สอง ณ ซะคะตะ http://pantip.com/topic/34159136#!
วันที่สามที่ทซึรุโอกะ http://pantip.com/topic/34283994
วันที่สี่อยู่ที่ทซึรุโอกะ http://pantip.com/topic/34297225
วันที่ห้า อ้า Akihabara http://pantip.com/topic/34320849
วันที่หก ก็ที่Asakusa Shinjuku http://pantip.com/topic/34347772
วันที่เจ็ด Shibuya http://pantip.com/topic/34364310
วันที่แปด Hirosaki & Aomori http://pantip.com/topic/34402819
วันที่เก้า Yamadera , Hiraizumi http://pantip.com/topic/34431134
Chill สำหรับวันนี้ ไม่ต้องรีบตื่น ตื่นมาก็ไปนั่งทานอาหารบุฟเฟ่ท์ของโรงแรม นั่งคุยสนุกสนานเพลิดเพลินเจริญใจ ประมาณ 10.30 น.ก็ Check out ที่แสนง่าย รวดเร็ว เพียงแต่คืนคีย์การ์ด แล้วก็ Sayounara เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เดินซื้อขนมที่หมายตาเอาไว้เมื่อวาน และเดินเก็บตกเพื่อมีอะไรอยากได้เพิ่มเติม ในงานมีร้านหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะมาจากSakata เพราะเห็นเป็นผัก(ผักอะไรก็ไม่รู้)ห่อด้วยปลาฝอยๆเสียบด้วยไม้ เวลาเคี้ยวจะหอมหวานอร่อยมาก เหมือนกับที่เราเคยซื้อกินตอนไปซะคะตะ แต่ก็ไม่มีขนมอีกอย่างที่ชอบมาก (ข้าวเหนียวปันราดด้วยถั่วสีเขียวๆ)แอบ เสียดาย เสร็จก็ตรงไปที่ชานชาลาที่ 13 เพื่อนั่งเจ้า Shinkansen Komachi พอถึงเวลา 12.30 น.มันก็พาเราพุ่งทะยานพาเราออกจากเซนได
สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง *
การเดินทางออกจากเซนไดครั้งนี้ เราได้เจอกับกลุ่มสาว(น้อย)ๆๆชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งกลุ่มเล็กๆและกลุ่มใหญ่ๆ 3 คนบ้าง 4 คนหรือ 8 คนบ้าง และแต่ละคนจะมีกระเป๋าลากใบเล็ก กระติกน้ำประจำตัว แต่งกายดูดี บ้างก็สวมหมวก แต่ ..............มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไม่มี นั่นก็คือ ไม่มีลูกหลานหรือคนรับใช้คอยติดตามดูแล ถ้ามากลุ่มใหญ่ก็จะมีการปรับเบาะนั่งให้หันหน้าเข้าหากัน ฟังจากเสียงพูดคุยประกอบกับสีหน้าท่าทาง ทุกคนดูมีความสุขมากๆ หน้าตาอิ่มเอิบผ่องใส
ถึงสถานีTokyo ก็ต้องเปลี่ยนเป็นนั่ง...... ใช่แล้ว Jr.Yamanote เราลงไปฝากกระเป๋าลากที่สถานี Hamamatsucho ที่ต้องมาฝากกระเป๋าสถานีนี้ก็เพราะ ....... เป็นสถานีต้นทางของรถที่จะพาเราเข้าไปถึงที่สนามบินฮาเนดะ..Tokyo Monorail ที่นี่เป็นสถานีใหญ่อีกแห่ง มีล็อกเกอร์รับฝากกระเป๋ามากมายหลายจุด หลายจุดล็อกเกอร์ขนาดใหญ่ก็เต็มๆๆ แต่ โชคก็เข้าข้าง เหลือบไปเห็นล็อกเกอร์จุดที่อยู่ใกล้ทางเข้าโมโนเรล มีคนกำลังไขประตูหยิบของออก มันเป็นขนาดที่เราต้องการพอดี
จัดการกระเป๋าเรียบร้อย เราก็เดินแบกเป้ไปเดินเที่ยวต่อที่Shibuya เดินได้ไม่นาน คุณนายที่รักก็บอกว่าไปสนามบินดีกว่า เธอเป็นห่วงเราแบกเป้หนัก กลัวเดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหว (ใจไหวอยู่นะ) หัวใจพองโต โต โต โต
เราเลยมาถึงที่สนามบินฮาเนดะตั้งแต่ยังไม่ 2 ทุ่ม เดินดูของร้านค้าในสนามบินก็ได้ เมื่อขึ้นไปชั้น4 จะพบว่ามีการต่อเติมเป็นรูปแบบหมู่บ้านสไตล์ Edo มันเป็นสิ่งที่แปลกที่องค์ประกอบทั้งหมดถูกสร้างได้อย่างดีภายในตัวอาคาร บ้านในหมู่บ้านมีภัตตาคารอาหารขายตั้งแต่ ราเมน ไปถึง ซูชิ รวมถึงอาหารยุโรปและอาหารจีน อีกทั้งร้านขายของฝากและร้านเสื้อผ้ายังตกแต่งเลียนแบบ Edo โบราณ รวมทั้งมีร้าน Royce ‘ Chocolate ที่เราชอบอีกด้วย การที่จะซื้อกลับบ้านนั้น เราต้องบรรจุใส่ถุงเก็บความเย็น ไม่อย่างนั้นช็อคโกเล็ตมันจะละลายเละๆๆ เลยตัดสินใจเดินเข้าไปข้างในสนามบินก่อน ดีกว่าแล้วค่อยเดินหาซื้อทีหลัง
Check- in และโหลดกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อย เราก็เดินเข้าไปด้านใน จัด Royce ‘ Chocclate ตามที่ตั้งใจไว้ เผื่อใครจะซื้อ ขอบอกทางร้านก็มีข้อกำหนดให้ซื้อได้ไม่เกินคนละ 10 กล่อง
เดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่นด้วยเที่ยวบิน NH-0849 เมื่อเวลา 00.25 น และเดินทางมาถึงแผ่นดินเกิดโดยสวัสดิภาพ เวลา 05.00 น.